โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: yulyul ที่ สิงหาคม 01, 2018, 01:26:07 pm

หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: yulyul ที่ สิงหาคม 01, 2018, 01:26:07 pm
(https://www.img.live/images/2018/07/24/Ginger-1.jpg) (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ข้างนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาปรุงอาหารเนื่องจากว่าส่งกลิ่นหอม นอกนั้น ขิงยังใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และก็เครื่องสำอางทั้งหลายแหล่เช่นกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนาน ดังเช่น โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอย่างท้องเสีย มีแก๊สในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อาเจียน ไม่อยากกินอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่อาจช่วยลดอาการอาเจียนและก็ลดการอักเสบ โดยนักวิจัยส่วนใหญ่คาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะรวมทั้งลำไส้ และก็สารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แต่ข้อสันนิษฐานดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่ชัดเจนนัก รวมทั้งคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงต่อร่างกายที่พวกเราเชื่อกันนั้น ขณะนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่อาจสำเร็จ
อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์บรรเทาอาการอาเจียนอาเจียนของขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้เจ็บป่วยโรคนี้ที่อยากได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเล่าเรียนคนไข้ปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต่อต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งผอง 14 วัน พบว่าขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)ช่วยลดอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอาเจียนหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการอ้วกแล้วก็อาเจียนจากการผ่าตัดได้สิ่งเดียวกัน โดยการเรียนทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกคลื่นไส้ที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งทดสอบแบ่งคนเจ็บปริมาณ 122 คนที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่ว่าแบ่งให้ 2 ครั้งที่แล้วผ่าตัด ซึ่งคำตอบพบว่าผู้ป่วยในกลุ่มข้างหลังมีอาการอาเจียนอ้วกน้อยครั้งและก็มีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาเรียนรู้นี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้คุณภาพสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆและก็บ่อยโดยแบ่งปริมาณการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดลองทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนไข้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองปกป้องอาการคลื่นไส้ในคนไข้โดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมดทั้งปวง แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอาเจียนคลื่นไส้ร่วมกับยาลดอ้วกอาเจียนนั้นบางทีอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมถึงการใช้ขิงกับคนป่วยที่เสี่ยงต่อการคลื่นไส้อาเจียนน้อยอยู่และก็บางทีอาจไม่ได้เรื่องเช่นกัน
อาการแพ้ท้อง การกินขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง อาทิเช่น คลื่นไส้ อ้วก หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่แก่ท้องน้อยกว่า 20 อาทิตย์ จำนวน 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกเมื่อเชื่อวันนานอย่างต่ำ 1 สัปดาห์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้ว่าจะเปลี่ยนการกินอาหารแล้วก็ตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลลัพธ์ได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ในฐานะการดูแลรักษาช่องทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ อย่างไรก็ตามการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจมองเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้อ้วกอ้วก นอกจากนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดแล้วก็พบผลลัพธ์ที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับการลดอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกัน
อาการตาลายหัว อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการอ้วกนี้บางทีอาจทุเลาให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้คนที่มีลักษณะบ้านหมุน และตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)ช่วยลดอาการเวียนหัวศีรษะได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แต่มิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีคุณประโยชน์ลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้คนป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อเข่าหลังจากการรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน ลักษณะการเจ็บข้างหลังเดิน และก็อาการข้อติด
นอกนั้น มีการศึกษาเล่าเรียนเปรียบเทียบคุณภาพระหว่างขิงและก็ยาพารา โดยให้คนไข้โรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกแล้วก็ข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลบรรเทาลักษณะของการปวดได้เทียบเท่ากับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง และยังมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงแล้วก็ส้มบางทีอาจช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดและก็อ่อนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนป่วยที่มีลักษณะเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดเมนส์ นอกเหนือจากอาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดระดู ดังเช่นว่า การทดลองในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีระดูต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีประจำเดือน รวมยอดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนเปรียบประสิทธิภาพของขิงแล้วก็ยาลดลักษณะของการปวดรอบเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละประเภทในปริมาณ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีรอบเดือน คำตอบปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยแรกหมายถึงขิงมีประสิทธิภาพทุเลาความร้ายแรงของอาการปวดระดูไม่ได้แตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การรักษาที่อาจไม่เป็นผล
อาการเมารถแล้วก็เมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการเอ่ยถึงกันมาก แต่แม้ขิงบางทีอาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แต่สำหรับในการวิงเวียนอาเจียนที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางนั้น งานค้นคว้าโดยมากกล่าวว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง เช่น การแบ่งกรุ๊ปให้นักเรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาเจียนรวมทั้งตาลายลดน้อยลงจริงแม้กระนั้นอยู่ในระดับเล็กน้อยแค่นั้น หรือในอีกงานค้นคว้าที่ชี้ว่าการกินผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการปกป้องอาการเมารถหรือแนวทางการทำงานของกระเพาะอาหารที่เกี่ยวกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการเจาะจงประสิทธิภาพ
อาการอาเจียนอ้วกจากแนวทางการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการคลื่นไส้และอ้วก ซึ่งมีการศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้ป่วยที่รับเคมีบรรเทานั้นยังเป็นที่ปะทะคารมกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนป่วยกินแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานตลอดตรงเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความรุนแรงของอาการอาเจียนที่เกิดขึ้นภายหลังจากการรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่มิได้กินแคปซูลขิง แต่ว่าเห็นผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับได้ผลน้อยกว่า แปลว่าการกินขิงในจำนวนมากจึงอาจมิได้ทำให้อาการคลื่นไส้อย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็แล้วแต่ มีหลักฐานที่คัดค้านข้อสนับสนุนดังที่กล่าวถึงแล้วซึ่งเป็นงานค้นคว้าที่เปิดเผยว่าการรับประทานขิงมิได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ทั้งนี้ ผลวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีมูลเหตุมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดลองนั้นแตกต่างกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะประยุกต์ใช้ผลดีด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลไหมอาจควรจะมีการยืนยันเพิ่มเติมอีกถัดไป
โรคเบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานในปัจจุบันยังส่งผลการศึกษาวิจัยที่ไม่แน่นอน งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในผู้ป่วยโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 และบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางประเภทจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานค้นคว้าวิจัยอื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาเรียนรู้พูดว่าขิงส่งผลกับอินซูลิน กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่คนไข้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าศึกษาเล่าเรียนสมรรถนะของขิงในผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการอาหารไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการละอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยของกินแล้วก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ว่าการกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจระบุได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนเพียงใด
อาการแฮงค์ เชื่อกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการแฮงค์ซึ่งได้ผลข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยแต่ก่อนที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน และก็น้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในวันหลัง รวมถึงอาการอ้วก คลื่นไส้รวมทั้งท้องเสีย อย่างไรก็ตาม การเล่าเรียนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วยังถือว่าไม่ชัดแจ้งอยู่มากมายและไม่อาจรับประกันได้ว่าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้คนเจ็บที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลลัพธ์บอกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีจนกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้รักษาผู้ป่วยภาวการณ์นี้ได้หรือเปล่าอาจจะจำต้องรอการศึกษาในอนาคตที่แจ่มชัดกันต่อไป
ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อหลังบริหารร่างกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยหรือเปล่านั้นยังคงไม่กระจ่างแล้วก็เป็นที่โต้เถียงกันอยู่เช่นเดียวกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 124 ชั่วโมง พบว่าทั้งยังขิงสดแล้วก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนกระทั่งระดับมากมาย
ทว่าอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งกลับเจอผลตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเนื้อแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและ 48 ชั่วโมงภายหลังการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ส่งผลให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายต่ำลง แต่ผู้ทำการวิจัยพบว่าการกินขิง (http://www.disthai.com/)อาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามค่อยๆดียิ่งขึ้นในวันแล้ววันเล่า ถึงแม้อาจไม่เห็นผลประโยชน์โดยทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนกับคนเจ็บ 100 คน ที่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/ (http://www.disthai.com/)