โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: kkthai20009 ที่ มีนาคม 27, 2018, 09:12:05 am

หัวข้อ: โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ มีนาคม 27, 2018, 09:12:05 am
(https://uppic.cc/d/97k)
โรคมะเร็ง (Canaer) (http://www.disthai.com/16816973/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87)



รวมทั้งมูลเหตุด้านกรรมพันธุ์ โรคมะเร็งบางชนิด ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งรังไข่ รวมทั้งมะเร็งไส้ มีทิศทางเกิดขึ้นได้กับบุคคลภายในครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคมะเร็งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งที่หลักๆในตอนนี้ เช่น

(https://www.img.in.th/images/196e66297ddec263acb866ab72b30bad.md.jpg)



โดยธรรมดาโรคมะเร็งมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1-4 ซึ่งทั้ง 4 ระยะ ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เพราะว่าเซลล์เพียงแค่มีลักษณะเป็นโรคมะเร็ง แม้กระนั้นยังไม่มีการรุกราน (Invasive) เข้าเนื้อเยื่อข้างๆ



ข้อ แรกหมายถึงเหตุจากสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกาย เป็นต้นว่า สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เป็นต้น รวมถึงการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางจำพวก
ข้อลำดับที่สอง คือ ดังเช่นว่าปัจจัยภายในร่างกาย อาทิเช่น ความเปลี่ยนไปจากปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน แล้วก็ภาวะทุพโภชนา ฯลฯ   
 
ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนที่มีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคมะเร็งคือคนที่มีความประพฤติปฏิบัติดังนี้
ผู้ที่ดูดบุหรี่  อีกทั้งยาสูบมวนเอง ซิการ์ กล้องยาสูบ หรือการบดยาสูบ จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคโรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งในโพรงปาก กล่องเสียง โรคมะเร็ง หลอดของกิน มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แล้วก็โรคมะเร็งของตับอ่อน
ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดตับอักเสบและก็ตับแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับตามมา นอกจากนั้น เหล้ายังเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในช่องปากรวมทั้งคอ
คนที่ติดเชื้อโรค เชื้อไวรัสบางประเภท ตัวอย่างเช่น   ไวรัสตับอักเสบจำพวกบีรวมทั้งซี มีความข้องเกี่ยวต่อการเกิดโรคตับแข็งรวมทั้งมะเร็งตับ ไวรัสเอปสไตน์บารร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจำพวก Burkitt ไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง หรือ โรคมะเร็งช่องปากรวมทั้งคอ  หรือคนที่ถูกใจทานอาหารที่มี พิษ ชื่อ อัลฟาทอกสิล ที่พบจากเชื้อราที่แปดเปื้อนในของกินดังเช่น ถั่วลิสงป่น ฯลฯ ถ้าเกิดรับประทานประจำจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ แล้วก็หากได้รับทั้งยัง 2 อย่าง โอกาส จะเป็นมะเร็งตับเพิ่มมากขึ้น
ผู้ที่กินอาหารที่มีไขมันสูงบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก แล้วก็ต่อมลูกหมาก
คนที่ติดโรคพยาธิใบไม้ตับ และก็รับประทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเสมอๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดพลาดอันเป็นผลมาจากความไม่ปกติจากพันธุกรรมหรือติดโรคเชื้อไวรัส โรคภูมิคุมกันบกพร่อง จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งของเส้นเลือด ฯลฯ
ผู้ที่กินอาหารเค็ม จัด ของกินที่มีส่วนผสมโปตัสเซี่ยมไนเตรดรวมทั้งส่วนไหม้เกรียม ของของกินเป็นประจำจะเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะ อาหารและลำไส้ใหญ่
คนที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิ มะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และก็มะเร็งลำไส้ใหญ่จำพวกที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น
คนที่ตากแดดจัดเสมอๆจะ เป็นอันตรายจากแสงแดดที่ มีจำนวนของแสงอุลตรา ไวโอเลต หลายชิ้น ส่งผลทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจแสดงว่าเป็นอาการของโรคโรคมะเร็ง มีดังนี้



วิธีรักษาโรคมะเร็ง สำหรับในการรักษาโรคโรคมะเร็งนี้หลังจากหมอวินิจฉัยลักษณะของโรคเสร็จแล้ว จะมีการตรวจให้ละเอียดอีกทีว่าเซลล์ของมะเร็งร้ายกระจายไปอยู่ในรอบๆใดของร่างกายบ้าง เมื่อเข้าใจแล้วก็จะรักษาไปตามอาการ โดยโรคมะเร็งแต่ละจำพวกการดูแลและรักษาก็บางครั้งอาจจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ทั้งนี้ก็มีแนวทางที่แพทย์นิยมรักษากันอยู่ เป็น
การผ่าตัด โรคมะเร็งระยะต้นส่วนใหญ่ชอบใช้การผ่าตัดเป็นส่วนมาก เป็นต้นว่า โรคมะเร็งหัวและก็คอ มะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยหมอจะกระทำผ่าตัดก่อนเป็นขั้นแรก เพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ภายในร่างกายเราออกไป แต่ว่าวิธีการแบบนี้ไม่ได้สามารถทำรักษาได้กับมะเร็งทุกจำพวก แล้วก็การผ่าตัดก็ยังไม่แน่ว่าจะหายขาด หรือเปล่า เพราะว่าเซลล์มะเร็งอาจยังหลงเหลือหรือซ่อนตัวอยู่ภายในร่างกาย โดยบางทีอาจเป็นเซลล์ของโรคมะเร็งที่กำลังเริ่มจะเกิด ทำให้หมอไม่สามารถที่จะรู้หรือสังเกตเห็น เมื่อปล่อยไปสักระยะก็จะกลับไปสู่วังวนเดิม เป็นเริ่มก่อตัวขยายใหญ่ขึ้น ก็จะต้องมาผ่าตัดกันใหม่อีกรอบ แม้กระนั้นส่วนมากกับวิธีการผ่าตัดนี้แพทย์มักชี้แนะให้ทำคีโมหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางที่จะช่วยทำให้หายสนิทจากโรคมะเร็งนี้ได้
การใช้รังสีรักษา เป็นการเปล่งแสงไปยังเซลล์ของโรคมะเร็งภายในร่างกาย เพื่อทำลายกลุ่มเซลล์ของมะเร็งนั้น สำหรับในการเปล่งแสงนี้เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่ โดยอาศัยสาเหตุจากจำพวกของโรคมะเร็งที่เป็น ช่วงเวลาที่เกิดโรคมะเร็ง ตลอดจนสุขภาพของคนป่วยเพราะแข็งแรงพอเพียงหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้เจ็บป่วยพร้อมก็จะกระทำเปล่งแสงประมาณ 2 – 10 นาที โดยจำเป็นต้องกระทำฉายแสงอาทิตย์ละ 5 วัน รวมราวๆ 5 – 8 สัปดาห์ ขึ้นกับการวิเคราะห์ของแพทย์ แต่ว่าการดูแลรักษาด้วยรังสีรักษานี้จะมีผลให้เป็นผลใกล้กันขึ้น ได้
เคมีบำบัดรักษา (คีโม) สำหรับวิธีนี้ถือว่าเป็นการรักษาอย่างถูกจุด แก้ที่สาเหตุโดยตรงของปัญหา เพราะเหตุว่าเป็นการให้ยาเข้าไปทำลายเซลล์ของมะเร็งทั้งหมดทั้งปวงที่อยู่ในร่างกาย และก็ที่กระจายเข้าไปตามต่อมน้ำเหลืองหรือกระแสเลือดด้วย โดยหมอจะนัดมากระทำการตรวจร่างกายวัดความดันและก็กระทำเจาะเลือด ซึ่งแม้ผลของการตรวจร่างกายผ่าน หมอก็จะให้ไปทำการให้คีโมซึ่งก็เหมือนกับการให้น้ำเกลือทั่วๆไป ก็แค่ต้องนอนรอหลายชั่วโมงจนกระทั่งตัวยาจะหมด แล้วก็ในระหว่างการให้คีโมนี้คนเจ็บบางบุคคลบางทีอาจกำเนิดอาการแพ้ได้ ซึ่งบางทีอาจรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หรืออาเจียน รวมทั้งผลกระทบที่ตามมาหลังจากการให้คีโมราวๆ 1 – 2 อาทิตย์ ผมจะเริ่มร่วง รู้สึกอ้วก อ้วก เป็นแผลในปาก และจำนวนเม็ดเลือดต่ำลงทำให้มีความรู้สึกอ่อนแรง ตลอดจนอาจรู้สึกหายใจไม่สะดวก มีผื่นขึ้น ท้องผูกถ่ายไม่ออก หรือมีไข้ เป็นต้น แม้กระนั้นการรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ก็มีค่ารักษาที่ค่อนข้างจะแพงเลยแล้วก็ยังจำต้องทำบ่อย ขึ้นกับหมอเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องทำทั้งสิ้นกี่ครั้งจึงจะหายปกติ



การดูแลตนเองในเรื่องทั่วไป รักษาสุขลักษณะอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นช่วงติดเชื้อโรคได้ง่าย พักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าอ่อนล้า ควรลาหยุดงาน แต่ว่าถ้าเกิดไม่เหน็ดเหนื่อย ก็สามารถดำเนินการได้ แม้กระนั้นควรจะเป็นงานเบาๆไม่ใช้แรงงาน แล้วก็สมองมาก ทำงานบ้านได้ตามกำลัง งด/เลิก บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
จำกัดเครื่องดื่มกาเฟอีนดังได้กล่าวแล้ว หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่คับแคบเนื่องจากจะติดเชื้อได้ง่าย ยังคงจะต้อง ดูแล รักษา ควบคุมโรคร่วมอื่นๆอย่างสม่ำเสมอร่วมไปด้วยเสมอกับการดูแลรักษาโรคมะเร็ง
รักษาสุขภาพจิต ให้กำลังใจตัวเอง และก็คนรอบข้าง มองโลกในด้านบวกเสมอ พบหมอตามนัดหมายเสมอ เจอหมอก่อนนัดหมาย เมื่ออาการต่างๆชั่วโคตรลง หรือกำเนิดความผิดปกติผิดไปจากเดิม หรือเมื่อวิตกกังวลในอาการ
การดูแลตัวเองในเรื่องอาหาร เมื่อรับประทานอาหารได้น้อย ให้พยายามกินในปริมาณมื้อที่หลายครั้งขึ้น รับประทานครั้งน้อยๆแม้กระนั้นเป็นประจำแต่ยังจำต้องจำกัดขนมหวาน และก็ของกินเค็ม เพราะมีผลต่อน้ำตาลในเลือด แล้วก็แนวทางการทำงานของไต ให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจว่า อาหารเป็นตัวยาสำคัญยิ่งตัวยาหนึ่ง ของการดูแลและรักษาโรคมะเร็ง ทดลองปรับเปลี่ยน ชนิดอาหารให้กินได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ดังเช่นว่า อาหารอ่อน ของกินเหลว แต่ว่าควรจะเลี่ยงอาหารทอด หรือผัด หรือมีกลิ่นรุนแรง เพราะมักกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการคลื่นไส้ อ้วก เตรียมอาหารครั้งละน้อยๆอย่าให้รับประทานเหลือ เพราะเหตุว่าจะได้กำเนิดแรงใจว่ารับประทานหมดทุกมื้อ ควรแจ้งหมอ พยาบาลเมื่อกินไม่ได้ หรือกินได้น้อย และควรจะยอมรับ เมื่อหมอแนะนำการให้อาหารทางสายให้อาหาร การกินอาหารที่เป็นประโยชน์ครบทั้งยัง 5 กลุ่มเป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นอาหารโปรตีน (เป็นต้นว่า เนื้อ นม ไข่ ปลา ตับ) เนื่องจากสำหรับเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง ความแข็งแรงของไขกระดูก (เม็ดเลือดต่างๆ) เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เนื่องจากเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายสนองตอบที่ดีต่อรังสีรักษา รวมทั้งยาเคมีบรรเทา และก็ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ ซึ่งการตำหนิดเชื้อในขณะกำลังรักษาโรคโรคมะเร็งมักเป็นการติดเชื้อที่ร้ายแรง



ฟ้าทะลายโจร(Andrographis paniculata) ในอินเดียใช้กันมานานรักษาไทฟอยด์ แก้อักเสบ แก้มาเลเรีย กระตุ้นภูมิต้านทาน สารสำคัญเป็น andrographolide สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด
บัวบก (Centella asiatica) มีสาร asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายได้เร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกัน และก็ในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูก
ขมิ้น (http://www.disthai.com/16488284/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99) (Curcuma longa) สารสำคัญคือ curcumin มีฤทธิ์ต้านการอ็อกสิไดส์และต้านการอักเสบที่แรง สามารถก่อให้เกิดการตายของเซลมะเร็งหลายแบบได้แก่ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ และยังมีฤทธิ์ต่อต้านไวรัส แบคทีเรียแล้วก็ราอีกด้วย
ว่านหางจรเข้ (Aloe vera) มีสาร aloe-emodin ที่กระตุ้น macrophage ให้กำจัดเซล์ลมะเร็ง แล้วก็ยังมี acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ว่านหางจรเข้ช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าของเซลล์ธรรมดาและยั้งการเจริญของเซลล์ของมะเร็ง
ทุเรียนเทศ (Anona muricata) สาร acetogenin จากผลทำให้เซลล์ของมะเร็งตายได้
ดีปลี (http://www.disthai.com/16488287/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5) (Piper longum) มี piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอ็อกสิไดส์อีกทั้ง in vitro รวมทั้ง in vivo ก็เลยเป็นองค์ประกอบของตำรับยารักษาโรคมะเร็งของอายุรเวท
บอระเพ็ด (Tinospora cordifolia) สารสำคัญจากบอระเพ็ดกระตุ้นภูมิต้านทานโดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว รวมทั้งสามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เทียบเท่า cyclophosphamide
เอกสารอ้างอิง