โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ
ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: Luckyz0nl3 ที่ ธันวาคม 30, 2017, 01:31:57 pm
-
(http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87.png)
น้ำขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิงเป็นสมุนไพร รวมทั้งเครื่องเทศที่ช่วยชาติไทยจีนรวมทั้งประเทศอินเดียรู้จักใช้มาตั้งแต่โบราณ หนังสือเรียนสรรพคุณโบราณของไทยว่าขิงสด มีรสหวานเผ็ดร้อน
มีสรรพคุณ แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ ขับลมในไส้ให้ผายรวมทั้งเรอ ด้วยเหตุนี้น้ำขิงนอกเหนือจากการที่จะช่วยละลายยาให้รับประทานยาง่ายแล้ว ยังช่วยแต่งรถให้น่าอร่อยยิ่งขึ้นทั้งมีสรรพคุณทางยาที่สามารถเสริมฤทธิ์ตัวยา ในยาขนานนั้นได้อีกด้วย ทิ้งที่นำมาใช้ตระเตรียมน้ำขิง สำหรับทำเป็นกระสายยานั้น มักใช้ขิงแก่สดสูตรเอาผิวนอกออก ล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆต้มกับน้ำตามอยากส่วนขิงที่นำมาใช้เป็นเครื่องเทศนิยมใช้ทั้งยังสดรวมทั้งแห้งหินอ่อนและขิงแก่โดยมักใช้ขิงที่ยังอ่อนอยู่ ทำอาหารที่ไม่ต้องการรสเผ็ดมาก โบราณว่าขิงแห้งมีรสหวานเผ็ดร้อนมีคุณประโยชน์แก้ไข้แก้ลมแก้จุกเสียดแก้เสลดบำรุงธาตุแก้คลื่นเห*ยน คลื่นไส้ สวนหินสดมีรสหวานเผ็ดร้อนมีคุณประโยชน์แก้ปวดท้องบำรุงธาตุ ขับลมในลําไส้ให้ผายลมและเรอ
สมุนไพร (http://www.disthai.com/) ยาในตอนที่ ๕๓ ในตำราเรียนพระยาพระนารายณ์ชื่อ “มหากระทัศใหญ่” ที่ใช้แก้ลมทุกชนิดนั้น ให้ใช้น้ำผึ้ง น้ำขิง น้ำส้มซ่า หรือน้ำกระเทียม เป็นน้ำกระสายยาก็ได้ สุดแท้แต่หมอผู้วางยาจะสับเปลี่ยนให้ต้องโรคจำต้องอาการ ดังนี้ “มหากทัศใหญ่” ให้เอาโกฏสอเทศ เทียน ๕ รากเจตมูลไฟ ผลกระวาน ใบกระวาน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99/) ผลอันใหญ่ สะค้าน (http://www.disthai.com/16488299/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99) เปลือกสมุลแว้ง ขิงแห้ง ว่านน้ำ (http://www.disthai.com/16488304/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3) พริกล่อน รากไคร้เครือ น้ำประสานทอง ลูกจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/) ดอกจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/) เกลือบก สิ่งละส่วน การะบูร กานพลู (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/) เทียนตาตั๊กแตน เทียนเกล็ดหอย สหัสคุณก็ได้ เปล้าน้อยก็ได้ สิ่งละ ๘ส่วน ดีปลี ๒๐ ส่วน กระทำเป็นผุยผง ละลายน้ำผึ้ง น้ำขิงน้ำส้มส้า น้ำกระเทียมก็ได้ กินหนักสลึงหนึ่ง แก้ลมปัตฆาฏ ลมอัมพาต ลมราทยักษ์ หากลมนั้นเบากำลังยานั้นก็จะให้ร้อนถึงปลายมือปลายเท้า บรรดาลมทั้งหมดแก้ได้หายสิ้นแลฯ
ขิง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87/)มีชื่อเรียกในภาษาสันสกฤตว่า srigavere ซึ่งแผลงเป็น zingiber เมื่อทำให้เป็นภาษาละตินเพื่อตั้งเป็นชื่อสกุลและก็ชื่อสกุล ตามหลักสากลสำหรับเพื่อการตั้งชื่อพฤกษศาสตร์ ฝรั่งเรียกว่าขิง ginger ตามที่เรียกกันในภาษาแขก ผู้รู้ทางภาษาผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยสันนิศฐานว่า คำ “ขิง” ในภาษาไทย ก็น่าจะมีที่มาจากภาษาแขกนี้เอง แต่ว่าเรียกให้สั้นลง
ขิง เป็นเหง้าของพืชขนาดเล็กที่มี
ชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ว่า Zingiber officnale Roscoe
ในตระกูล Zingoberaceae
เป็นพืชอายุนับเป็นเวลาหลายปี สูง ๓๐-๙๐เซนตำหนิเมตนมีเหง้าที่มีกาบใบบางๆห่อหุ้ม เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อเหง้ามีสีนวล มีกลิ่นเฉพาะ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกสลับกัน รูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายใบแหลม ขอบของใบเรียบ ขนาดกว้าง ๑-๓ ซม. ยาว ๑๐-๒๕เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อ ช่อดอกแทงขึ้นโดยตรงจากเหง้า ก้านช่อดอกยาว๑๐-๒๐ เซนติเมตร มีใบปนะดับ สีเขียวอ่อน ดอกย่อย ไม่มีก้าน ดอกมีสีเหลือง ปลายกลีบเป็นสีม่วงแดง ผลได้ผลแห้ง มี๓ พู
(http://www.คลัง[url=http://www.disthai.com/][b]สมุนไพร[/b][/url].com/wp-content/uploads/2017/06/0001.jpg)
ขิงมีส่วนประกอบเป็นชันน้ำมัน (oleoresin)อยู่ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ขิงมีรสเผ็ดแล้วก็ มีกลิ่นหอม ถ้าสกัดชันน้ำมันนี้ ด้วยตัวทำละลาย บางประเภทจะได้ชันน้ำมันที่แทบบริสุทธิ์ซึ่งมีลักษณะข้นเหนียว สีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นฉุนและก็รสเผ็ด มีชื่อเรียกเชิงพาณิชย์ว่า “จินพบริน” (gingerin) มีสารในกรุ๊ปจินเจอรอล ( gingerol) โชโกล (shogaol) และ ชิงเจอโรน (zingerone) เป็นหลัก ชันน้ำมันที่เตรัยมใหม่ๆจะมีจินเจอรอคอยล อย่างเช่น 3-6-gingerol,8-gingerol,10-gingerol,12-gingerol เป็นหลัก แต่ว่าถ้าทิ้งไว้นานๆจะมีโชโกลเป็นตัวหลัก ทั้งยังโชโกลแล้วก็ซิงเจอโรนไม่ใช่สารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่พบในขิง แต่เป็นสารที่เป็นผลมาจากปฏิกิริยาเคมีในระหว่างการสกัดด้วยตัวทำละลาย สารทั้งสองนี้มีรสเผ็ดร้อนกว่าจินเจอรอคอยล เพราะฉะนั้น จินเจอรินที่ดีจะต้องมีสารทั้งสองชนิดนี้ในจำนวนที่ต่ำที่สุด ขิงมีน้ำมันระเหยง่ายราวจำนวนร้อยละ ๑-๓ ปริมาณนี้จะขึ้นกับวิธีปลูกรวมทั้งขณะที่เก็บเกี่ยว ในน้ำมันระเหยง่ายมีสารสำคัญหลากหลายประเภท ได้แก่ (-)-b-sesquiphillandrene , E,E-a-farnesene , (-)-zingiberene , (+)-ar-curcumene ซึ่งมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อบัคเตรีที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดหนอง ขับลม กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ เดี๋ยวนี้มีการใช้สารสกัดจากขิง ซึ่งคราวสารส่วนประกอบหลักเป็นอนุพันธ์ของ 4-hydroxy-3-methoxyphenyl ยกตัวอย่างเช่น ซิงเจอโรน จินพบร์ไดออล (gingerdiol) จินเจอร์ไดโอน (gingerdione) จินพบรอล โชโกล เป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน แล้วก็บรรเทาอาการปวดเพราะว่าข้อเสื่อม ทั้งยังอาจช่วยลดการอักเสบรวมทั้งบวมของข้อ