แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - fvpoiewu0s35

หน้า: [1]
1
มหันตภัย ! ความดันแล้วก็โรคเบาหวานภัยใกล้ตัว เจียวกู่หลานช่วยกำจัดได้
พฤษภาคม 8, 2018  kungtep
โรคความดันและเบาหวาน เป็นโรคที่คนเป็นจำนวนมากมายไม่มองถึงความร้ายแรงสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่า สร้างความล่มจมต่อสุขภาพร่างกายและชีวิตอย่างคิดไม่ถึง รีบคุ้มครองให้ตรงจุดด้วย ” สมุนไพรเจียวกู่หลาน

โรคความดันสูง-เบาหวาน ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
สิ่งใดที่อยู่ใกล้ตัว สิ่งนั้นมักถูกละเลยเสมอ หลายสิ่งในชีวิตที่เรามักไม่ใส่ใจไม่เห็นถึงจุดสำคัญ ได้แก่ คนรัก เพื่อนฝูง คนภายในครอบครัว ที่ถูกไม่มีความสนใจจากเราอย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งก็อาจจะด้วยการจริงจังทำงานหรือเหตุผลอื่นใดก็ตามแต่ รวมทั้งก็มีหลายสิ่งรอบตัวที่เรามักไม่เห็นถึงความอันตราย ที่จะนำมาสู่ตัวหรือคนรอบข้างสักเท่าไหร่ อย่างเรื่องของสุขภาพการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆทั้งๆที่ไม่ร้ายแรงและก็ที่มีความรู้สึกว่าไม่ร้ายแรง แต่ว่าแอบแฝงด้วยภัยอย่างมหัน ที่รอจังหวะเวลาอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างเช่น โรคของความดันและก็เบาหวาน ฯลฯ ซึ่ง 2 ต่างก็เป็นโรคที่ชินหูพวกเราเป็นอย่างดี ภัยร้ายก็มีแต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมและไม่มีอันตรายได้เพียงแต่ใช้ “เจียวกู่หลาน”
ลดการอุดตันเส้นโลหิต เจียวกู่หลาน
โรคความดันเลือดสูง มีลักษณะอาการอย่างไร?
ลักษณะการป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวนมากพวกเราจะพบคนป่วย เป็นความดันเลือดสูงไปกว่าโรคความดันต่ำ  ซึ่งเป็นลักษณะของการบีบตัวของหัวใจร่วมกับแรงกดดันในกระแสเลือดที่สูง เร็ว ถี่ มากกว่าธรรมดาทั่วไป
ความดัน เบาหวาน อายุ 40 ปีขึ้นไปต้องระมัดระวัง!
โรคความดันสูง มีเหตุมาจากการเต้นของหัวใจ ที่เป็นอวัยวะสถานที่สำหรับทำงานอยู่ตลอดระยะเวลา  ทั้งแรงดันในเลือดที่จำต้องปฏิบัติงานเช่นเดียวกันอย่างเลี่ยงมิได้ โรคความดันสูงเป็นโรคที่เจอได้ในทุกเพศทุกวัย แต่ว่าที่จะเป็นไปได้ง่ายสุดๆที่สุดกับคนที่มีอายุ 35 – 40 ปีขึ้นไป จึงพิจารณาได้ว่าพ่อแม่บรรพบุรุษของพวกเรามักเป็นโรคนี้กันมาก

สรรพคุณเจียวกู่หลาน
คุณประโยชน์และก็ประโยชน์ใบเจียวกู่หลาน
“เจียวกู่หลาน” คุ้มครองปกป้องโรคความดันสูงแล้วก็เบาหวานได้ไหม
การรักษาโรคความดันสูง ต้นเจียวกู่หล่านช่วยคุ้มครองได้ ความเลวร้ายของโรคความดันสูงที่ควรจะรักษาด้วย เจียวกู่หลาน คือ เมื่อความดันสูงมากมายๆจะมีผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญๆหลายส่วนไม่พอ จนกระทั่งเสียหายส่งผลต่อชีวิตได้ ตัวอย่างเช่น ไตวายเรื้อรัง หัวใจล้มเหลว หลอดเลือดแดงส่วนปลายแข็งดำเนินงานไม่เต็มกำลัง โรคสมองเสื่อม และก็เส้นเลือดสมองแตกได้สุดท้าย ซึ่งถ้าไม่ตายก็อาจเป็นอัมพาต
โรความดันและโรคเบาหวาน คุ้มครองปกป้องได้ด้วย”เจียวกู่หลาน”
สมุนไพรรักษาโรความดัน-โรคเบาหวาน เจียวกู่หลาน คนเจ็บหรือผู้ต้องการับประทานคุ้มครองปกป้อง ควรที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีทะเบียนยาและก็ทะเบียน(อย) ผลิตจากโรงงานได้มาตรฐานGMP

2

รากสามสิบ
รากสามสิบ สรรพคุณ ว่านสามสิบ ตำรายาพื้นเมือง ใช้ ทั้งต้นหรือราก ต้มน้ำกิน แก้ตกเลือด รวมทั้งโรคคอพอก ราก มีรสเฝื่อนฝาดเย็น กินเป็นยาแก้พิษร้อนในอยากดื่มน้ำ แก้ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว ฝนทาแก้พิษแมลงป่องกัดต่อย แก้ปวดฝี ทำให้เย็น ถอนพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน ช่วยทำนุบำรุงเด็กในท้อง บำรุงตับ ปอด ชูกำลัง ผสมกับเหง้าขิงป่า แล้วก็ต้นจันทน์แดงผสมเหล้าโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน ต้นหรือราก ต้มน้ำ แก้แท้งลูก และโรคคอพอก ผล มีรสเย็น ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับ ไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง
รากสามสิบ ส่งเสริมความรัก และก็ กระชับความเกี่ยวเนื่องให้ชีวิตครอบครัว คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ,แก้การอักเสบ ,บำรุงเลือด แก้ปวดระดู รอบเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ ลดสภาวะมีลูกยาก เสริมฮอร์โมนเพศหญิง กระชับช่องคลอด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว บำรุงผิวพรรณ ลดสิวฝ้า ชลอความแก่ แก้อาการวัยทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Asparagus racemosus Willd.
วงศ์ : Asparagaceae
ชื่ออื่น : สาวร้อยผัว รากศตวารี จ๋วงเครือ (เหนือ) ผักชีช้าง (หนองคาย) ผักหนาม (นครราชสีมา) สามร้อยราก (กาญจนบุรี) สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน ม้าสามต๋อน
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้เลื้อย เนื้อแข็ง ลำต้นสีเขียว มีหนามแหลม มักเลื้อยพันตันไม้อื่น เลื้อยยาว 1.5-4 เมตร เถากลมเรียบ เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม มีเหง้าแล้วก็รากใต้ดินออกเป็นกระจุกเหมือนกระสวยออกเป็นพวงคล้ายรากกระชาย อวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว โตกว่าเถามากมาย ลำต้นมีหนาม เถาเล็กเรียว กลม สีเขียว ใบผู้เดียว แข็ง ออกรอบข้อ เป็นฝอยเล็กๆคล้ายหางกระรอก สีเขียวดก หรือเป็นกลุ่ม 3-4 ใบ เรียงแบบสลับ ใบรูปเข็ม กว้าง 0.5-1 มม. ยาว 3-6 ซม. แผ่นใบมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีหนามที่ซอกกลุ่มใบ ก้านใบยาว 13-20 เซนติเมตร ช่อดอก ออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ แบบช่อกระจะ ยาว 2-4 เซนติเมตร ดอกย่อย สีขาว ขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมสดชื่น มี 12-17 ดอก ก้านดอกย่อย ยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร กลีบรวม มี 6 กลีบ เชื่อมกันเป็นหลอดรูปดอกเข็ม ปลายแยกเป็นแฉก ส่วนหลอดยาว 2-3 มม. ส่วนแฉกรูปช้อน ยาว 3-4 มิลลิเมตร กลีบดอกบางแล้วก็ย่นย่อ เกสรเพศผู้ เชื่อมและอยู่ตรงข้ามกลีบรวม ขนาดเล็กมี 6 อัน ก้านชูอับเรณูสีขาว อับเรณูสีน้ำตาลเข้ม รังไข่รูปไข่กลับ ยาวโดยประมาณ 1 มิลลิเมตร อยู่เหนือวงกลีบ มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด หรือมากยิ่งกว่า ก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็นสามแฉกขนาดเล็ก ผลสด ค่อนข้างจะกลม หรือเป็น 3 พู ผิวเรียบวาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 มม. ผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกสีแดงหรือม่วงแดง เม็ดสีดำ มี 2-6 เม็ด มีดอกตอนเมษายนถึงมิถุนายน พบตามป่าโปร่ง หรือเขาหินปูน
สาวร้อยผัวหรือรากสามสิบ เป็นสมุนไพรไทยมีรสหวานเย็น ที่แฝงไปด้วยสรรพคุณขนานเอก บำรุงเครื่องเพศในสตรี แล้วก็ยังเสริมความสามารถทางเพศให้แก่ผู้ชาย
นิยมนำส่วนของใบอ่อน ยอดอ่อน ผลอ่อน ซึ่งมีกลิ่นหอมยวนใจคล้ายผักชีลาว มารับประทานเป็นผัก และก็นำส่วนของรากที่มีลักษณะคล้ายกระชาย แต่มีขนาดใหญ่แล้วก็ยาวกว่าทั้งยังมีกลิ่นหอม มาใช้ดองยาสมุนไพร ชูกำลังในสตรีด้วยคุณประโยชน์ที่สอดคล้องกับชื่อที่เรียกชื่อกันว่า สาวร้อยสามี ที่สื่อความหมายได้ว่า ไม่ว่าสาวใด อายุเยอะแค่ไหน อยู่ในวัยมีระดูหรือหมดเมนส์ก็ตาม ถ้าเกิดได้ทานหัวพืชชนิดนี้เป็นประจำ จะช่วยทำให้มองเป็นสาวกว่าวัย มีพลังทางเพศ และก็ยังช่วยเพิ่มขนาดของอก ด้วยแนวทางนำรากสดมาต้มรับประทานหรือไม่ก็อาจจะนำรากไปตากแห้ง แล้วเอามาบดเป็นผุยผงปั้นเป็นลูกกลอนผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก็ได้เช่นเดียวกันตามตำราอายุรเวท มีการใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง ช่วยให้เพศหญิงกลับมาเป็นสาวได้อีกที
ในประเทศอินเดียก็เรียกสมุนไพรประเภทนี้คล้ายกับประเทศไทย โดยในภาษาสันสกฤต เรียกว่า ศตาวรี (Shtavari) แสดงว่า ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก หรือบางตำราเรียนกล่าวว่าคือ เพศหญิงที่มีร้อยสามี “Satavari” (this is an India word meaning’a woman who has a hundred husbands) รากสามสิบเป็นสมุนไพรที่ถูกเอ่ยถึงในคัมภีร์ พระเวท ซึ่งเป็นคำภีร์ที่มีมาก่อนอายุยงรเวทด้วย จึงน่าจะถือได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มีการใช้มานานหลายพันปีแล้ว และก็ในประเทศอินเดียใช้ รากสามสิบ ทำเป็นขนมหวานเช่นเดียวกับเมืองไทย
ในตำราเรียนอายุรเวทใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง สำหรับในการทำให้สตรีกลับมาเป็นสาว (Female rejuvention) นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาอื่นๆของเพศหญิงเป็นต้นว่า สภาวะเมนส์เปลี่ยนไปจากปกติ ปวดรอบเดือน ภาวการณ์มีบุตรยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมถอย ภาวการณ์หมดปะจำเดือน(menopause) และก็ใช้บำรุงนมบำรุงท้อง คุ้มครองป้องกันการแท้ง (habitual abortion) รวมทั้งอาการที่ไม่ประสงค์อื่นๆของผู้หญิง
หากแม้สมุนไพรจำพวกนี้จะสะดุดตาต่อเพศหญิงแล้ว ในประเทศอินเดียยังใช้ในการเพิ่มพลังทางเพศให้กับเพศชายอีกด้วย ซึ่งก็อาจจะคล้ายกับทางภาคเหนือของไทยที่ใช้สาวร้อยสามี หรือที่เรียกในภาคเหนือว่า “ม้าสามต๋อน” เป็นยาดองเพื่อเพิ่มพลังทางเพศชาย และยังคงใช้เพื่อคุณประโยชน์ทางยาอื่นๆอีกมากมาย อย่างเช่น ยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะ ยาแก้บิด แก้ไข้ แก้อักเสบ ซึ่งจัดได้ว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพร ที่ใช้มากที่สุดในประเทศอินเดียประเภทหนึ่ง เดี๋ยวนี้มีสารสกัดด้วยน้ำ ของรากสามสิบ จากประเทศอินเดียไปจำหน่ายที่สหรัฐฯ ในลักษณะเป็น dietary supplement หรือพวกอาหารเสริมซึ่งสามารถขายได้ ทั่วไปไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

คุณประโยชน์สมุนไพรรากสามสิบ (รากศตวารี)
ช่วยสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิง
แก้ปวดเมนส์
แก้ประจำเดือนมาแตกต่างจากปกติ
แก้อาการตกขาว
ขจัดปัญหาช่องคลอดอักเสบ ช่วยดับกลิ่นในช่องคลอด
ช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับ
ขจัดปัญหาการมีบุตรยาก ปกป้องการแท้งลูก
บำรุงนม
ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
ช่วยระบาย ขับเยี่ยว
ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก
ช่วยเพิ่มขนาดทรวงอก และก็บั้นท้าย
กระชับรูปทรง
ช่วยลดไขมันส่วนเกิน
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
บำรุงเลือด แล้วก็บำรุงหัวใจ
บำรุงฮอร์โมนเพศ
บำรุงผิวพรรณ
ลดสิว ลดฝ้า ช่วยผิวขาวใส
แก้อาการวัยทอง ชะลอความเฒ่า
ใช้รักษาโรคตับ ปอดทุพพลภาพ
บำรุงกำลัง แก้กษัย
ข้อควรปฏิบัติตามสำหรับการใช้รากสามสิบ
รายงานการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่ารากสามสิบมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยเหตุนั้นจึงห้ามประยุกต์ใช้ในสตรีที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ดังเช่นว่า คนไข้โรค uterine fribrosis หรือ fibrocystic breast
ผลการวิจัยสมุนไพรรากสามสิบ
การศึกษาเล่าเรียนในหนูแรทของสารสกัดรากด้วยเอทานอลต้นรากสามสิบ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงฉับพลัน แล้วก็ตอนยาวสม่ำเสมอ
โดยการเรียนรู้ในระยะกระทันหันป้อนสารสกัดเอทานอลต้นรากสามสิบขนาด 1.25 กรัม/กิโลกรัม ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นเบาหวาน แล้วก็หนูแรทที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 รวมทั้ง ชนิดที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ช่วยทำให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของเดกซ์โทรส (glucose tolerance) ในนาทีที่ 30 ดีขึ้น และก็การเล่าเรียนช่วงยาวต่อเนื่องโดยป้อนสารสกัดเอทานอลรากสามสิบขนาด 1.25 กรัม/กก.วันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ในเวลาที่หนูเบาหวานกรุ๊ปควบคุมได้รับน้ำในขนาดที่เท่ากัน พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แล้วก็เพิ่มระดับของอินซูลิน 30% เมื่อเทียบกับกรุ๊ปเบาหวานควบคุม นอกเหนือจากนั้นยังเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน รวมทั้งเพิ่มกลัยโคเจนที่ตับเมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปเบาหวานควบคุม จากการเล่าเรียนในคราวนี้สรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการยับยั้งการสรุปยแล้วก็การดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต และการเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งต้นรากสามสิบคงจะมีสาระในการนำมารักษาคนไข้เบาหวานได้
ที่มา : หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

3

ตะไคร้
ตะไคร้ ชื่อสามัญ Lemongrass
ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf จัดอยู่ในตระกูลหญ้า (POACEAE หรือ GRAMINEAE)
ตะไคร้จัดเป็นไม้ล้มลุกเชื้อสายหญ้า ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็นสมุนไพรไทยที่นิยมเอามาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งได้ 6 ประเภท อาทิเช่น ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค รวมทั้งตะไคร้หางราชสีห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วๆไปในบ้านพวกเรา โดยมีถื่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ศรีลังกา และไทย
ตะไคร้ เป็นทั้งยารักษาโรคและยังมีวิตามินรวมทั้งธาตุที่มีสาระต่อสถาพทางร่างกายอีกด้วย ดังเช่นว่า วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก อื่นๆอีกมากมาย
คุณประโยชน์ของตะไคร้
มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ
เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้ก้าวหน้า (ต้นตะไคร้)
มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยสำหรับการเจริญอาหาร
ช่วยแก้อาการไม่อยากอาหาร (ต้น)
สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการปกป้องโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
แก้รวมทั้งบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
ช่วยรักษาลักษณะของการมีไข้ (ใบสด)
ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)
น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้สามารถทุเลาลักษณะของการปวดได้
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดหัว
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)
ใช้เป็นยาแก้อาเจียนหากใช้ประโยชน์ร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆ(หัวตะไคร้)
ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)
รักษาโรคหอบหืดด้วยการใช้ต้นตะไคร้
ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)
ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)
ช่วยแก้และก็บรรเทาอาการปวดท้อง
ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)
ช่วยสำหรับในการขับน้ำดีมาช่วยสำหรับการย่อยอาหาร
น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของไส้ได้
มีฤทธิ์ช่วยสำหรับการขับปัสสาวะ
ช่วยแก้อาการเยี่ยวทุพพลภาพและก็รักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)
ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)
ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)
ช่วยรักษาอหิวาต์
ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)
ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)
น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต้านเชื้อราบนผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยแก้โรคหนองใน ถ้าหากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ

คุณประโยช์จากตะไคร้
ประยุกต์ใช้ทำเป็นน้ำตะไคร้หอม น้ำตะไคร้ใบเตย ช่วยดับร้อนแก้กระหายได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยสำหรับในการบำรุงแล้วก็รักษาสายตา
มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการบำรุงกระดูกรวมทั้งฟันให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองแล้วก็เพิ่มสมาธิ
สามารถประยุกต์ใช้ทำเป็นยานวดได้
ช่วยจัดการกับปัญหาผมแตกปลาย (ต้น)
มีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการนอนหลับ
การปลูกตะไคร้ร่วมกับผักประเภทอื่นๆจะช่วยป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี
นำมาใช้เป็นองค์ประกอบของสารระงับกลิ่นต่างๆ
ต้นตะไคร้ช่วยขจัดกลิ่นคาวหรือเหม็นกลิ่นคาวของปลาได้อย่างดีเยี่ยม
กลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไล่ยุงและก็กำจัดยุงได้เป็นอย่างดี
เป็นองค์ประกอบของสินค้าชนิดยากันยุงจำพวกต่างๆดังเช่น ยากันยุงตะไคร้หอม
สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด ตัวอย่างเช่น เครื่องปรุงอบแห้ง ตะไคร้แห้งสำหรับชงดื่ม นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น
มักนิยมประยุกต์ใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด ดังเช่น ต้มยำ รวมทั้งอาหารไทยอื่นๆเพื่อเพิ่มรสชาติ
แนวทางทําน้ําตะไคร้หอม
คุณประโยชน์ตะไคร้ตระเตรียมวัตถุดิบดังนี้ ตะไคร้ 1 ต้น / น้ำเชื่อม 15 กรัม / น้ำกิน 240 กรัม
ล้างตะไคร้ให้สะอาด แล้วเอามาหั่นเป็นท่อน ทุบให้แตก
ใส่ลงหม้อต้มกับน้ำให้เดือด จนกว่าน้ำตะไคร้ออกมาผสมกับน้ำจนเป็นสีเขียว
รอคอยสักประเดี๋ยวแล้วชูลง ต่อจากนั้นกรองเอาตะไคร้ออกแล้วเพิ่มเติมน้ำเชื่อมให้ได้รสตามพอใจ
เสร็จแล้ววิธีการทำน้ำตะไคร้
วิธีทําน้ําตะไคร้ใบเตย
น้ำตะไคร้ การทําน้ําตะไคร้ใบเตยนั้นสิ่งแรกให้เตรียมวัตถุดิบดังต่อไปนี้ ตะไคร้ 2 ต้น / ใบเตย 3 ใบ / น้ำ 1-2 ลิตร / น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ก็ได้)
นำตะไคร้มาตีให้แหลกพอประมาณ แล้วก็ใช้ใบเตยผูกตะไคร้ไว้ให้เป็นก้อน
ใส่ตะไคร้และก็ใบเตยลงไปในหม้อแล้วเพิ่มน้ำ 1 ถึง 2 ลิตร แล้วต้มให้เดือดสักประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จสำหรับวิธีการทําน้ํา ตะไคร้
โดยตะไคร้รวมทั้งใบเตยชุดเดียวกัน สามารถเติมน้ำสุกใหม่ได้ 2-3 รอบ แม้กระนั้นรสบางทีอาจจืดชืดลงไปบ้าง นำมาดื่มแทนน้ำช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา แถมช่วยบำรุงรักษาสุขภาพอีกด้วย
คุณประโยชน์ทางโภชนาการของตะไคร้
การเล่าเรียนของตะไคร้ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 143 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย โปรตีน 1.2 กรัม ไขมัน 2.1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 29.7 กรัม เส้นใย 4.2 กรัม แคลเซียม 35 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 30 มก. เหล็ก 2.6 มิลลิกรัม วิตามินเอ 43 ไมโครกรัม ไทอามีน 0.05 มก. ไรโบฟลาวิน 0.02 มก. ไนอาซิน 2.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 1 มิลลิกรัม และ เถ้า 1.4 กรัม
โทษของตะไคร้
พิษของน้ำมันตะไคร้ จำนวนน้ำมันตะไคร้ ที่ทำให้หนูขาวตายที่กึ่งหนึ่งของจำนวนหนูขาวทั้งสิ้น ด้วยการให้ทางปาก  ที่ความเข้มข้น 5,000 มก./กิโล รวมทั้งการให้น้ำมันหอมระเหยทางกระเพาอาหารแก่กระต่ายที่ทำให้กระต่ายตายที่ครึ่งหนึ่ง พบว่า มีจำนวนความเข้มข้นเดียวกันกับการให้แก่หนูขาว พิษฉับพลันของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่ความเข้มข้น 1,500 ppm ในระยะเวลา 60 วัน กลับทำให้พบว่า หนูขาวที่ได้รับน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้มีการเติบโตเร็วกว่ากลุ่มที่ไม้ได้รับ และก็ค่าทางเคมีของเลือดไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

4

ขิง
ข้อดีของสรรพคุณขิง
25 คุณประโยชน์ดีๆของ’’ผลดีในการรักษาโรค
1.ขิงสดช่วยลดความเจ็บตามข้อ ลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ
2.ขิงมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผล ฆ่าเชื้อโรคในแผลได้
3.ขิงช่วยให้สบายท้อง ขับลม แก้ท้องผูก
4.ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียในร่างกาย ช่วยขับเสมหะ ทำให้หายใจสะดวก
5.ขิงช่วยแก้อาการเวียนหัว หน้ามืด อ้วก เมารถ เมาเรือ
6.ขิงช่วยเผาผลาญไขมัน และเป็นยาระบายอ่อนๆจึงแป็นสาเหตุที่ทำให้ขิงช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้
7.ขิงช่วยทำนุบำรุงหัวใจ เหมาะสมกับคนป่วยโรคหัวใจ
8.ขิงช่วยแก้โรคผื่นคัน แก้แพ้เกสรดอกไม้ และอาหารทะเลได้
9.ประโยชน์ซึ่งมาจากเนื้อขิงสดๆทำมาทาแก้ผื่นคัน แก้แมลงกัดต่อยได้
10.ขิงช่วยทำนุบำรุงสายตา ปกป้องโรคตาแดง อาการน้ำในตามาก ตาฝ้าฟาง
11.ขิงเป็นสมุนไพรกำจัดกลิ่น ช่วยลดกลิ่นเต่า
12.ขิงมีสรรพคุณแก้ฟันเหลือง ฟันพุ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน นำมาอม กลัวปากเสมอๆ แล้วทดลองสังเกตว่าอาการปวดจะค่อยๆน้อยลง
13.มีคุณประโยชน์ลดกลิ่นปากได้ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน เอามาอม กลั้วปากบ่อยๆ ช่วย จัดการกับแบคทีเรียในปาก ลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างดี
14.ขิงช่วยทุเลาอาการปวดไมเกรนได้ โดยให้ดื่มน้ำขิงเป็นประจำ แล้วทดลองสังเกตว่าอาการปวดจะค่อยๆต่ำลง
15.ขิงทุเลาโรคประสาทอาการโรคประสาท การกินน้ำขิงจะช่วยลดความขุ่นมันของหัวใจ
16.ขิงช่วยการไหลเวียนของนมมารดาให้ ควรเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับเพศหญิงให้นมบุตรเป็นอย่างดี
17.ขิงช่วยบำบัดผู้ติดสิ่งเสพติดได้ โดยคุณประโยชน์ของขิงมีส่วนช่วยลดความต้องการเสพยาเสพติด
18.ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงช่วยต้านทานโรคมะเร็ง จากการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่าสาระสำคัญในขิงช่วยต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี
19.ขิงช่วยควมคุมความดันเลือดได้ สำหรับคนที่มีปัญหาความดันสูง และ ความดันต่อ ควรฝานขิงสดมาต้มกับน้า ดื่มบ่อยๆ จะช่วยควบคุมความดันให้เป็นปกติ
20.สรรพคุณของขิงช่วยผ่อมคลาย ช่วยทำให้นอนหลับสบาย จึงเหมาะเป็นของกินสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ
21.ขิงช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ โดยช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น กำจัดเซลลูไลท์
22.ใบเหลวดอกของขิงช่วยแก้อาการขัดฉี่ คุ้มครองปกป้องโรคนิ่วได้
23.ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เหตุเพราะขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยทำให้สมดุลภายในร่างกายได้
24.เหง้าขิงช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดแผลในกระเพราะเหตุว่าของกินได้
25.ขิงช่วยแก้อึกได้โดยตำขิงสดให้แหลกคั้นเอาน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้ง น้ำอุ่น คนจะกว่าจะเข้ากันดื่มแก้สะอึกได้
การประยุกต์ใช้ทางสถานพยาบาล
1.บรรรเทาอาการเจียนรุนแรงใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไก่กวน(เหนือข้อมือใน 2 ชุ่น)ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง  ชั่วโมงอาการจะดียิ่งขึ้น
2.บรรเทาอาการแผลในกระเพาะและก็ลำไส้เล็กส่วนต้น ต้มขิงสดที่ตำให้รอบคอบกับน้ำ 300 มิลลิลิตร นาน 30 นาที รับประทานวันละ 3 เวลา ตรงเวลา 2 วัน ในคนป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ และลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าอาการปวดกระด้วยเหตุว่าลดน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิวดีขึ้น มากท้องผูก หรืออุจจาระสีดำ (แปลว่ามีเลือดออก)ปกติ ความต้องการของกินดีขึ้น (พบว่าคนป่วยพวกนั้นส่วนมากกลับกลายซ้ำได้อีก ซึ้งอาจจะต้องรักษาสม่ำเสมอ หรือควบคุมต้นสายปลายเหตุอื่นๆร่วมด้วยจึงจะรักษาหายขาดได้)
3.รักษาโรคบิด ใช้ขิงสด 75 กรัม น้ำตาลแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งรับประทานเป็น 3 มื้อต่อตำหรับ
4.ปกป้องรักษาอาการเมารถ เมารือ
-ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือด้านใน 2 ชุ่น(ใช้เหริยญ สตางค์ขนาดเหมาะสมปิดทับแล้วก็ใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
-ใช้ขิงสด 25 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำมันดื่ม (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
5.รักษาฉี่รดที่พักผ่อนในคนป่วยที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นภายในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ใช้ขิง 30 กรัม(ตำ)ยาลูกสมุนนไพรศรีฟู่จื่อ 6 กรัม ปู่กู่จื้อ 12 กรัม บดคลุกเคล้าจนเข้ากันถูในแอ่งสะดือ ใช้ผ้าผ้าก๊อซสะอาดปิดทับแล้วก็ใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น
6.รักษาคอไส้อุดกันจากพยาธิตัวกลม
ใช้ ขิง [/b]สด 120 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง 120 กรัม รับประทานครั้งเดียว หรือค่อยๆรับประทานหมดข้างในครึ่งชั่วโมง การทดลองในผู้เจ็บป่วย 64 คน พบว่าสามารถลดอุดกั้นของลำใส้ร้ยละ 96.8 ฤทธิ์สำหรับเพื่อการขับพยาธิร้อยละ 61.3
7.เป็นหวัดตัวร้อนจับไข้เนื่องไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น ยกตัวอย่างเช่น โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว มีไข้ต่ำ ให้หั่นขิงฝอย 30 กรัม

ชงกับน้ำตาล หรืออาจใส่หัวหอมตี 3-4 (ช่วยกระจายลม)ดื่มขณะร้อนๆแล้วคลุมผ้าให้เหงือออก
8.ฟื้นฟูร่างกายคราวหลังคลอดบุตร นิยมให้หญิงข้างหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงหลังคลอดรับประทานไก่ผัดขิง โดยยิ่งไปกว่านั้นไก่ดำตัวผู้จะยิ่งมีหยางมากกว่าไก่ตัวเมีย
ร่างกายของหญิงหลังคลอดจะเสียทั้งยังพลังหยางและก็เลือด มีน้ำในร่างกายตกค้างอยู่มากการกินไก่ผัดขิงจะเสริมทั้งเลือดหยางช่วยให้การย่อยซึมซับของกินดีขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาเจริญขึ้นทำให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับเพื่อการทานขิง
-อาจก่อให้เกิดภาวะแทรซ้อนสำหรับการมีครรภ์ได้
มีบางการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ และก็การแท้ง แต่ว่าในการมีครรภ์รายอื่นๆนั้นๆไม่เจอการกินขิงจะทำให้เกิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอ้วกจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ด้วยเหตุนั้นคุณควรจะไปขอคำแนะนำหมอก่อ่นจะที่ใช้ขิงสำหรับการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตัวเอง
-ส่งผลให้เกิดแผลร้อนในด้านในปากได้
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน หากหารรับประทานเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุข้างในโพรงปากเกิดการอักเสบจนกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ ด้วยเหตุดังกล่าวไม่ควรกินขุงมากกระทั่งเกินไป
-ยั้งการแข็งตัวของเลือด
การเล่าเรียนหนึ่งในหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีคุณประโยชน์ในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถานที่บันสุขภาพของออสเลียได้ออกคำตักเตือนเตือนให้งดการกินขิงเวลาที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเนื่องจากจะมีผลให้เกิดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ด้วยเหตุนั้นถ้าคุณมีอากเลือดออกเลือดออกผิดปกติหรือหรือกำลังใข้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีก เลียงการรับประทานขิง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หวังหลายคนที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยทุเลาลักษณะของโรคต่างๆก็น่าจะต้องระวังตัวเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากบางทีถ้าหากราใช้ ขิงในการรักษาโรคหนึ่งแม้กระนั้นก็อาจช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการไม่ดีขึ้นได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรจะรับประทานขิงอย่างรอบคอบ แม้กระนั้นถ้าหากยังคลุมเคลือล่ะก็ ควรปรึกษาจากหมอก่อนเสมอ

5

ขิง
ถึงแม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีคุณประโยชน์ในการรักษาโรค ถึงแม้ขิงจะมีกลิ่นแรงและก็มีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากหลายคนนั้น แต่ว่าขิงก็เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณรักษาโรค เรามาดูกันดีกว่าว่าสมุนไพรดีๆอย่างขิงนั้นมีประโยชน์และก็โทษอะไรที่เราคิดไม่ถึงบ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง
+ ลดอาการท้องอืดแม้คุณรู้สึกท้องขึ้นหรือของกินไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือรับประทานขิงสดจะมีผลให้คุณรู้กันดีขึ้น หรือถ้าคุณเกิดอาการท้องอืดจากการกินถั่วละก็ ครั้งหน้าทดลองฝานถั่วบางๆลงไปในอาหารที่มีถั่ว โน่นก็จะช่วยลดอาหารท้องขึ้นได้เหมือนกันค่ะ เพราะเหตุว่าขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นรูปแบบการทำงานของลำไส้ทำให้ อาการท้องอืดทุเลาลงได้
+ ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน
จากการเรียน
พบว่า การกินขิงในเวลาที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนน้อยลงได้ ด้วยเหตุว่าขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการเรียนรู้อื่น บอกให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าคนที่มีลักษณะอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการต่ำลงเมื่อบริโภคขิงผงเสมอๆวันแล้ววันเล่า
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง และก็โทษที่คุณอาจนึกไม่ถึง
+ ช่วยคุ้มครองปกป้องมะเร็ง
 ขิงมีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการเรียนพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์มะเร็งด้านในรังไข่ตาย เพราะเหตุว่าในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีกลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยคุ้มครองป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนั้นยังพบอีกว่าสินค้าอาหารเสริมที่มีขิงเป็นส่วนประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
+ ช่วยบรรเทาอาการอ้วก
 ขิงสามารถบรรเทาอาการอ้วกได้ โดยชาวเอเชียนั้นชอบใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกจากนี้ยังมีหลายการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงสามารถช่วยคุ้มครองป้องกันรวมทั้งทุเลาอาการอ้วกภายหลังจากการผ่าตัดรวมทั้งยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้รวมทั้งคลื่นไส้ในคนไข้โรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย
+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
 มีการศึกษาเล่าเรียนใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนไข้โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 แม้กระนั้นก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนกินขิงร่วมกับยา เพราะว่าขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ แล้วก็ควรจะติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะหากรับประทานขิงมากจนเกินความจำเป็นก็อาจจะก่อให้ระดับอินซูลินน้อยลงมากจนเกินความจำเป็นจนอยู่ในขีดอันตรายได้
คุณประโยช์จากขิง แล้วก็โทษที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ขิงดอง สรรพคุณดีก็มีนะ ทราบยัง?
 พวกเราบางทีอาจจะเคยทราบกันมาว่าการรับประทานของหมักดองไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ แม้กระนั้นต้องขอยกเว้นไว้สำหรับขิงดองค่ะ เนื่องจากว่าในความเป็นจริงแล้วขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการหมักด้วยน้ำส้มสายชู แต่ว่าเรื่องสรรพคุณ รวมทั้งผลดีเพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสดๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งคุณประโยช์จากขิงดองมีดังนี้
* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ แล้วก็อาการแพ้ท้อง

เนื่องจากว่าขิงดองเป็นอาหารที่มีกลิ่นฉุนทั้งยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นของกินที่เหมาะกับผู้ที่มีอาการเมาเรือ เมารถ รวมทั้งสตรีที่กำลังตั้งท้อง ซึ่งชอบมีอาการแพ้ท้อง เอาไว้รับประทานขณะที่รู้สึกอาเจียน เพราะจะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ทดลองใช้ขิงดองมองนี่ล่ะค่ะ เด็ด !
* ช่วยล้างปากเวลารับประทานอาหาร
 สำหรับคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าทำไมเวลาไปกินอาหารญี่ปุ่นแล้วบนจานของกินประเทศญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองเหล่านั้นมีไว้รับประทานล้างปากค่ะ โดยส่วนใหญ่ในการทานอาหารญี่ปุ่น จะรับประทานขิงดองตามเข้าไปหลังจากกินอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติของกินจานเดิมติดอยู่ในปากจนถึงทำให้เกิดความรู้สึกมันแล้วก็กินจานต่อไปไม่ไหว ทั้งยังยังทำให้ลิ้มรสอาหารจานถัดไปได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
* โซเดียมต่ำ
 ถึงแม้ขิงดองจะมีรสจัด แต่น่าประหลาดที่ขิงดองเป็นของกินที่มีโซเดียมต่ำมากเมื่อเทียบกับของกินดองชนิดอื่นๆเมื่อนำมากินแล้วหลังจากนั้นก็ทำให้ไม่ต้องวิตกกังวลกับปริมาณโซเดียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความดันเลือดสูงลงไปได้อีกเยอะแยะเลย
ประโยชน์ซึ่งมาจากขิง แล้วก็โทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
ข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการทานขิง
- อาจจะก่อให้เกิดภาวะเข้าแทรกสำหรับเพื่อการตั้งครรภ์ได้
 มีบางการเรียนรู้พบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการมีท้องและการแท้ง แต่สำหรับเพื่อการมีครรภ์รายอื่นๆนั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะก่อให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณควรจะไปปรึกษาหมอก่อนที่จะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองจ้ะ
- ส่งผลให้เกิดแผลร้อนในภายในปากได้
 ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน หากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุข้างในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ ด้วยเหตุนั้นไม่ควรกินขิงมากเกินไปค่ะ
- ยั้งการแข็งตัวของเลือด
 การศึกษาเล่าเรียนหนึ่งในประเทศออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณสำหรับการต้านทานการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้ออกคำตักเตือนให้งดการกินขิงในระหว่างที่ใช้ยาละายลิ่มเลือดเพราะว่าจะก่อให้กำเนิดความเสี่ยงสำหรับการกำเนิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดออกได้ โดยเหตุนั้นหากว่าคุณมีลักษณะเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลบการกินขิงจ้ะฃ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]