โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ
ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: veerachai29 ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2018, 06:06:29 am
-
เรียนทำเบเกอรี่ มาการอง ของขนมสีสันผ่องใส หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ เรียนทำอาหาร เรียนทำขนมปัง (http://www.annann201.com/) เรียนทำขนมไทย, เค้ก, เรียนทำเค้ก เบเกอรี่ฝรั่งเศส
เพราะเหตุใดธุรกิจร้านขนมปังถึงน่าลงทุน
สามารถทำคนเดียวได้ เนื่องจากว่าถ้าเกิดพวกเราเริ่ม จากการรับขนมจากที่อื่นๆมาขาย นั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องว่าจ้างผู้ช่วย ซึ่งผู้เดียวก็สามารถดูแลร้านได้เอง ทั้งปวง ไม่ต้องลงทุนในการว่าจ้างผู้รับจ้าง และวุ่นวายกับคนเป็นจำนวนมากมาย
-ปัจจุบันนี้ ร้านเบเกอรี่ นั้น กับ Lifestyle ของคนสมัยใหม่ เนื่องจากคนสมัยใหม่นิยม ไปนั่งตามร้านค้าของหวาน เพื่อพัก นั่งคุย เจรจากับเพื่อนฝูง หรือนั่งอ่านหนังสือ เพื่อบรรเทา การเปิดร้านขนมแบบเต็มแบบอย่าง ก็เลยตอบปัญหาข้อนี้ได้ และก็ทำรายได้ให้กับธุรกิจได้ อย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างแน่นอน
-ความนิยมชมชอบเบเกอรี่ ของคนสมัยใหม่ ที่มีเวลาน้อย เลือกกินเบเกอรี่เป็น อาหารจานด่วน หรือรองท้อง คนไม่ใช่น้อยคงเคยทราบคำว่า “กองทัพจะต้องเดินด้วยท้อง” เมื่อคุณเดินทางไกล หรืออยู่ในเวลาเร่งด่วน ไม่สามารถหาที่นั่งรับประทานอาหารได้ การกินของหวานที่ซื้อข้างทาง จะช่วยให้คุณคลายหิวไปได้ ก่อนที่จะคุณจะทำธุระเสร็จ แล้วก็ไปกินอาหารมื้อใหญ่ต่อไป
การเตรียมความพร้อมก่อนลงทุนในธุรกิจเบเกอรี่
ก่อนที่จะลงทุนในธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมกั่น ซึ่งธุรกิจเบเกอรี่โฮมเมดก็ไม่แตกต่างกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาถึงความพร้อมก่อนจะมีการลงทุน ซึ่งอาทิเช่น
เงินทุน
สำคัญเป็นอันดับแรกๆก็เนื่องจากเงินลงทุนเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยทำให้การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ก่อนจะมีการผลิตเบเกอรี่เป็นไปด้วยดี จำนวนเงินลงทุนย่อมต่างๆนาๆตามลักษณะของธุรกิจว่าอยากให้ออกมาในลักษณะใด ซึ่งก็จำเป็นต้องวิเคราะห์และก็พิเคราะห์ตามกำลังของตัวอง ด้วยเหตุว่าด้วยทั่วไปแล้วการลงทุนในขั้นแรกจะเน้นหนักไปที่วัสดุปกรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นทุนคงที่ รวมทั้งจะได้ผลทดแทนกลับมาภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน ฉะนั้นควรจะเลือกใช้อุปกรณ์ที่คุณภาพดี มีการรับประกัน แม้จะราคาสูงแม้กระนั้นเชื่อมั่นได้ถึงประสิทธิภาพ
ส่วนทุนอีกอย่างคราวเรียกกันว่าเงินลงทุนเปลี่ยนแปลงแปร ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายที่เปลี่ยนแปลงได้ จัดว่าเหล่านี้เป็นเงินลงทุนที่นักลงทุนเองจำต้องจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเงินลงทุนสามารถหมุนเวียนได้อย่างไม่ติดขัด
-ความรู้ความชำนาญ
จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่โฮมเมดมากมาย เนื่องจากควรจะเรียนรู้ถึงใอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และก็วัตถุดิบทุกอย่างสำหรับการทำเบเกอรี่ ควรศึกษาว่าแป้งมีกี่จำพวก น้ำตาลหรือวัตถุดิบตัวอึ่นๆมีคุณลักษณะอย่างไรใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี่แต่ละชนิดเพื่ออะไร นอกเหนือจากนั้นยังจำเป็นต้องฝึกหัดและเชี่ยวชาญสำหรับการทำ เบเกอรี่มากพอที่จะควบคุมคุณภาพและรสได้ เพื่อให้ขนมที่ผลิตมีคุณภาพและก็รสชาติที่แบบเดียวกัน
ในขณะนี้ มีโรงเรียนสอนทำเบเกอรีจำนวนมาก พวกเราสามารถเลือกเรียนได้ ได้ตามอยากได้ อีกทั้งสามารถเลือกเฉพาะวิชาที่พึงพอใจได้ ซึ่งส่วนมากเขาเรียนเพียงแต่คอร์สเดียวก็สามารถเอามาปรับใช้และก็ทำขายได้ทันที และก็การเรียนสูตรแล้วก็แนวทางการทำจากเพื่อนพ้องหรือญาติ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะไม่ต้องเลยค่าใช้จ่ายในการเข้าชั้นเรียนกับสถานที่เรียนสอนทำเบเกอรี่ต่างๆ
-เรียนรู้ตลาดและก็คู่ปรปักษ์
ผู้สร้างควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าถึงสภาพการณ์การตลาดเพื่อการทำความเข้าใจสำหรับในการดำเนินธุรกิจของเรา ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าว่ากาตลาดเบเกอรี่ในช่วงนั้นๆเป็นอย่างไร มีกรุ๊ปคู่แข่งจำนวนโดยประมาณกี่ราย และแต่ละรายมีจุดเด่นจุดด้วยอะไรบ้าง รวมทั้งเราต้องหาจุดเด่นของพวกเรา แล้วก็ปรับแผนการเพื่อสู้กับคู่แข่งให้ได้ การ มองหา ร้านสำหรับฝากขายมีความหมายมากมายสำหรับการที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราก้าวไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง ร้านค้าที่เห็นสมควรสนใจเป็นร้านค้าที่อยู่ในย่านชุมชน มีทำเลดี มีที่จอดรถสำหรับลูกค้าไว้พร้อม มีการขยับเขยื้อนของจำนวนลูกค้าแล้วก็หมุนเวียนผลิตภัณฑ์ตลอดวัน และก็ทางร้านมีแนวโน้มที่จะช่วยเสนอสินค้าของพวกเรา เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์ของเราถูกกักไว้เพื่อรอส่งคืนคืนสิ่งเดียว
-หาแหล่งวัตถุดิบที่สมควรทั้งเรื่องราคารวมทั้งคุณภาพ
การซื้อวัตถุดิบสำหรับเฉพาะการทำเบเกอรี่ ย่อมทำให้ได้วัตถุดิบที่ราคาแพงถูกกว่าซื้อตามห้างทั่วๆไป รวมทั้งยังคงได้อุปกรณ์ในการทำเบเกอรี่อย่างสมบูรณ์
รูปแบบของธุรกิจร้านเบเกอรี่ อาชีพอิสระ รายได้ดี
-รับขนมจากที่อื่นๆมาขาย
Bakery แบรนด์ HOME ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต เป็นตัวอย่างสุด Classic ของ ร้านเบเกอรี่ รูปแบบนี้ พวกเราจะมองเห็นคนนำขนมยี่ห้อ HOME มาเดินขายจากที่ต่างๆหรือจัดโต๊ะขายก็ตาม ลักษณะนี้เป็นแบบที่เริ่มต้นง่าย เพียงแค่ไปรับขนม และก็นำมาตั้งขาย ไม่ต้องจมทุนไปกับการซื้อเครื่องอบของหวาน ไม่ต้องเปลืองแรงทำ แล้วก็ของหวานที่ขายอร่อยแน่นอน
- ทำของหวานขายเอง
หากคุณมีเงินทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาหน่อย และก็เคยไปเรียนทำ Bakery มา หรือมั่นใจในฝีมือ ธุรกิจร้านเบเกอรี่จำพวกนี้ จะทำเงินได้มากกว่า ด้วยเหตุว่าเราไม่ต้องไปรับขนม มาจากที่อื่น ซึ่งมีต้นทุนที่ซื้อมา แพงกว่าของหวานที่เราทำเองอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็ต้องทดลองชั่งน้ำหนักดูว่า เงินลงทุนที่ลงเพิ่มไป จะคุ้มกับรายได้ที่ได้เพิ่มขึ้นมาหรือไม่
- ร้านขนมปังพร้อมที่นั่ง แบบเต็มรูปแบบ
ถ้าเกิดไม่ได้อยากขายแค่ Bakery สิ่งเดียว แล้วก็มีความคิดว่าขนมที่ทำขึ้นมา มีดีกว่าเพียงแค่จะเป็นร้านทั่วๆไป ก็เปิดร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มต้นแบบได้เลย เพราะว่าราคาของหวานจะขายได้แพงกว่า 2 แบบแรก โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้เป็นจุดสำหรับนัดพบ สำหรับผู้ที่มาทานของหวาน นั่งคุยกัน หรือนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งเข้ากับ Lifestyle ของคนสมัยใหม่ด้วย
สูตรคัพเค้ก
คัพเค้กมะพร้าว
เพื่อน ๆ ที่ชอบกินมะพร้าวต้องปลื้มกับคัพเค้กมะพร้าวแน่นอน เนื้อเค้กใส่มะพร้าวทุกอณู โปะด้วยครีมมะพร้าวฟรอสติ้งละมุนลิ้น และยังโรยด้วยมะพร้าวขูดอีกด้วย ยิ่งกินตอนอบสุกใหม่ ๆ ยิ่งอร่อยเลยล่ะ
ส่วนผสม คัพเค้กมะพร้าว
- น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
- กะทิ 1 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- เกลือป่น
- มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
ส่วนผสม ครีมมะพร้าวฟรอสติ้ง
- เนยจืด 1/3 ถ้วย
- กะทิ 1/4 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำตาลไอซิ่ง 2+1/2 ถ้วย ถึง 3 ถ้วย
- มะพร้าวขูด (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำคัพเค้กมะพร้าว
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
2. ทำคัพเค้กโดยตีผสมน้ำมันมะพร้าวกับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน ใส่กะทิและกลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมจนเข้ากัน เตรียมไว้
3. ตีผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือป่น และมะพร้าวขูดให้เข้ากัน
4. วางพิมพ์มัฟฟิน 10 ถ้วยบนถาดอบ หยอดส่วนผสมคัพเค้กลงไปประมาณ 1/3 ของถ้วย นำเข้าไปอบประมาณ 18 นาที หรือจนสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็น
5. ทำครีมมะพร้าวฟรอสติ้งโดยตีเนยจืดจนเนื้อเนียน ใส่กะทิและกลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมจนเข้ากัน ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป 2 ถ้วย ตีผสมจนเข้ากัน ใส่น้ำตาลไอซิ่งที่เหลือลงไปตีให้เข้ากัน นำไปบีบตกแต่งบนหน้าคัพเค้ก ตกแต่งด้วยมะพร้าวขูด พร้อมเสิร์ฟ
เค้กช็อกโกแลต สูตรไร้แป้ง
สำหรับคนกลัวอ้วนมาลองทำเค้กช็อกโกแลตสูตรไร้แป้งสูตรนี้กัน อร่อยกับดาร์กช็อกโกแลตเน้น ๆ อบจนสุกก็จับแต่งหน้าด้วยไอซิ่งกับราสป์เบอร์รี
ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง
• ไข่ไก่ 8 ฟอง (แช่เย็น)
• ดาร์กช็อกโกแลตสับ 2 ถ้วย
• เนยจืด 1 ถ้วย
• น้ำตาลไอซิ่ง (โรยหน้า)
• ราสป์เบอร์รี (ตกแต่ง)
วิธีทำเค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
2. ปูกระดาษรองอบลงในพิมพ์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 นิ้ว ห่อพิมพ์ด้านนอกด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เตรียมไว้
3. ใช้เครื่องตีมือถือตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงประมาณ 5 นาที พักไว้
4. ใส่ดาร์กช็อกโกแลตกับเนยจืดลงในชามทนความร้อนนำไปทำละลายบนปากหม้อต้มน้ำเดือด หรือนำเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที แล้วนำออกมาคนผสมให้เข้ากัน ใส่ไข่ที่ตีไว้แล้วลงไปคนผสมให้เข้ากัน
5. นำส่วนผสมเค้กเทใส่ลงในพิมพ์ เกลี่ยหน้าให้เรียบเนียน จับวางลงไปในหม้อที่ไซส์ใหญ่กว่า เทน้ำต้มเดือดลงไปด้านข้างพิมพ์ประมาณ 1/2 ส่วน นำเข้าไปอบที่อุณหภูมิ 140 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 22-25 นาที เสร็จแล้วเอาเค้กออกมาพักไว้ให้เย็น นำเข้าไปแช่ตู้เย็น ก่อนเสิร์ฟโรยไอซิ่ง ตกแต่งด้วยราสป์เบอร์รี
ที่ไปที่มาของขนมสีสันสดใส มาการูนหรือมาการอง (Macaroon)
มาการูน หรือ มาการอง (Macaroon) ของหวานรูปวงกลมชนชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีสีสันแจ่มใส ใส่ไส้ตรงกลาง เชื้อเชิญให้น่ากิน กำลังเป็นที่ชื่นชอบอย่างแพร่หลายรวมทั้งพบเห็นกันได้เยอะแยะตามห้าง ร้านขนมปัง หรือในโฮเต็ลประเทศไทยเดี๋ยวนี้
ผู้ใดกันจะทราบบ้างว่าแหล่งกำเนิดที่จริงจริงของขนมหวานทรงกลมสีสันผ่องใสที่น่าอร่อยนี้เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มาจากคำว่า "Maccaone หรือ Maccherone" ในภาษาอิตาลี มาการองหรือมาการูน เปิดตัวคราวแรกในปี ค.ศ. 1553 โดยเชฟหญิงชาวอิตาลีที่มีนามว่า Catherine de Medicis ในงานแต่งงานของเธอกับ Duc d'Orleans หรือกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของประเทศฝรั่งเศส ในอีก 21 ปีถัดมานั่นเอง
มาการองหรือมาการูน เริ่มต้นเป็นขนมที่สร้างขึ้นมากล้วยๆจากอัลมอนต์ น้ำตาลรวมทั้งไข่ขาวเพียงแค่นั้น ซึ่งเป็นของที่มีราคาไม่แพงรวมทั้งมีคุณค่าทางอาหาร มีการบันทึกไว้ว่าหลานสาวของ Catherine de Medicis รวมทั้งชาวประเทศฝรั่งเศสใช้รับประทานเพื่อประทังชีวิตในสมัยข้าวยากหมากแพง
จนกว่าช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ใบหน้าของ มาการองหรือมาการูน ก็แปรไปเป็นขนมที่มีสีสันฉูดฉาด และก็เอามาการูนสองแผ่นมาประกบกันโดยมีไส้ "chocolate panache (ช็อกโกแล็ตผสมครีม)" โดย Pierre Desfontaines หลายชายของ Louis Ernest Laduree (Laduree pastry and Salon de the,rue Royale) ร้านเบเกอรี่โด่งดังในฝรั่งเศส
วิธีการทำมาการองโดยประมาณคือ การผสมไข่ขาว น้ำตาลทราย แล้วก็อัลมอนด์ล้วนๆบดละเอียดจนกระทั่งเป็นผงคล้ายแป้ง เรียกส่วนผสมนี้ว่า เมอแรงก์ (meringue) ตักเมอแรงก์ใส่กรวยแล้วบีบลงบนถาดอบเป็นชิ้นกลมๆขนาดเล็ก แล้วก็ถูกตากทิ้งเอาไว้ครู่หนึ่งแล้วจากนั้นจึงค่อยนำเข้าเตาอบ ออกมาเป็นฝามาการอง (Shell) แล้วทำไส้ใส่ไว้กึ่งกลาง
การทำมาการองเจ้าตำรับ แตกต่างกันตั้งแต่วิธีเตรียมเมอแรงก์แบบที่นิยมทำกันในขณะนี้ กระบวนการทำมาการองแบบต้นตำรับนั้นจะต้องใช้แนวทางจัดเตรียมเมอแรงก์แบบ "เฟรนช์ เมอแรงก์ (French Meringue)" เป็นการตีไข่ขาวกับน้ำตาลแบบไม่ต้องต้ม ใช้มือค่อยๆตีไปเรื่อยๆซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่คนฝรั่งเศสทำมาเมื่อร้อยปีให้หลัง ร้านมาการองที่โด่งดังในปัจจุบันของประเทศฝรั่งเศสก็ยังใช้วิธีเริ่มแรกนี้อยู่ แต่ว่าในตอนนี้คนส่วนใหญ่ไม่มีใครทำแล้ว ด้วยเหตุว่ากระบวนการทำยุ่งยากกว่าแนวทางต้มน้ำตาลด้วยความร้อนซึ่งจะก่อให้ผิวของมาการองไม่เหมือนกัน และก็แบบเริ่มแรกต้องใช้เวลาตากที่อุณหภูมิปกติอย่างต่ำ 3 ชั่วโมงถึงจะนำเข้าอบได้ ช่วงเวลาที่แนวทางต้มน้ำตาล ทิ้งไว้เพียง 15 นาที ก็นำเข้าเตาอบได้เลย
มาการองสมัยปัจจุบันนี้นิยมต้มน้ำตาลทรายที่อุณหภูมิ 118 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อรวมกับไข่ขาวจะมีความแน่นและคงตัวช่วยไม่ให้ผิวหน้ามาการองแตกจากการอบ ผิวเรียบงาม แต่ไม่มีความนิ่มเท่ากับแนวทางตีน้ำตาลทราย ไข่ขาวแล้วก็ผงอัลมอนด์ให้ขึ้นฟูเบาๆซึ่งจะต้องอาศัยความชำนิชำนาญ
การทำมาการองเจ้าตำรับแบบ เฟรนช์ เมอแรงก์ ทำให้ได้ตัวฝามาการอง (Shell) ซึ่งผิวสัมผัสด้านนอกจะกรอบบางๆกัดนิดหน่อยจะเจอความนุ่มของเนื้อเชลล์แทบละลายในปากผสมกลมกลืนไปกับรสของไส้
ลักษณะเฉพาะของมาการองอีกจุด คือ "ชายเล่ห์เหลี่ยมฝรั่งเศส (skirt)" คือส่วนที่เป็นรอยหยักๆบริเวณรอบๆขอบเชลล์ ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากส่วนประกอบและการอบที่เหมาะสม หากอบแล้วไม่มีสเกิร์ตเกิดขึ้น ตัวเชลล์จะแปลงเป็นขนมผิงที่กรอบทั้งชิ้น
(http://www.annann201.com/image/data/11920601_999210586790653_454856427_n.jpg)|
ขมป้งบ้านครูแอน อร่อย การันตี เรียนแล้วทำเป็น ชัวร์
(http://www.annann201.com/image/data/12081449_1017937108251334_417336563_n.jpg)|
อยากทำขนมเค้กเป็น อยากทำขนมอร่อยๆ เรียนกับครูแอนเลย
(http://www.annann201.com/image/data/12071604_1017937091584669_375514808_n.jpg)|
ทำขนมเค้กกินเอง ขนมปัง เบเกอรี่ บ้านครูแอน สอนเป็นกันเอง เรียนจบต้องทำเป็นให้จงได้
(http://www.annann201.com/image/data/12067393_1017937111584667_1341016223_n.jpg)}
คอร์สแต่งหน้าเค้ก ไส้ขนมปัง เปิดร้านเบเกอรี่ (สอนส่วนตัว) อร่อยเหาะ
เครดิตบทความจาก : http://www.annann201.com/ (http://www.annann201.com/)
Tags : เรียนทำเค้ก,เรียนทำขนมไทย,สอนทำอาหารญี่ปุ่น