ผู้เขียน หัวข้อ: ตั้งชื่อร้าน แบบไหนให้ปัง เรื่องที่คนค้าขายไม่ควรมองข้าม  (อ่าน 325 ครั้ง)

seohyun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • ดูรายละเอียด
   
       สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจค้าขายนอกจากการเตรียมความพร้อมในด้านตัวสินค้าและบริการแล้ว การตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อบริษัท ก็มีความสำคัญต่อธุรกิจไม่น้อย เพราะชื่อที่โดดเด่นสะดุดหูจะทำให้ง่ายต่อการจดจำของลูกค้าด้วย

   หลายคนไม่เพียงแต่เลือกตั้งชื่อร้าน หรือตั้งชื่อบริษัทให้มีเอกลักษณ์ แปลก และง่ายต่อการจดจำเท่านั้น หากแต่ยังต้องมีความ “เป็นมงคล” ด้วย เพื่อเสริมให้ธุรกิจเติบโต เจริญรุ่งเรือง หรือเรียกว่าช่วยให้ธุรกิจโตแบบปัง ๆ ได้ด้วย นั่นหมายถึงการเลือกชื่อร้านหรือชื่อของธุรกิจจะต้องประกอบด้วยคำความหมายดี ๆ ที่มีความเป็นมงคล สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า เช่น มีคำว่า “มั่งคั่ง” “ร่ำรวย” “เฮง” เป็นต้น ส่วนใครที่ต้องการจะใช้คำศัพท์ยุคใหม่เพื่อให้โดนใจวัยรุ่นจะต้องศึกษาความหมายคำให้ดีก่อนเลือกใช้ นอกจากนั้นการ ตั้งชื่อร้านให้รวย หรือช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างสุดปังนั้นยังต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

        ต้องเป็นชื่อที่ไม่ยาวเกินไป มีความกระชับ ง่ายต่อการจดจำ และควรจะมีคำที่สื่อถึงสินค้าหรือบริการที่เป็นสินค้าหลักของกิจการเพื่อให้ลูกค้ารู้ทันทีว่าเป็นร้านหรือธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เมื่อลูกค้าอยากหาซื้อสินค้าหรือบริการจะนึกถึงร้านของเราได้ทันที

       ชื่อของร้านหรือบริษัทจะต้องสะกดง่ายเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ซึ่งนอกจากจะทำให้ง่ายต่อการจดจำหรือการค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว การทำนิติกรรมต่าง ๆ หรือการติดต่อกับหน่วยงานราชการยังจะมีความสะดวก ราบรื่น และรวดเร็วด้วย 

        มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน โดดเด่น และง่ายต่อการจดจำ เช่น หากเป็นร้านขายตุ๊กตาหินควรตกแต่งร้านให้ดูโดดเด่นด้วยตุ๊กตาหิน แล้วใช้คำว่า “ตุ๊กตา” มาเป็นส่วนหนึ่งของชื่อร้านจะช่วยเพิ่มการจดจำได้ง่ายขึ้น

          เลี่ยงการใช้ชื่อย่อ ในการ ตั้งชื่อบริษัท หรือร้านค้าโดยปกติแล้วชื่อย่อมักจะถูกใช้อย่างคุ้นชินไปแล้วในกรณีของบริษัทขนาดใหญ่ การที่เป็นร้านค้าตั้งใหม่หรือเป็นผู้ประกอบการ SME ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจจึงควรใช้ชื่อเต็มที่เรียกง่าย สั้นกระชับ และช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ดีมากกว่าการใช้ชื่อย่อ นอกจากนี้ยังต้องไม่ใช้ชื่อตามสถานที่ตั้งของธุรกิจเพราะอาจมีปัญหาในการขยายกิจการไปยังทำเลอื่นในอนาคตได้

         มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ หลายบริษัทเลือก ตั้งชื่อร้าน หรือชื่อกิจการให้มีลูกเล่น น่าสนใจ เช่น การเล่นคำ เลียนเสียงธรรมชาติ หรือใช้ภาษาไทยผสมกับภาษาต่างประเทศ จะช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านหรือธุรกิจได้เป็นอย่างดีเช่นกัน 

         เมื่อได้ชื่อที่ต้องการแล้วจะต้องจดทะเบียนธุรกิจให้เรียบร้อย ซึ่งขั้นตอนในการดำเนินการนั้นไม่ยุ่งยาก สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยเริ่มจากการตรวจสอบก่อนว่าชื่อที่จะตั้งนั้นซ้ำกับที่เคยมีการจดทะเบียนไปก่อนแล้วหรือไม่ จากนั้นให้ทำการจองชื่อและยื่นแบบต่อนายทะเบียนที่กรมธุรกิจการค้า แล้วจดทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://ereg.dbd.go.th/ERegistMemberWeb/nonmemberpages/home.xhtml  เมื่อตรวจสอบสถานะการจองชื่อทางอีเมล์เรียบร้อย สามารถจดทะเบียนได้ภายใน 30 วัน โดยรายละเอียดต่าง ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่  www.dbd.go.th

           นอกจากการตั้งชื่อธุรกิจแล้วเจ้าของธุรกิจที่เป็น SME ยังต้องหาตัวช่วยทางการเงินสำหรับเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ จะได้ไม่ต้องหมุนเงินไม่ทันและต้องรู้แนวทางการลดต้นทุนมีว่ากี่วิธีอะไรบ้างด้วย ซึ่งธนาคารกรุงไทยเปิดให้ผู้ประกอบการ SME รายย่อยที่จดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์ไม่ต่ำกว่า 1 ปี การขอสินเชื่อ SME ได้ เพียงแค่มีแอปพลิเคชันถุงเงินหรือเครื่อง EDC ของธนาคารกรุงไทย, มีการขายสินค้าออนไลน์ที่ Shopee หรือ Lazada หรือขายของบนระบบ POS โดยจะได้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 3 ล้านบาท (กรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่มี บสย. ค้ำประกันให้) ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด MRR แต่กรณีที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันจะได้วงเงินสูงสุดถึง 20 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแบบสุดปังพร้อมกับชื่อที่เป็นมงคล  สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อ SME ของธนาคารกรุงไทยได้ที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan/smart-shop



 

Sitemap 1 2 3