แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - jessica

หน้า: [1] 2 3
1

ขายมะรุม ผลดีfyjiu;lo9;ทางโภชนาการของมะนาวสภาวะขาดธาตุเหล็ก การรักษาผู้เจ็บป่วยที่ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กไม่ดีจนกระทั่งเกิดภาวะขาดธาตุเหล็ก หมอi;op'p'อาจแนะนำให้กินยาจำหน่ายมะรุมเสริมธาตุเหล็กควบคู่ไปกับวิตามินซี ซึ่งจะช่dfnjyukiulวยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ky89;-8urกของร่างกาย จึงเกิดแนวคิดสำนักงานทานอาหารl/[prrriutที่อุดมด้วยวิตามินซีอย่างน้ำส้มหรือน้ำมะนาวบางครั้งอาจจะสามารถช่o7วยคุ้มครองปกป้องหรือรักษาภาวการณ์ขาดธาตุเหล็ก โดยส่งผลให้ร่า7กายดูดซับธา90ตุเtlu9;;หล็กจากอาหารต่างๆที่กินเข้าไปเจl89ริญด้วยแม้กระนั้น จtlk89y,koiu;ากผลการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ขายมะรุม การค้นคว้าหนึ่งทดลองแบ่งกลุ่มหญิงที่มีภาวการณ์ขาดธาตุเหล็ก กรุ๊ปละ 18 คน โดยกรุ๊ปหนึ่งกินน้ำมะนาวที่มีวิตามินซี 25 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง สัปดาห์ละ 6 วัน เป็นระยะเวลาที่ยyาวนา;lo';jgjkmkน 8 เดือน ส่วนอีกกรุ๊ปหนึ่งรับประทานยาหลอก คำตอบพบว่าการกินน้ำมะนาวไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กภายในร่างกายของหญิ9uo';'งที่;.มีภาวะนี้อะ9ไรแก้อาการจำหน่ายมะรุมอาเจียน มะนาวผ่าซี;877ก โรยเกลือลงไปนิดหน่อยรวมทั้งบีบน้ำ'oitมะนาวใส่ปากเป็นเo;pยี่ยมในเทคนิคบรรเทาอาการคลื่นไส้ยอดนิยม แต่ว่าจะสำเร็จจริงหรือไม่นั้นยังไม่มีเรียนเกี่ยวกับสรรพคุณด้านนี้ของมะ['p0'นาวออกมารับรอง อย่างไรก็ดี แนวทางนี้นับเl8l;['-5j78863ป็นวิธีกล้วยๆที่สามารถทดลองใช้ได้อย่างไม่น่าจะทำให้เป็นอันตราย แม้เป็นอาการอาเจียนธรรมดาที่ไม่รุนแรง แม้กระนั้นหากทดลองแล้วยังไม่หายหรือมีอาการขายมะรุมแตกต่66+าej87งจากปกติก็ควรจะไ6tl9807;l9;ปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการจะเยี่ยมที่8y7l09;สุด เช่นเดียวกันกับอีกหลายๆโรค

Tags : จำหน่ายมะรุม

8
ขายและผลิตน้ำมันนวดสมุนไพร

10

น้ำมันนวดสมุนไพร
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันวด ถือเป็นหนึ่งในแนวทางบำบัดรักษาความเครียด ผ่อนคลายจิตใจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทุเลาความเมื่อนล้า นอกเหนือจากนี้คุณคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละจำพวกที่ผสมอยู่ในน้ำมันนวดตัวของพวกเรานั้นนังสามารถบรรเทาอาการต่างๆของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ที่ช่วยเรื่องระบบทางเท้าหายใจ ทุเลาอาการหวัดคัดจมูกเมื่อเวลาสูด หรือเมื่อผสมกับน้ำมันก็จะสามารถช่วยทำให้รู้สึกเย็นสบายผิว ที่ช่วยคุ้มครองปกป้องแมลงรบกวน เป็นต้น
การนวดน้ำมันเป็นแนวทางดูแลภาวะผิวและก็สุขภาพที่ขอเสนอแนะเลย เป็นส่วนใหญ่จะการนวด ที่สกัดมาจากสมุนไพรและก็พืชต่างๆโทนร้อนพอประมาณ ที่อุดมไปด้วยผลดีที่ดีต่อสุขภาพ โดยการนำสารสกัดกลิ่นรวมทั้งเนื้อน้ำมัน พวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกาย ด้วยกลิ่นหอมยวนใจรวมทั้งแล้วก็สัมผัสของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้พวกเราบรรเทา รวมถึงช่วยเพิ่มความชื้นรวมทั้งผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้จ้ะพวกเราจะพาไปดูคุณประโยชน์ของการนวดน้ำมันกันว่า มีสาระด้านใดบ้าง
1.การนวดน้ำมันจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีมากขึ้น ลดอาการเคร่งเคลียดให้พวกเราผ่อนคลายจากการความอ่อนล้าและความเหน็ดเหนื่อยสะสม
2.น้ำมั่นนวด กระตุ้นการทำงานของเลือด ให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนรวมทั้งสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ ป้องกันโรคต่างๆและลดระดับความดันโลหิตได้ดิบได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมและฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
4.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ภายในร่างกายแล้วก็ภาวะผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น ดูมีน้ำมีนวลรวมทั้งชีวิตชีวาเยอะขึ้น
5.ช่วยในหัวข้อการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผ่อนคลายสมองแล้วก็ร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดียิ่งไปกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี
ยิ่งกว่านั้นการนวดน้ำมันยังมีคุณประโยชน์อีกหลายประเภทต่อสภาพร่างกาย ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกแก่คนรักสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยมลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรนสำหรับคนที่เคยทรมาทรกรรมจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยมาก หมอก็ได้แนะนำให้ทดลองไปนวดบำบัดสุขภาพดูบ้าง เพราะเหตุว่าจากผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างๆของโรคไมเกรน แล้วก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ


ทุเลาอาการกล้ามอักเสบจากการออกกำลังกาย


          ในเวลาที่บริหารร่างกายอย่างหนัก ร่างกายจะได้รับผลกระทบเป็นอาการปวดเมื่อย หรือกล้ามเนื้ออักเสบเป็นของแถม ซึ่งการศึกษาเล่าเรียนของ Buck Institute for Research on Aging and McMaster University in Ontario, Canada ก็ได้เปิดเผยวิธีทุเลาอาการว่า ให้ลองไปนอนรับบริการนวดตัวดูบ้าง เพราะว่าการนวดจะช่วยคลายกล้ามที่ตึงเครียดจากการออกกำลังกายได้ดิบได้ดีเทียบเท่าการรับประทานยาคลายกล้ามอย่างไรยังงั้นเลยล่ะ
การนวด


ดูเด็กขึ้น


          ตั้งแต่นี้ต่อไปไม่ต้องลำบากแอ๊บแบ๊วลากวัยอีกต่อไป เพราะเพียงแค่ไปสปาให้เขานวดๆบีบๆร่างกายอยู่บ่อยๆก็สามารถทำให้พวกเรามองเด็กขึ้นได้แล้ว โดยผู้ชำนาญด้านผิวหนังก็ได้อธิบายเพิ่มอีกว่า การขัดหน้าหรือนวดหน้า รวมไปถึงนวดตัว เป็นการกระตุ้นให้เลือดภายในร่างกายไหลเวียน ซึ่งก็ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้นด้วย ทั้งการนวดยังช่วยกระตุ้นรูปแบบการทำงานของต่อมท่อน้ำเหลือง ให้กำจัดสารพิษที่อยู่ใต้ผิวหนังให้หมดไป ทำให้สารอาหารแล้วก็วิตามินต่างๆซึมไปสู่เซลล์ผิวได้ดิบได้ดีขึ้น ช่วยทำให้ผิวมองกระปรี้กระเปร่าเต่งตึงได้อีกที รวมไปถึงกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบๆผิวหน้าได้อีกด้วยนะ


ป้องกันอาการ PMS


          สาวๆทุกคนอาจทราบดีว่าอาการ PMS ก่อนมีเมนส์นั้นสร้างความทรมาทรกรรมให้กับเราได้มากมายแค่ไหน แต่ว่าวันนี้เราไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจกับอาการเหล่านี้อีกต่อไป เพราะเหตุว่าผลการค้นคว้าของ Touch Research Institute and University of Miami Medical School พบว่า การนวดตัวสามารถคุ้มครองปกป้องอาการข้างๆทุกประเภทเวลาที่หญิงมีรอบเดือนได้อยู่มือ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการหงุดหงิดฉุนเฉียว แม้กระนั้นแนวทางนวดอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกับสาวๆที่แก่ตั้งแต่ 19-45 ปี แค่นั้นนะคะ
นวดแผนไทย

  • ลดอาการข้างเคียงของโรคมะเร็ง ผลการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนไข้โรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนหลับเจริญขึ้น ทุเลาลักษณะของการเจ็บปวด รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ระบาด จะทรมาทรกรรมจากลักษณะของการเจ็บปวดน้อยลง อาเจียนน้อยครั้ง หรือเปล่าอ้วกเลย รู้สึกสดชื่นขึ้น ความดันดีมากกว่าเดิม รวมทั้งเครียดจากลักษณะการป่วยน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
  • ทุเลาอาการปวดเรื้อรัง


          ผู้เชี่ยวชาญทางกายภาพบำบัดได้ชี้แจงถึงประสบการณ์ของตนให้ฟังว่า คนที่มีลักษณะปวดเรื้อรัง ได้แก่ ปวดตามข้อ โรคข้ออักเสบ รวมทั้งอาการปวดเมื่อยเรื้อรังอื่นๆจะคลายลักษณะของการเจ็บปวดกลุ่มนี้ลงไปได้มาก หลังจากได้รับบริการนวดอย่างแม่นยำต่อเนื่องกันเพียง 2-3 ครั้งเพียงเท่านั้น เพราะว่าการนวดได้อย่างตรงจุด จะช่วยทุเลาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆได้อย่างเร็ว ก็เลยสามารถทุเลาลักษณะของการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้อย่างทันใจนั่นเองจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้งาน และสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละประเภท โดยส่วนมากน้ำมันฐานรากที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด ดังเช่น น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันที่ทำจากถั่วเหลือง แล้วก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และก็ทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด คุ้มครองการเกิดมะเร็ง นอกจากนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ต้องต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละประเภทจะมีคุณลักษณะ และก็คุณค่าที่นาๆประการ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้แรงงาน

12

พญายอ
พญายอเป็นไม้พุ่งแกมเลื้อย เถาและใบมีสีเขียวใบไม้ไม่มีหนาม ใบยาวเรียวปลายแหลม ออกตรงกันข้ามเป็นคู่ ดอกออกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3-6 ดอก กลีบเป็นดอกปลายแยกสีแดงอมส้ม
พญายอขึ้นได้สวยในดินที่สมบูรณ์ แดดปานกลาง พบได้มากตามป่าในประเทศไทย หรือปลูกกันตามบ้าน ปลูกโดยใช้ลำต้นปักชำ ฯลฯไม้ที่ปลูกง่าย ตัดกิ่งออกมาซัก 2-3 คืบ ปักขำให้รากออกมาดีแล้วก็ย้ายไปปลูกในแปลง ดูแลเหมือน พืชไม้ทั่วไป
ใบ เป็นยา ให้เก็บขนาดกึ่งกลางที่บริบูรณ์ ไม่แก่ไหมอ่อนจนกระทั่งเกินไป ใบของพญายอสามารถลดอาการักเสบของหูก้าวหน้า โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนที่สกัดด้วยสารละลาย “บิวทานอล” สกุลสถิต ฉั่วกุล รวมทั้งแผนกได้ศึกษาเล่าเรียนพบว่าสารสำคัญตัวหนึ่งเป็น “เฟลโวนนอยต์” ส่วนด้านที่มีการต้านพิษงูยังไม่แน่ชัด แม้กระนั้นไม่เป็นอันตรายพอที่จะใช้
ใบพญายอรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่ (ปวด, บวม, แดง ร้อนแต่ไม่มีไข้) จากแมลงที่เป็นพิษกัดต่อย ได้แก่ ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน รักษาโดยการเอาใบสดจากพญายอนี้มาสัก 10-15 ใบ (มากมายน้อยตามบริเวณที่เป็น) ล้างให้สะอาด ใส่ลงในครกตำยา ตำให้ถี่ถ้วน เพิ่มเติมแอลกอฮอล์เพียงพอเปียกยา ตั้งทิ้งเอาไว้ 1 อาทิตย์ หมั่นคนยาทุกๆวัน กรองน้ำยา ใช้น้ำ และก็กากทาบรอบๆที่เจ็บบวม หรือที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
พญายอ หรือ เสลดพังพอน เนื่องจากว่าเสมหะพังพอนมีตลอดตัวผู้ละตัวเมีย แม้กระนั้นตัวผู้ไม่นิยมประยุกต์ใช้เนื่องด้วยมีฤทธิ์อ่อน รวมทั้งเพื่อไม่ให้งงงันก็เลยเรียกเสมหะพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ" ส่วนมากนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยจัดอยู่ในกลุ่มพืชถอนพิษ  “พญายอ” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาทารักษาด้านนอก มีคุณประโยชน์ทุเลาการอักเสบของผิวหนังได้ดี  มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส
คุณลักษณะของผงพญายอในการบำรุงผิวพรรณ
- ใช้แก้สิวเม็ดผื่นผื่นคัน ด้วยการนำมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวแล้วก็เม็ดผดผื่นคัน
- ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ผสมกับสุราใช้เป็นยาแก้ผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ลมพิษ แผลไฟลุกน้ำร้อนลวก
- ใช้รักษาแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก พญายอมีคุณประโยชน์ช่วยดับพิษร้อนก้าวหน้า
- อีกแบบเรียนกล่าวว่านอกจากจะใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลเปื่อยเนื่องจากว่าถูกแมงกะพรุนไฟ แผลหมากัด และแผลที่เกิดขึ้นมาจากการถูกกรดได้อีกด้วย
- ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย เอามาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองได้ดิบได้ดี ทำให้แผลแห้งไว
- ใช้แก้ฝี ด้วยการผสมกับเกลือและสุรา ใช้พอกบริเวณที่เป็น เปลี่ยนยาทุกรุ่งเช้าแล้วก็เย็น
- ใช้เป็นยาขับพิษ ถอนพิษ โดยเฉพาะพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ยกตัวอย่างเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง อื่นๆอีกมากมาย
- [url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]พญายอ[/url] [/color]ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังประเภทเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ไฟลามทุ่ง และใช้เป็นยาถอนพิษต่างๆเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลและก็เอากากพอกบริเวณแผล
- มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ ลดการอักเสบ สามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้
- มีฤทธิ์ลดความเจ็บ ช่วยลดลักษณะของการปวด
- มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสได้ดีและไม่เป็นพิษต่อเซลล์

วิธีการพอกขัดผิวด้วยผงพญายอ

  • ชำระล้างผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและก็เช็ดถูเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนวิธีการขัดพอกผิว
  • ใช้ผสมกับน้ำสะอาด (หรือ ผงสมุนไพรอื่นๆน้ำผึ้ง น้ำนม หรือโยเกิร์ต เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น)
  • สามารถใช้พอกหรือขัดได้อีกทั้งผิวหน้าแล้วก็ผิวกาย เสมอๆ สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง


     - สำหรับผิวหน้า พญายอถ้าหากเป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาด ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลุกลามไปทั่วบริเวณใบหน้า และก็เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวหน้ามากจนเกินไป พอกทิ้งไว้โดยประมาณ 15 นาที
     - หากใช้ขัด (สำหรับคนที่ไม่เป็นสิว แล้วก็ผิวกาย) ให้ขัดให้เบาไม้เบามือที่สุด ราวเพียงแค่คลำมานะจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด และก็ให้ขัดเพียงแค่ 5 นาทีก็เพียงพอที่สารสำคัญจะออกฤทธิ์แล้ว เมื่อครบ 5 นาทีให้พอกทิ้งเอาไว้กระทั่งแห้ง (บางทีอาจใช้ระยะเวลาพอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที)

  • พญายอ ภายหลังแห้งแล้ว ให้ทำการล้างด้วยน้ำธรรมดา (ไม่สมควรใช้น้ำอุ่น) ล้างแบบเบาที่สุดหรือให้เปิดฝักบัวเบาๆแล้วก็ปลดปล่อยให้น้ำรดผ่านผิวไปสัก 2-3 นาที แล้วก็ใช้ฝ่ามือคลำให้เบาที่สุด โดยใช้หลักการล้างเดียวกับการขัดหน้า คือ เพียรพยายามจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย
  • ล้างหน้าเสร็จแล้ว ซับหน้าให้แห้ง


Tip  เพื่อการบำรุงที่มากขึ้น เมื่อพอกหรือขัดผิวด้วยผงสมุนไพรแล้ว ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำธรรมดาในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเท่ากัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆทั่วใบหน้าสักบางส่วน ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออก เพื่อเป็นการคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและกระจ่างใส มองอ่อนกว่าวัยเพิ่มขึ้น http://www.disthai.com/

13

สมุนไพร[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลาหมอ[/u][/url][/b]
ชื่อสกุล : ACANTHACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicfolius L. ; Acanthus ilicfolius L. var intergrifolia T.Anderson
ชื่อสามัญ : Sea holly
ชื่อพื้นบ้านอื่น : แก้มหมอ, แก้มหมอเล (กระบี่) ; จะเกร็ง, นางเกร็ง, เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วๆไป) ; อีเกร็ง (ภาคกึ่งกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงราว 30-100 ซม. ลักษณะลำต้นเป็นข้อ แข็ง แล้วก็มีหนามอ่อนๆตามข้อๆละ 4 หนาม
ใบ เป็นใบคนเดียว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆสีเขียวเข้ม ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบใบเว้าหรือเรียบ และมีหนามแหลม ปลายใบแหลม มีก้านใบสั่นๆ
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกเป็นช่อตั้งตรงที่ยอด ช่อดอกยาว กลีบรองกลีบดอก มี 4 กลีบ แยกจากกันสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาว สีขาวขริบฟ้า หรือสีฟ้าอมม่วง แยกเป็น 2 ทาง กลีบบนยาวเท่ากับกลีบรองกลีบดอก แต่ว่ากลีบล่างแผ่กว้างรวมทั้งโค้งลง ปลายกลีบหยักเว้าเป็น 3 หยักตื้นๆ
ผล เป็นฝักสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน มีเม็ดข้างใน 4 เม็ด
นิเวศวิทยา
เป็นไม้ที่โล่งแจ้ง มีอยู่ทั่วไปในป่าชายเลน จากที่ลุ่มริมแม่น้ำลำคลอง ส่วนมากชอบขึ้นในที่น้ำกร่อย บางคราวก็เจอในน้ำจืดบ้างเหมือนกัน
การปลูกและขยายพันธุ์
เจริญเติบโตก้าวหน้าในดินแทบทุกจำพวก ความชุ่มชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์ทางยา
รสและก็สรรพคุณในตำราเรียนยา
อีกทั้งต้น รสเค็มกร่อย แก้อาการผดผื่นคัน
ใบ รสเค็มกร่อย รักษาโรคปวดบวมและแผลอักเสบ แก้ท้องอืด ท้องอืด หมอแผนไทยตามบ้านนอกใช้อีกทั้ง 5 เป็นยาแก้ไข้หัว พิษฝี พิษกาฬก้าวหน้า แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ปรุงกับฟ้าทลายมิจฉาชีพรมหัวริดสีดวงทวาร โขลกใบผสมกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาแก้อาการตาเจ็บหรือตาแดง
ผล รสเค็มกร่อย ใช้เป็นยาขับโลหิตอย่างแรง และแก้ฝีซาง ฝีตาน
ในประเทศประเทศอินเดีย ใช้ยอดและก็ใบอ่อนตำผสมน้ำน้อยปิดแผลที่ถูกงูกัด ทั้งต้นใช้รักษาแก้โรคที่เกี่ยวกับหลอดลมและแก้ไอ รวมทั้งเอามาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาธาตุทุพพลภาพ
ในประเทศประเทศสิงคโปร์ ใช้เม็ดเป็นยาแก้ไอ โดยต้มเมล็ดกับดอกมะเฟืองหรือดอกตะลิงปลิง แล้วเพิ่มเปลือกอบเชย และก็น้ำตาลกรวด จิบแก้ไอ เม็ดบดเป็นผุยผงใช้พอกแก้ฝี หรือนำไปคั่วแล้วป่นละลายน้ำดื่มแก้ฝี ฝักต้มรับประทานเป็นยาขับโลหิต และก็แก้ฝี รากต้มเป็นยาดื่มแก้โรคงูสวัด
แนวทางรวมทั้งจำนวนที่ใช้
รักษาโรคผิวหนัง แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย โดยใช้อีกทั้งต้นแล้วก็ใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด สับเป็นชิ้นนำไปต้มน้ำ แล้วก็ใช้น้ำอาบ เช้า-เย็น เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ข้อควรจะรู้
เหงือกปลาหมอมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด เป็น
เหงือกปลาหมอ Acanthus ilifolius L. หรือ Acanthus ilifolius L. var intergrifolia T.Anderson ลักษณะจะมีดอกสีฟ้าอมม่วง มีประสีเหลืองตรงกลางกลีบ มีใบเสริมแต่งสีเขียวอีก 2 กลีบ รองรับดอกอยู่เป็นประจำไป
เหงือกปลาหมอ Acanthus ebracteatus Vahl ลักษณะจะมีดอกสีขาวค่อนข้างเล็ก มีใบตกแต่งรองรับช่อดอก แต่ว่าตกหลุดไปก่อน
สรรพคุณของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี เส้นเลือดไม่ตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วผสมผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าหากกินต่อเนื่องกัน 1 เดือน จะก่อให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูดี / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่เคยรู้อ่อนเพลีย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง / 9 เดือน หนังเหนียว (ต้น, ราก)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุผิดปกติ (ทั้งยังต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมเป็นปกติ (ทั้งต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยให้เจริญอาหาร (ทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการผอมแห้งเหลืองตลอดตัว ด้วยการใช้ทั้งยังต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงกินวันแล้ววันเล่า (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนหมดทั้งตัว เจ็บระบบทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนศีรษะ หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ทั้งยังต้นของเหงือกปลาหมอรวมทั้งเปลือกมะรุมอย่างละเสมอกัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วก็ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำเดือดกระทั่งงวดแล้วชูลง เมื่อเสร็จให้กลั้นใจรับประทานขณะอุ่นๆจนถึงหมด อาการก็จะดียิ่งขึ้น (ทั้งยังต้น)
ช่วยยั้งโรคมะเร็ง ต้านมะเร็ง (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นรวมทั้งข้าวเย็นเหนือ อาหารมื้อเย็นใต้ในรูปทรงที่เท่ากัน นำมาต้มกับน้ำจนเดือดแล้วเอามาดื่มในขณะอุ่นๆทีละ 1 แก้ว รุ่งเช้า ตอนกลางวัน เย็น อาการจะ (ทั้งต้น)
รักษาปอดอักเสบ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้ลักษณะของการปวดศีรษะ (ต้น)
รากช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ หรือจะใช้เมล็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เหมือนกัน (ราก, เมล็ด)
ช่วยแก้หืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมออีกทั้งต้นเอามาตำผสมกับขิง คั้นมัวแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ทั้งต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ต้นและก็รากเอามาต้มอาบแก้อาการ (ทั้งยังต้น)
แก้อาการไอ เมล็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เมล็ด)
ช่วยขับเสมหะ (ราก)
ถ้าเกิดเป็นลม ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างละเอียดเป็นผุยผงแล้วเอามาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมทั้งพริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ต้น)
ช่วยขับพยาธิ (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย นำมาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับปัสสาวะ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดระดูขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ใบและต้นเอามาตำเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทานแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้รอบเดือนมาไม่ปกติของสตรี ด้วยการใช้อีกทั้งต้นนำมาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (ทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบนำมาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)

ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เม็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและก็พริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนรับประทานก็ได้ (เม็ด, ผล, ต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยสมานแผล ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เม็ด)
สำหรับคนป่วยเอดส์ที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง ถ้าใช้ต้นมาต้มอาบและก็ทำเป็นยารับประทานต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยให้ลักษณะของแผลพุพองบรรเทาลงอย่างชัดเจน (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่าดง รักษากลากเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้ทั้งต้นเอามาตำมัวแต่น้ำกิน (ทั้งต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดรวมทั้งใบสดล้างสะอาดประมาณ 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันติดต่อกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดเอามาต้มมัวแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกชนิดทั้งยังด้านในด้านนอก ด้วยการใช้ต้นแล้วก็ใบสดและก็แห้งราว 1 กำมือ นำมาบดอย่างถี่ถ้วน แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือแนวทางที่สองจะเอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งเอาไว้ 10 นาที แล้วเอามาดื่มก่อนที่จะกินอาหารครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราว 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เม็ดนำมาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างรอบคอบ ชงกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เม็ด)
เม็ดใช้ปิดพอกฝี (เมล็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยทำลายพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างระมัดระวัง สามารถใช้พอกบริเวณแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอ1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ต้น)
ต้น หากประยุกต์ใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาตลอดตัวได้ (ต้น)
รากมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะการเจ็บหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับปรุงข้ออักเสบและก็แก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรักษารากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วหัว จะช่วยบำรุงรักษารากผมได้ (ใบ) http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ

14

รากสามสิบ
รากสามสิบ สรรพคุณ ว่านสามสิบ ตำราเรียนยาประจำถิ่น ใช้ ทั้งยังต้นหรือราก ต้มน้ำ แก้ตกเลือด และโรคคอพอก ราก มีรสขื่นเย็น กินเป็นยาแก้พิษร้อนในอยากดื่มน้ำ แก้เมื่อย ครั่นตัว ฝนทาแก้พิษแมลงป่องกัดต่อย แก้ปวดฝี ทำให้เย็น ถอนพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน ช่วยทำนุบำรุงเด็กในท้อง บำรุงตับ ปอด บำรุงกำลัง ผสมกับเหง้าขิงป่า แล้วก็ต้นจันทน์แดงผสมสุราโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน ทั้งยังต้นหรือราก ต้มน้ำดื่ม แก้แท้งลูก และก็โรคคอพอก ผล มีรสเย็น ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับ ไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง
รากสามสิบ ช่วยเหลือความรัก รวมทั้ง กระชับความเกี่ยวพันให้ชีวิตแต่งงาน คลายกล้ามของมดลูก บำรุงหัวใจ ,แก้การอักเสบ ,บำรุงเลือด แก้ปวดรอบเดือน เมนส์มาไม่ปกติ ลดสภาวะมีบุตรยาก เสริมฮอร์โมนผู้หญิง กระชับช่องคลอด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว บำรุงผิวพรรณ ลดสิวฝ้า ชลอความแก่ แก้อาการวัยทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Asparagus racemosus Willd.
วงศ์ : Asparagaceae
ชื่ออื่น : สาวร้อยผัว รากศตวารี จ๋วงเครือ (เหนือ) ผักชีช้าง (หนองคาย) ผักหนาม (จังหวัดนครราชสีมา) สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี) สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน ม้าสามต๋อน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้เลื้อย เนื้อแข็ง ลำต้นสีเขียว มีหนามแหลม มักเลื้อยพันตันไม้อื่น เลื้อยยาว 1.5-4 เมตร เถากลมเรียบ เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม มีเหง้าแล้วก็รากใต้ดินออกเป็นกลุ่มเหมือนกระสวยออกเป็นพวงคล้ายรากกระชาย อวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว โตกว่าเถามากมาย ลำต้นมีหนาม เถาเล็กเรียว กลม สีเขียว ใบลำพัง แข็ง ออกรอบข้อ เป็นฝอยเล็กๆเหมือนหางกระรอก สีเขียวดก หรือเป็นกลุ่ม 3-4 ใบ เรียงแบบสลับ ใบรูปเข็ม กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ยาว 3-6 เซนติเมตร แผ่นใบมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาว 13-20 ซม. ช่อดอก ออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ แบบช่อกระจะ ยาว 2-4 เซนติเมตร ดอกย่อย สีขาว ขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมยวนใจ มี 12-17 ดอก ก้านดอกย่อย ยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร กลีบรวม มี 6 กลีบ เชื่อมกันเป็นหลอดรูปดอกเข็ม ปลายแยกเป็นแฉก ส่วนหลอดยาว 2-3 มิลลิเมตร ส่วนแฉกรูปช้อน ยาว 3-4 มม. กลีบบางและย่นย่อ เกสรเพศผู้ เชื่อมและก็อยู่ตรงข้ามกลีบรวม ขนาดเล็กมี 6 อัน ก้านยกอับเรณูสีขาว อับเรณูสีน้ำตาลเข้ม รังไข่รูปไข่กลับ ยาวประมาณ 1 มม. อยู่เหนือวงกลีบ มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เมล็ด หรือมากยิ่งกว่า ก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็นสามแฉกขนาดเล็ก ผลสด ออกจะกลม หรือเป็น 3 พู ผิวเรียบเป็นเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 มม. ผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกสีแดงหรือม่วงแดง เม็ดสีดำ มี 2-6 เมล็ด ออกดอกตอนม.ย.ถึงมิถุนายน เจอตามป่าโปร่ง หรือเขาหินปูน
สาวร้อยผัวหรือรากสามสิบ เป็นสมุนไพรไทยมีรสขนมหวานเย็น ที่แฝงไปด้วยสรรพคุณขนานเอก บำรุงเครื่องเพศในสตรี และยังเสริมความสามารถทางเพศให้แก่ผู้ชาย
นิยมนำส่วนของใบอ่อน ยอดอ่อน ผลอ่อน ซึ่งมีกลิ่นหอมสดชื่นคล้ายผักชีลาว มารับประทานเป็นผัก และก็นำส่วนของรากที่มีลักษณะเหมือนกระชาย แต่มีขนาดใหญ่รวมทั้งยาวกว่าทั้งมีกลิ่นหอมสดชื่น มาใช้ดองยาสมุนไพร ชูกำลังในสตรีด้วยคุณประโยชน์ที่สอดคล้องกับชื่อที่เรียกขานกันว่า สาวร้อยสามี ที่สื่อความหมายได้ว่า ไม่ว่าสาวใด อายุเท่าไหร่ อยู่ในวัยมีประจำเดือนหรือหมดประจำเดือนก็ตาม ถ้าหากได้ทานหัวพืชจำพวกนี้บ่อยๆ จะช่วยทำให้ดูเป็นสาวกว่าวัย มีพลังทางเพศ แล้วก็ยังช่วยเพิ่มขนาดของหน้าอก ด้วยวิธีการนำรากสดมาต้มรับประทานหรือไม่ก็อาจจะนำรากไปตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนผสมกับน้ำผึ้งกินก็ได้เหมือนกันตามตำราอายุรเวท มีการใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง ช่วยทำให้สตรีกลับมาเป็นสาวได้อีกที
ในประเทศอินเดียก็เรียกสมุนไพรจำพวกนี้คล้ายกับประเทศไทย โดยในภาษาสันสกฤต เรียกว่า ศตาวรี (Shtavari) แสดงว่า ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก หรือบางตำราพูดว่าเป็น สตรีที่มีร้อยสามี “Satavari” (this is an India word meaning’a woman who has a hundred husbands) รากสามสิบเป็นสมุนไพรที่ถูกเอ่ยถึงในตำรา พระเวท ซึ่งเป็นคำภีร์ที่มีมาก่อนอายุยงรเวทด้วย จึงน่าจะนับได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มีการใช้มานานหลายพันปีแล้ว รวมทั้งในอินเดียใช้ รากสามสิบ ทำเป็นอาหารหวานเช่นเดียวกับประเทศไทย
ในตำราอายุรเวทใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในหญิง สำหรับการทำให้หญิงกลับมาเป็นสาว (Female rejuvention) นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆของสตรียกตัวอย่างเช่น สภาวะรอบเดือนแตกต่างจากปกติ ปวดประจำเดือน ภาวะมีลูกยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมโทรม ภาวการณ์หมดปะจำเดือน(menopause) และก็ใช้บำรุงน้ำนมบำรุงท้อง ปกป้องการแท้ง (habitual abortion) และก็อาการที่ไม่พึงปรารถนาอื่นๆของผู้หญิง
ถึงแม้สมุนไพรจำพวกนี้จะสะดุดตาต่อสตรีเพศแล้ว ในประเทศอินเดียยังคงใช้สำหรับเพื่อการเพิ่มพลังทางเพศให้กับผู้ชายอีกด้วย ซึ่งก็อาจคล้ายกับทางภาคเหนือของไทยที่ใช้สาวร้อยสามี หรือที่เรียกในภาคเหนือว่า “ม้าสามต๋อน” เป็นยาดองเพื่อเพิ่มพลังทางเพศชาย และยังคงใช้เพื่อสรรพคุณทางยาอื่นๆอีกมากมาย อาทิเช่น ยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะ ยาแก้บิด แก้ไข้ แก้อักเสบ ซึ่งจัดได้ว่าสมุนไพรจำพวกนี้เป็นสมุนไพร ที่ใช้มากที่สุดในอินเดียประเภทหนึ่ง เดี๋ยวนี้มีสารสกัดด้วยน้ำ ของรากสามสิบ จากอินเดียไปจำหน่ายที่สหรัฐฯ ในลักษณะเป็น dietary supplement หรือพวกอาหารเสริมซึ่งสามารถขายได้ ทั่วไปไม่ต้องมีใบสั่งหมอ

สรรพคุณสมุนไพรรากสามสิบ (รากศตวารี)
ช่วยสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง
แก้ปวดเมนส์
แก้ประจำเดือนมาผิดปกติ
แก้อาการตกขาว
ไขปัญหาช่องคลอดอักเสบ ช่วยดับกลิ่นในช่องคลอด
ช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับ
แก้ปัญหาการมีบุตรยาก ป้องกันการแท้งบุตร
บำรุงน้ำนม
ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
ช่วยระบาย ขับเยี่ยว
ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก
ช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก แล้วก็สะโพก
กระชับรูปทรง
ช่วยลดไขมันส่วนเกิน
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
บำรุงเลือด แล้วก็บำรุงหัวใจ
บำรุงฮอร์โมนเพศ
บำรุงผิวพรรณ
ลดสิว ลดฝ้า ช่วยผิวขาวใส
แก้อาการวัยทอง ชะลอความชรา
ใช้รักษาโรคตับ ปอดพิการ
บำรุงกำลัง แก้กษัย
ข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการใช้รากสามสิบ
รายงานการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่ารากสามสิบมีฤทธิ์เสมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ด้วยเหตุนั้นก็เลยห้ามนำมาใช้ในสตรีที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เป็นต้นว่า คนป่วยโรค uterine fribrosis หรือ fibrocystic breast
ผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยสมุนไพรรากสามสิบ
การศึกษาเล่าเรียนในหนูแรทของสารสกัดรากด้วยเอทานอลต้นรากสามสิบ แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ช่วงเฉียบพลัน แล้วก็ช่วงยาวต่อเนื่อง
โดยการศึกษาเล่าเรียนในระยะกระทันหันป้อนสารสกัดเอทานอลต้นรากสามสิบขนาด 1.25 กรัม/กิโลกรัม ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นเบาหวาน และก็หนูแรทที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 1 รวมทั้ง จำพวกที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของกลูโคส (glucose tolerance) ในนาทีที่ 30  และการศึกษาตอนยาวต่อเนื่องโดยป้อนสารสกัดเอทานอลรากสามสิบขนาด 1.25 กรัม/กก.วันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ในขณะหนูเบาหวานกรุ๊ปควบคุมได้รับน้ำในขนาดที่เสมอกัน พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และก็เพิ่มระดับของอินซูลิน 30% เมื่อเทียบกับกรุ๊ปโรคเบาหวานควบคุม นอกเหนือจากนี้ยังเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน และเพิ่มกลัยโคเจนที่ตับเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเบาหวานควบคุม จากการเรียนในคราวนี้สรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการหยุดยั้งการสรุปยรวมทั้งการดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งการเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งต้นรากสามสิบคงจะมีคุณประโยชน์สำหรับการนำมารักษาผู้เจ็บป่วยเบาหวานได้
ที่มา : หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/

15

เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ขี้กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำราเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาแพทย์สามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะเบาลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาแพทย์เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางสูงโดยประมาณ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นรวมทั้งใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งและมีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกไม้จะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เมล็ด จะสามารถพบได้บ่อยตามชายน้ำ ริมฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้ว่าจะร้ายแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วๆไป แม้กระนั้นเมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นอีกทั้งยารับประทานรวมทั้งต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะบรรเทาเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนเจ็บโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและวิธีการใช้ยาก็มีหลายแนวทางหมายถึง
แนวทางต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาแพทย์สดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แต่ถ้ามีเหงือกปลาแพทย์เยอะๆ บางครั้งก็อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่ทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
กระบวนการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาแพทย์อีกทั้ง 5 ครั้งตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่รับประทานทีละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งอาจจะกินทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุแล้วก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนกินอาหาร ตอนเช้า-เย็น กินไปเรื่อยกระทั่งจะหาย แต่หากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็ต้องรับประทานตลอดไป

วิธีการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินเป็นผุยผงละเอียดราวกับแป้งใส่แคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม คนแก่รับประทานครั้งละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนรับประทานอาหาร เด็กน้อยลงตามส่วน
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณล้นหลาม เช่น
-ราก มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลากหลายประเภท โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการผ่ายผอม ถ้าใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาต่างกันออกไปอีก
-อีกทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มกินแก้พิษไข้ทรพิษ ฝีทั้งปวง ผลกินเป็นยาขับโลหิตระดู นอกจากนั้น ถ้าตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาตลอดตัว
- ต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดียิ่งขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน คุดทะราด เป็นไข้จับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ซูบซีดเหลืองหมดทั้งตัว กินทุกเมื่อเชื่อวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือบางส่วน หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดให้งวดก็เลยยกลง กลั้นหายใจรับประทานขณะอุ่นกระทั่งหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนหมดทั้งตัว วิงเวียน ตามัว เจ็บระบมตลอดตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" อีกทั้ง 5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามอยาก ต้มกับน้ำกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นทีละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้าตรู่ ตอนกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการ ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และก็ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาแพทย์" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานทุกวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกหมวดหมู่หาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้อ่อนเพลีย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนถ้าหากผิวแตกตลอดตัวหายได้ ทั้งหมดที่บอกเป็นตำรายาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูหมิ่น ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

หน้า: [1] 2 3