ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อมูลโรค: ปีกมดลูกอักเสบ (salpingitis)  (อ่าน 43 ครั้ง)

siritidaporn

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
    • ดูรายละเอียด
ข้อมูลโรค: ปีกมดลูกอักเสบ (salpingitis)
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2023, 12:19:50 pm »
เยื่อบุมดลูกอักเสบ (endometritis) หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุภายในโพรงมดลูก (โพรงมดลูกอักเสบ มดลูกอักเสบ ก็เรียก)

ทั้ง 2 โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ (15-45 ปี) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผ่านช่องคลอดเข้าไปทางปากมดลูก ขึ้นไปในโพรงมดลูก (ทำให้เยื่อบุมดลูกอักเสบ) และถ้าหากลุกลามต่อไปในท่อรังไข่และรังไข่ ก็ทำให้กลายเป็นปีกมดลูกอักเสบ (ซึ่งอาจเกิดกับปีกมดลูกทั้ง 2 ข้างหรือข้างใดข้างหนึ่ง) หากไม่รักษาเชื้ออาจแพร่กระจายไปบริเวณข้างเคียงในระบบสืบพันธุ์ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

ทั้ง 2 โรคนี้บางครั้งจึงอาจพบร่วมกันจนแยกจากกันไม่ออก และมักจะเรียกรวม ๆ กันว่า อุ้งเชิงกรานอักเสบ (pelvic inflammatory disease/PID) ซึ่งครอบคลุมถึงการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก ท่อรังไข่ รังไข่ และเยื่อบุช่องท้องภายในอุ้งเชิงกราน โรคนี้บางคนอาจเป็นโดยไม่รู้ตัวเพราะไม่มีอาการ ส่วนผู้ที่มีอาการอาจมีอาการแบบเฉียบพลัน (มีไข้ ปวดท้องรุนแรง) หรือแบบเรื้อรัง ซึ่งมักพบในผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ได้ครบถ้วนตามที่แพทย์แนะนำ และอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย

โรคนี้พบบ่อยในผู้หญิงที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอาจพบในผู้หญิงที่คลอดบุตร แท้งบุตร ขูดมดลูก ใส่ห่วงคุมกำเนิด หรือชอบสวนล้างช่องคลอดเอง

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เป็นเชื้อหนองใน และคลามีเดีย (หนองในเทียม) อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่เป็นปกติวิสัย (ประจำถิ่น) ในช่องคลอด (เช่น เชื้อสเตรปโตค็อกคัส สแตฟีโลค็อกคัส) ซึ่งจะเข้าไปในโพรงมดลูกจากการคลอดบุตร แท้งบุตร ขูดมดลูก ใส่ห่วงคุมกำเนิด หรือการสวนล้างช่องคลอด

การติดเชื้ออาจเกิดสาเหตุสำคัญ ดังนี้

1. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปีกมดลูกอักเสบหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ เชื้อที่พบบ่อย ได้แก่ เชื้อหนองใน (โกโนค็อกคัส) และเชื้อหนองในเทียม (คลามีเดียทราโคมาติส)

2. การติดเชื้อหลังคลอด (puerperal infection) อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่เป็นปกติวิสัย (ประจำถิ่น) ในช่องคลอด (เช่น เชื้อสเตรปโตค็อกคัส สแตฟีโลค็อกคัส) ระหว่างคลอดมีปัจจัย (เช่น ภาวะโลหิตจาง ภาวะถุงน้ำแตกรั่วอยู่นาน การคลอดยาก การบาดเจ็บ ภาวะตกเลือดหลังคลอด เศษรกค้าง ภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น) กระตุ้นให้เชื้อเหล่านี้เจริญขึ้นจนเป็นโรค หรือไม่ก็อาจแปดเปื้อนเชื้อจากภายนอกช่องคลอดเข้าไปในช่องคลอดและมดลูก ทำให้เกิดเยื่อบุมดลูกอักเสบได้ มักมีอาการหลังคลอด 24 ชั่วโมง

3. การทำแท้ง หากไม่สะอาดมักทำให้มีเชื้อโรคเข้าในมดลูก เกิดการอักเสบขึ้นได้ เรียกว่า การแท้งติดเชื้อ (septic abortion)

อาการ

ในรายที่เป็นเฉียบพลัน มักมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดท้องน้อย ตกขาวออกเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อหนองใน อาจมีอาการขัดเบา ปัสสาวะปวดแสบขัดร่วมด้วย

ถ้าเป็นการติดเชื้อหลังคลอด มักเกิดอาการหลังคลอด 24 ชั่วโมง น้ำคาวปลาอาจออกน้อยหรือมาก และมีกลิ่นเหม็น

ถ้าเกิดจากการทำแท้งจะมีอาการแบบแท้งบุตร (ปวดบิดท้องเป็นพัก ๆ และมีเลือดออกจากช่องคลอด) ร่วมด้วย

ในรายที่เป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบเรื้อรัง อาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่ อาการปวดท้องน้อย 1-2 ข้าง ปวดเสียดหลังส่วนล่าง ปวดประจำเดือน ประจำเดือนออกมากหรือกะปริดกะปรอย มีตกขาวเป็นสีเหลืองหรือเขียวและมีกลิ่นเหม็น ปวดขัดหรือปวดแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย มีอาการปวดท้องน้อย หรือมีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์

มักมีอาการเกิดขึ้นในช่วงหลังมีประจำเดือน อาจมีอาการในช่วงสั้น ๆ แล้วหายไปเองโดยไม่ได้รักษา บางรายอาจมีอาการแบบเฉียบพลัน (มีไข้ ปวดท้องน้อย) กำเริบเป็นครั้งคราว

ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เกิดเป็นฝีในรังไข่หรือท่อรังไข่ ซึ่งจะทำให้เป็นแผลเป็นจนกลายเป็นหมันได้ และมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกมากกว่าปกติ

การเกิดแผลหรือพังผืดในท่อรังไข่ มักทำให้มีอาการปวดท้องน้อย (อุ้งเชิงกราน) เรื้อรังเป็นปี ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ และช่วงที่มีไข่ตก

นอกจากนี้ในบางรายเชื้อโรคอาจลุกลาม จนทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ถ้ารุนแรงอาจกลายเป็นโลหิตเป็นพิษถึงเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดจากการทำแท้ง


ข้อมูลโรค: ปีกมดลูกอักเสบ (salpingitis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

 

Sitemap 1 2 3