1
ประกาศซื้อ-ขาย สินค้าและบริการทั่วไป ฟรี / พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ชมแหล่งพบไดโนเสาร์แห่งแรกของไทย
« เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 12:51:40 am »
“พ.ศ.2519 ครั้งแรกของการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ในประเทศไทย” ถ้านับๆดูแล้วก็ผ่านมาเกือบ 40 ปีเลยทีเดียวนะคะ วันนี้เราจะพาไปเจอกับไดโนเสาร์ที่มีอายุเป็นล้านๆปีกันเลย เดากันได้มั้ยคะว่าวันนี้เราจะไปเที่ยว ณ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดกัน ใบ้ให้นิดนึงแล้วกันค่ะว่า ‘พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น’ พอจะเดากันได้มั้ยคะ?
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย tolonnews.blogspot.com
“พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง” อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่นนี่เองค่ะ งั้นเราอย่าเสียเวลาอันมีค่าของเราเลยค่ะ ไปทำความรู้จักกับพิพิธภัณฑ์นี้กันดีกว่าค่ะว่าทำไมเราถึงต้องเดินทางไปดูให้เห็นกับตาให้ได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นะคะเน้นการจัดแสดงหรือการวางเรื่องราวให้เกี่ยวข้องกับเรื่องของซากดึกดำบรรพ์ค่ะ และในพ.ศ.2519 อย่างที่เล่าไปแล้วค่ะว่าเป็นครั้งแรกของการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นที่แรกของเมืองไทย บริเวณห้วยประตูตีหมา ฟอสซิลกระดูกชิ้นที่พบนั้นมีความกว้างยาวประมาณ 1 ฟุต จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีฟอสซิลชิ้นนี้ลักษณะใกล้เคียงกับไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เมตร และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นส่วนปลายล่างสุดของกระดูกต้นขาของไดโนเสาร์จำพวกกินพืช ทำให้เกิดการเริ่มต้นการสำรวจไดโนเสาร์ที่ภูเวียงอย่างจริงจังในปี 2524 ค่ะ ในปีนั้นเองค่ะที่ได้พบ กระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ ฟันจระเข้ กระดองเต่า ฟันและเกล็ดปลาโบราณ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย The Deaw @ Pantip.com
จากการค้นพบนี้เองค่ะ ที่เป็นการค้นพบที่สร้างชื่อเสียงให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอย่างมาก มีการตั้งชื่อฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ค้นพบว่า “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรณี” การที่ใช้ชื่อนี้ยิ่งทำให้ผู้คนไม่ว่าจะเป็นคนไทยเองก็ดี หรือคนต่างชาติ ต่างกูมีการพูดถึงฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ค้นพบกันอย่างกว้างขวาง ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาแหล่งขุดค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์รวมกันถึง 9 หลุม ให้ได้ความรู้กลับไปอย่างเต็มที่เลยนะคะ เพราะ หลังจากที่มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกแล้ว ยังได้มีการขุดค้นพบซากฟอสซิลรวมถึงรอยเท้าไดโนเสาร์อีกด้วยค่ะ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย Thong Phu Wiang @ Youtube.com
โดยหลุมที่ 1 “ประตูตีหมา” จัดแสดงเรื่องของฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จำนวนมากมายที่เรียงรายอยู่ในส่วนของชั้นหินค่ะ
หลุมที่ 2 “ถ้ำเจีย” ส่วนนี้จัดแสดงฟอสซิลไดโนเสาร์ในส่วนคอของไดโนเสาร์ซอโรพอดที่นำมาเรียงต่อกันได้จำนวน 6 ขิ้น
หลุมที่ 3 “ห้วยประตูตีหมา” ส่วนนี้มีการพบกระดูกสันหลังและกระดูกซี่โครงหลายชิ้นที่เป็นของไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่
หลุมที่ 4 “โนนสาวเอ้” ณ บริเวณนี้ พบฟอสซิลกระจายเป็นบริเวณกว้างกว่า 10 ตารางเมตร ประกอบด้วยกระดูกไดโนเสาร์ซอโรพอดขนาดใหญ่ และที่อยู่ในวัยเยาว์ นอกจากนั้นยังพบเกล็ดปลาเลปิโดเทสและกระดองเต่า
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย narmseelee.blogspot.com
หลุมที่ 5 “ซำหญ้าคา” หลุมที่ 6 “คงเค็ง” และหลุมที่ 7 “ภูน้อย” ในบริเวณ 3 จุดนี้ มีการขุดค้นพบไดโนเสาร์ทั้งขนาดใหญ่และที่ยังเยาว์ และยังพบฟอสซิลของจระเข้ขนาดเล็กอีกด้วย
หลุมที่ 8 “หินลาดป่าชาด” ในบริเวณหลุมขุดค้นนี้ได้พบกับรอยเท้าไดโนเสาร์ มากกว่า 60 รอยใน 10 แนวทางเดิน เป็นของไดโนเสาร์พวกกินเนื้อขนาดเล็ก ซึ่งเดินด้วย 2 ขาหลัง
และในหลุมที่ 9 “หินลาดยาว” ซึ่งเป็นหลุมสุดท้ายนั้น มีการจัดแสดงการขุดค้นพบกับกระดูกสันหลังหลายชิ้นที่โผล่มาจากชั้นหินทรายสีแดงของหมวดหินเสาขัว และยังพบส่วนของสะโพกด้านซ้ายและกระดูกส่วนหางกว่า 10 ชิ้น ของพวกไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 6.5 เมตร
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย Tourism Authority of Thailand
ถ้าหากนักท่องเที่ยวท่านใดหรือผู้ที่สนใจในเรื่องของซากดึกดำบรรพ์ และในเรื่องของไดโนเสาร์แล้วล่ะก็ ไม่ควรที่จะพลาดเข้าไปชม เข้าไปศึกษาพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงเป็นอันขาดเลยค่ะ เพราะ นอกจากจะได้พบกับเรื่องราวที่เราอาจไม่เคยทราบไม่เคยรู้มาก่อน เรายังได้ความสนุกได้ความรู้มากมายจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก และไม่ว่าจะเป็นการขุดค้นพบอะไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นแค่ชิ้นส่วนที่เล็กที่สุด หรือใหญ่ที่สุดก็ตาม การค้นพบทั้งหมดทั้งมวลย่อมมีคุณค่าต่อมนุษยชาติอย่างที่สุดเช่นกันค่ะ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย tolonnews.blogspot.com
“พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง” อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่นนี่เองค่ะ งั้นเราอย่าเสียเวลาอันมีค่าของเราเลยค่ะ ไปทำความรู้จักกับพิพิธภัณฑ์นี้กันดีกว่าค่ะว่าทำไมเราถึงต้องเดินทางไปดูให้เห็นกับตาให้ได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นะคะเน้นการจัดแสดงหรือการวางเรื่องราวให้เกี่ยวข้องกับเรื่องของซากดึกดำบรรพ์ค่ะ และในพ.ศ.2519 อย่างที่เล่าไปแล้วค่ะว่าเป็นครั้งแรกของการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นที่แรกของเมืองไทย บริเวณห้วยประตูตีหมา ฟอสซิลกระดูกชิ้นที่พบนั้นมีความกว้างยาวประมาณ 1 ฟุต จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีฟอสซิลชิ้นนี้ลักษณะใกล้เคียงกับไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เมตร และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นส่วนปลายล่างสุดของกระดูกต้นขาของไดโนเสาร์จำพวกกินพืช ทำให้เกิดการเริ่มต้นการสำรวจไดโนเสาร์ที่ภูเวียงอย่างจริงจังในปี 2524 ค่ะ ในปีนั้นเองค่ะที่ได้พบ กระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ ฟันจระเข้ กระดองเต่า ฟันและเกล็ดปลาโบราณ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย The Deaw @ Pantip.com
จากการค้นพบนี้เองค่ะ ที่เป็นการค้นพบที่สร้างชื่อเสียงให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอย่างมาก มีการตั้งชื่อฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ค้นพบว่า “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรณี” การที่ใช้ชื่อนี้ยิ่งทำให้ผู้คนไม่ว่าจะเป็นคนไทยเองก็ดี หรือคนต่างชาติ ต่างกูมีการพูดถึงฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ค้นพบกันอย่างกว้างขวาง ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาแหล่งขุดค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์รวมกันถึง 9 หลุม ให้ได้ความรู้กลับไปอย่างเต็มที่เลยนะคะ เพราะ หลังจากที่มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกแล้ว ยังได้มีการขุดค้นพบซากฟอสซิลรวมถึงรอยเท้าไดโนเสาร์อีกด้วยค่ะ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย Thong Phu Wiang @ Youtube.com
โดยหลุมที่ 1 “ประตูตีหมา” จัดแสดงเรื่องของฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จำนวนมากมายที่เรียงรายอยู่ในส่วนของชั้นหินค่ะ
หลุมที่ 2 “ถ้ำเจีย” ส่วนนี้จัดแสดงฟอสซิลไดโนเสาร์ในส่วนคอของไดโนเสาร์ซอโรพอดที่นำมาเรียงต่อกันได้จำนวน 6 ขิ้น
หลุมที่ 3 “ห้วยประตูตีหมา” ส่วนนี้มีการพบกระดูกสันหลังและกระดูกซี่โครงหลายชิ้นที่เป็นของไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่
หลุมที่ 4 “โนนสาวเอ้” ณ บริเวณนี้ พบฟอสซิลกระจายเป็นบริเวณกว้างกว่า 10 ตารางเมตร ประกอบด้วยกระดูกไดโนเสาร์ซอโรพอดขนาดใหญ่ และที่อยู่ในวัยเยาว์ นอกจากนั้นยังพบเกล็ดปลาเลปิโดเทสและกระดองเต่า
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย narmseelee.blogspot.com
หลุมที่ 5 “ซำหญ้าคา” หลุมที่ 6 “คงเค็ง” และหลุมที่ 7 “ภูน้อย” ในบริเวณ 3 จุดนี้ มีการขุดค้นพบไดโนเสาร์ทั้งขนาดใหญ่และที่ยังเยาว์ และยังพบฟอสซิลของจระเข้ขนาดเล็กอีกด้วย
หลุมที่ 8 “หินลาดป่าชาด” ในบริเวณหลุมขุดค้นนี้ได้พบกับรอยเท้าไดโนเสาร์ มากกว่า 60 รอยใน 10 แนวทางเดิน เป็นของไดโนเสาร์พวกกินเนื้อขนาดเล็ก ซึ่งเดินด้วย 2 ขาหลัง
และในหลุมที่ 9 “หินลาดยาว” ซึ่งเป็นหลุมสุดท้ายนั้น มีการจัดแสดงการขุดค้นพบกับกระดูกสันหลังหลายชิ้นที่โผล่มาจากชั้นหินทรายสีแดงของหมวดหินเสาขัว และยังพบส่วนของสะโพกด้านซ้ายและกระดูกส่วนหางกว่า 10 ชิ้น ของพวกไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 6.5 เมตร
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ภาพโดย Tourism Authority of Thailand
ถ้าหากนักท่องเที่ยวท่านใดหรือผู้ที่สนใจในเรื่องของซากดึกดำบรรพ์ และในเรื่องของไดโนเสาร์แล้วล่ะก็ ไม่ควรที่จะพลาดเข้าไปชม เข้าไปศึกษาพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงเป็นอันขาดเลยค่ะ เพราะ นอกจากจะได้พบกับเรื่องราวที่เราอาจไม่เคยทราบไม่เคยรู้มาก่อน เรายังได้ความสนุกได้ความรู้มากมายจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก และไม่ว่าจะเป็นการขุดค้นพบอะไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นแค่ชิ้นส่วนที่เล็กที่สุด หรือใหญ่ที่สุดก็ตาม การค้นพบทั้งหมดทั้งมวลย่อมมีคุณค่าต่อมนุษยชาติอย่างที่สุดเช่นกันค่ะ