โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ
ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: jacl598845 ที่ สิงหาคม 10, 2018, 04:03:06 pm
-
(https://www.picz.in.th/images/2018/07/25/Ny2KFu.jpg) (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89)
ตะไคร้ (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89)
ตะไคร้ (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89) (Lemon Grass) จัดเป็นผักสมุนไพรที่นิยมนำมาทำกับข้าวสำหรับกำจัดกลิ่นคาว แล้วก็ช่วยเพิ่มรสชาตของของกิน ในหลากหลายรายการอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกที่เป็นอาหารต้มยำ และแกงต่างๆรวมทั้งการนำมาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอาทิเช่น น้ำตะไคร้ ผงตะไคร้ เป็นต้น
ตะไคร้ เป็นไม้ล้มลุกวงศ์เดียวกันกับหญ้า แก่มากยิ่งกว่า 1 ปี ขึ้นกับสิ่งแวดล้อม มีถิ่นเกิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างเช่น ประเทศพม่า ไทย ลาว มาเลเชีย อินโดนีเชีย เป็นต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citratus (DC.)
วงศ์ : Graminae
ชื่อสามัญ : Lapine, Lemon grass, Sweet rush, Ginger grass
ชื่อท้องถิ่น:
– ตะไคร้
– ตะไคร้แกง
– ตะไคร้มะขูด
– คาหอม
– ไคร
– จะไคร
– เชิดเกรย
– หัวสิงไค
– เหลอะเกรย
– ห่อวอตะโป
– เฮียงเม้า
ตะไคร้1
ลักษณะทั่วไป
ลำต้น
ลำต้นตะไคร้มีเหง้าใต้ดิน ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง รูปทรงกระบอก มีความสูงได้ถึง 1 เมตร (รวมถึงใบ)ส่วนของลำต้นที่เราเห็นจะเป็นส่วนของกาบใบที่ออกเรียงช้อนกันแน่น โคนต้นมีลักษณะกาบใบห่อหุ้มครึ้ม ผิวเรียบ และก็มีขนอ่อนปกคลุม ส่วนโคนมีรูปร่างอ้วน มีสีม่วงอ่อนเล็กน้อย รวมทั้งเบาๆเรียวเล็กลงกลายเป็นส่วนของใบ ศูนย์กลางเป็นบ้องแข็ง ส่วนนี้สูงประมาณ 20-30 ซม. ขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และจำพวก และเป็นส่วนที่นำมาใช้สำหรับทำกับข้าว
ตะไคร้ (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89) ใบ
ใบตะไคร้ (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89)ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ก้านใบ (ส่วนลำต้นที่กล่าวข้างต้น) หูใบ (ส่วนต่อ
ระหว่างกาบใบ และก็ใบ) และใบ
ใบตะไคร้ เป็นใบผู้เดียว มีสีเขียว มีลักษณะเรียวยาว ปลายใบโค้งลู่ลงดิน โคนใบเชื่อมต่อกับหูใบ ใบมีรูปขอบขนาน ผิวใบสากมือ รวมทั้งมีขนปกคลุม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แม้กระนั้นคม กลางใบมีเส้นกึ่งกลางเรือใบแข็ง สีขาวอมเทา มองเห็นต่างกับแผ่นใบแจ่มกระจ่าง ใบกว้างราว 2 เซนติเมตร ยาว 60-80 เซนติเมตร
ดอก
ตะไคร้เป็นพืชที่ออกดอกยาก จึงไม่ค่อยพบเห็น ดอกตะไคร้ดอกจะออกดอกเป็นช่อกระจัดกระจาย มีก้านช่อดอกยาว และมีก้านช่อดอกย่อยเรียงเป็นคู่ๆในแต่ละคู่จะมีใบประดับรองรับ มีกลิ่นหอม ดอกมีขนาดใหญ่เหมือนดอกอ๋อ
ดอกตะไคร้
ประโยชน์ตะไคร้
– ใช้เป็นเครื่องเทศทำครัวสำหรับดับกลิ่นคาว ช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอมหวน และก็ปรับแก้รสให้น่าอร่อยมากยิ่งขึ้น
– ใช้เป็นส่วนผสมของยาใช้ภายนอกกันยุง สเปรย์กันยุง และก็ยาจุดกันยุง
- น้ำมันตะไคร้ (http://www.disthai.com/)
– ใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอม
– ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำสบู่ ยาสระผม
– ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง
– ใช้ทานวด แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
– ใช้ทาลำตัว แขน ขา เพื่อป้องกัน รวมทั้งไล่ยุง
– ใช้เป็นส่วนผสมของสารคุ้มครองปกป้อง และก็กำจัดแมลง
คุณค่าทางโภชนาการของตะไคร้ ( 100 กรัม)
- พลังงาน 143 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 1.2 กรัม
- ไขมัน 2.1 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 29.7 กรัม
- เส้นใย 4.2 กรัม
- แคลเซียม 35 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2.6 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 43 ไมโครกรัม
- ไทอามีน 0.05 มก.
- ไรโบฟลาวิน 0.02 มก.
- ไนอาสิน 2.2 มก.
- วิตามินซี 1 มก.
- ขี้เถ้า 1.4 กรัม
ที่มา: กองโภชนาการ (2544)(1)
สารสำคัญที่พบ
ส่วนของลำต้น รวมทั้งใบมีน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) ที่ประกอบด้วยสารหลายชนิด ดังเช่น
– สิทราล (Citral) พบได้มากที่สุด 75-90%
– ทรานซ์ ไอโซซิทราล (Trans-isocitral)
– ไลโมเนน (Limonene)
– ยูจีนอล (Eugenol)
– ลิที่นาลูล (Linalool)
– พบรานิออล (Geraniol)
– ติดอยู่ริโอฟิกลุ่มคำน ออกไซด์ (Caryophyllene oxide)
– เจอรานิล อะสิเตท (Geranyl acetate)
– 6-เมทิล 5-เฮพเทน-2-วัน (6-Methyl 5-hepten-2-one)
– 4-โนท้องนาโนน (4-Nonanone)
– เมทิลเฮพคราวโนน (Methyl heptennone)
– ซิโทรเนลลอล (Citronellol)
– ไมร์ซีน (Myrcene)
– การบูร (Camphor)
รวบรวมจาก ทอง ขยัน (2552)(2), ดวงใจวรรณ ตระการชัยวงศ์ (2551) อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ(4)
(https://www.picz.in.th/images/2018/07/25/Ny2Qqe.jpg) (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89)
คุณประโยชน์ตะไคร้
– ช่วยบรรเทา และก็รักษาอาการไข้หวัด
– แ้ก้ไอ และก็ช่วยขับเสลด
– ทุเลาลักษณะของโรคหืดหอบ
– รักษาลักษณะของการปวดท้อง
– ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะยาก
– ช่วยขับเหงื่อ
– ช่วยสำหรับในการขับลม
– แก้อหิวาตกโรค
– บำรุงธาตุ เจริญอาหาร
– ช่วยลดระดับความดัน เลือดสูง
– ลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
– แก้ระดูมาไม่ปกติ
– ใช้เป็นยาแก้ไขปวดท้อง และก็ท้องเดิน
– ช่วยขับเยี่ยว
– บรรเทาอาการไอ แล้วก็ขับเสลด
– ออกฤทธิ์ต้านเชื้อรา
– ช่วยกำจัดเซลลูไลท์
– ช่วยสำหรับในการขับถ่าย
– บรรเทาอาการท้องเสีย
– ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง จากฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
– ช่วยขับน้ำดี
– ช่วยขับลม
– ระังับอาการปวด
– ต้านทานอาการอักเสบ และลดการต่อว่าดเชื้อ
– กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
– ลดอาการเศร้าใจ
– ต่อต้านอนุมูลอิสระ
เก็บรวบรวมจาก ทอง ขยัน (2552)(2), ดวงใจวรรณ ตระการชัยตระกูล (2551)(4)
ฤทธิ์ทางยาของสารสกัดจากตะไคร้
น้ำมันหอมระเหยของตะไคร้ออกฤทธิ์ลดอาการแน่นจุกเสียดด้วยการลดการบีบตัวของไส้ โดยมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ อย่างเช่น Cineole รวมทั้ง Linalool
- ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสาเหตุอาการของอาการท้องเสีย
สารเคมีในน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้สามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สำคัญของอาการท้องเดินหมายถึงE. coli โดยมีสารออกฤทธิ์ ยกตัวอย่างเช่น Citral, Citronellol, Geraneol และก็ Cineole
น้ำมันหอมระเหยของตะไคร้สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการขับน้ำดีของตับอ่อน โดยมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ ยกตัวอย่างเช่น Borneol, Fenchone และก็ Cineole
สาร Menthol, Camphor แล้วก็ Linalool สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการขับลมภายในร่างกายได้
พิษของน้ำมันตะไคร้
จำนวนน้ำมันตะไคร้ (http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89)ที่ทำให้หนูขาวตายที่ครึ่งหนึ่งของปริมาณหนูขาวทั้งสิ้น ด้วยการให้ทางปาก ที่ความเข้มข้น 5,000 มิลลิกรัม/โล แล้วก็การให้น้ำมันหอมระเหยทางกระเพาของกินแก่กระต่ายที่ทำให้กระต่ายตายที่กึ่งหนึ่ง พบว่า มีจำนวนความเข้มข้นเดียวกันกับการให้แก่หนูขาว
พิษรุนแรงของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่ความเข้มข้น 1,500 ppm ในช่วงเวลา 60 วัน กลับต้องมาพบว่า หนูขาวที่ได้รับน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้มีการเติบโตเร็วกว่ากลุ่มที่ไม้ได้รับ และค่าทางเคมีของเลือดไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด