โรงรับจำนำ ประกาศขายสินค้าฟรี ซื้อขายสินค้าหลุดจำนำ ตั๋วจำนำ

ซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน => ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: one1s5c8666 ที่ สิงหาคม 06, 2018, 10:04:00 am

หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: one1s5c8666 ที่ สิงหาคม 06, 2018, 10:04:00 am
(https://www.img.live/images/2018/07/24/Ginger-1.jpg) (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ข้างนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาทำกับข้าวเพราะว่าส่งกลิ่นหอม นอกเหนือจากนี้ ขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)ยังใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ แล้วก็เครื่องสำอางทั้งหลายด้วยเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างนาน เป็นต้นว่า โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีก๊าซในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก ไม่อยากอาหาร
คุณสมบัติของขิงเชื่อว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอาเจียนและลดการอักเสบ โดยนักวิจัยโดยมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะและลำไส้ แล้วก็สารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แม้กระนั้นการสันนิษฐานดังกล่าวข้างต้นยังไม่ชัดแจ้งนัก แล้วก็คุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งประโยช์จากขิงต่อร่างกายที่เราเชื่อกันนั้น ช่วงนี้ทางวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังต่อไปนี้
การรักษาที่บางทีอาจเห็นผล
อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ สรรพคุณทุเลาอาการอาเจียนอ้วกของขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)บางทีอาจมีประโยชน์ต่อคนป่วยโรคนี้ที่อยากได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเล่าเรียนคนเจ็บปริมาณ 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต่อต้านรีโทรเชื้อไวรัส ตรงเวลาทั้งสิ้น 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อ้วกที่เกิดจากการดูแลรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้
อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังจากการผ่าตัด ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้จากการผ่าตัดได้ด้วยเหมือนกัน โดยการเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์จำนวนมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอ้วกที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งทดลองแบ่งคนป่วยจำนวน 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม และอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่ว่าแบ่งให้ 2 คราวก่อนผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์พบว่าผู้ป่วยในกรุ๊ปหลังมีลักษณะอ้วกคลื่นไส้น้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้ความสามารถสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆรวมทั้งสม่ำเสมอโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกจากนี้ การทดลองทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองปกป้องอาการอาเจียนในคนเจ็บโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งปวง แต่การใช้ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกคลื่นไส้นั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับคนป่วยที่เสี่ยงต่อการอาเจียนอาเจียนน้อยอยู่แล้วก็บางทีอาจไม่ได้ผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ยกตัวอย่างเช่น อ้วก อ้วก หรือเวียนหัว ผลวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่แก่ครรภ์ต่ำกว่า 20 อาทิตย์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกเมื่อเชื่อวันนานขั้นต่ำ 1 สัปดาห์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้ว่าจะแปลงการทานอาหารรวมทั้งตาม หลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลสรุปได้แสดงให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ในฐานะการดูแลรักษาทางเลือกต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอ้วกอาเจียนในหญิงมีท้องที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือให้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้อาเจียนคลื่นไส้ ยิ่งกว่านั้น การเล่าเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดและก็พบผลลัพธ์ที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดลองที่ชี้ว่าขิงอาจไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกัน
อาการหน้ามืดหัว อาการที่เกิดขึ้นกับการอาเจียนนี้อาจบรรเทาให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้คนที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุๆกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)ช่วยลดอาการเวียนหัวหัวได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แต่มิได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนรู้บางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีคุณประโยชน์ลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้คนไข้รับประทานสารสกัดจากขิง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อหัวเข่าหลังจากการดูแลและรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับเพื่อการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเดิน และก็อาการข้อติด
นอกจากนั้น มีการเล่าเรียนเปรียบคุณภาพระหว่างขิงแล้วก็ยาพารา โดยให้คนป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายและข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวี่วัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลทุเลาลักษณะของการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานค้นคว้าที่เสนอแนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงแล้วก็ส้มอาจช่วยทุเลาลักษณะของการปวดและก็อ่อนเพลียที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนเจ็บที่มีลักษณะอาการเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดระดู เว้นแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดประจำเดือน ตัวอย่างเช่น การทดสอบในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงทีละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีรอบเดือนตลอดไปจนถึง 3 วันแรกของการมีประจำเดือน รวมทั้งหมดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของอาการปวดระดูได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนเทียบสมรรถนะของขิงและก็ยาลดอาการปวดรอบเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในปริมาณ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู ผลสรุปปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยแรกหมายถึงขิงมีคุณภาพบรรเทาความร้ายแรงของลักษณะของการปวดประจำเดือนไม่ได้มีความแตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลรักษาที่อาจไม่เป็นผล
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการพูดถึงกันมาก แต่ว่าหากแม้ขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ว่าสำหรับในการตาลายอาเจียนที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยส่วนใหญ่บอกว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ดังเช่นว่า การแบ่งกรุ๊ปให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีอาการคลื่นไส้และก็ตาลายลดน้อยลงจริงแม้กระนั้นอยู่ในระดับเล็กน้อยแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาวิจัยที่ชี้ว่าการกินผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับการคุ้มครองอาการเมารถหรือการทำงานของกระเพาะอาหารที่เกี่ยวพันกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่ประการใด
การดูแลรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการเจาะจงคุณภาพ
อาการคลื่นไส้คลื่นไส้จากแนวทางการทำเคมีบำบัดรักษา อีกหนึ่งคุณประโยชน์คือลดอาการคลื่นไส้แล้วก็คลื่นไส้ ซึ่งมีการศึกษาเล่าเรียนทางวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยรับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการอาเจียนที่เกิดขึ้นภายหลังจากการรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แต่ว่าได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า หมายความว่าการรับประทานขิงในจำนวนมากก็เลยบางทีอาจไม่ได้ทำให้อาการอาเจียนดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
แม้กระนั้น มีหลักฐานที่แย้งข้อสนับสนุนดังที่กล่าวถึงมาแล้วซึ่งเป็นงานค้นคว้าวิจัยที่เปิดเผยว่าการรับประทานขิงไม่ได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้ ทั้งนี้ ผลการค้นคว้าที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีปัจจัยมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดลองนั้นต่างกัน รวมทั้งขณะที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลไหมคงจะควรจะมีการพิสูจน์เพิ่มต่อไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานในปัจจุบันยังส่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน งานศึกษาวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด แล้วก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีการวิจัยอื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางการค้นคว้าพูดว่าขิงมีผลกับอินซูลิน กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือระยะเวลาที่ผู้เจ็บป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยเล่าเรียนความสามารถของขิงในผู้ป่วยที่มีอาการของกินไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมหลังจากการงดเว้นของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารและเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่การรับประทานขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ แต่ ผู้ร่วมการทดลองนี้มีปริมาณน้อย ทำให้ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่ๆแค่ไหน
อาการเมาค้าง เชื่อกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการแฮงค์ซึ่งได้ผลสำเร็จข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานค้นคว้าแต่ก่อนที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในตอนหลัง รวมถึงอาการอ้วก คลื่นไส้และท้องร่วง แม้กระนั้น การเล่าเรียนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังจัดว่าไม่ชัดเจนอยู่มากมายและไม่บางทีอาจยืนยันได้ว่าเกิดขึ้นจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้ผู้เจ็บป่วยที่มีสภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม ผลกล่าวว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยกลุ่มที่กินยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้รักษาคนเจ็บสภาวะนี้ได้ไหมอาจจะต้องคอยการศึกษาในอนาคตที่เด่นชัดกันต่อไป
อาการเจ็บกล้ามหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดและก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงไม่แน่ชัดและเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ด้วยเหมือนกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างสม่ำเสมอนาน 11 วัน พบว่าอีกทั้งขิงสดแล้วก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมาก
แต่ทว่าอีกงานศึกษาวิจัยหนึ่งกลับเจอผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเนื้อแบบเดียวกัน รับประทานขิง 2 กรัมในช่วง 24 ชั่วโมงและก็ 48 ชั่วโมงหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่าไม่ได้นำมาซึ่งการทำให้อาการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการบริหารร่างกายลดน้อยลง แต่ว่าผู้ศึกษาวิจัยพบว่าการรับประทานขิง (http://www.disthai.com/)บางทีอาจช่วยให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเบาๆดีขึ้นในวันแล้ววันเล่า ถึงแม้อาจไม่เห็นผลตอบแทนในทันที
ลักษณะของการปวดหัวไมเกรน มีการศึกษากับผู้ป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนเฉียบพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/ (http://www.disthai.com/)

Tags : สมุนไพรขิง