ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 322 ครั้ง)

ำพ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาปรุงอาหารเพราะเหตุว่าส่งกลิ่นหอม นอกนั้น ขิงยังคงใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และเครื่องแต่งตัวทั้งหลายแหล่เช่นเดียวกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน เช่น โรคเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารอย่างท้องเสีย มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อาเจียน ไม่อยากอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่อาจช่วยลดอาการอาเจียนแล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าส่วนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะและไส้ และก็สารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แม้กระนั้นข้อสมมติฐานดังที่กล่าวมาข้างต้นยังไม่ชัดแจ้งนัก รวมทั้งคุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยช์จากขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ขณะนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่อาจเห็นผล
อาการอ้วกคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์บรรเทาอาการอาเจียนอ้วกของขิงบางทีอาจมีคุณประโยชน์ต่อคนป่วยโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนรู้ผู้เจ็บป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งกินขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านทานรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งผอง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่เกิดขึ้นมาจากการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอ้วกหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยทุเลาอาการอาเจียนรวมทั้งอาเจียนจากการผ่าตัดได้อย่างเดียวกัน โดยการเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งทดลองแบ่งคนป่วยปริมาณ 122 ผู้ที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแต่แบ่งให้ 2 ครั้งที่แล้วผ่าตัด ซึ่งคำตอบพบว่าคนไข้ในกลุ่มหลังมีลักษณะอาการอาเจียนอ้วกน้อยครั้งและก็มีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยการค้นคว้านี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้คุณภาพสูงสุดเมื่อรับประทานเป็นประจำและสม่ำเสมอโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดลองทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยปกป้องอาการอาเจียนในคนเจ็บประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งสิ้น แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกร่วมกับยาลดคลื่นไส้อาเจียนนั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับคนเจ็บที่เสี่ยงต่อการอ้วกอาเจียนน้อยอยู่และบางทีอาจไม่ได้ผลเช่นกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ดังเช่น คลื่นไส้ อ้วก หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่แก่ครรภ์ต่ำกว่า 20 สัปดาห์ จำนวน 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกวี่ทุกวันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้จะเปลี่ยนแปลงการทานอาหารและจากนั้นก็ตาม ภายหลังกินสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเสมอกันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ในฐานะการดูแลและรักษาลู่ทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกการค้นคว้าก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอาเจียนอาเจียนในหญิงท้องที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้บางทีอาจเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้อ้วกคลื่นไส้ นอกเหนือจากนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดและเจอผลลัพธ์ที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับการลดอาการแพ้ท้องเหมือนกัน
อาการวิงเวียนหัว อาการที่เกิดขึ้นกับการคลื่นไส้นี้บางทีอาจทุเลาให้ได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้คนที่มีลักษณะบ้านหมุน และตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการหน้ามืดศีรษะได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แม้กระนั้นมิได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อหัวเข่าหลังจากการรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกการค้นคว้าที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บหลังเดิน แล้วก็อาการข้อติด
ยิ่งไปกว่านี้ มีการศึกษาเทียบประสิทธิภาพระหว่างขิงและยาแก้ปวด โดยให้คนไข้โรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกแล้วก็ข้อหัวเข่ากินสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมทุกเมื่อเชื่อวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลทุเลาลักษณะของการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง และก็ยังมีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงแล้วก็ส้มบางทีอาจช่วยทุเลาอาการปวดรวมทั้งเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดประจำเดือน เว้นเสียแต่อาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยทุเลาอาการปวดประจำเดือน อาทิเช่น การทดสอบในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงทีละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีระดูต่อเนื่องไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีเมนส์ รวมทั้งสิ้นเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดเมนส์ได้อย่างเป็นจริงเป็นจังด้านการเล่าเรียนเปรียบเทียบประสิทธิภาพของขิงแล้วก็ยาลดอาการปวดรอบเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละประเภทในปริมาณ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีรอบเดือน ผลลัพธ์ปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานวิจัยแรกหมายถึงขิงมีคุณภาพบรรเทาความรุนแรงของลักษณะของการปวดประจำเดือนไม่ต่างอะไรกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่อาจไม่ได้ผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการเอ่ยถึงกันมากมาย ทว่าแม้ขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แม้กระนั้นสำหรับในการหน้ามืดคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาเรียนรู้วิจัยส่วนมากบอกว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง เช่น การแบ่งกรุ๊ปให้นักเรียนนายเรือ 80 ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีอาการอาเจียนและหน้ามืดน้อยลงจริงแม้กระนั้นอยู่ในระดับน้อยแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการปกป้องอาการเมารถหรือรูปแบบการทำงานของกระเพาะอาหารที่เกี่ยวกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลและรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการเจาะจงความสามารถ
อาการอ้วกอ้วกจากการทำเคมีบำบัดรักษา อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอ้วกและก็คลื่นไส้ ซึ่งมีการเรียนทางวิทยาศาสตร์ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้ป่วยที่รับเคมีบรรเทานั้นยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงผลดีข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยกินแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานต่อเนื่องตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แต่ว่าเห็นผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเท่านั้น ส่วนกรุ๊ปที่กินแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า แปลว่าการกินขิงในปริมาณมากจึงบางทีอาจไม่ได้ทำให้อาการอ้วกอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็แล้วแต่ มีหลักฐานที่โต้วาทีข้อเกื้อหนุนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นซึ่งเป็นการค้นคว้าที่เผยว่าการรับประทานขิงไม่ได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อาเจียน ทั้งนี้ ผลการค้นคว้าที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีมูลเหตุมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดสอบนั้นแตกต่างกัน รวมทั้งขณะที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือไม่คงควรมีการยืนยันเพิ่มเติมต่อไป
เบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เจ็บป่วยเบาหวานในตอนนี้ยังมีผลการค้นคว้าที่ไม่แน่นอน งานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด รวมทั้งสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บเบาหวานจำพวกที่ 2 แล้วก็อาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยอื่นๆที่ชี้แนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่กลับไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาวิจัยบอกว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่คนป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการวิจัยเรียนความสามารถของขิงในคนเจ็บที่มีลักษณะของกินไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังการเลิกอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารแล้วก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย ทว่าการรับประทานขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ อย่างไรก็ดี ผู้ร่วมการทดลองนี้มีปริมาณน้อย ทำให้ไม่อาจกำหนดได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่ๆเพียงใด
อาการเมาค้าง เชื่อกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการเมาค้างซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับประโยชน์ข้อนี้มีงานศึกษาเรียนรู้เมื่อนานมาแล้วที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน และน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในวันหลัง รวมถึงอาการอ้วก คลื่นไส้และท้องเสีย อย่างไรก็แล้วแต่ การเล่าเรียนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วยังถือว่ากำกวมอยู่มากมายและไม่อาจรับรองได้ว่ามีสาเหตุจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนไข้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลบอกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้เจ็บป่วยภาวการณ์นี้ได้ไหมคงจะต้องรอคอยการเรียนในอนาคตที่กระจ่างกันต่อไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อหลังบริหารร่างกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดและลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงไม่ชัดแจ้งและก็เป็นที่โต้เถียงกันอยู่เช่นเดียวกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 124 ชั่วโมง พบว่าขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
ทว่าอีกการค้นคว้าหนึ่งกลับพบคำตอบตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 1 วันรวมทั้ง 48 ชั่วโมงภายหลังการออกกำลังกาย พบว่าไม่ได้ทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดจากการออกกำลังกายลดลง แต่ว่าผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยพบว่าการรับประทานขิงบางทีอาจช่วยให้อาการเจ็บกล้ามค่อยๆดีขึ้นในวันแล้ววันเล่า ถึงแม้อาจมองไม่เห็นผลได้โดยทันที
อาการปวดหัวไมเกรน มีการเรียนรู้กับผู้ป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง

 

Sitemap 1 2 3