โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: Puttichai9876 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2018, 04:47:50 pm

หัวข้อ: เรียนภาษาที่อังกฤษ คำถามที่หลายๆ คนสงสัย dream-educations.com มีคำตอบ สอบถามได้
เริ่มหัวข้อโดย: Puttichai9876 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2018, 04:47:50 pm
เรียนภาษาที่อังกฤษ การศึกษาเล่าเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองนอกนั้น เป็นความฝันของหลายๆคน การเรียนภาษาที่ต่างแดน การศึกษาภาษาอังกฤษที่อังกฤษ อเมริกา นิวซีแลนด์ ประเทศสิงคโปร์ แคนาดา นับเป็นอะไรที่ดีต่อการ พัฒนาภาษามากมายๆทำให้พวกเราได้ไปใช้ชีวิตทุกวันรวมทั้งอยู่ในสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาษาอังกฤษของเราดียิ่งขึ้นแบบรวดเร็ว
.
(http://box5581.temp.domains/~dreamed1/wp-content/uploads/2018/01/banner-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A71.png) (http://www.dream-educations.com/)
.
 แต่ช้าก่อน! สำหรับผู้ใดกันที่กำลังคิดจะสมัครคอร์สเรียนภาษาในต่างถิ่นกันอยู่ สิ่งที่เราน่าจะรู้ ก่อนตัดสินใจว่าจะสมัครเรียนคอร์สไหนดี เรียนภาษาที่ไหนดี หรือประเทศไหนดี
1) จะไปเรียนตรงไหนดีนะ?
 
 เด็กนักเรียนบางคนมีเมืองในฝันที่ต้องการไปเรียนตั้งแต่แรกยกตัวอย่างเช่น บางคนบางครั้งอาจจะตั้งมั่นว่าจะไป ลอนดอน นิวยอร์ค ซานฟราน แอลเอ ประเทศสิงคโปร์ หรือ บางบุคคลต้องการไปเมืองเล็กๆสงบเงียบ แต่สำหรับบางคน อาจจะลังเลอยู่ ไม่ทราบว่าจะไปไหนดี เพราะว่า เมืองที่มีให้เลือกนั้น ก็มีทั้งเมืองเล็ก เมืองใหญ่ เมืองหลวง เมืองต่างจังหวัด ฯลฯ ซึ่งปัจจัยพวกนี้เป็นต้นสายปลายเหตุที่มีความจำเป็นในการเลือกโรงเรียนภาษาของเรามากมายทีเดียวค่ะ
 
ซึ่งข้อดี ของการเล่าเรียนภาษา เมืองใหญ่ เรียนภาษาที่ไหนดี ดังเช่น นิวยอร์ค ลอนดอน ซานฟราน ก็คือ มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ มีความมากมายทางเชื้อชาติ ทำให้เราได้ทำความเข้าใจวัฒนธรรม และไม่น่าเบื่อ มีคนมากมายเชื้อชาติ เมืองใหญ่ มีเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกมากยิ่งกว่า อย่างเช่น การเดินทางที่สะดวกสบายกว่าเมืองเล็กๆน่าจะเหมาะสมกับคน ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนภาษาของเมืองใหญ่ๆมักถูกกว่า เมืองชนบท หรือเมืองเล็กๆเพราะว่ามีสถานที่เรียนให้เลือกเยอะกว่า ข้อเสียก็คือ ค่ายังชีพบางครั้งอาจจะแพงกว่า มีความยุ่งเหยิงกว่า
 
ข้อดีของการเล่าเรียนภาษาเมืองเล็กๆซึ่งก็แบ่งเป็นเมืองเล็กๆแต่ว่าเป็นเมืองยอดฮิตของการเรียนภาษา (โดยมากเมืองของอังกฤษ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆแต่ก้เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมสำหรับในการเรียน เช่น อ๊อกฟอร์ด แคมบริจ หรือ เมืองเล็กๆที่อาจะไม่เป็นที่ชื่นชอบนักของอเมริกา ยกตัวอย่างเช่น เมืองใน wisconsin, texas เมืองเล็กๆต่างๆการศึกษาในเมืองเล็กๆพวกเราจะรู้สึกสนิทสนมแล้วก็ดูอบอุ่น เหมาะกับเกลียดการวุ่นวาย แถมการเล่าเรียนภาษา พวกเรายังจะได้ได้โอกาสพูดคุยกับคนท้องถิ่นทั่วไปในเมืองมากกว่าการไปทำความเข้าใจในเมืองใหญ่ๆด้วย ค่ายังชีพก็ยังถูกกว่าเมืองใหญ่ๆอีก ในเมืองเล็กๆอาจไม่มีกิจกรรมให้ทำมากเท่าเมืองใหญ่ ทำให้มีเวลาใช้กับเพื่อนมากกว่า
สภาพภูมิอากาศรวมทั้งสภาพแวดล้อมก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นสำหรับในการตัดสินใจไปเรียนภาษาที่เมืองนั้นๆลักษณะอากาศเป็นเรื่องจำเป็นมากมายๆบางบุคคลเกลียดอากาศหนาว ก็ควรที่จะทำการเลือกไปหน้าร้อน หรือควรจะเลือกเมืองที่ฤดูหนาวไม่หนาวมาก ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ ซานฟราน (อากาศดีมากๆๆๆตลอดทั้งปี) แอลเอ ฟลอริด้า ไมอามี่ (อากาศคล้ายเมืองไทย) ถูกใจอากาศหนาว ถูกใจหิมะก็จะต้องไป ชิคาโก้ นิวยอร์ค อังกฤษ หน้าหนาวหนาวสาแก่ใจมากค่ะ
.
(https://i2.wp.com/box5581.temp.domains/~dreamed1/wp-content/uploads/2018/01/anigif.gif?w=1100)
.
2) สิ่งแวดล้อมของโรงเรียน
 ภายหลังที่เราตัดสินใจแล้วว่าพวกเราต้องการจะไปดำเนินชีวิตการศึกษาเล่าเรียนของพวกเราในเมืองไหน คราวนี้สิ่งถัดมาที่เราควรจะพิจารณาถึงก็คือ ที่ตั้งสถานที่แน่นอนของสถาบันนั้นๆเพราะเหตุว่าแต่ละเมืองมีสถาบันหลายสถาบันในเมืองเดียวกัน พวกเราจำต้องมองว่าเดินทางทุกข์ยากลำบากไหม อยู่ใกล้กับรถโดยสารไหม สถานที่เรียนต้งอยู่ใกล้อะไรมากยิ่งกว่า บริเวณสถานที่เรียนมีอะไรบ้าง เป็นห้องอาหาร แหล่งช๊อปปิ้ง หรือสวนสาธารณะ

3) จุดมุ่งหมายในการเรียนภาษาของพวกเราคืออะไร จำเป็นต้องอย่าลืม
 การศึกษาภาษาของแต่ละคน ก็มีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน ดังเช่นว่า บางบุคคลเรียนภาษาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องการหาเพื่อนพ้องใหม่ ต้องการมาท่องเที่ยว เจอคยนใหม่ๆอยากมาอัพประวัติแบบย่อสำหรับเพื่อใช้ในการสำหรับสมัครงาน ใช้เพื่อหางาน หรือเพื่อเอามาสอบ เราต้องแน่ใจว่าโรงเรียนภาษานั้นๆรวมทั้งหลักสูตรที่เขานำเสนอเรานั้น จะช่วยให้เราถึงแผนการที่ตั้งไว้ได้จริงๆเช่นหากใครตั้งเป้าหมายเรื่องประสบการณ์ มากกว่าจะต้องการไปเรียนภาษาจริงๆจังๆก็อาจจะเน้นย้ำหลักสูตรที่ได้เรียนไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วย แต่ว่าหากผู้ใดที่ต้องการจะเอาจริงเอาจังให้ได้ภาษากลับมา ก็ควรจะมองหลักสูตรที่มีความขมักเขม้น รวมทั้งเป็นสถาบันที่ได้รับการยินยอมรับในเรื่องการเรียนการสอนและก็มีคุณภาพ เป็นต้นจ้ะ
 

4) ตารางสอน (Class Schedules)
 ตารางสอนของแต่ละสถานศึกษาจะมีหลายแบบให้เราเลือก ตารางที่ไม่รอบคอบเหลือเกิน ความรู้ที่ได้ตามก็จะไม่รัดกุมตามไปด้วย ในขณะตารางสอนที่อัดแน่นเกินความจำเป็น น้องๆก็บางครั้งอาจจะเบื่อและเครียดเกินกว่าจะได้รับประสบการณ์ศึกษาที่สนุกสนาน ด้วยเหตุนี้ตารางการศึกษาเล่าเรียนจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ที่เราควรจะจะต้องพิจารณาถึงก่อนที่จะเลือกคอร์สเรียนนั้นๆ เรียนภาษาที่ไหนดี แต่ละสถานที่เรียนจะมีเสลาเรียนที่คล้ายๆกันหมายถึงยามเช้า กับบ่าย แต่บางสถานที่เรียนจะมี ชั่วโมงเรียนพื้นที่สถาบันกำหนดนั้น เป็นการเรียนการสอนประเภทใด ได้แก่ เป็นการสอนโดยคุณครูในห้องเรียน หรือเป็นการศึกษาด้วยตัวเอง (self-study) โดยใช้วัสดุอุปกรณ์เสริมช่วยสำหรับเพื่อการเรียน (เช่น บางพื้นที่จะมี language labs) เป็นต้น รวมถึงระยะเวลาการพักเป็นอย่างไร ดังเช่นว่า ทุกๆ50 นาที จะพัก 10 นาที
.
(https://i2.wp.com/box5581.temp.domains/~dreamed1/wp-content/uploads/2018/01/why-us-1.jpg?w=1100)
.

5) จำนวนนักเรียนในห้องเรียน (Class Sizes)
 ปริมาณผู้เรียนของแต่ละคลาสนั้น ก็ต้องมีโดยประมาณ 8-15 คนต่อห้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคลาสเกี่ยวกับอะไร แต่ละคลาสต้องมีเด็กนักเรียนที่พอดิบพอดี คุณครูก็จะสามารถเข้าถึงเด็กนักเรียนได้มากกว่า ดูแลได้ใกล้ชิดกว่า แล้วก็การศึกษาเล่าเรียนการสอนก็ย่อมที่จะมีคุณภาพมากยิ่งกว่าห้องเรียนที่มีเด็กนักเรียนไม่น้อยเลยทีเดียว
ุ6) เพื่อนร่วมชั้น
 โรงเรียนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทำให้เราะได้ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งเป็นการเปิดโลกทัศน์รวมทั้งทำให้เรามีประสบการณ์ที่นานัปการโรงเรียนสอนภาษาหลายๆแห่งพวกเราก็ยังสบโอกาสฝึกภาษาในการสนทนากับเพื่อนฝูงใหม่ๆพวกนี้ด้วย ซึ่งทำให้เราได้หัดใช้ภาษาทั้งในห้องเรียนและก็นอกห้องเรียนนั่นเองค่ะ อายุโดยเฉลี่ยของเพื่อนร่วมห้องก็สำคัญนะคะ บางโรงเรียนจำกัดเพียงแค่น้องๆมัธยม (สอนวิชาความรู้ทางภาษาทั่วๆไป) บางโรงเรียนจำกัดเฉพาะคนที่อยู่ในวัยทำงาน (เน้นภาษาเพื่อการทำงาน หรือเพื่อธุรกิจ) ขณะที่บางโรงเรียนบางทีก็อาจจะรับตั้งแต่เด็กมัธยมต้นจนถึงระดับมหาวิทยาลัยเลยก็มี เสนอแนะว่าควรที่จะเลือกสถาบันที่อายุโดยรวมใกล้เคียงกับเรา
8) รายจ่ายที่มิได้บอกพวกเรา
 สถาบันส่วนมากจะมีการบอกค่าใช้จ่ายสำหรับในการเข้าชั้นเรียนหลักสูตรนั้นๆให้พวกเรารู้ในหน้าเวปไซต์ หรือเซลล์บอกเรา ถ้าเราถามไม่ละเอียด เค้าก็จะมิได้บอกเราทุกๆอย่าง เพื่อให้รู้สึกว่าถูก ทำให้เราตกลงใจอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพวกเราจ่ายไปแล้วบางทีก็อาจจะเจอสิ่งที่ตามมา เราควรถามให้ละเอียด เพื่อได้เตรียมงบประมาณให้พร้อม
 แต่ถ้าหากไปกับ Dream educations เราบอกหมด ไม่มีปกปิด เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เตรียมพร้อม

9) ที่พัก
 ที่พักมีหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบ โฮมสเตย์กับครอบครัวท้องถิ่นที่นู่น หรือจะเป็นการพักในอพาร์ทเม้นต์ของทางสถาบันที่ตระเตรียมไว้ให้ หรือทางพวกเราเป็นคนหาเอง เราจำต้องมองให้ดีๆว่า อันตรายไหม ไกลจากสถานที่เรียนแค่ไหน สบายสำหรับในการเดินทางไหม สิ่งแวดล้อมแถวบ้านเป็นอย่างไร
การเลือกไปเรียนภาษาที่เมืองนอก บางทีก็อาจจะดูยุ่งยาก ทั้งการเลือกเมือง สถาบัน และก็ที่พัก และก็ วิธีการทำวีซ่า ตั๋วเรือบิน
 Dream Educations เป็นเอเจนซี่แนะแนวการเล่าเรียนไปเรียนต่างชาติ ซึ่งเราให้บริการฟรีและก็ครบวงจร ตั้งแต่ ชี้แนะเมือง และก็สถาบัน ให้เหมาะสมกับสิ่งที่นักเรียนต้องการ และงบประมาณของแต่ละคน ทำวีซ่า สมัครเข้าเรียน จองตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก เรียนภาษาที่อเมริกา (http://www.dream-educations.com/) แล้วก็หารถรับส่งท่าอากาศยาน และดูแลจนจบคอร์ส ฟรีโดยไร้ค่าบริการ ให้เราดูแลคุณนะคะ
.
(https://i0.wp.com/www.dream-educations.com/wp-content/uploads/2018/02/ddd.png?resize=1200%2C329) (http://www.dream-educations.com/)
.

***การไปเรียนกับเอเจนซี่ บางคนมีความรู้และมีความเข้าใจผิดว่า การใช้บริการกับเอเจนซี่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการชาร์ทเงิน หรือคิดเงินเพิ่ม ทำให้แพงกว่า แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น การใช้บริการกับเอเจนซี่ มิได้มีค่าบริการเพิ่มเติม และก็อาจจะถูกกว่าไปด้วย เนื่องจากเราได้รับโปรโมชั่นจากสถานศึกษาโดยตรง และเด็กนักเรียนไม่ต้องเสียเวล่ำเวลา และจัดแจงกับความยุ่งยาก
.
สนใจเรียนภาษาที่อังกฤษติดต่อถึงที่กะไว้นี่
Website เรียนภาษาที่อังกฤษ : http://www.dream-educations.com/

Tags : เรียนภาษาที่อเมริกา,เรียนภาษาที่อังกฤษ,เรียนภาษาที่ไหนดี