แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - radnana

หน้า: 1 [2]
16

        ระหว่างการใช้รถยนต์เจ้าของรถจำเป็นต้องดูแลรถตลอดอายุการใช้งาน เช่น นำรถไปตรวจสภาพตามระยะทาง เช็กรถก่อนเดินทาง ฯลฯ ทุกขั้นตอนจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หนึ่งในการดูแลรถที่สำคัญคือการเปลี่ยนยางตามระยะทางซึ่งจำเป็นต้องรู้วิธีการเลือกยางที่เหมาะกับรถ โดยในวันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมจึงควรเข้าใจวิธีเลือกยาง พร้อมแนะนำ ยาง รถยนต์ bridgestone ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้

        เหตุผลแรกที่คุณต้องรู้วิธีเลือกยางคือ ความปลอดภัย เพราะยางเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นถนนตลอดการขับขี่ หากไม่เปลี่ยนยางตามกำหนดหรือเลือกยางได้ไม่เหมาะกับรถอาจมีผลกับระยะเบรก ซึ่งนี่คือส่วนสำคัญต่อการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ระยะเบรกที่มีมากขึ้นแม้เพียงนิดเดียวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และยิ่งในสภาพถนนลื่นระยะเบรกจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลทำให้คุณขับรถด้วยความไม่มั่นใจ แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเปลี่ยนยางตามกำหนด

          เหตุผลต่อมาคือประสิทธิภาพในแง่การใช้พลังงาน ยางที่ใช้งานนานเกินไปความยืดหยุ่นจะลดลง ส่วนนี้ทำให้แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นระหว่างที่ยางสัมผัสถนนมีมากขึ้น ผลสุดท้ายคือใช้น้ำมันมากขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่ายให้คุณโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะยุคน้ำมันแพงอย่างในปัจจุบัน เมื่อต้องเลือกเปลี่ยนยางใหม่คุณจะเลือกยางประหยัดพลังงานเพื่อเสริมคุณสมบัติด้านนี้ให้โดดเด่นขึ้นก็ได้ เช่น ยาง Bridgestone ECOPIA ซีรีส์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งสำหรับรถเก๋งและรถกระบะ

          อีกเหตุผลคือคุณภาพการขับขี่ ไม่ว่าคุณจะเลือก ยาง นุ่ม เงียบ ยางสมรรถนะสูง หรือแม้แต่ยางประหยัดพลังงาน เมื่อยางเสื่อมสภาพคุณสมบัติโดดเด่นของยางประเภทนั้นจะลดลง เช่น หน้ายางมีความแข็งกระด้าง ความลึกร่องดอกยางลดลง ฯลฯ สังเกตได้ชัดที่สุดคือเสียงที่เกิดจากการขับขี่ และไม่ว่าคุณจะเลือกยางประเภทใดก็ตามการเปลี่ยนยางใหม่จะทำให้ขับขี่ได้นุ่มเงียบขึ้นอย่างรู้สึกได้

           เหตุผลสุดท้ายที่คุณควรเข้าใจวิธี การ เลือก ยาง รถยนต์ ก่อนเปลี่ยนยาง เพราะยางใหม่จะมีผลต่อการควบคุมรถ เช่น เข้าโค้งและยึดเกาะถนนได้ดี เมื่อใช้ยางไปเป็นเวลานานส่วนที่จะเสื่อมสภาพอย่างเห็นได้ชัดคือดอกยางซึ่งมีผลต่อการควบคุมรถโดยตรง คุณจึงควรเลือกยางให้เหมาะกับรถ เช่น ถ้าต้องการยางที่โดดเด่นเรื่องการควบคุมรถควรเลือกยางสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่สำหรับ ยาง รถยนต์จากbridgestone​ไม่ว่าคุณจะเลือกยางประเภทไหนเรื่องความปลอดภัยและการควบคุมรถเป็นสิ่งที่ Bridgestone ใส่ใจเป็นพิเศษในยางทุกซีรีส์ เพียงแต่ยางสปอร์ตจะช่วยให้คุณควบคุมรถได้อย่างมั่นใจมากกว่าเมื่อใช้ความเร็วสูง

       เมื่อได้รู้แล้วว่าทำไมการเลือกยางรถยนต์​ ​ จึงมีความสำคัญ และจาก 4 เหตุผลที่กล่าวไปข้างต้น หากคุณกำลังมองหายางนุ่มเงียบ​เราขอแนะนำ TURANZA T005A จาก Bridgestone ยางที่โดดเด่นด้วย 3 คุณสมบัติ คือ ความเงียบ ความนุ่มสบายระหว่างการขับขี่ และความปลอดภัย จึงเป็นยางที่เหมาะกับรถเก๋งทุกรุ่นตั้งแต่รถหรูไปจนถึงรถประหยัดพลังงาน



17


ยางรถเก๋ง มีความสำคัญไม่ใช่แค่รองรับน้ำหนักรถกับน้ำหนักบรรทุก ยังทำให้รถเคลื่อนที่และทำให้รถหยุด นอกจากนั้นยังช่วยบังคับทิศทางของรถและลดการกระแทกขณะขับขี่ด้วย เรื่องราวของยางรถเก๋งยังมีอีกหลายเรื่องแต่มี 6 เรื่องสำคัญที่เราควรรู้ก่อนออกรถเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ ดังนี้

ความสำคัญของจุกยาง
จุกยาง จุกปิดลมยาง จุกลมยาง จุกเติมลม หรือจุ๊บลมยาง เป็นจุกปิดวาล์วล้อรถที่ใช้ปิดวาล์วล้อรถหลังจากเติมลมยางรถแล้ว แต่ถ้าลืมปิดจุกยางหรือจุกยางหล่นหายก็ยังขับขี่ต่อไปได้ เพราะวัตถุประสงค์ของจุกยางไม่ใช่เพื่อป้องกันลมยางออก แต่มีไว้เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่น ดิน หิน หรือน้ำ ที่อาจเข้าไปอุดตันวาล์วหรือเข้าไปในยางได้

เช็กลมยางที่เหมาะสมได้จากคู่มือรถยนต์
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะแนะนำระดับลมยางที่เหมาะสมไว้ในคู่มือรถยนต์และสติ๊กเกอร์ตรงกรอบประตูฝั่งคนขับ ซึ่งค่าดังกล่าวเป็นค่ามาตรฐานที่ผ่านการทดสอบจากโรงงานว่าสามารถรองรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกได้อย่างปลอดภัย

ไม่ควรให้ลมยางต่ำกว่าที่กำหนด
ยางรถที่มีลมยางต่ำกว่ากำหนดจะระเบิดได้ง่ายกว่า เพราะแก้มยางจะยืดและยุบตลอดเวลาทำให้เกิดความร้อนสูง แรงดันในยางจึงขยายตัวออกและทำให้ยางระเบิดได้เมื่อใช้ความเร็วสูง นอกจากนั้นลมยางที่ต่ำเกินไปยังทำให้เกิดแรงเสียดทานกับพื้นถนนมากขึ้น เครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นด้วย

สภาพอากาศมีผลกับประสิทธิภาพของยาง
การขับขี่รถในวันที่อากาศร้อนบนถนนแห้งเราจะรู้สึกว่ารถเกาะถนนได้ดีเป็นปกติ แต่ในวันที่ฝนตกถนนเปียกหรือมีน้ำบนพื้นถนน ถ้าเรารู้สึกว่ายางรถสัมผัสพื้นถนนได้ไม่เต็มที่ พวงมาลัยเบาขึ้น รถมีเสียงดัง และท้ายปัด รวมถึงเบรกไม่ค่อยอยู่ นั่นเพราะรถมีอาการที่เรียกว่า “เหินน้ำ” เนื่องจากยางไม่สามารถรีดน้ำออกจากถนนเพื่อให้ยางสัมผัสกับพื้นถนนได้ทัน สาเหตุมาจากขับรถเร็ว ยางลมอ่อน ดอกยางและร่องยางบางหรือเสื่อมสภาพ

ยางรถเก๋งไม่เหมือนยางรถบรรทุก
รถเก๋งเป็นรถสำหรับนั่งส่วนบุคคล ยางรถเก๋ง จึงถูกออกแบบให้เป็น ยางนุ่มเงียบ เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ไม่มีเสียงรบกวน ในขณะที่รถบรรทุกมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรทุกคนหรือสิ่งของ ยางรถบรรทุกจึงถูกออกแบบเพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก ซึ่งทำให้การขับขี่มีความกระด้างมากกว่ารถเก๋ง

ควรรู้ข้อจำกัดของยาง
ข้อจำกัดของยางรถบอกไว้บนแก้มยางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือน้ำหนักบรรทุก เพื่อความปลอดภัยเราจึงควรขับรถไม่เกินความเร็วสูงสุดและบรรทุกน้ำหนักไม่เกินน้ำหนักบรรทุกสูงสุด

เมื่อรู้ 6 เรื่องสำคัญของยางรถเก๋งแล้วจึงควรหมั่นเช็กสภาพยางที่ใช้งานรวมถึงหมั่นเช็กสภาพยางอะไหล่และอุปกรณ์เสมอเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย และเพื่อที่จะได้รับความปลอดภัยในการขับขี่และเดินทางอย่างสะดวกสบาย ขอแนะนำยางสำหรับรถเก๋งยางนุ่มเงียบ Bridgestone รุ่นต่าง ๆ เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ถ้าคุณใช้รถเก๋งขนาดใหญ่เน้นยางที่ให้ความนุ่มเงียบพร้อมประสิทธิภาพในการเกาะถนนทั้งบนถนนเปียกและแห้ง ยาง Turanza T005A เหมาะกับรถของคุณ ถ้าคุณใช้รถขนาดเล็ก - ขนาดกลาง ชอบความนุ่มเงียบที่มาพร้อมกับความประหยัดน้ำมันและอายุการใช้งานที่นานขึ้น ยาง Ecopia EP300 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม และถ้าตอนนี้คุณมองหา ยาง รถยนต์ ขอบ 17 ยี่ห้อ ไหน ดี เราขอแนะนำยาง Bridgestone 2 รุ่นนี้ เปลี่ยนมาใช้ยาง Bridgestone เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและปลอดภัยตลอดการเดินทาง







18
         หนึ่งในเรื่องสำคัญซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการมีรถยนต์ของตัวเองคือเปลี่ยนยางตามระยะทางหรือเปลี่ยนทันทีเมื่อพบว่ายางเสื่อมสภาพ เพราะหากพูดถึงหน้าที่ของยางรถยนต์แล้วจัดว่าเป็นส่วนที่ส่งผลต่อความปลอดภัยโดยตรง เป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับพื้นถนนตลอดการเดินทาง ต้องเจอกับเส้นทางที่หลากหลายตั้งแต่ทางเรียบไปจนถึงทางขรุขระ โดยเฉพาะยางสำหรับรถ SUV ซึ่งนิยมใช้เป็นรถครอบครัว รวมถึงยางเพื่อสายแอดเวนเจอร์ จำเป็นต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกและเมื่อเลือกได้แล้วก็ต้องดูแลระหว่างการใช้งาน

วิธีเลือกยางให้เหมาะกับการใช้รถ

         การเลือก ยางรถ suv และออฟโรด จำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้ยางให้เหมาะกับเส้นทาง โดยมียางให้เลือก 3 ประเภท คือ H/T (Highway Terrain) สำหรับการใช้รถในเมือง วิ่งทางเรียบเป็นหลัก A/T (All Terrain) สำหรับวิ่งทางกึ่งออฟโรดได้ดีพอ ๆ กับทางเรียบ และ M/T (Mud Terrain) สำหรับลุยทางที่เป็นดินโคลนหรือเส้นทางที่ยากลำบาก โดยหากเลือกมาใช้กับรถ SUV หรือ PPV เพื่อเดินทางกับครอบครัวจะเลือก H/T หรือ A/T ก็ได้

จะเลือกยางได้ควรเข้าใจตัวเลขแสดงสเปกยาง

         ยางรถกระบะโดยเฉพาะรถ 4x4 จะแสดงด้วยตัวอักษร LT (Light Truck) หมายถึงยางที่เหมาะกับงานบรรทุกขนาดเล็ก จะต่างกับยางที่แทนด้วยอักษร P ซึ่งหมายถึง Passenger หรือยางรถเก๋ง และ C ซึ่งหมายถึง Commercial หรือการใช้งานขนของเชิงพาณิชย์
            ต่อกันที่ตัวเลขแสดงขนาดยาง หากคุณเริ่มต้นด้วยคำถามว่าจะเลือก ยาง รถยนต์ ขอบ 18 ยี่ห้อ ไหน ดี ให้กับรถ SUV และเมื่อลองค้นหายางแล้วเจอยางบริดจสโตน ECOPIA H/L 001 ขนาด 265/60R18 110H ตัวเลขเหล่านี้จะทำให้คุณรู้ว่าหน้ายางมีความกว้าง 265 มม. อัตราส่วนความสูงของแก้มยางคิดเป็น 60% ของความกว้างหน้ายาง เป็นยางเรเดียลขอบ 18 อัตราการรับน้ำหนักต่อเส้นอยู่ที่ 110 (1,060 กก.) รองรับความเร็วสูงสุดระดับ H หรือ 210 กม. (ทั้งสองส่วนนี้ต้องนำไปเปรียบเทียบกับตารางมาตรฐาน)

เลือกยางได้แล้วอย่าลืมดูแลรักษายางด้วย

         ความเป็น ยางออฟโรด ทำให้ยางต้องลุยบนเส้นทางที่หลากหลายกว่ายางทั่วไป บางครั้งจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดยาง ซึ่งเราขอแนะนำให้ใช้น้ำยาที่ผลิตมาให้ใช้กับยางรถยนต์เท่านั้น ห้ามใช้สบู่และสารเคมีอื่น ๆ เพราะองค์ประกอบทางเคมีบางตัวอาจมีผลทำให้ยางสึกกร่อนได้จนถึงขั้นเกิดปัญหายางแตกลายงา ส่งผลต่อการใช้งานระยะยาว

        วันนี้หากรถ SUV หรือกระบะ 4x4 ของคุณถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางและคุณกำลังมองหา ยางออฟโรด​ จากแบรนด์คุณภาพ เราขอแนะนำให้คลิกเข้าไปเลือกยางจาก บริดจสโตน โดยเราขอยกตัวอย่างยางซีรีย์ DUELER 3 รุ่น 3 สไตล์ คือ H/T 689 A/T 693 และ M/T 674 หากตอบได้ว่าต้องการใช้รถบนเส้นทางแบบไหนเป็นหลัก การเลือกยางที่เหมาะกับรถก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียง ยาง suv เท่านั้น แต่ยังมียางรถเก๋งไปจนถึงยางรถตู้ รวมถึงเลือกยางได้ตามจุดเด่นของยาง เช่น ยางสมรรถนะสูง และยางประหยัดน้ำมัน เมื่อเข้ามาเลือกยางกับบริดจสโตนรับรองว่าคุณได้ยางที่ถูกใจอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยางรถยนต์ขอบ 18 ได้ที่นี่ https://news.trueid.net/detail/pLqyA27b8RWL



19

   อาชีพไรเดอร์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัครง่ายและรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid -19 ผันตัวมาทำอาชีพนี้เป็นจำนวนไม่น้อย ดังนั้นเราควรมาทำความรู้จักกับอาชีพนี้กันดีกว่าว่าคืออะไร และ สมัครไรเดอร์ ทำอย่างไร และ สมัครแกร็บเสียค่าอะไรบ้าง
ไรเดอร์คืออะไร
   ไรเดอร์ คือ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในการขนส่งสินค้าตามที่กำหนด ในอดีตอาชีพนี้ยังไม่ได้รับความแพร่หลายมาก ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี สินค้าที่จัดส่งจึงมีอยู่ไม่กี่ประเภท เช่น พัสดุจากต่างประเทศ เอกสาร หรือสินค้าในประเทศ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก การขนส่งสินค้ามิได้ถูกจำกัดเพียงแค่การส่งพัสดุแบบเดิมอีกต่อไป กล่าวคือมีทั้ง อาหารสด อาหารแช่แข็ง รวมทั้งอาหารตามสั่ง ก็สามารถสั่งได้ คำว่า “ไรเดอร์” จึงถูกนิยามไปถึงการขนส่งสินค้าประเภทใหม่นั่นคือ “อาหาร” นั่นเอง และด้วยการ ขับรถส่งอาหาร เป็นที่นิยมอย่างมาก ประชาชนสามารถพบเห็นคนขับรถเสื้อหลากสีหลายค่าย เช่น สีเขียวเข้ม สีชมพู สีส้ม จึงเป็นภาพจำให้คนขับรถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ถูกเรียกว่าไรเดอร์นั่นเอง
ไรเดอร์ส่งอาหาร ต้องทำอะไรบ้าง
   ก่อนที่ไรเดอร์จะส่งอาหารได้นั้น จำเป็นต้องกดรับออเดอร์ที่เข้ามาในแอปพลิเคชันในมือถือเสียก่อนจึงจะสามารถรับงาน ขับรถส่งอาหาร ได้ เมื่อได้งานแล้วก็ไปนั่งรอตามร้านอาหารที่กำหนด โดยระยะเวลารอเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10 – 40 นาที ซึ่งแล้วแต่ประเภทของร้านอาหาร หากลูกค้าเลือกจ่ายเงินผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือเช่น K-plus ไรเดอร์ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ทำเพียงแค่นั่งรอในร้านอาหาร แต่ถ้าลูกค้าเลือกที่จะจ่ายเงินสด ไรเดอร์จำเป็นจะต้องออกเงินค่าอาหารไปก่อน และไปเก็บเงินสดจากลูกค้าในภายหลัง เมื่อร้านทำอาหารเสร็จสิ้น หน้าที่สุดท้ายของไรเดอร์ก็คือ นำอาหารไปส่งตามหมุดหมายที่ลูกค้ากำหนดนั่นเอง
งานอาชีพไรเดอร์ ทำไมถึงเป็นที่นิยม
   สมัครไรเดอร์ เรียกได้ว่ามีต้นทุนการสมัครน้อยมาก เสียเพียง 200 บาท และเวลาที่ต้องกรอกแบบฟอร์มเตรียมเอกสารตามที่กำหนดให้เรียบร้อยก็เท่านั้น เพียงแค่มีรถมอเตอร์ไซค์ ก็เริ่มต้นวิ่งได้ ที่สำคัญคือสามารถรับงานได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าในช่วงโควิด-19 ที่งานเสริมยอดฮิตในอดีต เช่น งานในห้างสรรพสินค้า และ งานในร้านอาหาร จึงได้รับความนิยมน้อยลงจากมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพราะต้องเสียเวลาในการเดินทางไปทำงานเสริมในสถานที่ที่ได้รับมอบหมายอีก งานไรเดอร์จึงกลายเป็นอาชีพใหม่ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
ขั้นตอนการสมัครแกร็บ
   การสมัครไรเดอร์ของแต่ละค่ายมีวิธีการสมัครที่คล้ายกัน สามารถสมัครผ่านทั้งศูนย์บริการและเว็บไซต์ได้ และเอกสารที่ใช้ในการสมัคร ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ใบขับขี่ และบัญชีธนาคาร โดยเอกสารทั้ง 3 อย่างนี้ จำเป็นต้องมีสำเนาที่มีลายเซ็นกำกับ หากต้องการวิ่งส่งอาหาร แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกวิ่งให้บริษัทไหนดี บรรดาบริษัทเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้คือ “Grab” โดยมี ขั้นตอนการสมัครแกร็บ คือเข้าเว็บไซต์ของแกร็บในส่วนของ register หรือไปที่ศูนย์แกร็บ ก็ได้เช่นกัน จากนั้นเตรียมเอกสารทั้ง 3 ดังที่กล่าวไปเพื่อประกอบการสมัครด้วย แต่ทั้งนี้การสมัครเป็นไรเดอร์ของแกร็บนั้น ก็มีข้อจำกัดเช่นกันคือ ในกรณีที่อยู่ในโซนที่มีไรเดอร์จำนวนมาก จะเกิดการแย่งงาน ทำให้กดรับงานไม่ทัน และหากพื้นที่ไหนเป็นจุดที่ร้านอาหารน้อย ไม่มีแหล่งชุมชนจะได้ค่าส่งน้อยกว่าบริเวณตัวเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น
   อาชีพ Grab ก็ถือว่าเป็นงานเสริมที่รายได้ดี  ขับ grabcar และGrabFood จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากมีอาชีพเสริม




20


   เวลาที่เราจะเลือกทำอาชีพใด เรื่องของรายได้คือปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ใครหลายคนตั้งขึ้นมาเป็นโจทย์สำคัญในการตัดสินใจเลือกทำอาชีพนั้น ๆ ซึ่งในการรับงานอิสระอย่างการขับแกร็บเองก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความสนใจ และมักจะมีคำถามตามมาว่า รายได้ขับ grab นั้นดีไหม แล้วเป็นงานที่คุ้มค่าจะทำหรือไม่ เรามาหาคำตอบกัน

ความนิยมในการเลือกใช้บริการของคนที่นั่ง GrabCar
          ก่อนเราจะเริ่มต้นไปคุยกันเรื่องของจำนวน รายได้แกร็บ มีสิ่งหนึ่งเราต้องรู้ก่อนนั่นก็คือเรื่องงาน GrabCar ที่เป็นแหล่งที่มาของรายได้ของเรา ซึ่งด้วยความนิยมในการเลือกใช้บริการของคนที่นั่ง GrabCar กับบริการการเดินทางที่ดีกว่าการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการเรียกใช้ และมาตรฐานของพาร์ทเนอร์แกร็บในการขับขี่อย่างเอาใจใส่ลูกค้า ทั้งหมดนี้ทำให้ GrabCar คือตัวเลือกในการเดินทาง และพอเป็นทางเลือกที่คนนิยม ก็ย่อมที่จะมีงานขับ grabcar รายได้ เสริมให้ทำมากขึ้นเท่านั้น

รายได้ขับ grab นั้นดีไหม
          ค่าตอบแทนที่มากกว่ารายได้ขึ้นต่ำ อย่างที่รู้กันว่ารายได้ขึ้นต่ำในบ้านเรานั้นช่างเป็นอะไรที่น้อยเสียเหลือเกิน ตรงนี้เองที่ทำให้เราจำเป็นต้องหางานเสริมหรือต้องขยันมองหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง รายได้แกร็บ สำหรับคนที่เลือกทำเป็นงานเสริมนั้น ตกวันหนึ่งก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 500 บาทอัป สูงกว่าทำงานแล้วรับค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละวัน

         ทำแทนงานประจำรายได้สูง ทำมากได้มาก รายได้ขับ grab  แบบทำเป็นงานประจำ รับงานทั้งวัน รายได้จะตกวันหนึ่งเริ่มต้นที่หลักพันกันเลยทีเดียว และถ้าหากว่าเฉลี่ยรายได้ออกเป็นรายเดือนแล้ว ขับ grab รายได้ จะอยู่ที่ราว ๆ 3 ถึง 4 หมื่นบาท และยิ่งถ้ามีความเชี่ยวชาญและขยันรับงานมาก ๆ รายได้ก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

          ลงทุนไม่มาก ทำจากสิ่งที่มี เพราะการเริ่มต้นสร้างอาชีพนั้นย่อมมีเรื่องของต้นทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การขับ GrabCar นั้นต่างออกไป เพราะทุนของเราก็คือของที่เรามีอยู่แล้ว นั่นก็คือรถกับความสามารถของเราเอง และการออกรับงานหนึ่งครั้งก็จะทำให้เกิดรายได้ขึ้นมาเสมอ จบงานเงินเข้าระบบพร้อมเบิกได้ทันที

        อาชีพการขับ GrabCar grab แท็กซี่เป็นอีกหนึ่งงานที่หลายคนเลือกทำ ด้วยเพราะอิสระในเรื่องของเวลางานที่เลือกได้ตามใจ และรายได้ที่คุ้มค่ากับการลงมือทำงาน สำหรับใครที่อยากมีอาชีพเสริมหรืออยากได้งานหลักที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่ต้องรอช้า มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์แกร็บกันได้เลย


หน้า: 1 [2]