โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: iAmtoto007 ที่ มีนาคม 23, 2018, 10:53:24 am

หัวข้อ: โรคเเพ้ภูมิต้านทานตนเอง - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: iAmtoto007 ที่ มีนาคม 23, 2018, 10:53:24 am
(https://www.img.in.th/images/b0aa440a834622e8a5dac90014e97c78.md.jpg)
โรค SLE (โรคแพ้ภูมิต้านทานตนเอง (http://www.disthai.com/16817141/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87)[/url][/i],โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง) (Systemic lupus erythematosus)



ยิ่งไปกว่านี้  ยังคาดการณ์ว่า อาจเกี่ยวเนื่องกับฮอร์โมนผู้หญิง (เพราะเหตุว่าพบได้บ่อยในหญิงวัยหลังมีเมนส์รวมทั้งก่อนวัยหมดระดูและก็พบบ่อยกว่าเพศ 7-10 เท่า)   แล้วก็พันธุกรรม (พบได้ทั่วไปในผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นโรคนี้)
ส่วนกลไกการเกิดโรคเกิดจากมีความผิดธรรมดาของระบบภูมิต้านทาน เกิดภาวะภูไม่ไวเกิน (hypersensitivity) ของเม็ดเลือดขาวประเภท T แล้วก็ B lymphocyte นำมาซึ่งการสร้าง autoantibodies ยับยั้งเนื้อเยื่อของตนและก็เกิด immune complex ลอยล่องไปตามกระแสเลือดไปติดตามอวัยวะต่างๆนอกเหนือจากนี้ยังมีความผิดธรรมดาของการกาจัด immune complex เป็นสาเหตุของการเกิดการอักเสบของอวัยวะและก็เส้นเลือดทำให้เกิดการเกิดพยาธิภาวะในหลายอวัยวะ



ซึ่งจะมีลักษณะที่เกิดขึ้นอยู่กับอวัยวะต่างๆสามารถแยกได้เป็น อาการทางผิวหนัง คนเจ็บมักมีผื่นแดงขึ้นที่ใบหน้า บริเวณดั้ง รวมทั้งโหนกแก้ม 2 ข้าง เป็นรูปเหมือนผีเสื้อที่เรียกว่า ผื่นปีกผีเสื้อ (Butterfly rash) หรือมีผื่นแดงคันรอบๆนอกร่มผ้าที่ถูกแสงแดด หรือมีผื่นขึ้นเป็นวง เป็นแผลเป็นตามบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ หรือบริเวณใบหู มีแผลในปาก โดยยิ่งไปกว่านั้นบริเวณเพดานปาก นอกเหนือจากนี้ยังมีผมตกมากขึ้น
อาการทางข้อแล้วก็กล้ามเนื้อ คนเจ็บจำนวนมากจะมีลักษณะอาการปวดข้อ มักเป็นที่ข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อต่อไหล่ ข้อเข่า หรือข้อเท้า ครั้งคราวมีบวมแดงร้อนร่วมด้วย
อาการทางไต ผู้เจ็บป่วยมักมีลักษณะบวมรอบๆเท้า 2 ข้าง ขา หน้า หนังตา เหตุเพราะมีอาการอักเสบที่ไต รายที่มีลักษณะอาการรุนแรงจะมีความดันโลหิตสูงขึ้น ปัสสาวะออกลดลง ไปจนกระทั่งขั้นไตวายได้ในช่วงเวลาอันสั้น
อาการทางระบบเลือด คนป่วยอาจมีเลือดจาง มีเม็ดเลือดขาวหรือเกล็ดเลือดลดลง ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย มีภาวะติดเชื้อโรคง่าย หรือมีจุดเลือดออกตามตัวได้
อาการทางระบบประสาท ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการชัก หรือมีอาการพูดพร่ำเพ้อไม่รู้เรื่อง หรือคล้ายคนโรคจิตจำวงศาคณาญาติมิได้ เนื่องมาจากมีการอักเสบของสมองหรือเส้นโลหิตในสมอง
นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการทั่วๆไปร่วมด้วย ดังเช่นว่า เป็นไข้ หมดแรง ไม่อยากอาหาร เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ จิตใจท้อแท้ ร่วมได้ ลักษณะโรคชอบแสดงความร้ายแรงมากหรือน้อยภายในเวลา 1-2 ปีแรก จากที่เริ่มมีลักษณะอาการ หลังจากนั้นชอบเบาลงเรื่อยๆแต่ว่าอาจมีอาการแย่ลงร้ายแรงได้เป็นครั้งๆ  ในขณะนี้โรคเอสแอลอียังมีแนวทางที่ไม่อาจจะรักษาให้หายสนิทได้ แต่สามารถควบคุมลักษณะโรคให้สงบ และก็ดำรงชีวิตได้ตามปกติถ้าเกิดรักษาได้ทันทีทันควัน

(https://uppic.cc/d/9cS)
อาการที่เสี่ยงที่จะเป็นโรค SLE (ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์)



การวินิจฉัยโรค เนื่องด้วยโรค SLE มีความมากมายหลายในอาการรวมทั้งอาการแสดงเพราะฉะนั้นจึงมีการตั้งกฏเกณฑ์สำหรับการวิเคราะห์ ACR criteria โดยอาศัยอาการหรือสิ่งตรวจพบ 4 ใน 11 ข้อ (ความไว 75%, ความจำเพาะ 95%) การวินิจฉัย จำต้องอาศัยอาการทางสถานพยาบาลร่วมกับการตรวจทางห้องทดลอง การวินิจฉัยมักไม่คือปัญหาเพราะคนป่วยส่วนใหญ่จะมีลักษณะแจ่มชัด เช่น ผู้หญิงอายุน้อยมาด้วยผื่น malar rash, discoid rash ร่ปวดข้อ เหน็ดเหนื่อย มีไข้ ร่วมกับผลตรวจเลือดเข้าได้รับโรค SLE แต่ว่าการวิเคราะห์จะมีความทุกข์ยากในคนไข้บางกรณีตัวอย่างเช่น ผู้ชาย, คนวัยชราหรือผู้ป่วย ที่มีลักษณะแสดงเพียงระบบเดียวจำเป็นต้อง อาศัยการตรวจทางห้องปฏิบัติการซึ่งดังเช่นว่า CBC, UA, CXR รวมทั้ง ANA ช่วยในการวิเคราะห์แยกโรคที่มีต้นเหตุเนื่องมาจากโรคอื่น
นอกจากนี้หมอจะทำการวิเคราะห์โดยอาศัยผลของการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆอีกอาทิเช่น ตรวจเลือด เจอแอนตินิวเคลียร์แฟกเตอร์ (antinuclear factor) และแอลอีเซลล์ (LE cell) ตรวจปัสสาวะบางทีอาจเจอสารไข่ขาวรวมทั้งเม็ดเลือดแดง  ยิ่งไปกว่านี้ อาจจำต้องกระทำตรวจเอกซเรย์ คลื่นหัวใจแล้วก็ตรวจพิเศษอื่นๆอีกด้วย  ตอนนี้ยังไม่มียา หรือวิธีการรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แม้กระนั้นเป็นการรักษาให้โรคสงบเป็นช่วงๆแล้วก็การรักษาประคับประคองตามอาการ   การดูแลและรักษาโรคเอสแอลอีจะต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรคของผู้ป่วย การกระทำแบบอย่างถูกต้องของคนไข้  และการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้กระทำการดูแลและรักษา
โดยในรายที่เป็นไม่รุนแรง (เช่น มีเพียงแต่ไข้ ปวดข้อ ผื่นแดงที่หน้า) แพทย์อาจเริ่มต้นให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ (ยาที่ใช้รักษาโรคข้ออักเสบ) หากไม่ได้เรื่องอาจให้ไฮดรอกซีคลอโรควีน (hydroxychloroquine) เพื่อช่วยลดอาการเหล่านี้
ในรายที่เป็นรุนแรง หมอจะให้สตีรอยด์ (เช่น เพร็ดนิโซโลน) ในขนาดสูงติดต่อเป็นสัปดาห์หรือยาวนานหลายเดือน เพื่อลดการอักเสบของอวัยวะต่างๆเมื่อดีขึ้นแล้วก็ค่อยๆลดปริมาณยาลง แล้วก็ให้ในขนาดต่ำเพื่อควบคุมอาการไปเรื่อยบางทีอาจนานเป็นนานเป็นปีๆหรือจนกระทั่งจะมีความคิดเห็นว่าปลอดภัย ถ้าหากให้ยาดังกล่าวมาแล้วข้างต้นแล้วไม่เป็นผล หมอจะให้ยากดภูมิต้านทาน เช่น ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophasphamide) อะซาไทโอพรีน (azathioprine) เป็นต้น
ในรายที่มีลักษณะอาการรุนแรง อย่างเช่น บวม หายใจหอบ มีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติทางสมอง ฯลฯ จำเป็นต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล จวบจนกระทั่งจะไม่มีอันตราย จึงให้ผู้เจ็บป่วยกลับไปอยู่บ้านรวมทั้งนัดมาตรวจกับหมอเป็นช่วงๆ

เมื่อมีอาการผิดปกติที่เสี่ยงจะเป็นโรค SLE ข้อใดข้อหนึ่ง (ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว) ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยด่วน



พลูคาว (Houttuynia cordata Thunb)  พลูคาว เป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Houttuynia cordata Thunb มีชื่อท้องถิ่นได้หลายชื่อ เช่น พลูคาว ผักคาวตอง ผักก้านตอง ในประเทศไทยพบมากทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พลูคาว มีองค์ประกอบทางเคมี ที่สำคัญ 6 ประเภทคือ น้ำมันหอมระเหย (Volatile oil), สารประเภท ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids), สารประเภท อัลคาลอยด์ (Alkaloid), สารประเภทกรดไขมัน  (Fatty acids), สารประเภทไฟโตเสตอรอล (Phytosterols) และสารประกอบเคมีอื่นๆ ได้แก่ Polyphenolic acid กับแร่ธาตุ เช่น Fluoride, Potassium chloride, Potassium sulfate  งานวิจัยของพลูคาวกับระบบภูมิคุ้มกัน เป็นเรื่องที่น่าสนใจและแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะแนวโน้มพบว่า เสริมภูมิคุ้มกัน ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่นโรคเอดส์ ขณะเดียวกัน ก็ลดภูมิคุ้มกันในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไวเกิน เช่นโรค SLE หรือภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง
นอกจากนี้เจียวกู่หลานยังช่วยปรับสมดุลของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่สร้างภูมิคุ้มกันมากจนเกินไป หรือสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ จนทำให้มีอาการข้ออักเสบหรือมีอาการของโรค SLE ที่เป็นโรคเรื้อรังในปัจจุบัน โดยมีผลต่อการทำงานของร่างกายที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงการทำงานของอวัยวะภายในให้แข็งแรงและปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาท ระบบฮอร์โมนให้เป็นปกติจากความเครียด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า สมุนไพรเจียวกู่หลานนั้นเป็น Adaptogen ที่ดีกว่าสมุนไพรชนิดอื่น ๆ
เอกสารอ้างอิง