บ้าน น่าจะเป้าหมายของใครหลายคนที่ต้องการจะมีไว้เป็นของตัวเองสักหลังโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ยังมีไฟและมีความพร้อมในการบริหารจัดการด้านการเงิน การกู้สินเชื่อกับธนาคาร จึงสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้นในแต่ละเดือนได้เป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีเรื่อง ดอกเบี้ยกู้บ้าน ที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้นจะมาพูดคุยกันว่า
ดอกเบี้ยสินเชื่อกู้บ้านคืออะไร และมีวิธีการอย่างไรให้ผ่อนบ้านได้หมดเร็วขึ้น
ดอกเบี้ยบ้าน คือ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ที่ผู้กู้จะต้องมีการชำระหนี้เงินกู้ให้ธนาคารในอัตราที่ธนาคารกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิธีการคำนวณจำนวน กู้เงินทำบ้าน ในปีที่ 1-3 แบบคงที่ (Fix Rate) หลังจากนั้นจะเป็นการคำนวณ ดอกเบี้ยกู้บ้าน แบบลอยตัว (Floating Rate) คืออัตราดอกเบี้ยตามประกาศในแต่ละช่วงเวลา เพราะฉะนั้นเราจะต้อง
คำนวณสินเชื่อบ้านให้ดี พร้อมกับทำตาม 3 เทคนิค
วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วประกอบด้วย
การชำระค่างวดบ้านเกินกว่าจำนวนที่ต้องจ่ายในแต่ละงวด ทุก ๆ งวด เช่น สัญญาที่ตกลงชำระหนี้กับธนาคารคือคำนวณสินเชื่อค่าบ้าน เดือนละ 5,000 บาท ก็ปรับเปลี่ยนเป็น ผ่อนบ้านกับธนาคาร เดือนละ 6,000 บาทแทน เพราะอย่าลืมว่าเงินที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารแต่ละงวดประกอบไปด้วยการชำระคืนเงินต้นกับการชำระดอกเบี้ย นั่นหมายถึงยิ่งจ่ายค่างวดมากเท่าไหร่ก็เป็นการลดเงินต้นที่กู้กับธนาคารมากเท่านั้น และจะทำให้ระยะเวลาในการชำระหนี้สั้นขึ้นด้วย
โปะบ้านในช่วงที่ อัตราดอกเบี้ย
การกู้สินเชื่อซื้อบ้าน ลดลง เพื่อให้จำนวนเงินที่ต้องชำระหนี้กับธนาคารลดลงทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เช่น กู้เงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยต้องผ่อนชำระหนี้เดือนละ 14,000 บาท วันดีคืนดีที่พอมีให้ชำระหนี้เพิ่มต้องการโปะบ้านเพิ่ม 16,000 บาท นั่นหมายความว่าเงินจำนวน 30,000 บาทที่จ่ายไป หลังจากวันที่ตัดยอดไปแล้ว 5 วัน (ธนาคารคิดดอกเบี้ยวันละ 300 บาท) จะถูกหักออกจากเงินต้นจำนวน 28,500 บาท และเป็นดอกเบี้ยจำนวน 1,500 บาท เป็นต้น
การทำ Refinance หรือ Retention เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ย วิธีนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เป็นหนี้สินเชื่อบ้านกับธนาคารครบ 3 ปี เพราะในช่วง 3 ปีแรกได้ชำระหนี้เงินกู้บ้านในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งในปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะเริ่มลอยตัว หมายถึงเราต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น นั่นหมายถึงงวดเงินที่จ่ายไปแทนที่จะไปลดเงินต้นกลายเป็นเอาไปชำระดอกเบี้ยแทน ดังนั้นการทำ Refinance ก็เพื่อนำเงินจากธนาคารใหม่ไปใช้หนี้ธนาคารเดิมแล้วจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่กับธนาคารที่ขอกู้ใหม่แทน ซึ่งจะเป็นการลดภาระหนี้สินเชื่อบ้านได้ดีกว่าการชำระหนี้กับธนาคารเดิมไปเรื่อย ๆ หรือจะใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเดิม (Retention) ก็ได้ หากมีประวัติการชำระหนี้ดี ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องโอนย้ายหนี้กับธนาคารใหม่ไปเรื่อย ๆ
เทคนิคง่าย ๆ ทั้ง 3 เทคนิคนี้จะช่วยทำให้ฝันของมนุษย์เงินเดือนที่อยากมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านสักหลังทำได้เร็วขึ้น โดยต้องมีวินัยและชำระหนี้ได้ครบตามกำหนด
