โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ
ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: Jirasak2708 ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2018, 08:40:42 am
-
สิ่งที่ผู้ทำเว็บไซต์ควรต้องเตรียมก่อนที่จะมีการดีไซน์จริง
(https://s23.postimg.org/h8r0lau7f/website_building.png)
กรรมวิธีออกแบบเว็บไซต์
การเขียนเว็บไซต์ให้มีข้อมูลและก็เนื้อหาที่ครบถ้วนและก็ครอบคลุมกับความต้องการ เว็บไซต์มีความสวยสดงดงาม อีกทั้งง่ายต่อการดูและเปลี่ยนแปลงข้อมูลในวันหลังนั้น จะต้องมีการวางเป้าหมายในการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี ซึ่งเพียงพอสรุปขั้นตอนได้ดังนี้เป็น
1. กำหนดจุดมุ่งหมายของเว็บ การทำเว็บไซต์ ควรจะเริ่มจากการกำหนดเป้าประสงค์ให้เห็นภาพชัดเจนว่าต้องการพรีเซนเทชั่นหรือต้องการให้เป็นผลอะไร เมื่อทราบเป้าหมายและจากนั้นก็จะสามารถระบุข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ที่เกี่ยวได้ เป็นต้นว่าลักษณะเค้าหน้ารวมทั้งสีสันของเว็บเพจ
2. กำหนดกลุ่มผู้ชมวัตถุประสงค์ เมื่อรู้วัตถุประสงค์ของการทำเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการกำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่จะเข้าชมและใช้บริการเว็บไซต์แห่งนี้เพื่อทำเว็บไซต์ให้ตอบทำให้ตามที่ต้องการของคนพวกนี้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเนื้อหา โทนสี กราฟิก รวมทั้งเทคโนโลยีที่เอามาส่งเสริมการผลิตเว็บไซต์
3. ตระเตรียมแหล่งข้อมูล รายละเอียดหรือข้อมูลนับเป็นสาระสำคัญของการผลิตเว็บ ด้วยเหตุนี้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ก็เลยควรต้องรู้ว่าจะต้องนำข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งใดบ้าง เพื่อให้ข้อมูลบนเว็บไซต์บริบูรณ์ที่สุด
รายละเอียดที่ต้องมีในเว็บไซต์
การเล่าเรียนตัวอย่างจากเว็บทั่วไป จะช่วยให้พวกเราเห็นว่าในเว็บของพวกเราควรมีรายละเอียดอะไรบ้างแม้กระนั้นเนื้อหาต่างๆบนเว็บไซต์นั้นไม่มีข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะนำเสนอรวมทั้งจุดแข็งที่เราต้องการให้มี ซึ่งจะมีผลให้รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละเว็บไม่เหมือนกันออกไป แม้กระนั้นหลักๆสำคัญแล้ว พอเพียงสรุปได้ว่าข้อมูลรากฐานที่จะต้องมีในเว็บควรประกอบด้วย
1. เนื้อหาเกี่ยวกับบริษัท หน่วยงาน หรือคนจัดทำ (About Us) คือเนื้อหาสาระเกี่ยวกับผู้ครอบครองเว็บ เพื่อบอกให้ผู้ชมทราบว่าพวกเราเป็นคนใดกัน มาจากไหน และอยากได้นำเสนออะไรตัวอย่างเช่น จุดมุ่งหมายของเว็บ ประวัติความเป็นมา สถานที่ที่ตั้งของหน่วยงาน ฯลฯ
2. รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ(Product/Service Information) เป็นข้อมูลหลักที่เราเสนอในเว็บ ซึ่งถ้าเป็นเว็บทางธุรกิจ ผู้เข้าชมบางทีอาจต้องการรู้รายละเอียดของสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ของเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ว่าหากเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ ส่วนนี้ก็อาจจะมีบทความ ภาพกราฟิกมัลติมีเดีย และการเชื่อมต่อไปยังเว็บอื่นเพื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้
3. ข่าว (News / Press Release) บางทีอาจเป็นข่าวสารที่อยากส่งถึงคนทั่วๆไปหรือสมาชิก เพื่อให้รับทราบการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบริษัทหรือเว็บของเรา ดังเช่นการเปิดตัวสินค้าบริการใหม่ๆโปรโมชั่นสินค้าประจำเดือน หรือกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น
4. ปัญหาคำตอบ (Frequently Asked Question)ปัญหาคำตอบมีความจำเป็น เพราะผู้เข้าชมนิดหน่อยอาจไม่รู้เรื่องข้อมูลหรือมีปัญหาที่อยากถามไถ่การติดต่อทางอีเมล์หรือช่องทางอื่น หากว่าจะทำได้แต่ว่าเสียเวลาด้วยเหตุนี้เราควรจะคาดหมายหรือเก็บรวบรวมปัญหาที่เคยตอบไปแล้วใส่ไว้ในเว็บเพจ ซึ่งผู้เข้าชมที่สงสัยจะสามารถเปิดดุได้โดยทันที นอกนั้น อาจมีกระดานข่าวสารสำหรับให้ผู้ดูแลเว็บรอตอบปัญหา รวมถึงอาจเปิดให้ผู้เข้าชมร่วมกันก็ได้
5. ข้อมูลในการติดต่อ (Contact Information) เพื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ของพวกเราที่เกิดเรื่องที่น่าสงสัย หรืออยากได้ซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับเราได้ ควรเจาะจงอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้ไว้ ด้วย แล้วก็อาจมีแผนที่สำหรับลูกค้าที่จำต้องการติดต่อโดยตรง
องค์ประกอบของหน้าเว็บเพจ
โดยธรรมดา หน้าเว็บเพจจะแบ่งได้ส่วนหลักๆดังนี้คือ
1. ท่อนหัว (Page Header) อยู่ตอนข้างบนสุดของหน้าเว็บเพจ เป็นรอบๆที่สำคัญที่สุด เนื่องด้วยผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บจะเห็นก่อนบริเวณอื่น ส่วนใหญ่นิยมใช้วางโลโก้ ชื่อเว็บ ป้ายที่ใช้โฆษณา ลิงค์สำหรับการติดต่อ หรือลิงค์ที่สำคัญและก็ระบบนำทาง
2. ส่วนรายละเอียด (Page Body) อยู่ใจกลางหน้า ใช้แสดงเนื้อหาภายในเว็บเพจซึ่งบางทีอาจประกอบไปด้วยใจความ ภาพกราฟิก ตารางข้อมูล และก็อื่นๆบางทีเมนูหลักหรือรายการอาหารเฉพาะกรุ๊ป บางทีอาจอยู่ในส่วนนี้ก็ได้ โดยมักวางไว้ทางซ้ายมือสุด เหตุเพราะผู้เข้าชมจะแลเห็นได้ง่าย
3. ส่วนท้าย (Page Footer) อยู่ข้างล่างสุดของหน้าเว็บเพจส่วนมากจะนิยมใช้วางระบบนำทางด้านในเว็บไซต์แบบที่เป็นลิงค์ข้อความง่ายๆยิ่งกว่านั้นก็อาจจะมีชื่อของผู้ครอบครองเว็บ ข้อความแสดงลิขสิทธิ์ และก็อีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้ดูแลเว็บไซต์
4. แถบข้าง (Side Bar) ปัจจุบันจะนิยมวางแบบด้านข้างของหน้าเว็บเพจให้น่าดึงดูด เพื่อใช้วางป้ายแบนเนอร์ หรือลิงค์ชี้แนะเกี่ยวกับบริการของเว็บไซต์ เป็น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้ออกแบบเว็บไซต์ (http://www.designbykeng.com/)
Tags : รับทำเว็บ,รับทำเว็บโรงแรม,รับทำเว็บราคาถูก