แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - onew4ad4a5

หน้า: [1]
1

บัวบก
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในสกุลผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพรบัวบก มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ ฯลฯ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน
เมื่อพูดถึงบัวบก สมุนไพรชนิดนี้ขึ้นมาทีไร ผู้คนจำนวนมากคงจะนึกไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการบอบช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แต่ว่าอันที่จริงแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณเยอะแยะ เนื่องจากได้รับการกล่าวขวัญเกี่ยวการรักษาโรคได้หลายชนิด อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเดิน ท้องเฟ้อ แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยทำนุบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนแรงของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายแบบ อาทิเช่น บราโมซัยด์ บราไม่โนซัยด์ สามเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการอักเสบ และก็ยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม แล้วก็กรดอะมิโน ยกตัวอย่างเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน เป็นต้น
ใบบัวบกเหมาะสำหรับผู้ที่ขี้ร้อน มีภาวะเข้มแข็ง หรือมีความร้อนเปียกชื้น เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบกคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบก
คุณประโยชน์ของใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่มีระดับสารออกซาเลตที่เป็นโทษต่อสภาพทางด้านร่างกายในจำนวนต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนวัย ย้อนอายุแล้วก็วัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยเสริมสร้างรวมทั้งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนรวมทั้งอีลาสติน
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย
ประโยช์จากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษาและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เพราะว่าบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการกางใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นมัวแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยทำนุบำรุงประสาทและก็สมองเสมือนใบแปะก๊วย
ช่วยทำให้ความจำดีขึ้นและก็ทำให้มีปฏิภาณความฉลาดมากเพิ่มขึ้น
ช่วยเพิ่มความจำในคนแก่
มั่นใจว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มความฉลาดทางสติปัญญา ความฉลาด รวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับในการทำความเข้าใจ
ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยชะลออาการโรคโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจสำหรับในการตกลงใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดหัวข้างเดียว
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ
ช่วยคลายความเครียด
ช่วยเสริมแนวทางการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายแล้วก็ทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆเจริญเพิ่มขึ้น
ช่วยกระตุ้นการผลิตเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงโลหิตภายในร่างกาย
ช่วยทำนุบำรุงหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยให้จิตใจมีชีวิตชีวา อารมณ์แจ่มใส
ช่วยทำให้หน้าตาแจ่มใสราวกับเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยทำนุบำรุงเสียง
ช่วยรักษาลักษณะการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดประมาณ 1 กำมือ เอามาตำคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบรับประทานเสมอๆ
ช่วยแก้อยากดื่มน้ำสรรพคุณใบบัวบก
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานก้าวหน้า
ช่วยรักษาโรคโรคดีซ่านจากภาวะร้อนเปียกชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายก้อนกรวด 30 กรัม ต้มน้ำ
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยถนอมอาหารหืด
ช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วเอามาดื่ม หรือจะใช้บัวบกใหม่ๆต้นราวๆ 30 กรัมนำมาค้นเอาน้ำ เติมน้ำตาลนิดหน่อยแล้วดื่มกินราวๆ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในช่วงแรก ด้วยการใช้บัวบกและเปลือกของลูกหมาก 1 ผล นำมาต้มกับสุราดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นโลหิต รวมทั้งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสลด
ช่วยแก้อาการอ่อนล้า อ่อนล้า
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา เนื่องจากทำให้เลือดเดิน แต่ว่าเลือดจะไม่ออกจากเส้นโลหิตรวมทั้งยังทำให้อำมหิตอีกด้วย
ช่วยแก้อาการบอบช้ำใน เจ็บจากการกระทบชน
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยทำให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องเดิน
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์คุ้มครองป้องกันรวมทั้งยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อขับถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับฉี่
แก้อาการเยี่ยวติดขัด ด้วยการใช้ใบบัวบกราวๆ 50 กรัม เอามาตำแล้วพอกรอบๆสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะคล่องแคล่วดีแล้วค่อยเอาออก
ช่วยขับความร้อนเปียกชื้นฟุตบาทฉี่ คุ้มครองปกป้องการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเท้าฉี่ด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกจากเยี่ยว
ช่วยแก้อาการน้ำดีภายในร่างกายมากเกินความจำเป็น
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบ
แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการกางใบสดราวๆ 20 ใบเอามาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วเพิ่มขึ้น ช่วยรีบการสร้างเนื้อเยื่อ
ช่วยแก้อาการฟกช้ำดำเขียว ด้วยการกางใบบัวบกมาตีให้แหลกแล้วนำมาโปะรอบๆที่ฟกช้ำดำเขียว หรือจะใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 40 กรัม ต้มกับสุราแดงราว 250 cc. โดยประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำนำมาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกเอามาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆดังเช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด ฝึกฝน เป็นต้น
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุทำให้มีการเกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้อย่างดีเยี่ยมรวมทั้งใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาทำลายพิษ ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ต้นสดของบัวบกโดยประมาณ 3 ต้นเอามาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟเผา
บัวบกมีการนำมาสร้างเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีคุณประโยชน์สำหรับการช่วยบำรุงสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
ปัจจุบันนี้มีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในแบบเป็นผงใช้โรยแผล รวมทั้งในรูปแบบเม็ดกินเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟเผา น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และยังช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดแผลอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ แล้วค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบและเถาบัวบกใช้กินเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
น้ำคั้นจากใบบัวบกเอามาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ชโลมศีรษะ มีสรรพคุณช่วยบำรุงหนังหัวรวมทั้งเส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ แก้ปัญหาผมหล่น ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนอย่างมาก เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัดสารพัน
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิวและไม่เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบสำหรับในการผลิตเครื่องแต่งตัว
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นสิ่งของปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนกระทั่งละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วรอบๆหางตาหรือทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้โดยประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาทุกเมื่อเชื่อวันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตกล่าวถึงว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้

วิธีการทำน้ำบัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำบัวบกแนวทางการทำน้ำบัวบก ควรที่จะทำการเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า กินเป็นผักสด โดยใช้อีกทั้งรากเอามาล้างน้ำชำระล้าง
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนนำมาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำลำดับที่สองเพื่อให้ได้ตัวยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรใช้น้ำสะอาด และห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองไม่ได้)
ข้างหลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกจำเป็นต้องคั้นใหม่ๆจากใบสดๆและไม่ควรจะเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรจะแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าเกิดทำมาจากน้ำต้มใบเตย จะมีผลให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
คุณประโยชน์ของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน บอบช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่จะต้องจัดเตรียมดังเช่นว่า บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลานิดหน่อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้ทอด
นำบัวบกมาล้างกระทั่งสะอาดแล้วหั่นตรอกเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เติมเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ซอกซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนจนเข้ากัน
เอามาทอดในไฟอ่อนจนถึงไข่สุก
คุณประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ รวมทั้งหน้ามืดศีรษะ
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
จัดแจงวัตถุดิบดังต่อไปนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบ / หอมแดงหั่นหยาบ / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นหยาบๆให้พอดีคำ
นำแป้งที่ใช้สำหรับทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย และเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นเตรียมไว้ เอามาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักแล้วต่อจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว เอามาทอดให้พอเหลืองกรอบแล้วชูลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย นำมาจิ้มกินกับน้ำปรุงรสไก่ตามที่ใจต้องการได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้เตรียมวัตถุดิบดังต่อไปนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งสารพัดประโยชน์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาลทราย 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างชำระล้างแล้วหั่นอย่างรอบคอบ โดยตัดก้านรวมทั้งใบออกจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบเอามาเรียงซ้อนกันแล้วหั่นตามขวางและกลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งและก็ผงฟูมาร่อนผ่านตะแกรง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้กับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู ราวๆ 1 นาที
ใส่ไข่ไก่และก็กลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้เข้ากัน
ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละเล็กทีละน้อย (ครั้งละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งผอง) แล้วตีแป้งให้กับส่วนผสมทั้งสิ้น
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันอีกรอบ
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่อยาก
ใช้เวลาอบราว 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิราว 250 องศา หรือดูว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
กระบวนการทำน้ำมันบัวบก
จัดเตรียมส่วนผสมดังนี้ บัวบก 4 กก. / น้ำมันที่สกัดจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำสะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เติมน้ำลงไปในบัวบก แล้วค่อยนำไปปั่นจนละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองมัวแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปต้มกับน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆราวๆ 80 องศาเซลเซียส
ต้มไปเรื่อยจนเหลือแค่น้ำมันมะพร้าว โดยให้พินิจลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบทราย ถือว่าเป็นอันใช้ได้ ยกลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เป็นอันเสร็จ
วิธีการใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้เอามาชโลมเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งเอาไว้ราว 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมยาสระผมตามปกติ เท่านี้ก็เรียบร้อย
น้ำมันบัวบก คุณประโยชน์ช่วยบำรุงหนังหัวรวมทั้งเส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ แก้ไขปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
การตักเตือนแล้วก็คำแนะนำ
คุณประโยชน์ของใบบัวบกการรับประทานใบบัวบกคุณควรพินิจเบื้องต้นของร่างกาย อย่ามองแม้กระนั้นสรรพคุณเพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะสมกับมีภาวการณ์เย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องอืดเสมอๆ
การกินบัวบกในจำนวนที่มากเกินไป จะทำให้ธาตุในร่างกา
http://www.disthai.com/

Tags : ประโยชน์บัวบก

2

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่พวกเราต่างรู้จักกันดีในฐานะของผักพื้นเมือง นิยมเอามารับประทานกับน้ำพริกหรือเมนูอาหารต่างๆแบบสดๆและก็ยังนิยมเอามาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำใบบัวบกเพื่อดับกระหาย แก้บอบช้ำใน และก็เพื่อช่วยบำรุงรักษาร่างกาย ซึ่งจัดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในแถบเอเชียเรานี้เอง ด้วยคุณค่าที่นานาประการ จึงทำให้มันเป็นทั้งยังยารักษาโรคแล้วก็ตัวดูแลสุขภาพ ในปัจจุบันเริ่มมีการทำศึกษาค้นคว้า สกัดสารสำคัญในใบบัวบกประยุกต์ใช้สำหรับในการรักษาในรูปของยาแคปซูล รวมทั้งบัวบกผงสำหรับชงดื่มอีกด้วย
ลักษณะของใบบัวบก
บัวบก มีชื่อเรียกด้านวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica อยู่ในวงศ์ Umbelliferae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับผักชี ส่วนชื่อท้องถิ่นถูกเรียกในชื่อที่นานัปการ ได้แก่ ผักแว่น ผักหนอก และกะโต่ เป็นต้น  ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นพืชล้มลุก มีกอติดอยู่กับพื้นดิน ลำต้นจะเลื้อยแพร่กิ่งก้านไปตามพื้นดินในแนวยาว มีอายุยืนยาวได้นานหลายปี การแตกรากและก็ใบจะเกิดขึ้นตามข้อ ลักษณะเป็นใบคนเดียว มีรูปร่างเหมือนไต จะออกเป็นกรุ๊ปตามข้อ ขอบของใบหยัก มีก้านใบยื่นยาวออกมา ดอกเป็นสีม่วงคละเคล้าแดง ผลแบน ออกเป็นดอกโดดเดี่ยวหรือช่อขนาดเล็กประมาณ 3-4 ดอก มีเอกเอกลักษณ์ในเรื่องของกลิ่น รวมทั้งรสชาติที่ขมปนหวาน
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากใบบัวบักที่นิยมเอามากิน
เราอาจเคยชินว่าบัวบกเป็นพืชสมุนไพรแก้บอบช้ำในเป็นหลัก แต่ว่าอันที่จริงแล้วสมุนไพรจำพวกนี้มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการรักษาอีกนานัปการ ไม่ว่าจะเป็น การรักษาโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเสีย รักษาโรคในกระเพาะ ช่วยบำรุงรักษาสมอง และช่วยเพิ่มความจำ เป็นต้น การกินใบบัวบกแบบสดๆจะทำให้ร่างกายได้สารสำคัญหลายประเภท ที่มักพบคือ "สารไกลโคไซด์" (Glycosides) ซึ่งจัดว่าเป็นสารที่ผลเข้าไปขัดขวางการเกิดสารอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมถอยภาวะของเซลล์แล้วก็เนื้อเยื่อต่างๆภายในร่างกาย มีส่วนช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนที่ผิว กระดูก รวมทั้งเอ็น ทำให้แผลสมานตัวเข้าพบกันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
คุณประโยชน์ของใบบัวบก ไม่ว่าจะเป็นการทานเป็นต้นดิบๆหรือนำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ล้วนมีสรรพคุณทางยาที่ไม่ต่างกัน
เพราะว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็น จะช่วยลดการเกิดอาการร้อนใน ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม ในกรุ๊ปสตรีที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน จำต้องใช้สมองในการทำงานมากๆใบบัวบกจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความจำก้าวหน้า ช่วยลดความเคร่งเครียด ลดการอักเสบที่ผิวหนัง อาการบวมช้ำและก็ร่องรอยไม่ดีเหมือนปกติที่เกิดบนผิวหนัง นอกเหนือจากนี้คนที่บริโภคใบบัวบกหลังการผ่าตัด จะช่วยทำให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น และก็ลดการต่อว่าดเชื้อได้
คุณประโยชน์ของบัวบกกับผลการวิจัย
งานศึกษาวิจัยได้เอ๋ยถึงบัวบกเอาไว้ว่า เป็นพืชที่มีสรรพคุณเด่นในด้านการบำรุงสมองเช่นเดียวกันกับแปะก๊วย ช่วยกระตุ้นสมองสำหรับการจดจำสิ่งต่างๆก้าวหน้าขึ้น และก็ช่วยวิวัฒนาการศึกษาทางสมอง แล้วก็ด้วยลักษณะเด่นพวกนี้ทำให้มันกลายเป็นพืชที่ถูกจดสิทธิบัตรสารสกัดจากบัวบกที่มีหน้าที่่ช่วยเพิ่มความจำ
จากการทดลองในลูกหนู พบว่ามีความจำแล้วก็การเรียนที่ ส่วนในคน มีการทดสอบในเด็กพิเศษ ด้วยการกินบัวบกวันละ 500 มิลลิกรัม ต่อเนื่องกัน 3 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่ามีความรู้และความเข้าใจสำหรับเพื่อการเรียนรู้ที่ดีมากยิ่งกว่า ส่วนในคนวัยชราให้ทดลองรับประทานสารสกัดบัวบก 750 มิลลิกรัม ต่อเนื่องกัน 2 เดือน พบว่า ทั้งยังความจำและการเล่าเรียนดีขึ้น ทั้งยังยังช่วยลดอารมณ์ผันแปร ทำให้คนวัยชรามีร่าเริงแจ่มใสเยอะขึ้นด้วย ในรายที่เป็นวัยทำงาน ได้ทำการทดลองกับผู้หญิงอายุประมาณ 33 ปี กินสารสกัดบัวบก 500 มก. วันละ 2 ครั้ง พบว่าช่วยลดความตึงเครียด ความไม่สบายใจ และภาวะซึมเซาลงได้
เมื่อเจาะลึกลงไปถึงระดับเซลล์ เจอรูปแบบการทำงานของสารสกัดบัวบกที่ตรงเข้าออกฤทธิ์กับสมอง ช่วยให้การหายใจระดับเซลล์ด้านในสมองทำงานเจริญขึ้น มีสารต่อต้านอนุมลอิสระ ช่วยสร้างสมดุลสารสื่อประสาท รวมทั้งต้านการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองได้
การนำใบบัวบกมาใช้บริโภคเพื่อเป็นยา
บัวบกสามารถนำมาใช้เป็นยาได้นานาประการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของต้นสด เมล็ด หรือใบ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบประยุกต์ใช้สูงที่สุด การเลือกใบบัวบกที่ดี ควรจะเลือกใบที่โตเต็มกำลังรวมทั้งสมบูรณ์ ประยุกต์ใช้ตากแห้งป่นเป็นผุยผงใส่ลงในแคปซูลโดยประมาณ 500 มิลลิกรัม รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย
นำเอาใบบัวบกสด 1 กำมือ มาคั้นให้ได้น้ำ หรือตำให้ถี่ถ้วนแล้วผสมกับน้ำ 1 แก้ว คนให้เข้ากันจากนั้นกรองให้เหลือแค่น้ำ ผสมน้ำตาลหรือเกลือก็ได้ตามชอบ ดื่มทีละ 1 แก้ว ก่อนกินอาหารอีกทั้ง 3 มื้อ โดยประมาณ 5-7 วัน จะช่วยลดอาการร้อนในแล้วก็แก้ช้ำในได้
กรณีที่เป็นคนเจ็บโรคความดันโลหิตสูง ให้สามารถดื่มน้ำใบบัวบกทุกวี่วัน ติดต่อกันโดยประมาณ 7 วัน จะช่วยลดระดับความดันให้อยู่ในระดับปกติ
เม็ดของบัวบกที่มีรสขมรวมทั้งเย็น นิยมประยุกต์ใช้แก้ไข้ ลดอาการปวดหัว และแก้บิด

ข้อควรคำนึงในการใช้ใบบัวบก
ก่อนรับประทานใบบัวบกเพื่อเป็นยา จะต้องตรวจตราสุขภาพทางกายของตัวเองก่อนว่ารากฐานแล้วมีโรคประจำตัวอะไรที่มีการเสี่ยงหรือไม่ ด้วยเหตุว่าสารบางจำพวกในใบบัวบก จะเข้าไปทำให้ลักษณะโรคกำเริบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้
ด้วยเหตุว่าบัวบกเป็นยาที่มีฤทธิ์เย็น การรับประทานมากเกินความจำเป็นจะก่อให้สะสมในร่างกายจนรู้สึกหนาวมากขึ้นเรื่อยๆได้
หลีกเลี่ยงการกินใบบัวบกต่อเนื่องกันทุกวี่วัน หรือกินครั้งละมากๆเมื่อกินติดต่อกันโดยประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ก็ควรจะพักผ่อน 1 อาทิตย์ แล้วค่อยกลับมากินใหม่
สำหรับรับประทานใบบัวบกสดๆต่อเนื่องกันทุกๆวัน ควรกินในรูปทรงราววันละ 3-6 ใบ ไม่ควรเหลือเกินกว่านี้
หากร่างกายมีอาการหมดแรง เวียนหัว ใจสั่น หรือหัวใจเต้นไม่ดีเหมือนปกติ รู้สึกคันตามผิวหนัง ท้องร่วง ภายหลังจากการกิน ควรหยุดรับประทานโดยทันทีรวมทั้งรีบเข้าหาแพทย์อย่างเร่งด่วน
ในกลุ่มของผู้คนที่จำต้องกินยาแก้แพ้ ยานอนหลับ หรือยากันชัก ไม่ควรกินใบบัวบก เพราะว่าจะยิ่งไปเพิ่มฤทธิ์ให้รู้สึกง่วงซึมมากขึ้น
ใบบัวบกเป็นพืชสมุนไพรไทยที่หาได้ง่ายทั่วไปตามตลาด มีราคาถูก แต่ล้นหลามด้วยคุณประโยชน์ทางยา ที่จะเป็นช่องทางในการรักษาโรคต่างๆแล้วก็ใช้สำหรับบำรุงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ http://www.disthai.com/

3

รากสามสิบ
รากสามสิบ สรรพคุณสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพที่คนอยากมีลูกห้ามพลาด
          รากสามสิบ คุณประโยชน์เด่นๆของสมุนไพรตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจเคยเห็นสมุนไพรรากสามสิบแบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วรู้ไหมคะว่า คุณประโยชน์ซึ่งมาจากรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยคนอยากมีลูกเพียงแค่นั้น
รากสามสิบ สมุนไพรนี้มีที่มา
          รากสามสิบแท้จริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมากๆเช่น สาวร้อยผัว จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคอีสาน) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
          ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้ารวมทั้งรากใต้ดินเหมือนรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอมหวน เป็นต้นที่ส่งผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน รวมทั้งมีเมล็ดสีดำ
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
สรรพคุณรากสามสิบ
          รากสามสิบถูกเทียบให้เป็นพลังที่การบูรณะความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณแล้วก็หมอสมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งก็นับเป็นต้นเหตุของชื่อสาวร้อยผัว ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนสมัยเก่ามักจะนำรากมาต้มรับประทานหรือปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อๆกันว่า จะช่วยบำรุงสตรีให้ไมว่าจะอายุมากแค่ไหนก็มีลูกได้ง่าย
          นอกจากนั้นสมุนไพรรากสามสิบยังผ่านการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยคุณประโยชน์มาจำนวนมาก โดยพบว่า รากสามสิบมีสรรพคุณทางเภสัชวิทยาตามนี้ประจำตัวอยู่ด้วย
          - ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียรวมทั้งเชื้อรา
          - คลายกล้ามเนื้อมดลูก
          - บำรุงหัวใจ
          - ลดการอักเสบ
          - แก้ปวด
          - ยั้งโรคเบาหวาน
          - ปราบเซลล์ของโรคมะเร็ง
          - กระตุ้นภูมิต้านทาน
รากสามสิบ
          - ต่อต้านภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
          - ลดระดับไขมันเลือด
          - คุ้มครองกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
          - ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง
          - มีฤทธิ์ใกล้เคียงฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)
          - ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนผู้หญิง
          - ขับนม
          - ช่วยให้การตกไข่บริบูรณ์
          - ช่วยทำนุบำรุงกำลังท่านชาย
          - เสริมความแข็งแรงของน้ำเชื้ออสุจิ
          - ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
          - ลดอาการกรดเกินในกระเพาะ
          - ยับยั้งพิษต่อตับ
          - แก้ริดสีดวงทวาร
          - ขับลม
          - ขับเยี่ยว
          - ขับเสลด
          - บำรุงทารกในท้อง
          - แก้แท้งลูก
          - รักษาโรคคอพอก
          - แก้เมื่อย ครั่นตัว
          - ฝนรากทาเป็นยาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้
          - กระตุ้นประสาท บำรุงกำลัง
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
          และด้วยคุณประโยชน์ของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยจังหวัดพะเยาจีงได้ทำการศึกษาเรียนรู้เรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการป้องกันการสลายเนื้อกระดูกรวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เนื่องมาจากมองเห็นว่า โรคกระดูกพรุนซึ่งมักจะกำเนิดกับเพศหญิงมากยิ่งกว่าเพศชายนั้น มีมูลเหตุหลักจากการต่ำลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนคราวหลังหมดเมนส์ โดยได้ผลการทดสอบมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบภายหลังถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากรุ๊ปหนูถูกตัดรังไข่แต่ว่าไม่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบ
          นอกจากนั้นสารสกัดรากสามสิบยังไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการเปลี่ยนแปลงในเยื่อบุโพรงมดลูก ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันการสลายของเนื้อกระดูกในตัวทดลองได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆก็ตามต่ออวัยวะสืบพันธุ์ แต่ทว่ายังคงจะต้องทดลองเพิ่มเติมเพื่อศึกษาเรียนรู้ว่า สารสกัดรากสามสิบจะทำให้เกิดผลเสียใดๆก็ตามกับอวัยวะอื่นไหม
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี       

หารากสามสิบได้จากที่ไหน
          หากแม้ต้นรากสามสิบจะยังมีให้มองเห็นอยู่ในประเทศไทย แต่ว่าก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปขุดหารากสามสิบมาต้มรับประทานให้เหนื่อย เพราะว่าปัจจุบันมีสารสกัดรากสามสิบในรูปแคปซูลมาให้เลือกซื้อล้นหลาม แต่ทั้งนี้ควรตรวจตราให้แน่ว่าแคปซูลรากสามสิบมีสัญลักษณ์รวมทั้งได้รับการรับรองจากหน่วยงานของกินแล้วก็ยาหรือไม่
          แต่หากคนใดกันสามารถหาต้นรากสามสิบใหม่ๆได้ จะเอามาต้มยารับประทานเองเราก็มีสูตรยาสมุนไพรรากสามสิบมาให้ด้วยค่ะ
น้ำรากสามสิบ (สูตรเริ่มแรก)
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโลกรัม
  • น้ำ 10 ลิตร


     กระบวนการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกเปลือกและก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกรอบ
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากสามสิบ ลงในหม้อต้ม
  • ต้มราว 3 ชั่วโมง
  • ชิมรส และสามารถเติมน้ำตาลกรวดหรือใบเตยเพิ่มความหอมลงไปได้
รากสามสิบแช่อิ่ม
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโลกรัม
  • น้ำตาลทราย 1.5 โล
  • น้ำ 5 ลิตร
    วิธีทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกรวมทั้งดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกที
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • เพิ่มน้ำตาล ลงในหม้อต้ม
  • เคี่ยวจนถึงน้ำตาลละลายหมด
  • ใส่รากสามสิบ
  • เคี่ยวต่อจนถึงเป็นสีเหลืองทอง
รากสามสิบ
ข้อควรพิจารณาในการใช้สมุนไพรรากสามสิบ
          ด้วยเหตุว่าสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยเหตุนี้จึงจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อเพศหญิงที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว เป็นต้นว่า ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) เป็นต้น ด้วยเหตุนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรจะขอความเห็นหมอก่อนที่จะยอดเยี่ยมนะคะ       
          เห็นสรรพคุณรากสามสิบกันไปแล้วหลายท่านเริ่มสนใจต้องการหารากสามสิบมาบำรุงสุขภาพกันบ้าง แต่ว่าก็อย่าลืมที่เตือนไว้นะคะ ก่อนซื้อแคปซูลรากสามสิบมากิน ควรตรวจสอบที่มาที่ไปและยี่ห้อ รวมถึงการยืนยันจากหน่วยงานที่น่าไว้ใจด้วย http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

4

ราชพฤกษ์
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
   จากสมัยก่อนก่อนหน้าที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางด้านราชการมีความอุตสาหะหลายครั้งสำหรับเพื่อการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนด ต้นไม้ และ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มที่กรมป่าไม้ได้ชักชวนให้พลเมืองสนใจต้นราชพฤกษ์หรือคูณมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2494 โดยรัฐบาลลงความเห็นให้ถือวันที่ 24 เดือนมิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (arbour day) มีการเชิญให้ปลูกต้นไม้ที่เป็นประโยชน์จำพวกต่างๆเยอะแยะ ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ น่าจะถือเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนถึงในปี พ.ศ.2506 มีการสัมมนาเพื่อกำหนดเครื่องหมายต้นไม้และก็สัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ พืชที่มีความมงคลที่มีประโยชน์และก็รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นต้นไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวพันกับประเพณีไทยและก็ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอคราวนั้นไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ตลอดระยะเวลาก่อนหน้าที่ผ่านมาสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกราชยก็เลยมีมากมาย ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่คนประเทศไทยรู้จักดีและก็ประสบพบเห็นบ่อยมาก เช่น พระปรางค์วัดอรุณฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เหมือนกับ ต้นราชพฤกษ์ รวมทั้ง ช้างเผือก ยังคงถูกชมเชยให้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติตลอดมา
            ปี พ.ศ.2530 มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกรอบ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระอายุครบ 5 รอบ โดยมีการสนับสนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วราชอาณาจักรปริมาณ 99,999 ต้น ขณะนี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่จำนวนมากทั้งประเทศไทย
            ผลสรุปเรื่องสัญลักษณ์ประจำชาติดูเหมือนจะยังไม่ชัดเจน จนถึงตอนปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วกลับมาเสนออีกที และมีข้อสรุปเสนอให้มีการกำหนดเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่งคือ ดอกไม้ สัตว์รวมทั้งสถาปัตยกรรม และการพิเคราะห์ก่อนหน้าที่ผ่านมาเสนอให้กำหนดดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติ คือ ช้างไทย และก็สถาปัตยกรรมประจำชาติคือ ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติเพราะเหตุว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นเป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้เป็นต้นไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ เป็นต้นไม้ที่แก่ยืน แข็งแรง ปลูกขึ้นได้ดีทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นต้นไม้ท้องถิ่นที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อต่างกันในแต่ละภาค อาทิเช่น ลมแล้ง คูน อ๋อดิบ ราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลใช้ประโยชน์ในพิธีการสำคัญๆตัวอย่างเช่น ลงหลักเมือง ลงเสาฤกษ์ ทำคฑาจอมพลและยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในฤดูร้อนราชพฤกษ์จะออกดอกสะพรั่งต้น ช่อดอกมีรูปทรงสวยงาม สีเหลืองสวยงามเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำประเทศ รวมถึงเป็นสีเดียวกับวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกจากนี้ความสวยสดงดงามของช่อดอก แล้วก็ความหมายที่ดียังถูกจำลองแบบตกแต่งไว้บนอินทรธนูของข้าราชการพลเรือนอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อด้านวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์ คือ Cassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองงามที่พบได้มากมองเห็นได้ทั่วไปตามข้างถนนสายต่างๆคือสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการชื่นชมให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย อีกทั้งเชื่อว่าฯลฯไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนในบ้านทรงเกียรติขั้นชื่อ เสียงเพิ่มมากขึ้นด้วย ยิ่งใกล้เข้าสู่เวลาที่การเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำเนื้อหาเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันแรง
ประวัติความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน ฯลฯไม้ท้องถิ่นของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ประเทศปากีสถาน ประเทศอินเดีย ประเทศพม่า และศรีลังกา โดยนิยมนำมาปลูกกันมากมายในเขตร้อน สามารถเจริญเติบโตเจริญใน และมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2506 แต่ว่าก็ยังไม่ได้บทสรุปแจ่มกระจ่าง จวบจนกระทั่งมีการเซ็นชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2544

ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องจากว่า ต้นราชพฤกษ์ มีดอกสีเหลืองชูช่อ ดูสง่างาม ทั้งยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระเจ้าอยู่หัว" แล้วก็มีการเซ็นชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย รวมทั้ง 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องจากว่าฯลฯไม้ประจำถิ่นที่รู้จักกันอย่างมากมาย และมีอยู่ทุกภาคของเมืองไทย
  • มีประวัติเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมหลักๆในไทยและก็ฯลฯพืชที่มีความมงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้มากมาย ได้แก่ ใช้เป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ เป็นต้น
  • มีสีเหลืองงาม พุ่มงามเต็มต้น เปรียบเทียบเป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศาสนา
  • มีอายุยืนนาน และทน
ลักษณะทั่วไป
           เป็นต้นไม้ขนาดกลาง สูงโดยประมาณ 10-20 เมตร ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองแพรวพราว แต่ละช่อยาวประมาณ 20-40 ซม. โดยกลีบจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ มีผลยาวโดยประมาณ 30-60 ซม. มีกลิ่นแรง รวมทั้งมีเม็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมนำมาปลูกด้วยเม็ด โดยจะมีการเจริญเติบโตช้าในช่วง 1-3 ปีแรก แม้กระนั้นหลังจากนั้นจะมีการเติบโตเร็วขึ้น รวมทั้งออกดอกตอนอายุประมาณ 4-5 ปี
การดูแลรักษา
           แสง : อยากแดดจัด หรือกลางแจ้ง และเติบโตได้ดิบได้ดีในที่โล่งเป็นพิเศษ
           น้ำ : ถูกใจน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพอากาศร้อนเจริญ
           ดิน : สามารถเติบโตเจริญในดินที่ร่วนซุย ดินร่วนผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยมูลสัตว์ ในอัตรา 2-3 กก.ต่อต้น และควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           วิธีเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยมเป็นการเพาะเมล็ด โดยใช้เม็ดสดๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แม้กระนั้นจะต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน เพราะเหตุว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ผ่านวัน จึงค่อยเทน้ำออกให้เหลือจำนวนพอเพียงหล่อเลี้ยงเม็ดได้ แล้วต่อจากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากแตกหน่อ และสามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อถือเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าเป็นต้นพืชที่มีความมงคล ที่ควรปลูกเอาไว้ภายในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และก็ถ้าหากปลูกเอาไว้ในบ้านจะช่วยทำให้มีเกียรติขั้น เกียรติ และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยศาสตร์ โดยใช้ใบทำน้ำพระพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ เพราะเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนาม http://www.disthai.com/

หน้า: [1]