แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - kkjofkgkuy

หน้า: [1] 2
1

ขายพลูคาว ขึ้นชื่อว่ามะระ ก็ต้องนึกถึงรสขมๆที่ไม่ต้uykiuliองลิ้มลองก็รู้สึกขมulio;t5djไปถึงในคอ แต่ก็ปiฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเจ้าพืชผักประเภทrltkiulioนี้น่ะก็เป็นปuilio;llระโยชน์ไม่i;i;น้อยเหมื;i;อนกัน จำหน่ายพลูคาวแi;ม้แต่สายtjพันธุ์ที่ใi;กล้เคียงกับเจ้ามะระผลใหญ่ๆoo';o;อย่างมะระขี้นก คุณi;po;o;'ประโยชน์ของมันก็มีพรั่งพร้อมไปตั้งแต่ราkykกจนกระ;oip;yukiuop'ทั่งเม็ด วัliolนนี้กระปุกดอio;ทคอมเลยจะพาio;ไปลัi;ดเลาะรอบi;รั้ว ทำความรู้จักกับเจ้าพืชสมุนไพรใกล้ตัวykจำพy;oi;iวกกันให้แจ้งชัi;ดไปyuklเลยว่า ภายใต้รสi;ขมๆนั้นแอบ;opซ่อนผi;po';ลดีอะไรไว้บ้าง หากได้ทราบแล้jrk87lวบi;อกไueด้เลยว่าควรต้อi;งรีบไuiพบมาปลูกไว้กินi;กันแบบไi;ม่มีปัญi;uหากันi;อีกเลยล่ะมะระขี้นก ชื่อวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ tykmuilคืออะไร   มะระขี้นก มีชื่อด้านวิทยาศาสตร์ขายพลูคางว่า Momordica ci;hai;rantia  Liyk;. รวมทั้งขายพลูคาวมีชื่อเรียกทางภาษาอังกฤษykไปอย่างนานาประการไม่ykว่าจะเป็น Balsaykm apple, Bykalsam pear, Bitter cucumber, Bitter gourd, Bitter melon, Carilla fruit  โดยiyki;;พืชจำพวกนี้เป็นในตระกูลพืชล้มลุก มีลักษykณะเป็นไม้เถา เหมือนกัjtjก็มะระขี้นก โtjดยมะระขี้นกจะมีผลเล็กykt และก็ขมtrhsกว่ามะระจีน ykดยจำหน่ายพลูคาวรสขมขอtjtiuloiงมะระนั้นก็มาจากสารเliolคมีที่ชื่อว่า Momodicine ในขณะtjที่โดยมากแล้วนิยมนำผลมะระขี้นกมาykรับประทานสดกับน้ำพริก หรือykไม่ก็ลวกก่อนiolioจะขายพลูคางเอามาขายพลูคาวรับประทาน หรือถ้าทนกับกลิ่นเหม็yukykนเขียวykรวมทั้งรykสชาติขมๆได้ ก็เอามาคั้นหรือปั่นกินเป็นเครื่องดื่มได้เหมือนกัน ทั้งนี้มะระขี้นกจำนวน 100 กรัม ให้คุณค่าทางอาหาร

Tags : จำหน่ายพลูคาว,ขายพลูคาว

2

ขายถังเช่า สมุนไพรมะพร้าว มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ดุง (เมืo/องจันท์), โพล (จังหวัดกาญจนบุรี), คอส่า (แม่ฮ่องสอนyu7l,io.i.), เอี่ยจี๋ (จีน), หมากอุ๋น หมากi.i.itnykmuy,อูน (ทั่วไป) u,ui,u,7เป็นต้นมะพร้าวเป็นพืชยืนต้นที่จัi/.op/o/op/o/ดอยู่ในตระกูลปาล์ม ใบมีลักษณะเป็นใบt,io/.oi/ประกอบราวกับykykyuจำหน่ายถั่งเช่าขนนกykyuk ผลประกอบop/ไปด้วยเtjytmปลืi;อก ใยtmมะพร้าว กะykyลามะพร้าว รวมทั้งชั้นในที่สุดเป็นเนื้อมะพร้าว ซึ่pงข้างในจi;io;ะมีน้ำมะพร้าว {ถ้า|kykykyถ้าหาก|หu.าก|ถ้าเp[Pกิดลูกมะพร้าวแก่มากมาย เนื้อkyมะพร้าวจะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมดสำหรับสถิติการผลิตมะพร้าว ykoykykyukyukuyประเทศอินโดนีy[phu,j,เซียเป็นชั้น 1ooกที่ju.,ผลิตมะพร้Pาวได้มากpoที่สุด ส่วu.นมีu.คุณประโยชน์,luจำพol/วกyh,mที่ว่าติดoเกาะแล้วไม่อดตาย ฮ่าๆ)น้ำมะพร้าว ถ้าเกิดจะให้ดีควรจi/ะรับประทานสดๆเปิi/iดลูกแo/o/ล้วควรจะดื่มเลย ไม่สมคi//วรทิ้งไว้หรือเก็บไว้ภาo/ยในตู้แช่เย็นนานเกินครึ่งop/ชั่วโมง ถ้าหากดื่มโดยทันop/o/ทีจะมีผลu.ให้i.oi/o/ร่างกายได้u.รับคุณประโยuyili/.ชน์io./o/o/อย่างมากสุด แต่ต้องระวังเรื่องสารฟอกขาวไว้ด้วย ซื้อมาจากสวนโดยตรงก็จะดีและก็ปลอดภัยมากมาย รวu.มทั้งสำหรับผู้ที่เu.ป็นโรคโรคu..uเบาหวานหรือเป็นโรคไตขายถังเช่า ควรจะหลีu.u.กเลี่ยงการกินน้ำมะพร้าว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ขายถั่งเช่า

Tags : ขายถั่งเช่า,ขายถั่งเช่า

3

ขายขมิ้นชัน กระบกเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เจ.jอj,มีการกระจัดกระจายพันธุ์ อยู่ในประเทศอินเดียมาจนj,lk;.;ถึงประเทศlkol,fnrอินโดนีเซีย ตามป่าดงดิบแล้ง ป่าริ,มทะเล ป่าเบญจพรรณ ป่าrfmuyjk,เต็ง และก็ป่าหญ้า จำหน่ายขมิ้นชันที่มีความสูงo.g,i.oกว่าระดับน้ำทะเลโดยปรi.o/o/yะมาณ oul100-300 เมตร สำหรับในปรioเทilศไทยพบมีการกรiulioะจายจำพวh,gkj.io.i./i.iกอยู่ทั่วทุกภาค.oลักษณะทางพฤกษศาสตร์ลำต้นกระบกมีลำต้นลักk/f.iomgj,hษณะเปลาตรk/.ง มีทรงพุ่มไม้ulกลมแน่นทึบ มีควulามสูงรi;.าวๆ 10-30 เมตร เoiปลืfอ.i.i.กลำต้นค่อนข้างเรียบ เป็นสีเทาอมน้ำตาล รอบๆio.o/p;โคนต้นมีลักษณะเป็นพูพอนใบรูปแบบข''องulบเป็นรูปทรงไข่ รูปรี รูปขอบขนาน /io/หรือioรูปใบหอกu สีเขียวเ..ข้ม มักออกเรียงสลับกันเป็il.op/fmนใบคนเดียว ผิวใบดกj.รวมทั้งเกลี้ยง โค.j.นใบมนแหลkklมหopรือเว้าบdoi;mfhy,uiuolางytส่วนulk จำหน่ายขมิ้นชันปลายใบสuyอบเรียวมีติ่งบioางส่วiutg,y.น ขอบใบเรียบ มีเส้นกิ่งก้านสาขาขายขมิ้นชันใบราวๆ 8-14 คู่ มีหูใบหุ้มห่อเป็นรูปฝักกระylilบี่oilเรียวioโค้ง ขนาดความกiolว้าilงkio,iuol.i.ของใบมีประมาณ 2-9 ซม. ยาวโดยประมาณ 5-20 เซนติdmu.i.เมตรดอกกระบu.lกมักมีดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง u,jh,ความยาวของช่อมีราวdntymyu,iๆ 5-15,hj ซม. มีกลีบดlioอกรูuปไข่หรือรูปขi.o.i./อบlioขนานสีขาวอมเขียวจำ';io;นวน 5oi; กลีบ ปลioา;op;ยกลีบม้วนออก มีกdnyu.lk.ลีo/op/บเลี้ยงรูปขอบขนานปริมาณ 5 กลีบ ยาวประมาณ.kl 1h-2 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงจะสั้นกว่ากลีบดอกไม้ขายขมิ้นชันโดยประมาณkmi 3 เท่า มีก้านเกสรตัวผู้ yt10 อัน ก้านเกสรเพศเมีย 1 อัน ก้านดอกยาวราว 1hytejr มม. มักผลิjjkyuดอกในช่วงkoiเดือนมกราค;.po'ม-มี.ค.

Tags : ขายขมิ้นชัน,จำหน่ายขมิ้นชัน

4

สมุนไพรเมื่อย
เมื่อย Gnetum montanum Markgraf
บางถิ่นเรียกว่า เมื่อย (จังหวัดตราด) ม่วย (จังหวัดเชียงราย จังหวัดอุบลราชธานี) มะม่วย (จังหวัดเชียงใหม่) แฮนม่วย (เลย)
ไม้เถา เนื้อแข็ง กิ่งเป็นข้อต่อกันและตามข้อจะบวมพอง ใบ เดี่ยว เรียงเป็นคู่สลับตั้งฉาก ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ มีขนาดแตกต่างมาก แต่ว่ากว้างไม่เกิน 12 ซม. ยาวไม่เกิน 20 ซม. ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบกลม มน หรือ แหลม ขอบใบเรียบ เนื้อเรือใบแข็งหนา หรือ ค่อนข้างจะครึ้ม เมื่อแห้งสีออกดำ เส้นใบโค้ง ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดและก็ตามลำต้น สมุนไพร ช่อดอกแตกกิ่งก้านสาขามา แยกเป็นช่อดอกเพศผู้และก็เพศภรรยา ดอกเรียงเป็นชั้นๆรอบแกนกลาง ช่อดอกเพศผู้ กว้างราว 0.4 ซม. ยาวราว 3 ซม. แต่ละชั้นมีราวๆ 20 ดอก ช่อดอกเพศภรรยา แต่ละชั้นมี 5-7 ดอก ผล รูปรี กว้างโดยประมาณ 1 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร เมื่อสุกสีแดง ก้านผลอ้วน ยาวโดยประมาณ 0.2 เซนติเมตร

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นในชั้นสูงจากน้ำทะเล 50-1,800 มัธยม พบในทุกภาคของประเทศ ยกเว้นภาคกึ่งกลาง
คุณประโยชน์ : ราก น้ำต้มรากรับประทานแก้พิษบางประเภท และก็แก้ไข้ไข้มาลาเรีย

5

ขายกระชายดำ[/url]สุดยอดสมุนไพรไทย[/size][/b]
ขายส่งกระชายดำ ถิ่นกำเนินจะอยู่บริเวณในแถบเอเซียอาคเนย์แล้วก็ สามารถเจอกระชายดำ ที่มีมากมายนั้นจะในบริเวณประเทศมาเล และเกาะสุมาตรา เกาะบอร์เนียว อินโดคำพูดน และไทยซึ่งจะมี อยู่หนาแนนมากรวมทั้งยังมีการกระจัดกระจายจำพวกของ ขายกระชายดำไปทั่วในเอเชียเขตร้อน อย่างเช่นจีนตอนใต้ ประเทศอินเดีย และก็ประเทศพม่า
สำหรับเมืองไทยกระชายดำ ได้เป็นสมุนไพร ที่นิยมใช้กันหลายชิ้นก็เลยได้เริ่มปลูกขายกระชายดำ เยอะขึ้นเลื่อยๆใน จังหวัดต่างๆอย่างเช่น เลย ตาก กาญจนบุรี และจังหวัดอื่นๆของภาคเหนือ
ขายกระชายดำ นั้นมีประโยชน์และก็คุณประโยชน์ เยอะแยะและยังช่วยรักษาโรคต่างๆได้หลายประเภท
คุณประโยชน์และประโยชน์ทั้งหมดของ{การขายกระชายดำ
สมุนไพรกระชายดำ มักใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความแก่ลง คนรุ่นก่อนมีความคิดว่าเมื่อนำ กระชายดำ ไปปลุกเสกจะมีคุณทางคงกระพันชาตรี
คนโบราณจะใช้กระชายดำ ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยเพิ่มความสามารถทางเพศ แก้กามตายเส้นด้าย(เสื่อมความสามารถทางเพศ) โดยการใช้ เหง้าหรือท่อนหัวของ กระชายดำ ผสมกับสมุนไพรอื่นๆเอามาดอกสุราเพื่อใช้เป็นยาชูกำลัง
รับผลิตกระชายดำกระชายดำสามารถบำรุงธาตุในร่างกายได้ดิบได้ดี ช่วยกระตุ้นระบบประสาท บำรุงประสาท ทำให้ร่างกายแคล่วคล่องว่องไว
ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้นอนสะบาย
ช่วยทำนุบำรุงหัวใจ ช่วยจคุณยายเส้นเลือดหัวใจ แก้โรคหัวใจ ช่วยบำรุงเลือด (บำรุงเลือด)
ส่วนประกอบสำคัญ
 

ผงกระชายดำ
ขายกระชายดำ ขายส่งกระชายดำ จำหน่ายกระชายดำ
แคปซูลกระชายดำ รับผลิตกระชายดำ
กระชายดำ เป็นยาอายุวัฒนะที่ได้รับความนิยมกว้างใหญ่
ทั้งยังลูกค้าแล้วก็ในแวดวงแพทย์แผนไทย ได้มีประโยชน์ดังนี้
บำรุงหัวใจ ชูกำลัง ขยายเส้นโลหิตในหัวใจ แก้ปวดมวลท้อง ขับปัสวะ ลดอาการปวดเมื่อยล้า เพิ่มฮอร์โมนให้แก่ผู้ชาย
เพิ่มความสามารถทางเพศให้แก่ท่านชายได้เป็นอย่างดี
เหมาะกับชายที่อยากต้องการกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง
ขายส่งกระชายดำ มีคุณประโยชน์ บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง
แก้จุกเสียด แก้เจ็บท้อง ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อย
ในผู้ชาย กระชายดำช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศ เพิ่มสมรรถนะ
ทางเพศ ช่วยทำให้อวัยวะแข็งนานขึ้น รวมทั้งในเพศหญิง
แคปซูลกระชายดำช่วยรักษาอาการมดลูกทุพพลภาพ มดลูกหย่อน
ปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศ นอกนั้นกระชายดำยังช่วยกระตุ้น
ระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับเจริญขึ้น แก้โรคบิด ขับปัสสาวะ
และก็ช่วยรักษาอาการขัดเบา ช่วยขับพิษภายในร่างกาย แล้วก็ยังช่วย
รักษาโรคเกี่ยวกับช่องท้อง เพราะว่ามีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียในไส้ได้
แคปซูลกระชายดำช่วยทำให้อวัยวะเพศชายแข็งได้ง่ายและก็บ่อยขึ้น มีระยะเวลาในการแข็งตัวนาขึ้น แล้วก็สำหรับผู้ที่มิได้มีปัญหาดังที่ได้กล่าวมาแล้วก็สามารถกินเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงขึ้นได้
นอกเหนือจากที่จะแคปซูลกระชายดำชูกำลังของ เพศชายแล้ว กระชายดำยังช่วยบำรุงโหลิตสตรี(บำรุงเลือดผู้หญิง)
ช่วยแก้อาการตกขาวของหญิง
ช่วยขับระดู ช่วยทำให้ประจำเดือนที่มาไม่ปกติ กลับมาธรรมดา
ช่วยแก้โรคมดลูกทุพพลภาพ มดลูกย่อนยานได้ โดยการนำเหง้าหรือหัวของ สมุนไพรกระชายดำ มาโขลกแล้วก็สผมกับเหล้าขาว แล้วนำมาดื่ม
ช่วยขับพิษในร่างกาย
แก้อาการมือเท้าเย็น
แคปซูลกระชายดำช่วยรักษา อาการเหน็บชา
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดตามข้อ
ช่วยรักษาโรคเก๊า
สมุนไพรอื่นๆ
เจียวกู่หลานสรรพคุณหมอแผนจีนใช้ส่วนเหนือดินหรือใบเป็นยาแก้อักเสบแก้ไอ ขับเสลดแก้หลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง หมอแผนไทยใช้ส่วนที่เป็นก้านตากแห้งบดละเอียดด้วยเหมือนกันแก้หมดแรง แก้แผลอักเสบ ช่วยให้ไม่เหนื่อยง่าย แคปซูลกระชายดำเจียวกู่หลาน ในเจียวกู่หลานมีสารจีแพนโนไซด์ (Gypenoside) ที่ออกฤทธิ์คล้ายกับจินเซนโนไซด์ พบได้ในโสม ก็เลยทำให้มีสรรพคุณในแบบเรียนยาแผนโบราณเป็นช่วยทำนุบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง ช่วยเจริญอาหาร เป็นยาอายุวัฒนะ รวมถึงใช้ขับเสมหะ แก้ไอ แก้อักเสบ บรรเทาอาการปวดกระดูก ส่วนเจียวกู่หลานในการขายส่งกระชายดำหมอแผนปัจจุบันมีสรรพคุณ ลดไขมันแล้วก็คลอเรสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ปรับความสมดุลของระบบเลือด ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำตาลในเลือด คุ้มครองโรคเบาหวาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ คุ้มครองป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกายรับผลิตกระชายดำทั้งยังยังเสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน มีฤทธิ์คุ้มครองตับ คุ้มครองป้องกันโรคสูญเสียความจำ ต่อต้านเซลล์ของมะเร็ง คุ้มครองการเกิดภาวะอุดตันของเส้นโลหิตในสมองได้ขายส่งกระชายดำ
คุณประโยชน์ชาเชียว

  • ชาเขียว มีส่วนสำหรับในการรักษาโรคปวดศีรษะไปจนกระทั่งโรคไม่มีชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี โดยประเทศจีนได้มีการใช้ชาเขียวสำหรับในการรักษาโรคต่างๆมาเป็นเวลามากยิ่งกว่า 4,000 ปีมาแล้ว
  • มีส่วนช่วยแก้หวัด แก้อาการร้อนใน ช่วยสำหรับการขับพิษ รวมทั้งช่วยขับเหงื่อภายในร่างกาย
  • ช่วยแก้อาการเมาเหล้า ทั้งยังยังเป็นเหตุให้หายเมาได้เป็นอย่างดีรับผลิตกระชายดำ
  • มีส่วนช่วยสำหรับในการนำไปสู่การก้าวหน้าของกิน มีส่วนช่วยสำหรับในการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียจำพวกดีในลำไส้ ก็เลยมีส่วนช่วยสำหรับในการล้างพิษและก็ช่วยกำจัดพิษในไส้ได้
  • ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดลิ่มเลือดภายในร่างกาย
  • แคปซูลกระชายดำคุ้มครองปกป้องตับจากพิษต่างๆและโรคประเภทอื่นๆที่สามารถเกิดขึ้นกับตับได้
  • มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านอาการอักเสบ ต้านทานจุลชีพที่อยู่ในลำไส้ ต้านทานเชื้อแบคทีเรียรวมทั้งเชื้อไวรัส แล้วก็ช่วยต่อต้านเชื้อ Botulinus รวมทั้งเชื่อ Staphylococcus
  • มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการขับเยี่ยว แล้วก็ช่วยคุ้มครองปกป้องนิ่วในถุงน้ำดีแล้วก็ในไต
  • ช่วยสำหรับการห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลได้ช้าลง
  • มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องโรคข้ออักเสบรูมาติก ซึ่งเป็นโรคที่มีอาการอักเสบบวมแดง มีผลทำให้ปวดเมื่อตามกล้ามแล้วก็ข้อต่อ โดยอาการลักษณะนี้มักจะเกิดกับวัยกลางคนขายส่งกระชายดำ
  • ใช้เป็นยาพอกเพื่อรักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ฝีหนอง ไฟเผา รวมถึงช่วยทุเลาอาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ใช้เป็นยากันยุง รวมทั้งแก้ผิวร้อนแห้งได้อย่างดีเยี่ยม
  • มีส่วนช่วยในการส่งผลให้เกิดการผ่อนคลายอารมณ์ ช่วยระบายความร้อนที่เกิดกับหัวและเบ้าตา ก็เลยทำให้ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน แถมยังเป็นเหตุให้หายใจสดชื่นได้อีกด้วยรับผลิตกระชายดำ
  • ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเดิน และท้องบิดได้เป็นอย่างดี
  • มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการแก้อาการกระหายน้ำ ช่วยสำหรับการระบายความร้อนให้ออกจากปอด แถมยังช่วยขับเสมหะได้อีกด้วย


Tags : ขายกระชายดำ,ขายส่งกระชายดำ,รับผลิตกระชายดำ

7
สมุนไพรดีๆ สรรพคุณเด่นๆ มีประโยชน์มากมาย

8

รากสามสิบ
รากสามสิบ สรรพคุณ ว่านสามสิบ ตำรายาท้องถิ่น ใช้ ทั้งยังต้นหรือราก ต้มน้ำกิน แก้แท้งลูก และโรคคอพอก ราก มีรสเฝื่อนเย็น กินเป็นยาแก้พิษร้อนในอยากกินน้ำ แก้ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว ฝนทาแก้พิษแมลงป่องกัดต่อย แก้ปวดฝี ทำให้เย็น ทำลายพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน ช่วยบำรุงรักษาทารกในท้อง บำรุงตับ ปอด ชูกำลัง ผสมกับเหง้าขิงป่า และก็ต้นจันทน์แดงผสมเหล้าโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน ทั้งยังต้นหรือราก ต้มน้ำ แก้ตกเลือด รวมทั้งโรคคอพอก ผล มีรสเย็น ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับ ไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง
รากสามสิบ ส่งเสริมความรัก และ กระชับความข้องเกี่ยวให้ชีวิตการครองเรือน คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ,แก้การอักเสบ ,บำรุงเลือด แก้ปวดระดู เมนส์มาไม่ปกติ ลดภาวะมีบุตรยาก เสริมฮอร์โมนผู้หญิง กระชับช่องคลอด ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว บำรุงผิวพรรณ ลดสิวฝ้า ชลอความแก่ แก้อาการวัยทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Asparagus racemosus Willd.
วงศ์ : Asparagaceae
ชื่ออื่น : สาวร้อยสามี รากศตวารี จ๋วงเครือ (เหนือ) ผักชีช้าง (หนองคาย) ผักหนาม (จังหวัดโคราช) สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี) สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน ม้าสามต๋อน
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้เลื้อย เนื้อแข็ง ลำต้นสีเขียว มีหนามแหลม มักเลื้อยพันตันไม้อื่น เลื้อยยาว 1.5-4 เมตร เถากลมเรียบ เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม มีเหง้าและรากใต้ดินออกเป็นกลุ่มเหมือนกระสวยออกเป็นพวงคล้ายรากกระชาย อวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว โตกว่าเถามาก ลำต้นมีหนาม เถาเล็กเรียว กลม สีเขียว ใบโดดเดี่ยว แข็ง ออกรอบข้อ เป็นฝอยเล็กๆคล้ายหางกระรอก สีเขียวดก หรือเป็นกระจุก 3-4 ใบ เรียงแบบสลับ ใบรูปเข็ม กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ยาว 3-6 ซม. แผ่นใบมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาว 13-20 เซนติเมตร ช่อดอก ออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ แบบช่อกระจะ ยาว 2-4 ซม. ดอกย่อย สีขาว ขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมสดชื่น มี 12-17 ดอก ก้านดอกย่อย ยาวราว 2 มิลลิเมตร กลีบรวม มี 6 กลีบ เชื่อมกันเป็นหลอดรูปดอกเข็ม ปลายแยกเป็นแฉก ส่วนหลอดยาว 2-3 มิลลิเมตร ส่วนแฉกรูปช้อน ยาว 3-4 มม. กลีบดอกบางและร่น เกสรเพศผู้ เชื่อมและก็อยู่ตรงกันข้ามกลีบรวม ขนาดเล็กมี 6 อัน ก้านชูอับเรณูสีขาว อับเรณูสีน้ำตาลเข้ม รังไข่รูปไข่กลับ ยาวราว 1 มม. อยู่เหนือวงกลีบ มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เมล็ด หรือมากกว่า ก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็นสามแฉกขนาดเล็ก ผลสด ออกจะกลม หรือเป็น 3 พู ผิวเรียบเป็นเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 มิลลิเมตร ผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกสีแดงหรือม่วงแดง เม็ดสีดำ มี 2-6 เม็ด ออกดอกตอนเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน เจอตามป่าโปร่ง หรือเขาหินปูน
สาวร้อยผัวหรือรากสามสิบ เป็นสมุนไพรไทยมีรสหวานเย็น ที่แอบแฝงไปด้วยคุณประโยชน์ขนานเอก บำรุงเครื่องเพศในสตรี และก็ยังเสริมความสามารถทางเพศให้แก่บุรุษ
นิยมนำส่วนของใบอ่อน ยอดอ่อน ผลอ่อน ซึ่งมีกลิ่นหอมคล้ายผักชีลาว มารับประทานเป็นผัก รวมทั้งนำส่วนของรากที่มีลักษณะคล้ายกระชาย แต่ว่ามีขนาดใหญ่แล้วก็ยาวกว่าอีกทั้งมีกลิ่นหอม มาใช้ดองยาสมุนไพร ชูกำลังในสตรีด้วยคุณประโยชน์ที่สอดคล้องกับชื่อที่เรียกชื่อกันว่า สาวร้อยผัว ที่สื่อความหมายได้ว่า ไม่ว่าสาวใด อายุเท่าไร อยู่ในวัยมีระดูหรือหมดระดูก็ตาม แม้ได้ทานหัวพืชจำพวกนี้เสมอๆ จะช่วยทำให้ดูเป็นสาวกว่าวัย มีพลังทางเพศ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มขนาดของทรวงอก ด้วยแนวทางนำรากสดมาต้มรับประทานหรือถ้าไม่อย่างนั้นก็อาจจะนำรากไปตากแห้ง แล้วเอามาบดเป็นผุยผงปั้นเป็นลูกกลอนผสมกับน้ำผึ้งกินก็ได้เช่นเดียวกันตามตำราอายุรเวท มีการใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในเพศหญิง ช่วยให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาวได้อีกที
ในประเทศอินเดียก็เรียกสมุนไพรชนิดนี้คล้ายกับเมืองไทย โดยในภาษาสันสกฤต เรียกว่า ศตาวรี (Shtavari) มีความหมายว่า ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก หรือบางหนังสือเรียนพูดว่าซึ่งก็คือ สตรีที่มีร้อยสามี “Satavari” (this is an India word meaning’a woman who has a hundred husbands) รากสามสิบเป็นสมุนไพรที่ถูกเอ่ยถึงในคัมภีร์ พระเวท ซึ่งเป็นคำภีร์ที่มีมาก่อนอายุรเวทด้วยซ้ำ จึงน่าจะนับว่าเป็นสมุนไพรที่มีการใช้มานานหลายพันปีแล้ว รวมทั้งในอินเดียใช้ รากสามสิบ ทำเป็นของหวานเหมือนกับเมืองไทย
ในแบบเรียนอายุรเวทใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง สำหรับเพื่อการทำให้เพศหญิงกลับมาเป็นสาว (Female rejuvention) นอกเหนือจากนี้ยังช่วยขจัดปัญหาอื่นๆของหญิงได้แก่ สภาวะรอบเดือนไม่ปกติ ปวดระดู ภาวการณ์มีบุตรยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมโทรม ภาวะหมดปะจำเดือน(menopause) และใช้บำรุงน้ำนมบำรุงครรภ์ คุ้มครองปกป้องการแท้ง (habitual abortion) แล้วก็อาการที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆของหญิง
สมุนไพรชนิดนี้จะสะดุดตาต่อเพศหญิงแล้ว ในอินเดียยังคงใช้สำหรับการเพิ่มพลังทางเพศให้กับผู้ชายอีกด้วย ซึ่งก็คงจะคล้ายกับทางภาคเหนือของไทยที่ใช้สาวร้อยสามี หรือที่เรียกในภาคเหนือว่า “ม้าสามต๋อน” เป็นยาดองเพื่อเพิ่มพลังทางเพศชาย และก็ยังคงใช้เพื่อคุณประโยชน์ทางยาอื่นๆอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะ ยาแก้บิด แก้ไข้ แก้อักเสบ ซึ่งจัดได้ว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพร ที่ใช้มากที่สุดในอินเดียชนิดหนึ่ง ปัจจุบันนี้มีสารสกัดด้วยน้ำ ของรากสามสิบ จากอินเดียไปขายที่สหรัฐฯ ในลักษณะเป็น dietary supplement หรือพวกอาหารเสริมที่สามารถขายได้ ทั่วไปไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

สรรพคุณสมุนไพรรากสามสิบ (รากศตวารี)
ช่วยสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง
แก้ปวดรอบเดือน
แก้ระดูมาแตกต่างจากปกติ
แก้อาการตกขาว
ขจัดปัญหาช่องคลอดอักเสบ ช่วยดับกลิ่นในช่องคลอด
ช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับ
จัดการกับปัญหาการมีลูกยาก คุ้มครองการแท้งบุตร
บำรุงนม
ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
ช่วยระบาย ขับเยี่ยว
ลดกลิ่นเต่า กลิ่นปาก
ช่วยเพิ่มขนาดทรวงอก รวมทั้งสะโพก
กระชับสัดส่วน
ช่วยลดไขมันส่วนเกิน
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
บำรุงเลือด และก็บำรุงหัวใจ
บำรุงฮอร์โมนเพศ
บำรุงผิวพรรณ
ลดสิว ลดฝ้า ช่วยผิวขาวใส
แก้อาการวัยทอง ชะลอความแก่
ใช้รักษาโรคตับ ปอดทุพพลภาพ
ชูกำลัง แก้กษัย
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการใช้รากสามสิบ
รายงานการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่ารากสามสิบมีฤทธิ์ราวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ฉะนั้นก็เลยห้ามประยุกต์ใช้ในสตรีที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคโรคมะเร็ง อาทิเช่น ผู้เจ็บป่วยโรค uterine fribrosis หรือ fibrocystic breast
ผลงานวิจัยสมุนไพรรากสามสิบ
การศึกษาในหนูแรทของสารสกัดรากด้วยเอทานอลต้นรากสามสิบ แบ่งเป็น 2 ช่วงเป็นช่วงรุนแรง รวมทั้งช่วงยาวสม่ำเสมอ
โดยการเล่าเรียนในระยะกะทันหันป้อนสารสกัดเอทานอลต้นรากสามสิบขนาด 1.25 กรัม/กก. ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน และหนูแรทที่เป็นเบาหวานจำพวกที่ 1 แล้วก็ จำพวกที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของเดกซ์โทรส (glucose tolerance) ในนาทีที่ 30 ดีขึ้น และการศึกษาเล่าเรียนช่วงยาวต่อเนื่องโดยป้อนสารสกัดเอทานอล[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ[/url][/url][/color]ขนาด 1.25 กรัม/กิโลกรัมวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในขณะที่หนูเบาหวานกลุ่มควบคุมได้รับน้ำในขนาดที่เท่ากัน พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และเพิ่มระดับของอินซูลิน 30% เมื่อเทียบกับกลุ่มโรคเบาหวานควบคุม นอกจากนี้ยังเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน และเพิ่มกลัยวัวเจนที่ตับเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเบาหวานควบคุม จากการศึกษาในครั้งนี้สรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการหยุดยั้งการสรุปยรวมทั้งการดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต และการเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งต้นรากสามสิบคงจะเป็นประโยชน์สำหรับในการนำมารักษาคนป่วยโรคเบาหวานได้
ที่มา : หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร ที่ทำการข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/

9

รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในตระกูลหน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) และอยู่ในสกุลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี), ผักหนาม (จังหวัดโคราช), ผักชีช้าง (จังหวัดหนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยผัว, สาวร้อยสามี, ศตาวรี เป็นต้น
รูปแบบของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนมาจากใบเกล็ดรอบๆข้อ) สามารถเลื้อยป่ายปีนต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงราว 1.5-4 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวแกมเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น และก็วาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 2-5 มิลลิเมตร เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวประมาณ 1-4 มม. บริเวณข้อมีกิ่งแตกแขนงแบบรอบข้อ และกิ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างโดยประมาณ 0.5-1 มม. และก็ยาวราวๆ 0.5-2.5 มิลลิเมตร ทำหน้าที่แทนใบ มีเหง้าและก็รากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกระจุกเหมือนกระสวย รูปแบบของรากออกเป็นพวงเหมือนรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามากมาย มีเขตผู้กระทำระจายพันธุ์ในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย และก็ออสเตรเลีย พบขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบผู้เดียว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กคล้ายหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกระจุก 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก ลักษณะของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างราว 0.5-1 มิลลิเมตร และก็ยาวโดยประมาณ 10-36 มิลลิเมตร แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวโดยประมาณ 13-20 ซม.
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ ออกดอกเป็นช่อกระจะ ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบและข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอมสดชื่น มีประมาณ 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวราว 2 มิลลิเมตร มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ รวมทั้งวงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างราว 0.5-1 มม. แล้วก็ยาวราวๆ 2.5-3.5 มิลลิเมตร กลีบมีลักษณะบางและร่น โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมแล้วก็อยู่ตรงกันข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านยกอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เมล็ด หรือมากยิ่งกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะมีดอกในตอนประมาณเดือนเมษายนถึงมิถานายน1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ รูปแบบของผลเป็นรูปทรงค่อนข้างจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบเป็นเงา มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 4-6 มิลลิเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะกลายเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ด้านในผลมีเมล็ดประมาณ 2-6 เม็ด เมล็ดเป็นสีดำ เปลือกมีลักษณะแข็งแม้กระนั้นเปราะ ออกผลในช่วงโดยประมาณเดือนเมษายนถึงก.ค.1,8
ผลรากสามสิบ
เมล็ดรากสามสิบ

สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสขื่นเย็น มีคุณประโยชน์เป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
แบบเรียนยาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กระษัย (ราก)
ในประเทศประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่าและต้นจันทน์แดง ผสมกับสุราโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาลดความดันเลือดและก็ลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นหลักการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
อีกทั้งต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งยังต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสขื่นเย็น ใช้กินเป็นยาแก้พิษร้อนในหิวน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสมหะ4 แก้การต่อว่าดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาช่วยขับลม และช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับไส้ แก้อาการของกินไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้อาการท้องเดิน แก้บิด (ราก)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (ใบ)
หนังสือเรียนยาสมุนไพรพื้นบ้านของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีคุณประโยชน์เป็นยาแก้ขัดค่อย ขับเยี่ยว ช่วยหล่อลื่นรวมทั้งกระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการเมนส์ไม่ปกติของสตรี (ราก)
ทั้งต้นหรือรากเอามาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ตกเลือด (ราก, ทั้งยังต้น)
ในอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นความสามารถทางเพศชายรวมทั้งหญิง คนทางภาคเหนือบ้านเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงสำหรับผู้ชาย กินแล้วมีชีวิตชีวาเสมือนม้า 3 ตัว ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ม้าสามต๋อน” ส่วนแพทย์ยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ “สาวร้อยสามี” หรือ “สามร้อยสามี” กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ อายุมากแค่ไหนก็ยังมองสาวเสมอ แต่ว่าไม่ใช่รับประทานแล้วจะสามารถมีสามีได้เป็นร้อยคน ในแบบเรียนอายุรเวทจะใช้สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับในการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยขจัดปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเมนส์ไม่ปกติ ภาวการณ์หมดประจำเดือน ปวดประจำเดือน ตกขาว มีลูกยาก หมดอารมณ์ทางเพศ ช่วยทำนุบำรุงครรภ์ บำรุงน้ำนม คุ้มครองป้องกันการแท้ง ฯลฯ สำหรับวิธีการใช้ก็ให้นำรากมาต้มกิน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผุยผงปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานกับน้ำผึ้ง นอกเหนือจากนี้ยังคงใช้กระตุ้นนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับแล้วก็ปอดให้เกิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับและปอดทุพพลภาพ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้ลักษณะของการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยทำลายพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยบรรเทาอาการระคาย (ราก)
รากใช้รับประทานเป็นยาแก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อและคอ (ราก)
ใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับน้ำนม ช่วยให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กแรกเกิดในท้อง บำรุงนม บำรุงร่างกายหลังการคลอดบุตรของสตรี (ราก)
ใน “พระคู่มือสรรพคุณ (แลมหาพิกัด)” ได้กล่าวถึงสรรพคุณของรากสามสิบไว้ว่า “ผักหวานเพศผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้จักษุโรค รากสามสิบ 2 มีคุณยิ่งกว่าผักหวาน” กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 จำพวก สิ่งแรกหมายถึงตัวร้อน เบื่อข้าว ปวดหัว และอีกอย่างหนึ่งหมายถึงมีลักษณะร้ายแรงมากยิ่งกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีลักษณะอาการคัน ไอ มีเสลด รวมทั้งมีเลือดออกทางปากแล้วก็จมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ “พระตำราเวชศาสตร์เกื้อหนุน” ได้กล่าวถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆอีกหลายชนิด โดยบอกว่ามีคุณประโยชน์ (ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยกันจำเริญชีวิตให้เกิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้จำเริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังมากแตกต่าง กินเข้าไปแล้วหาโทษไม่ได้ ใช้ได้ทั้งยังเด็ก คนสูงอายุ คนมีกำลัง คนซูบผอม คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อน ให้ประกอบยานี้กันเหอะ อนึ่ง รับประทานแล้วให้มีขึ้นบุตร ให้อกโคนแค่นดวงเดือนงทั้งยัง 4 มีกำลัง ถึงกระหักก็ดีแล้ว แพทย์ก็นับถือรักษาโดยใช้ยานี้เถอะ (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคซูบซีด แก้หอบหืด แก้ปิดตะ รวมทั้งแก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ร่วมกัน 20 อย่างและก็รากสามสิบ (ราก)
ใน “พระตำราวรโยคสาร” ตำรับยา “วะระนาทิแผนก” เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง รวมทั้งรากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีลักษณะทิ่มแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสลด แก้ลุกลุมโรคหายแล และยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสมหะ ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง และก็รากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงครรภ์ แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 ชนิด ดังเช่น รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียนทั้ง 5 บัวน้ำทั้งยัง 5 โกฐ 5 จันทน์ทั้งยัง 4 รวมทั้งเทวดาทาโร (ใช้อย่างละเท่ากัน) นำทั้งปวงมาใส่ด้านในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน เติมน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 เซนติเมตร แช่ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มต้มประมาณ 30 นาที น้ำยาเดือดแล้วก็มีกลิ่นหอมยวนใจจึงชูลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนอาหารเช้ารวมทั้งเย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงครรภ์อย่างยอดเยี่ยม (ราก)
นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณของรากสามสิบตามเว็บไซต์ต่างๆนอกจากที่กล่าวมา สมุนไพรจำพวกนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง แก้วัยทองคำ เพิ่มขนาดอกรวมทั้งบั้นท้าย ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดอักเสบ กำจัดกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปทรง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่ชรา ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก ช่วยสร้างเสริมรวมทั้งพัฒนาความจำรวมทั้งเชาวน์ (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดรวมทั้งวิธีใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากราวๆ 90-100 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่มวันละครั้งในเวลาเช้า
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่พบ ยกตัวอย่างเช่น asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย ต้านทานเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้ลักษณะของการปวด คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นมาจากความดันโลหิตสูง ขับนม มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งโรคเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะ ยับยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่เจอในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่เลียนแบบฮอร์โมนเพศ จึงคงจะมีบทบาทในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดรวมถึงโรคกระดูกพรุน
จากการเรียน
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ช่วงเป็นช่วงกะทันหันรวมทั้งช่วงยาวสม่ำเสมอ โดยการเล่าเรียนในตอนรุนแรงป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อโล ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นเบาหวาน หนูแรทที่เป็นโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 แล้วก็จำพวกที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แม้กระนั้นช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของเดกซ์โทรส ในนาทีที่ 30  ส่วนการเรียนตอนยาวต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และเพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน รวมทั้งเพิ่มไกลวัวเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปโรคเบาหวานควบคุม ก็เลยสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการขัดขวางการสรุปยและการดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้รักษาคนไข้เบาหวานได้9
จากการทดลองทางสถานพยาบาลเป็นการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการรับประทานผงแห้งของราก พบว่าได้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับในการรักษาแผลที่กระเพาะและก็ลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี คริสต์ศักราช1997 ที่ประเทศอินได้ทำการทดลองใช้รากสามสิบกับคนไข้ความดันเลือดสูงชนิด mild hypertension โดยทดลองเปรียบเทียบกับยาลดความดัน (Propranolol) ใช้ช่วงเวลาทำทดสอบนาน 3 เดือน ผลของการทดสอบพบว่า คนป่วยมีความดันเลือดลดลง < 90 mm.Hg. และลดไขมันได้ผลดี

  • K. Mitra และก็คณะ (ค.ศ.1996) ที่อินเดียได้ทำการทดสอบการใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลของการทดสอบพบว่า สารสกัดดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/


    Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

10

กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงปรุงอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เพราะว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ยิ่งกว่านั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ดังเช่นว่า อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) แล้วก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว อัลลิซินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่าการกินกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจแล้วก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมตกอีกด้วย
ดังนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ คุณประโยชน์ และก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันเลือดสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่เจอได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดแล้วก็ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนไข้ที่มีระดับความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บที่กินยาหลอก จึงอาจพูดได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับในการรักษาคนป่วยความดันโลหิตสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียมสำหรับในการลดความดันโลหิตได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แต่ว่าเหตุเพราะผลการทดลองบางทีอาจยังไม่แม่นยำเพียงพอที่จะสรุปสมรรถนะของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็หลอดเลือดในคนป่วยความดันโลหิตสูง จึงยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อรับรองประสิทธิภาพที่กระจ่างเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมและการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่แน่ชัดแล้วก็ยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งสิ้นศชายแล้วก็ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบตรงเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการทำการศึกษาเรียนรู้อีก 19 ชิ้นทำให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ที่จะช่วยส่งเสริมความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจะจำกัดที่สนับสนุนว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นผักที่อาจมีคุณลักษณะต้านทานโรคมะเร็ง แต่ว่ายังมีต้นเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจทำให้พิสูจน์ถึงสมรรถนะของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ภายในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้ความสามารถของกระเทียมหมดลงไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด หลายท่านเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และมีการประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 65 ครั้ง อีกทั้งยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะบอกให้เห็นถึงคุณภาพของกระเทียม แต่หลักฐานการทดสอบทางคลินิกยังน้อยเกินไปรวมทั้งจึงควรศึกษาเพิ่มอีกเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้กระจ่างยิ่งขึ้น
ลดหุ่นและก็มวลไขมัน ในคนไข้สภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ว่ามักเกิดขึ้นจากโรคอ้วน โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นอาจไม่พอ ถ้าหากไม่ดูแลประเด็นการกินอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นลู่ทางหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์แล้วก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปวงศชายและก็เพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งมวล 110 คน รับประทานกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งด้านในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามเดิม แต่ว่ารับประทานกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองแสดงให้เห็นว่า น้ำหนักและก็มวลร่างกายต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก จึงอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองปกป้องหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการเล่าเรียนในอนาคตยังจะต้องออกแบบการทดสอบให้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองและก็การศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวโยงปริมาณ 29 ชิ้น ได้แสดงให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้บางส่วน แต่ว่าไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจต่ำลงอะไร จึงยังจะต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาผลสรุปและก็รับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ้งชัดเพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับในการกินกระเทียม
การกินกระเทียมออกจะไม่มีอันตรายหากกินในปริมาณที่สมควร แม้กระนั้นอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงได้ เป็นต้นว่า ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องเฟ้อ อาเจียน คลื่นไส้ หรือท้องเสีย อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคืองได้
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับเพื่อการกินกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
ผู้ที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในช่วงการท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าหากกินเป็นอาหารหรือในปริมาณที่สมควร แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากรับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่เหมาะสมและในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่ทางเดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันโลหิตลดลดลงมากยิ่งกว่าปกติ
ผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์เนื่องจากว่าอาจทำให้เลือดออกมากแล้วก็ส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด และคนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เนื่องจากอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะเหตุว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและก็มีผลต่อคุณภาพรูปแบบการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

11

กระเทียม
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic
กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในตระกูลพลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)
สำหรับในประเทศไทยนิยมนำมาปลูกมากมายในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่สำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี กลิ่นแรงคงจะหนีไม่พ้นจังหวัดศรีสะเกศ
สรรพคุณของกระเทียม
ช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพแข็งแรงและแข็งแรง
ช่วยสร้างเสริมการเจริญเติบโตของเยื่อในร่างกาย
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด
ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการงุนงง ปวดหัว หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบแพร่พันธุ์รวมทั้งระบบฟุตบาทปัสสาวะ เพราะมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนหญิงแล้วก็ชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มกำลังให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
ช่วยปกป้องการเกิดโรคหัวใจ ลดการเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวกระทันหัน
ช่วยต้านเนื้องอก
ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยคุ้มครองการเกิดและก็รักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยในการขับพิษและสารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
ช่วยป้องกันฝาผนังเส้นโลหิตหนาแล้วก็แข็งตัว
สารสกัดน้ำมันกระเทียมมีสารที่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการละลายลิ่มเลือด
ช่วยปกป้องการเกิดเส้นโลหิตอุดตัน
มีสารต้านทานไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยทุเลาอาการไอ น้ำมูกไหล คุ้มครองหวัด
ช่วยรักษาโรคไข้หวัดแล้วก็ไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและก็ไซนัส
ช่วยรักษาโรคไอกรน
ช่วยแก้อาการหอบ หืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยระงับกลิ่นปากกระเทียม
ช่วยในการขับเหงื่อ
ช่วยสำหรับการขับเสลด
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยของกินมาย่อยแผลในกระเพาะ
ช่วยสำหรับในการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องขึ้น ท้องอืด
ช่วยคุ้มครองปกป้องโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
ช่วยสำหรับการขับฉี่
ช่วยในการขับพยาธิได้หลายชนิด ดังเช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิหมุด พยาธิไส้เดือน ฯลฯ
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบจำพวกร้ายแรงได้
ช่วยปกป้องการเกิดโรคไต
ช่วยฆ่าเชื้อโรครา เชื้อแบคทีเรียต่างๆรวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะรวมทั้งรอบๆเล็บ
ช่วยยั้งเชื้อต่างๆได้แก่ เชื้อที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดอักเสบ เชื้อวัณโรค ฯลฯ
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่วกระเทียมสรรพคุณ
ช่วยรักษาขี้กลาก โรคเกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อและกระดูกในร่างกาย
บรรเทาลักษณะของการปวดข้อและก็ปวดเมื่อยตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกรวมทั้งเท้าพลิก ด้วยเหตุว่ามีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
มีสารต่อต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสซั่ม
กระเทียมมีกลิ่นฉุนจึงสามารถช่วยไล่ยุงได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากอาหาร
คุณประโยช์จากกระเทียม
คุณประโยชน์หลักๆของกระเทียมอาจหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยแต่งรสชาติของของกิน ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆอีกสารพัน
กระเทียมเป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินแล้วก็แร่หลายอย่าง และก็ยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชประเภทอื่นๆอีกทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA รวมทั้ง RNA ของเซลล์ในร่างกาย
ยิ่งกว่านั้นยังมีการนำกระเทียมไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างนานาประการ ดังเช่นว่า กระเทียมเสริมอาหาร กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง ฯลฯ

ค่าทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
ใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี 1 0.2 มก. 17%
วิตามินบี 2 0.11 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี 3 0.7 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี 5 0.596 มก. 12%
วิตามินบี 6 1.235 มก. 95%
วิตามินบี 9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มก. 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มก. 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มิลลิกรัม 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มิลลิกรัม 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มิลลิกรัม 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มิลลิกรัม 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มิลลิกรัม 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มก. 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณชี้แนะที่ร่างกายอยากได้ในทุกๆวันสำหรับผู้ใหญ่ (ที่มาที่ไป : USDA Nutrient database)
คำเสนอแนะแล้วก็ข้อพึงระวังสำหรับในการใช้กระเทียม
กระเทียมยิ่งสดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสรรพคุณที่ดีมากขึ้นแค่นั้น แต่ว่าสำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยวิธีการต่างๆหรือผ่านการหมัก จะทำให้วิตามินและก็สารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นสลายตัวไป
วิตามินและก็ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากมายหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับดินและก็สภาพภูมิอากาศที่ใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังมีครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่หรูหราน้ำตาลในเลือดปกติ หรูหราความดันเลือดปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงคนที่ใช้ยาอื่นๆเสมอๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต่อต้านไวรัส คุณไม่สมควรกินกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในปริมาณที่มากจนเหลือเกิน เพราะอาจจะก่อให้เป็นอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้
สำหรับผู้ที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเป็นประจำ อาจทำให้กำเนิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อรับประทานได้ โดยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการคลื่นไส้ และก็มีอาหารหัวใจที่เต้นแรงไม่ปกติ แต่ว่าอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะเบาๆหายไปเองภายในช่วงเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่ประยุกต์ใช้สำหรับในการทำอาหารชอบก่อกำเนิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบใหม่ๆ
สำหรับผู้ที่อยู่ในห้องครัวหรือผู้ต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมบ่อยๆและเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน อาจจะเป็นผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ มีตุ่มน้ำได้ โดยเหตุนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเสมอๆด้วยการสวมถึงมือทุกหนตอนที่จะใช้กระเทียม
ถึงแม้กระเทียมจะเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์อยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าคุณก็ไม่สมควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลสำหรับเพื่อการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง ทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็บางครั้งอาจจะแตกต่างออกไป ด้วยเหตุนั้นคุณควรจะเลือกรับประทานให้มากมายและก็ครบ 5 กลุ่ม จะเป็นลู่ทางที่เยี่ยมที่สุด เพราะว่าผักสมุนไพรปกติ ถ้าหากศึกษาเล่าเรียนกันในความเป็นจริงแล้ว มันก็มีสาระมากพอๆกับกันเลย
ปัจจุบันนี้ในบ้านเรายังไม่มีการยืนยันว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง อาจจะเป็นไปได้ก็แค่สมุนไพรลู่ทางในการรักษาและก็สมุนไพรเสริมสุขภาพแค่นั้นhttp://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

12

บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการรบอยู่เหรอ เปล่าครับผม บุกในที่นี้มิได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก รวมทั้งที่จะต้องหนี ไม่ใช่คนไหนกันที่ไหน แต่เป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นคือ หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในเมืองไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับเดี๋ยวนี้ด้วยเหตุว่าจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชประจำถิ่นอยู่ดี  คนในเขตแดนก็นำบุกมาทำกับข้าว ราวกับเผือก เสมือนมันทั่วๆไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยแปลงเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบอย่างต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เองก็น่าจะไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกท่านมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นซาตาน  น่าสยองครับผมชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อสกุล    ARACEAE
ชื่อตามท้องถิ่น  :  บุกปะทุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
พวกเราพบบุกถึงที่เหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่กับตาม ชายป่า และก็บางเวลาก็พบตามพื้นที่ ทำนา เป็นต้นว่าที่ปทุมธานี รวมทั้งจังหวัดนนทบุรี ฯลฯ บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิด แต่ว่าจะเจริญเติบโตก้าวหน้าให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรืออินทรียวัตถุสูง
รูปแบบของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก แสดงให้เห็นองค์ประกอบเป็นใบบุก และก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  แบบเดียวกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่บางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเหมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางชนิดก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวด้านบน  จะมีความเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานัปการมาก  แม้กระนั้นที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกึ่งกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่บาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม โดยเหตุนั้นลักษณะของใบบุก มีหลายรูปแบบขึ้นกับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าโค แต่ละชนิดมีขนาด สี แล้วก็รูป ทรงแตกต่าง บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่บุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่สุดกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุก (อย่างงเต็กกับหัวบุกนะ ) ภายหลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเกิดผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะมีผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายคล้ายผลกล้วย ผล ของบุกส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่ว่าเม็ดด้านในต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเม็ดเป็นทรงอูมยาว  บุกบางประเภทก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม

บุกกับการนำมาประกอบอาหาร
เป็นพืชของกินพื้นบ้านซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ท่อนหัวบุกมีการนำไปปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ดังเช่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งรับประทานกับข้าว ทางภาคเหนือโดยยิ่งไปกว่านั้นชาวเขา มักนำมา ปิ้งกิน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจึงนำไปทำเป็นขนมหวาน
*บุกมีหลายประเภทหลายประเภท อาจขมแล้วก็มีพิษ ทุกประเภทมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ในขณะที่ก้านใบและหัว ซึ่งอาจจะก่อให้คัน ก่อนนำมาทำกับข้าวจำต้องต้มเสียก่อน ไม่อย่างนั้นรับประทานเข้าไปทำให้คันปากและลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
ปัจจุบันนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง อีกทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งคือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถนำมาปรุงเป็นของกินจานอร่อยได้ ผมว่าคนใดกันเคยไปกินเนื้อย่างอาจเคยเจอบ้าง เว้นเสียแต่เส้นบุกแล้วมีการเอามาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยก่อน คือ เจเล่ ผสมผงบุก ถ้าจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยครับ)
สรรพคุณของบุก
จากการเล่าเรียนพบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูวัวแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) และ (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ร่างกายย่อยสลายได้ยาก ดูดซึมได้ช้า จึงให้พลังงานรวมทั้งสารอาหารน้อย เหลือกากมากมาย ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินงานดี ผู้ที่อยากได้ลดน้ำหนักนิยมทานอาหารจากแป้งบุก ตัวอย่างเช่น วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เพราะกินอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ไม่ทำให้อ้วน
ยิ่งกว่านั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะว่าความรั้ง ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูวัวลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งส่งผลลดการดูดซึมกลูวัวลส ด้วยเหตุดังกล่าว กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามาก ปัจจุบันนี้ก็เลยใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับคนไข้เป็นโรคโรคเบาหวาน และสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับผมคือคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันนะครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว ชี้แนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ ยืนยันอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/

Tags : สมุรไพรบุก

13

ขิง
ข้อดีของสรรพคุณขิง
25 สรรพคุณดีๆของ’’ประโยชน์สำหรับการรักษาโรค
1.ขิงสดช่วยลดความเจ็บปวดตามข้อ ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
2.ขิงมีสรรพคุณช่วยรักษาแผล ฆ่าเชื้อโรคในแผลได้
3.ขิงช่วยทำให้สบายท้อง ขับลม แก้ท้องผูก
4.ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย ช่วยขับเสลด ทำให้หายใจสบาย
5.ขิงช่วยแก้อาการวิงเวียน หน้ามืด อ้วก เมารถ เมาเรือ
6.ขิงช่วยเผาผลาญไขมัน และก็เป็นยาระบายอ่อนๆจึงแป็นต้นเหตุที่ทำให้ขิงช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้
7.ขิงช่วยบำรุงรักษาหัวใจ เหมาะกับผู้เจ็บป่วยโรคหัวใจ
8.ขิงช่วยแก้โรคลมพิษ แก้แพ้เกสรดอกไม้ แล้วก็อาหารทะเลได้
9.ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเนื้อขิงใหม่ๆทำมาทาแก้ผื่นคัน แก้แมลงกัดต่อยได้
10.ขิงช่วยบำรุงรักษาสายตา คุ้มครองโรคตาแดง อาการน้ำในตามาก ตาฝ้าฟาง
11.ขิงเป็นสมุนไพรกำจัดกลิ่น ช่วยลดกลิ่นเต่า
12.ขิงมีสรรพคุณแก้ฟันเหลือง ฟันพุ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนให้เข้ากัน เอามาอม กลัวปากเสมอๆ แล้วลองสังเกตว่าลักษณะของการปวดจะเบาๆต่ำลง
13.มีคุณประโยชน์ลดกลิ่นปากได้ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนให้เข้ากัน นำมาอม กลั้วปากบ่อยๆ ช่วย จัดการกับแบคทีเรียในปาก ลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างยอดเยี่ยม
14.ขิงช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดไมเกรนได้ โดยให้ดื่มน้ำขิงเป็นประจำ แล้วลองสังเกตว่าลักษณะของการปวดจะค่อยๆน้อยลง
15.ขิงทุเลาโรคประสาทอาการของโรคประสาท การดื่มน้ำขิงจะช่วยลดความขุ่นมันของหัวใจ
16.ขิงช่วยการไหลเวียนของน้ำนมมารดาให้ดียิ่งขึ้น ควรเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับหญิงให้นมลูกเป็นอย่างดี
17.ขิงช่วยบรรเทาผู้ติดสิ่งเสพติดได้ โดยสรรพคุณของขิงมีส่วนช่วยลดความอยากเสพสารเสพติด
18.ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงช่วยต้านทานโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยพบว่าสาระสำคัญในขิงช่วยต้านทานการเจริญเติบโตของเซลล์ของมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม
19.ขิงช่วยควมคุมความดันเลือดได้ สำหรับคนที่มีปัญหาความดันสูง แล้วก็ ความดันต่อ ควรจะฝานขิงสดมาต้มกับน้า ดื่มเสมอๆ จะช่วยควบคุมความดันให้ปกติ
20.คุณประโยชน์ของขิงช่วยผ่อมคลาย ช่วยให้นอนสบาย ก็เลยเหมาะเป็นของกินสำหรับคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ
21.ขิงช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ โดยช่วยให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น กำจัดเซลลูไลท์
22.ใบเหลวดอกของขิงช่วยแก้อาการขัดฉี่ ป้องกันโรคนิ่วได้
23.ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เหตุเพราะขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้
24.เหง้าขิงช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพราะของกินได้
25.ขิงช่วยแก้อึกได้โดยตำขิงสดให้แหลกคั้นเอาน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้ง น้ำอุ่น คนจะกว่าจะเข้ากันดื่มแก้สะอึกได้
การปรับใช้ทางสถานพยาบาล
1.บรรรเทาอาการเจียนรุนแรงใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไก่กวน(เหนือข้อมือใน 2 ชุ่น)ทิ้งไว้ราวๆครึ่งชั่วโมงถึง  ชั่วโมงอาการจะดียิ่งขึ้น
2.ทุเลาอาการแผลในกระเพาะและลำไส้เล็กส่วนต้น ต้มขิงสดที่ตำอย่างระมัดระวังกับน้ำ 300 มิลลิลิตร นาน 30 นาที กินวันละ 3 เวลา เป็นเวลา 2 วัน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร รวมทั้งลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าอาการปวดกระเนื่องจากว่าน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิวดีขึ้น มากมายท้องผูก หรืออึสีดำ (หมายความว่ามีเลือดออก)ปกติ ความต้องการของกินดีขึ้น (พบว่าคนป่วยเหล่านั้นส่วนมากกลับเป็นซ้ำได้อีก ซึ้งบางทีอาจจำต้องรักษาต่อเนื่อง หรือควบคุมต้นสายปลายเหตุอื่นๆร่วมด้วยจึงจะรักษาหายขาดได้)
3.รักษาโรคบิด ใช้ขิงสด 75 กรัม น้ำตาลทรายแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งกินเป็น 3 มื้อต่อตำหรับ
4.ป้องกันรักษาอาการเมารถ เมารือ
-ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือภายใน 2 ชุ่น(ใช้เหริยญ สตางค์ขนาดพอเหมาะพอควรปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
-ใช้ขิงสด 25 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำมันดื่ม (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
5.รักษาปัสสาวะรดที่นอนในคนป่วยที่มีภาวการณ์หยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ใช้ขิง 30 กรัม(ตำ)ยาลูกน้องนพงพีฟู่จื่อ 6 กรัม ปู่กู่จื้อ 12 กรัม บดคลุกจะกว่าจะเข้ากันถูในแอ่งสะดือ ใช้ผ้าผ้าก๊อซสะอาดปิดทับแล้วก็ใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น
6.รักษาคอไส้อุดกันจากพยาธิตัวกลม
ใช้ ขิง [/b]สด 120 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง 120 กรัม กินครั้งเดียว หรือเบาๆกินหมดภายในครึ่งชั่วโมง การทดลองในคนไข้ 64 คน พบว่าสามารถลดอุดกันของลำใส้ร้ยละ 96.8 ฤทธิ์สำหรับเพื่อการขับพยาธิร้อยละ 61.3
7.เป็นหวัดตัวร้อนจับไข้เนื่องไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น ตัวอย่างเช่น โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว จับไข้ต่ำ ให้หั่นขิงฝอย 30 กรัม

ชงกับน้ำตาล หรือบางทีอาจใส่หัวหอมตี 3-4 (ช่วยกระจัดกระจายลม)ดื่มขณะร้อนๆแล้วคลุมผ้าให้เหงือออก
8.ฟื้นฟูร่างกายวันหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงหลังคลอดบุตร นิยมให้หญิงหลังคลอดรับประทานไก่ผัดขิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่ดำเพศผู้จะยิ่งมีหยางมากยิ่งกว่าไก่ตัวเมีย
ร่างกายของหญิงหลังคลอดจะเสียอีกทั้งพลังหยางแล้วก็เลือด มีน้ำภายในร่างกายตกค้างอยู่มากมายการกินไก่ผัดขิงจะเสริมอีกทั้งเลือดหยางช่วยให้การสรุปยซึมซับอาหาร มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคร่ำเจริญขึ้นทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะธรรมดาเร็วขึ้น
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการทานขิง
-อาจจะเป็นผลให้เกิดภาวะแทรซ้อนสำหรับการตั้งครรภ์ได้
มีบางการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับเพื่อการตั้งท้อง รวมทั้งการแท้ง แต่ว่าสำหรับในการตั้งท้องรายอื่นๆนั้นๆไม่พบการกินขิงจะมีผลให้กำเนิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอ้วกจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ฉะนั้นคุณควรไปปรึกษาแพทย์ก่อ่นจะที่ใช้ขิงสำหรับในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตัวเอง
-นำมาซึ่งแผลร้อนในภายในปากได้
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าเกิดหารกินเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุด้านในช่องปากเกิดการอักเสบจนถึงเป็นอาการร้อนในได้ ด้วยเหตุดังกล่าวไม่สมควรรับประทานขุงมากจนกระทั่งเกินความจำเป็น
-ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
การเล่าเรียนหนึ่งในหนึ่งในประเทศออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีคุณประโยชน์สำหรับในการต่อต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถานบันสุขภาพของออสเลียได้ออกคำเตือนเตือนให้งดเว้นการกินขิงในระหว่างที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเนื่องจากจะก่อให้กำเนิดความเสี่ยงสำหรับในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ด้วยเหตุนั้นถ้าหากคุณมีอากเลือดออกเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติหรือหรือกำลังใข้ยาละลายลิ่มเลือด ควรจะหลีก เลียงการกินขิง
เมื่อทราบอย่างงี้แล้ว หวังผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยทุเลาอาการของโรคต่างๆก็น่าจะต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพราะครั้งคราวหากราใช้ ขิงสำหรับการรักษาโรคหนึ่งแม้กระนั้นก็บางทีอาจช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการกำเริบได้ ด้วยเหตุนั้นควรจะกินขิงให้ถี่ถ้วน แต่หากว่าไม่แน่ใจล่ะก็ ควรจะขอคำปรึกษาจากหมอก่อนเสมอ

14

ขิง
ขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’เจอะ)
ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในตระกูลขิง (ZINGIBERACEAE)
ขิง จัดเป็นสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายในหลายๆด้าน เพราะว่าอุดมไปด้วยวิตามินรวมทั้งแร่ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพของพวกเรา เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และก็เส้นใยเยอะมากๆอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงนั้น พวกเราสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น แล้วก็ผลก็ได้ทั้งนั้น
ประโยชน์ของขิง
-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอดเยี่ยม
มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ ช่วยชะลอความแก่รวมทั้งชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยในการคุ้มครองปกป้อง ต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ช่วยลดผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้สำหรับในการรักษาโรคมะเร็ง โดยเหตุนี้ควรรับประทานขิงพร้อมกันไปกับการรักษามะเร็งจะมีผลดี
ขิง มีฤทธิ์อุ่น ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยสำหรับในการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นใหม่ๆเอามาทุบให้แหลกราวๆ 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำกิน
ช่วยลดน้ำหนัก ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากไส้ แล้วปลดปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดหัวแล้วก็ไมเกรน ด้วยการรับประทานน้ำขิงเป็นประจำ
ช่วยลดความต้องการของผู้ติดสิ่งเสพติดลงได้
แก้ต้นตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วเอามารับประทาน
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำกิน
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยบรรเทาอาการของโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจขุ่นมัว (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับคุณแม่หลังคลอดลูก ด้วยการกินไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดราว 1 องคุลีนำมาต้มกับน้ำ ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้กินเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงนมของมารดา (ผล)
ช่วยให้นอนหลับได้อย่างสบาย
การรับประทานขิงจะช่วยทำให้เลือดแข็งเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้โดยประมาณครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วเอามาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยทุเลาอาการได้
ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ ทุเลาหวัดจับเสลด ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือเล็กน้อย
ละอองน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในคนเจ็บที่มีอาการเมายาสลบหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใช้ขิงสดเอามาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำกิน (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
ช่วยขจัดปัญหาผมหล่น หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟจนกระทั่งอุ่น แล้วนำมาตำให้แหลก นำมาพอกบริเวณที่มีผมหล่น วันละ 2 ครั้งจนถึงอาการดียิ่งขึ้น หรืออีกแนวทางก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันที่ทำจากมะกอกแล้วนำมาหมักผม นวดให้ทั่วหัวโดยประมาณ 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมหล่นได้แบบเดียวกัน แถมยังช่วยทำให้ผมสวย แข็งแรง มีความนิ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยทำนุบำรุงสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา และใช้แก้อาการตาพร่า (ผล, ใบ)
ช่วยรักษาอาการตาแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้งผาก เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอยุ่ย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาทุบอย่างรอบคอบคั่วกับน้ำสารส้มจนกระทั่งไหม้เกรียม แล้วบดจนเป็นผุยผง หลังจากนั้นนำมาพอกบริเวณฟันที่ปวดแก้เสมหะ เสมหะขาวเหลวปริมาณมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาภาวการณ์น้ำลายมากมาย คลื่นไส้เป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นและก็เกลือเล็กน้อย นำมาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยทำนุบำรุงฟันและป้องกันการเกิดฟันผุ
ช่วยดับกลิ่นจั๊กกะแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาทุบให้แหลก แล้วนำมาคั้นเอาน้ำมาทารักแร้เสมอๆ จะสามารถที่จะช่วยในการขจัดรอยคราบกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำจนถึงแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดโดยประมาณ 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลแดง นำมาตำกระทั่งเข้ากัน แล้วกิน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดประมาณ 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วโป้งมือ เอามาตีให้แตกแล้วต้มกับน้ำ
ช่วยลดการคลื่นไส้อาเจียนจากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงตั้งท้องไม่ควรกินหลายครั้งจนเหลือเกิน)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในลำไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาทุบพอเพียงแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งไว้ราว 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้ออาหาร
ช่วยรักษาอาการปวดในตอนก่อนหลังเมนส์ ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วประมาณ 30 กรัมมาต้มกับน้ำเสมอๆ
ช่วยย่อยของกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ดอก)
ช่วยคุ้มครองการเกิดแผลในกระเพาะ ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับเพื่อการขับถ่าย แล้วก็ช่วยในเรื่องของระบบไส้ให้ปฏิบัติงานได้อย่างเป็นปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกลำไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดเยี่ยว (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาฉี่รดที่นอนในคนไข้ที่มีสภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ (ใบ)
ขิง ช่วยรักษาลักษณะของการปวดข้อตามร่างกายด้วยการรับประทานขิงสดเป็นประจำ
มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
แก้ไขปัญหาหนังที่มือลอกเป็นขุย ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วนำมาแช่สุรา 1 ถ้วยชา ทิ้งเอาไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำแผ่นขิงมาเช็ดรอบๆดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นวันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมบริเวณหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว นำมาเผาเปลือกนอกจนกระทั่งเป็นถ่าน คอยปาดถ่านที่ผิวนอกออกไปเรื่อยแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลซึ่งถ้าหากว่าถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆนำมาวางทับบริเวณที่ถูกกัดจะช่วยบรรเทาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง เป็นต้น ช่วยป้องกันการแพ้อาหารทะเลจนกระทั่งเกิดผื่นคัน ผื่นคัน หรืออาหารช็อกประโยชน์ซึ่งมาจากขิง
ช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกรอบๆแผล เพื่อคุ้มครองป้องกันการอักเสบและการเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันหืนในน้ำมันได้
ในด้านการทำอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสของกินได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถช่วยกำจัดกลิ่นคาวของอาหารได้ดิบได้ดีอีกด้วย
ในด้านความงามนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งตัวที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยทำให้ผิวพรรณเรียบเนียนเพิ่มขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วเอามานวดบริเวณต้นขา ตูด หรือบริเวณที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความตะปุ่มตะป่ำของผิวได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากขิงนั้นนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น บัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว ฯลฯ

วิธีทำน้ำขิง
ขั้นตอนการทำน้ำขิงวิธีทำน้ำขิงขั้นแรกให้จัดแจงส่วนผสมดังนี้ ขิงแก่ 1 กิโล / น้ำตาล 1 ถ้วยตวง / น้ำที่สะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด นำมาตีให้แตก แล้วเอามาใส่ไว้ภายในหม้อต้ม เพิ่มน้ำสะอาดลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มจนน้ำเดือดแล้วค่อยเบาไฟลง ต้มประมาณ 20 นาทีจนน้ำขิงละลายออกมากระทั่งหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วชูลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เติมน้ำตาลลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความจำเป็น) แล้วคนจะกว่าจะเข้ากัน
เรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็สามารถเอามาดื่มได้ โดยเอามาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้เช่นกัน แต่ควรจะเพิ่มน้ำตาลมากยิ่งกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากจนเกินความจำเป็น เพราะมีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำขิงที่คั้นมานั้นไม่ควรใช้จำนวนที่เข้มข้นจนกระทั่งเกินไป เนื่องจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ เพราะเหตุว่าจะไปยับยั้งการบีบตัวของไส้ จนทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัว ด้วยเหตุนี้ควรคั้นในปริมาณน้อยๆหรือดื่มจนเกิดความเคยชินก่อน
เราชอบรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นของกินที่นิยมนำมาใช้สำหรับในการปรุงอาหารและก็ทำเครื่องดื่ม ซึ่งอันที่จริงแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้สารพัน นับได้ว่าเป็นตัวช่วยในการรักษาโรคได้เลยทีเดียว แต่ดังนี้เราก็ไม่สมควรจะหวังพึ่งสรรพคุณของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับเพื่อการบำบัดรักษาโรค ควรทำอย่างอื่นหรือดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของเราร่วมด้วยจะได้ประสิทธิภาพที่ดีนักแล
พวกเรามักนิยมใช้ขิงแก่ เนื่องจากว่ายิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน จึงมีคุณประโยชน์ทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน และยังมีใยอาหารเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่เพราะเหตุว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณลักษณะอุ่น จึงไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีความร้อนในร่างกายอยู่แล้ว ดังเช่นว่าคนที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกช่วงเวลากลางคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากกว่าธรรมดา แต่หากจะกินควรระมัดระวังเป็นพิเศษ http://www.disthai.com/

15

น้ำมันเหลือง
ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ "น้ำมันเหลืองสมุนไพรประกอบด้วย

  • ไพลแก่ อายุอย่างต่ำ 1 ปี 200 กรัม
  • น้ำมันงา 50 กรัม
  • เมนทอลเกล็ด 100 กรัม
  • การบูร 100 กรัม
  • พิมเสน 25 กรัม
  • น้ำมันเหลืองหอมระเหยเลือกกลิ่นที่อยาก 10 ซีซี

    การทำผลิตภัณฑ์

  • นำไพลล้างให้สะอาด วางให้แห้ง แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ
  • นำน้ำมันงาใส่กระทะใช้ไฟอ่อนๆใส่ไพลลงไปทอดให้เหลืองแล้วชูลง
  • กรอกกากของไพลออกให้เหลือแต่น้ำมันงา
  • นำเมนทอล การบูรแล้วก็พิมเสน ผสมคนจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ละลายจนกระทั่งเป็นน้ำใส
  • เติมน้ำมันจากไพลที่ได้ในข้อ 3 น้ำหนัก 25 กรัม และก็เติมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นตามชอบ เป็นต้นว่าน้ำมันสะระแหน่ น้ำมันขิง อื่นๆอีกมากมาย น้ำหนัก 10 ซีซี คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ใส่ภาชนะที่ต้องการ พร้อมใช้
วิธีการใช้สินค้า "น้ำมันเหลืองสมุนไพร

  • ใช้ดม ใช้ทาและก็นวด บรรเทาอาการต่างๆ
คุณประโยชน์ของสินค้า "น้ำมันเหลืองสมุนไพร ตำรับชาววัง"


บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด

  • แก้วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง
  • แก้กลยุทธ์ขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว
  • ทาถอดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
  • ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
  • ทาแผลมีดบาด ไฟใหม้ เลือดจะหยุดในทันทีแล้วก็แผลจะหายไวขึ้น
  • ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน แผลพุพอง เป็นหนอง
  • ทาแล้วช่วยทำให้จิตใจสงบ ช่วยผ่อนคลายเครียด
  • ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น
  • ทาเช็ดนวดฝ่าตีน ไล่เลือดลม
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนวดน้ำมัน
นวดจริงหมายคือการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อช่วยเหลือสุขภาพแล้วก็ฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมด. น้ำมันนวดถูกออกแบบมาเพื่อมือเลื่อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นในระหว่างนวด และในขณะเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้ความรู้สึกผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งกายใจ. อ่านต่อไปเพื่อหาข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับประโยช์จากการนวดน้ำมันและบรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดแจ่มใส.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมันเหลือง, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ต่างกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากเยอะมากน้ำหอมและก็สีที่ไม่เหมือนกันเพื่อให้บริการ. น้ำมันนวดบำบัด, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถพบได้ในตลาดน้ำมันนวดเพื่อคุณสามารถเลือกที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับความอยากและความมุ่งหมายของคุณ.
สัมผัสของคนเราสามารถมีการรักษาและก็พลังความมีชีวิตชีวาสำหรับผิวแล้วก็นวดน้ำมันออกมาจากผิวนุ่มแล้วก็เรียบ. นอกจากความรู้สึกสบาย thei พวกเขาถ่ายทอด, น้ำมันนวดยิ่งไปกว่านี้ยังมีทางที่น่าประหลาดที่ช่วยทำนุบำรุงผิวของคุณรวมทั้งกำจัดจุดแห้งบนผิวของคุณ. แต่, หลังการนวด, จะเสนอแนะให้ใช้เวลาอาบน้ำที่ผ่อนคลายเพื่อล้างน้ำมันออกมาจากร่างกายของคุณ. น้ำ จะยังช่วยผิวรูขุมขนจะเปิดจึงส่งเสริมการดูดซึมของน้ำมันนวดเข้าสู่ผิวของคุณ. ลองมามองกันประโยชน์ต่อร่างกายที่สำคัญของการนวดน้ำมันผ่อนคลาย.
ลดการ ความเครียด
น้ำมันเหลือง เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมากมาย ลดความเคร่งเครียด และความตึงเครียดที่มีการสะสมภายในร่างกายของคุณในระหว่างวันที่เหมื่อยล้า.
น้ำมันนวดน้ำมันหอมระเหยที่มีน้ำมันหอมระเหยที่สงบประสาท, ช่วยทำให้คุณบรรเทาแล้วก็กำจัดความนึกคิดแง่ลบที่สะกิดความเครียด.
สุภาพ, สัมผัสการดูแลการแสดงในงานนวด, ช่วยทำให้คุณ รักษา และคืนจิตวิญญาณรวมทั้งความสมดุลทางอารมณ์ของคุณ.
เสริมการไหลเวียนของเลือด
หนึ่งในผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของน้ำมันเหลืองนวด ซึ่งมันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรวมทั้งในเวลาเดียวกันจะช่วยลดความดันเลือดซึ่งเป็น น.
สาเหตุ ajor สำหรับคนที่ประสบพบเจอกับปัญหาที่เกี่ยวกับ ความดันเลือดสูง.
นวดน้ำมันที่ดีเยี่ยมที่สุดของคุณผ่อนคลายร่างกายรวมทั้งสนับสนุนการนอนที่ดียิ่งกว่าสำหรับวัน.
คนไม่ใช่น้อยเจ็บปวดทรมานจากความเปลี่ยนไปจากปกติของการนอนต่างๆได้มองเห็นการแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการดูแลรักษาด้วยการนวดผ่อนคลาย. น้ำมันเหลืองนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, เพราะฉะนั้นคนส่วนมากมีประสบการณ์การนอนหลับลึกรวมทั้งพักมากขึ้นเรื่อยๆ.
1.การนวดน้ำมันเหลืองจะเข้าไปช่วยกระตุ้นแนวทางการทำงานของระบบประสาท ให้ดำเนินการเจริญเพิ่มมากขึ้น ลดอาการเคร่งเคลียดให้เราบรรเทาจากการความอ่อนเพลียและก็ความเหนื่อยอ่อนสะสม
2.การนวดน้ำมันเหลือง จะเข้าช่วยการกระตุ้นหลักการทำงานของเลือด ให้ดำเนินงานได้ดิบได้ดีมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและก็สามารถหล่อเลี้ยงออกสิเจนรวมทั้งสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ คุ้มครองป้องกันโรคต่างๆรวมถึงลดความดันเลือดได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมและก็ฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ปฏิบัติงานได้ดีแล้วก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดพิษ ทั้งยังในร่างกายแล้วก็สภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูมีน้ำมีนวลรวมทั้งชีวิตชีวาเยอะขึ้น
5.ช่วยในหัวข้อการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม บรรเทาสมองและก็ร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีมากว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การนวดน้ำมันยังมีประโยชน์อีกหลายสิ่งหลายอย่างต่อสภาพร่างกาย ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสแก่คู่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ลดอาการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับคนที่เคยทรมานจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่หลายครั้ง แพทย์ก็ได้เสนอแนะให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง ด้วยเหตุว่าจากผลการค้นคว้าของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีอาการปวดศรีษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างเคียงของโรคไมเกรน แล้วก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ
น้ำมันเหลือง อาการปวดหลัง เป็นอาการที่ทุกคนจำเป็นต้องเคยพบเจอ ซึ่งเพียงพอปวดหลังขึ้นมาทีไรพวกเราก็อยากจะเอนกายพัก หรือไม่ก็ไปนวดผ่อนคลายอาการปวดปวดเมื่อย ทั้งๆที่จริงแล้วอาการปวดหลังบางทีก็อาจจะมิได้มีเหตุที่เกิดจากลักษณะของการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเพียงเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดขึ้นจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆได้อีกเยอะมาก ได้แก่ที่พวกเราจะพาทุกคนไปเรียนรู้ต้นเหตุของลักษณะของการปวดหลังทางขวา ว่ามีเหตุมาจากอะไรและก็อันตรายไหม เพื่อที่จะได้รู้ทันลักษณะการเจ็บเจ็บป่วยของร่างกาย

หน้า: [1] 2