โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: xcepter2016 ที่ เมษายน 04, 2018, 01:18:36 pm

หัวข้อ: โรคริดสีดวงทวาร - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: xcepter2016 ที่ เมษายน 04, 2018, 01:18:36 pm
(https://www.img.in.th/images/97ce78851419763311a74e5da4ae8275.jpg)
โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids/Piles)
โรคริดสีดวงทวาร (http://www.disthai.com/16865414/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3-hemorrhoidspiles) เป็นยังไง โรคริดสีดวงทวาร มาจากคำสองคำประสมกัน คือคำว่า "ริดสีดวง" + "ทวาร"   คำว่า "ริดสีดวง" จะหมายถึง สิ่งผิดปกติที่เป็นติ่ง หรือเนื้อยื่นออกมาจากร่างกาย ซึ่งนิยมใช้เรียกโรคริดสีดวง ที่เกิดขึ้นที่ทวารหนักเสียเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งครั้งคราวจะเรียกสั้นๆว่า  ริดสีดวงž ก็เป็นที่เข้าใจว่าเป็นโรคริดสีดวงของทวารหนัก
                ในอดีตกาลมีอีกโรคหนึ่งที่ใช้คำว่าริดสีดวงเช่นกัน คือโรคริดสีดวงของจมูก ซึ่งหมายถึง เนื้องอกผิดปกติในโพรงจมูก พบได้ทั่วไปในผู้เจ็บป่วย โรคภูมิแพ้ชนิดเรื้อรัง ซึ่งปัจจุบันไม่นิยมเรียกว่าริดสีดวงจมูกแล้ว แต่จะเรียกเนื้อแตกหน่อในโพรงจมูกแทน
โรคริดสีดวงทวาร ก็คือ โรคที่เกิดขึ้นจากการอักเสบ รวมทั้งการบวมของกรุ๊ปเนื้อเยื่อเส้นโลหิต ที่อยู่ข้างในทวารหนักและก็รอบๆปากทวารหนัก โดยเยื่อกลุ่มนี้มีหน้าที่ช่วยคุ้มครองเนื้อเยื่อทวารหนักในตอนมีการถ่ายอุจจาระ แล้วก็ช่วยให้ปากทวารหนักปิดสนิทตอนไม่ปวดอุจจาระ
โดยริดสีดวงทวารจะกำเนิดความแตกต่างจากปกติขึ้นในส่วนของรูทวารหนัก ที่เรียก ว่า หมอนรอง หรือ เบาะรอง (Cushion) หมอนรองจะอยู่ลึกเข้าไป ราวๆ 3-4 เซลเซียสม. ลักษณะเป็นก้อนนูนออกมา ภายในประกอบด้วย เส้นเลือดและก็กล้าม ซึ่งจะต่อกับกล้ามหูรูดทวารหนักแล้วก็อยู่ใต้ ต่อจากเยื่อบุทวารหนัก ริดสีดวงทวารหนักกำเนิด จากการเขยื้อนลงมาของหมอนรองมีการยืดตัวของกล้ามแล้วก็การ โป่งพองของกลุ่มเส้นโลหิตและก็เนื้อเยื่อรอบๆส่วนปลายของไส้ตรง ในคนธรรมดาจะมีริดสีดวง (hemorrhoid tissue) ทุกคน โดยจะอยู่รอบๆ ส่วนล่างของทวารหนัก เนื้อเยื่อริดสีดวงจะมีอยู่ 3 กรุ๊ปใหญ่ๆเมื่อบวมหรืออักเสบจะมีพยาธิภาวะเป็น หัวริดสีดวง แล้วบางทีอาจเกิดการปริแตกของผนังหลอดเลือดในขณะเบ่งขี้ จึงทำให้มีเลือดออกเป็นบางครั้งบางคราว โดยมักจะมีลักษณะของโรคเกิดขึ้นในเวลาท้องผูกหรือกำเนิดท้องเดินบ่อยครั้ง ธรรมดาแล้วจะไม่ค่อยมีลักษณะรุนแรงหรืออันตราย โดยบางทีก็อาจจะเป็นๆหายๆเรื้อรัง ทำให้น่ารำคาญ หรือทำให้กังวลได้
โรคริดสีดวงทวาร แบ่งได้เป็น 2 จำพวกเป็น



โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคพบได้มาก ในสหรัฐฯเจอผู้ป่วยมีลักษณะอาการจากโรคนี้ได้ราวๆ 5% ของราษฎรผู้ใหญ่ทั้งสิ้น โดยพบได้สูงในช่วงอายุ 45-65 ปี โดยผู้หญิงและก็เพศชายมีโอกาสกำเนิดโรคได้ใกล้เคียงกันสิ่งที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร  เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกรุ๊ปเนื้อเยื่อเส้นเลือดดังที่กล่าวมาข้างต้นได้รับบาดเจ็บ หรือมีการเวียนโลหิต ไม่ดีจากปัจจัยต่างๆจนถึงนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการโป่งพอง บวม อักเสบ หรือกำเนิดมีลิ่มเลือดในกลุ่มเยื่อดังที่กล่าวถึงแล้ว ซึ่งต้นเหตุ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเบ่งอึบ่อยๆนานๆซึ่งเป็นผลของท้องผูก การตั้งท้อง ความประพฤติการดำรงอยู่ และก็ลักษณะของการอุจจาระ ซึ่งการเบ่งอุจจาระเสมอๆนานๆจะมีผลเพิ่มระดับแรงดันในท้อง ทำให้การไหลเวียนของโลหิตในเส้นเลือดดำรอบๆทวารหนักไม่สะดวก มีการยืด ย่น คด งอ พอง แล้วก็โตขึ้นเป็นติ่งเนื้อ เหมือนกับการเป่าเติมลมเข้าไปในลูกโป่ง เมื่อลูกโป่งโตขึ้น ก็จะมีความครึ้มของผนังลดน้อยลง เมื่อใดก็ตามที่มีของแข็งๆมาเสียดสี ดังเช่น อุจจาระแข็งๆหรือเพิ่มระดับแรงกดดันขึ้นอีก ก็จะมีผลให้เกิดการปริแตกหรือฉีกจนขาดของเส้นเลือดดำ ก่อให้เกิดเลือดออกมาเป็นเลือดสดๆได้
     นอกจากการเบ่งอึนานๆซึ่งเป็นสาเหตุ หลักแล้ว ยังพบว่าระดับความดันเลือดในตับที่สูง (ซึ่งเกิดได้จากความอ้วน หรือโรคตับ) อายุที่มากขึ้น อาการท้องเสียเรื้อรังยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของโรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย
ลักษณะของโรคริดสีดวงทวารข้างในหมายถึงคนป่วยส่วนมากชอบมีลักษณะอาการเลือดออกทางทวารหนัก โดยไม่รู้สึกเจ็บอะไร ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังจากถ่ายอุจจาระเสร็จ เลือดที่ออกมานั้นจะมีลักษณะเป็นเลือดสีแดงสด ออกผสมมาพร้อมกับอุจจาระ หรือมีเลือดไหลหยดลงในโถส้วม รวมทั้งบางทีอาจสังเกตว่ามีเลือดเลอะเทอะบนกระดาษชำระ เลือดจะออกมาในลักษณะอาบก้อนอุจจาระ ไม่มีมูกผสม และเลือดมักจะหยุดไหลได้เอง ซึ่งอาการกลุ่มนี้จะมีลักษณะเป็นๆหายๆถ้ามีเลือดออกมากหรือเป็นเรื้อรัง อาจส่งผลให้เกิดอาการซีดเผือดตามมาได้ ในรายที่เป็นมาก เส้นเลือดจะบวมมาก ทำให้หัวริดสีดวงโผล่ออกมานอกปากทวารหนัก หรือเห็นเป็นก้อนเนื้อนิ่มๆปลิ้นโผล่ออกมา ซึ่งในภาวะเช่นนี้จะมีผลให้กำเนิดลักษณะของการปวดหรือเจ็บที่ทวารหนักได้ ในบางรายอาจส่งผลให้เกิดอาการคันแล้วก็อาการกลั้นอุจจาระไม่อยู่ได้ด้วยเหมือนกัน
ดังนี้ โดยทั่วไปแบ่งความร้ายแรงของโรคริดสีดวงข้างใน เป็น 4 ระดับตามความรุนแรง ได้แก่



แล้วก็จำเป็นที่จะต้องรีบเจอแพทย์เป็นการฉุกเฉิน ก่อนที่ก้อนเนื้อจะเน่าตายจากการขาดเลือด
อาการโรคริดสีดวงภายนอกหมายถึงมีติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมาจากปากทวารหนักเมื่อมีลักษณะท้องผูกหรือท้องเดิน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวด บวม เจ็บ และก็ระคาย และก็ถ้ามีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่โป่งพองจะก่อให้กำเนิดอาการปวด บวม เจ็บมากเพิ่มขึ้น แต่ว่าชอบไม่ค่อยพบว่ามีเลือดออกจากติ่งเนื้อนี้ ซึ่งปกติแล้วมักจะหายเจ็บได้ข้างใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม กว่าจะหายบวมบางทีอาจต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 2-3 สัปดาห์ เมื่อหายก็ดีบางครั้งอาจจะยังมีผิวหนังเป็นติ่งคงเหลืออยู่ แล้วก็หากหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้มีการเคืองหรือคันบริเวณรอบปากทวารหนักได้ด้วย
ขั้นตอนการรักษาโรคริดสีดวงทวาร หมอจะวินิจฉัยโรคริดสีดวงทวาร (http://www.disthai.com/16865414/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3-hemorrhoidspiles)ได้จาก เรื่องราวอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก และการส่องกล้องตรวจทวารหนักรวมทั้งไส้ตรง ในบางครั้งอาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เมื่อจำต้องแยกจากโรคมะเร็ง โดยแพทย์จะวิเคราะห์ในอาการสำคัญๆพวกนี้เป็นพิเศษ อย่างเช่น



กระบวนการรักษาโรคริดสีดวงทวาร ได้แก่ ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคริดสีดวงทวาร แล้วก็การใช้ยาต่างๆตัวอย่างเช่น ยาใช้ภายนอกลดอาการคัน ยาเหน็บทวารลดอาการบวม ปวด และก็ยาแก้ปวด ฯลฯ แต่ว่าเมื่อการดูแลรักษาในลักษณะเกื้อหนุนไม่ได้ผล การดูแลและรักษาขั้นต่อไปหมายถึงการรักษาทางศัลยกรรม ที่มีหลายแบบอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การจี้ด้วยกระแสไฟฟ้า หรือ เลเซอร์ การฉีดยาเข้าหลอดเลือด เพื่อหลอดเลือดยุบยุบ การมัดหลอดเลือด หรือการผ่าตัดหลอดเลือด ดังนี้ สังกัดความรุน แรงของโรค ข้อชี้ชัด รวมทั้งดุลพินิจของแพทย์ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้



ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคริดสีดวง



การติดต่อของโรคริดสีดวงทวาร โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการอักเสบ รวมทั้งการบวมของเนื้อเยื่อเส้นเลือดของทวารหนัก และเมื่อมีของแข็งๆมาเสียดสี หรือมีการเพิ่มระดับแรงกดดันในช่องท้องขึ้น ก็เลยกระตุ้นให้เกิดอาการต่างๆของโรคริดสีดวงทวารขึ้น ซึ่งโรคริดสีดวงทวารนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อแต่ว่าอย่างได
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยด้วยโรคริดสีดวงทวาร

(https://www.img.in.th/images/e90d5c64328553c631aeb647af47ffac.jpg)
การป้องกันตนเองจากโรคริดสีดวงทวาร

สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครอง/รักษาโรคริดสีดวงทวาร
เพชรสังฆาต
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Cissus quadrangularis  L.
วงศ์ :   Vitaceae
สารเคมี :  เถา มีผลึก calcium oxalate รูปเข็มเยอะมากๆต้นสด 100 กรัม มี carotene 267 มก., ascorbic acid (Vitamin C.) 398 มิลลิกรัม
สรรพคุณ :  เถา – ใช้เป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนัก
แก้ริดสีดวงทวาร  ใช้เถาสด 2-3 องคุลีต่อหนึ่งมื้อ รับประทานใหม่ๆถ้าเคี้ยวจะคันปากคันคอ ด้วยเหตุว่าในสมุนไพรนี้จะมีสารเป็นผลึกรูปเข็มอยู่มากมาย เป็นสารแบบเดียวกับที่พบในต้นบอน ต้นเผือก การรับประทานจึงใช้สอดไส้ในกล้วยสุก หรือมะขาม แล้วกลืนลงไป รับประทาน 10-15 วัน จะได้ผล
ครอบฟันสี
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Abutilon indicum (L.) Sweet
ชื่อสามัญ :   Country mallow, Indian mallow
ตระกูล :   Malvaceae
ราก มี Asparagin
คุณประโยชน์ : ราก - เจ็บท้อง ท้องร่วง ริดสีดวงทวาร ขับฉี่
แก้ริดสีดวงทวาร  ใช้ราก 150 กรัม ต้มเอาน้ำข้นๆดื่มราว 1 ถ้วยชา ที่เหลืออุ่นเอาไอรมที่ตูดพออุ่นๆทนได้ ใช้รมวันละ 5-6 ครั้ง เอาน้ำอุ่นๆชำระล้างแผลริดสีดวงทวาร
ขลู่
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Pluchea indica  (L.) Less.
ชื่อสามัญ :  Indian Marsh Fleabane
วงศ์ :   Asteraceae (Compositae)
คุณประโยชน์ :
ทั้งยังต้นสด หรือแห้ง - ปรุงเป็นยาต้มรับประทานขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไต แก้ฉี่ทุพพลภาพ แก้ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงจมูก
เปลือก ใบ เม็ด  - แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงจมูก
ใบ - มีกลิ่นหอม แก้ริดสีดวงทวาร
ยาริดสีดวงทวาร ใช้เปลือกต้น ต้มน้ำ เอาไอรมทวารหนัก แล้วก็กิน แก้โรคริดสีดวงทวาร หรือใช้เปลือกต้น (ขูดเอาขนออก) แบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 นำมาตากแห้ง ทำเป็นยาสูบ
ส่วนที่ 2 นำมาต้มน้ำรับประทาน
ส่วนที่ 3 ต้มน้ำเอาไปรมทวารหนัก
ว่านหางจระเข้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera  (L.)  Burm.f.
ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis  Mill
ชื่อสามัญ :  Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
วงศ์ :  Asphodelaceae
สารเคมี:   ใบมี Aloe-emodin, Alolin, Chrysophanic acid Barbaboin, AloctinA, Aloctin B, Brady Kininase Alosin, Anthramol Histidine, Amino acid , Alanine Glutamic acid Cystine, Glutamine, Glycine.
คุณประโยชน์ :
ยางในใบ - เป็นยาระบาย
เนื้อวุ้น - เหน็บทวาร รักษาริดสีดวงทวาร
เป็นยาถ่าย/ยาระบาย ใช้น้ำยางสีเหลืองที่มีรสขม อาเจียน คลื่นไส้ น้ำยางสีเหลืองที่ไหลออกมาระหว่างผิวนอกของใบกับตัววุ้น จะให้ยาที่เรียกว่า ยาดำ
สารเคมี - สารสำคัญในยาดำเป็น G-glycoside ที่มีชื่อว่า barbaloin (Aloe-emodin anthrone C-10 glycoside)
รักษาริดสีดวงทวาร นอกจากจะช่วยรักษาแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการปวด อาการคันได้ด้วย โดยทำความสะอาดทวารหนักให้สะอาดและก็แห้ง ควรปฏิบัติหลังจากการอุจจาระ หรือข้างหลังอาบน้ำ หรือก่อนนอน เอาว่านหางจระเข้ปอกส่วนนอกของใบ แล้วเหลาให้ปลายแหลมเล็กน้อย เพื่อใช้เหน็บในช่องทวารหนัก ถ้าจะให้เหน็บง่าน นำไปแช่ตู้เย็น หรือน้ำแข็งให้แข็ง จะทำให้สอดได้ง่าย จำต้องหมั่นเหน็บวันละ 1-2 ครั้ง จนกระทั่งจะหาย
ไฟทวาร
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Clerodendrum serratum  (L.) Moon. var.wallichii  C.B.Clarke
สกุล :   Limiaceae (Labiatae)
สรรพคุณ : ใบ, ราก, ต้น – ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร
ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร

เอกสารอ้างอิง