แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - าร

หน้า: 1 [2]
16

ขิง
ข้อดีของสรรพคุณขิง
25 คุณประโยชน์ดีๆของ’’ผลดีในการรักษาโรค
1.ขิงสดช่วยลดความเจ็บปวดตามข้อ ลดอาการเมื่อยกล้าม
2.ขิงมีสรรพคุณช่วยรักษาแผล ฆ่าเชื้อโรคในแผลได้
3.ขิงช่วยทำให้สบายท้อง ขับลม แก้ท้องผูก
4.ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียในร่างกาย ช่วยขับเสมหะ ทำให้หายใจสบาย
5.ขิงช่วยแก้อาการหน้ามืด หน้ามืด อาเจียน เมารถ เมาเรือ
6.ขิงช่วยเผาผลาญไขมัน และเป็นยาระบายอ่อนๆจึงแป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ขิงช่วยลดหุ่น ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้
7.ขิงช่วยบำรุงรักษาหัวใจ เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหัวใจ
8.ขิงช่วยแก้โรคลมพิษ แก้แพ้เกสรดอกไม้ แล้วก็อาหารทะเลได้
9.ประโยชน์ของเนื้อขิงสดๆทำมาทาแก้ผื่นคัน แก้แมลงกัดต่อยได้
10.ขิงช่วยบำรุงสายตา คุ้มครองปกป้องโรคตาแดง อาการน้ำในตามาก ตาฝ้าฟาง
11.ขิงเป็นสมุนไพรดับกลิ่น ช่วยลดกลิ่นตัว
12.ขิงมีคุณประโยชน์แก้ฟันเหลือง ฟันพุ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน นำมาอม กลัวปากเป็นประจำ แล้วทดลองสังเกตว่าลักษณะของการปวดจะเบาๆลดน้อยลง
13.มีสรรพคุณลดกลิ่นปากได้ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน เอามาอม กลั้วปากเป็นประจำ ช่วย จัดแจงกับแบคทีเรียในปาก ลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างดี
14.ขิงช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ โดยให้กินน้ำขิงบ่อยๆ แล้วทดลองสังเกตว่าอาการปวดจะเบาๆลดลง
15.ขิงทุเลาโรคประสาทลักษณะของโรคประสาท การกินน้ำขิงจะช่วยลดความมัวมันของหัวใจ
16.ขิงช่วยการไหลเวียนของนมมารดาให้ดีขึ้น ควรเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับสตรีให้นมลูกเป็นอย่างดี
17.ขิงช่วยบำบัดรักษาผู้ติดสิ่งเสพติดได้ โดยคุณประโยชน์ของขิงมีส่วนช่วยลดความต้องการเสพยาเสพติด
18.ประโยชน์ซึ่งมาจากขิงช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง จากการศึกษาเรียนรู้พบว่าสาระสำคัญในขิงช่วยต่อต้านการเติบโตของเซลล์ของมะเร็งได้เป็นอย่างดี
19.ขิงช่วยควมคุมความดันโลหิตได้ สำหรับคนที่มีปัญหาความดันสูง และ ความดันต่อ ควรจะฝานขิงสดมาต้มกับน้า ดื่มเสมอๆ จะช่วยควบคุมความดันให้ปกติ
20.สรรพคุณของขิงช่วยผ่อมคลาย ช่วยให้นอนหลับสบาย ก็เลยเหมาะสมเป็นของกินสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ
21.ขิงช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ โดยช่วยให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น กำจัดเซลลูไลท์
22.ใบเละดอกของขิงช่วยแก้อาการขัดฉี่ ป้องกันโรคนิ่วได้
23.ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เนื่องด้วยขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยทำให้ปรับสมดุลในร่างกายได้
24.เหง้าขิงช่วยปกป้องการเกิดแผลในกระเพราะของกินได้
25.ขิงช่วยแก้อึกได้โดยตำขิงสดให้แหลกคั้นเอาน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้ง น้ำอุ่น คนจะกว่าจะเข้ากันดื่มแก้สะอึกได้
การประยุกต์ใช้ทางคลินิก
1.บรรรเทาอาการเจียนรุนแรงใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไก่กวน(เหนือข้อมือใน 2 ชุ่น)ทิ้งเอาไว้ราวครึ่งชั่วโมงถึง  ชั่วโมงอาการจะดียิ่งขึ้น
2.ทุเลาอาการแผลในกระเพาะและก็ลำไส้เล็กส่วนต้น ต้มขิงสดที่ตำอย่างละเอียดกับน้ำ 300 มิลลิลิตร นาน 30 นาที กินวันละ 3 เวลา ตรงเวลา 2 วัน ในคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร และก็ลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าลักษณะของการปวดกระเพราะเหตุว่าน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิว มากมายท้องผูก หรืออึสีดำ (แสดงว่ามีเลือดออก)ธรรมดา ความต้องการของกินดียิ่งขึ้น (พบว่าผู้เจ็บป่วยพวกนั้นโดยมากกลับเป็นซ้ำได้อีก ซึ้งอาจต้องรักษาสม่ำเสมอ หรือควบคุมเหตุอื่นๆร่วมด้วยก็เลยจะรักษาหายสนิทได้)
3.รักษาโรคบิด ใช้ขิงสด 75 กรัม น้ำตาลทรายแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งรับประทานเป็น 3 มื้อต่อตำหรับ
4.คุ้มครองรักษาอาการเมารถ เมารือ
-ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือข้างใน 2 ชุ่น(ใช้เหริยญ เงินขนาดพอเหมาะปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
-ใช้ขิงสด 25 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำมันดื่ม (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
5.รักษาปัสสาวะรดที่พักผ่อนในผู้ป่วยที่มีภาวการณ์หยางพร่อง มีความเย็นภายในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ใช้ขิง 30 กรัม(ตำ)ยาลูกสมุนนไพรศรีฟู่จื่อ 6 กรัม ปู่กู่จื้อ 12 กรัม บดคลุกเคล้าจะกว่าจะเข้ากันฟอกในแอ่งสะดือ ใช้ผ้ากอซสะอาดปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น
6.รักษาคอไส้อุดกั้นจากพยาธิตัวกลม
ใช้ ขิง [/b]สด 120 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง 120 กรัม รับประทานครั้งเดียว หรือเบาๆกินหมดด้านในครึ่งชั่วโมง การทดลองในคนไข้ 64 คน พบว่าสามารถลดอุดกั้นของลำใส้ร้ยละ 96.8 ฤทธิ์สำหรับการขับพยาธิจำนวนร้อยละ 61.3
7.เป็นหวัดตัวร้อนเจ็บป่วยเนื่องไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น อย่างเช่น โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว เป็นไข้ต่ำ ให้หั่นขิงฝอย 30 กรัม

ชงกับน้ำตาลทรายแดง หรืออาจใส่หัวหอมตี 3-4 (ช่วยกระจัดกระจายลม)ดื่มขณะร้อนๆแล้วห่มผ้าให้เหงือออก
8.ฟื้นฟูร่างกายวันหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงข้างหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงข้างหลังคลอดกินไก่ผัดขิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่ดำตัวผู้จะยิ่งมีหยางมากยิ่งกว่าไก่ตัวเมีย
ร่างกายของหญิงข้างหลังคลอดจะเสียพลังหยางและก็เลือด มีน้ำในร่างกายตกค้างอยู่มากมายการกินไก่ผัดขิงจะเสริมทั้งเลือดหยางช่วยให้การสรุปยซับอาหารดีขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาได้ดิบได้ดีขึ้นทำให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น
ข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการทานขิง
-อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรซ้อนสำหรับเพื่อการตั้งท้องได้
มีบางการเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการมีครรภ์ และการแท้ง แต่ว่าสำหรับในการท้องรายอื่นๆนั้นๆไม่พบการรับประทานขิงจะทำให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ฉะนั้นคุณควรไปขอคำแนะนำหมอก่อ่นจะที่ใช้ขิงสำหรับเพื่อการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตัวเอง
-ทำให้มีการเกิดแผลร้อนในภายในปากได้
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน หากหารรับประทานเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุด้านในช่องปากมีการอักเสบกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ ฉะนั้นไม่ควรกินขุงมากกระทั่งเกินไป
-ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
การเล่าเรียนหนึ่งในหนึ่งในประเทศออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีคุณประโยชน์สำหรับการต่อต้านการแข็งตัวของเลือดมากยิ่งกว่ายาแอสไพริน สถานบันสุขภาพของออสเลียได้ออกการเตือนเตือนให้งดการรับประทานขิงในเวลาที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเพราะเหตุว่าจะก่อให้กำเนิดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีอากเลือดออกเลือดออกผิดปกติหรือหรือกำลังใข้ยาละลายลิ่มเลือด ควรจะหลีก แกงเลียงการกินขิง
เมื่อทราบแบบนี้แล้ว หวังหลายท่านที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยทุเลาลักษณะของโรคต่างๆก็คงต้องระวังตัวเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากครั้งคราวถ้าราใช้ ขิงในการรักษาโรคหนึ่งแม้กระนั้นก็บางทีอาจช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการเกิดขึ้นอีกได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวน่าจะกินขิงให้ละเอียด แต่ถ้าไม่แน่ใจล่ะก็ ควรจะขอคำปรึกษาจากหมอก่อนเสมอ

17

ขิง
ถึงแม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ปรุงอาหารและก็มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการรักษาโรค แม้ว่าขิงจะมีกลิ่นฉุนรวมทั้งมีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากคนไม่ใช่น้อยนั้น แม้กระนั้นขิงก็เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ปรุงอาหารและมีคุณประโยชน์รักษาโรค พวกเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าสมุนไพรดีๆอย่างขิงนั้นเป็นประโยชน์รวมทั้งโทษอะไรที่พวกเราไม่ได้นึกฝันบ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง
+ ลดอาการท้องอืดแม้คุณรู้สึกอาการท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือรับประทานขิงสดจะทำให้คุณเข้าใจดีขึ้น หรือถ้าคุณเกิดอาการท้องอืดที่เกิดจากการกินถั่วละก็ ทีหน้าลองฝานถั่วบางๆลงไปในของกินที่มีถั่ว โน่นก็จะช่วยลดของกินท้องขึ้นได้เหมือนกันจ้ะ เพราะขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และก็กระตุ้นแนวทางการทำงานของลำไส้ทำให้ อาการท้องอืดบรรเทาลงได้
+ ช่วยทุเลาอาการไมเกรน
จากการเรียน
พบว่า การกินขิงในขณะที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนต่ำลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการเล่าเรียนอื่น แสดงให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าคนที่มีลักษณะของโรคข้อหัวเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีลักษณะลดน้อยลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน
คุณประโยชน์ของขิง รวมทั้งโทษที่คุณอาจคิดไม่ถึง
+ ช่วยคุ้มครองป้องกันมะเร็ง
 ขิงมีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการเรียนรู้พบว่าขิงช่วยให้เซลล์มะเร็งด้านในรังไข่ตาย เพราะเหตุว่าในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยคุ้มครองปกป้องมะเร็งได้ นอกเหนือจากนี้ยังพบอีกว่าสินค้าอาหารเสริมที่มีขิงเป็นองค์ประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
+ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้
 ขิงสามารถบรรเทาอาการอ้วกได้ โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงสำหรับเพื่อการช่วยทุเลาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกจากนั้นยังมีหลายการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงสามารถช่วยป้องกันและก็บรรเทาอาการอ้วกหลังจากการผ่าตัดแล้วก็ยังช่วยบรรเทาอาการอ้วกรวมทั้งอาเจียนในคนป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย
+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
 มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับคนป่วยโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 แต่ก็ควรจะที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เนื่องจากว่าขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ รวมทั้งควรจะติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างสนิทสนม เพราะเหตุว่าถ้าหากรับประทานขิงมากจนเกินไปก็อาจจะก่อให้ระดับอินซูลินน้อยลงมากจนเกินไปจนถึงอยู่ในขั้นอันตรายได้
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง รวมทั้งโทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
ขิงดอง สรรพคุณดีก็มีนะ ทราบยัง?
 เราอาจจะเคยทราบกันมาว่าการรับประทานของดองไม่ใช้เรื่องดีสำหรับสุขภาพ แม้กระนั้นจำเป็นต้องขอนอกจากไว้สำหรับขิงดองค่ะ เพราะว่าอันที่จริงแล้วขิงดองจะเป็นของกินที่ผ่านการหมักดองด้วยน้ำส้มสายชู แต่เรื่องสรรพคุณ และก็คุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสดๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งคุณประโยชน์ซึ่งมาจากขิงดองมีดังนี้
* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ และอาการแพ้ท้อง

เพราะเหตุว่าขิงดองเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรงอีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้เปลี่ยนเป็นของกินที่เหมาะกับมีอาการเมาเรือ เมารถ แล้วก็สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมักจะมีลักษณะแพ้ท้อง เอาไว้กินในตอนที่รู้สึกคลื่นไส้ เพราะจะช่วยบรรเทาอาการได้จ้ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ลองใช้ขิงดองดูนี่ล่ะจ้ะ เด็ด !
* ช่วยล้างปากเวลาทานอาหาร
 สำหรับผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่สงสัยว่าเพราะเหตุไรเวลาไปทานอาหารญี่ปุ่นแล้วบนจานของกินประเทศญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองเหล่านั้นมีไว้กินล้างปากค่ะ โดยส่วนมากสำหรับในการกินอาหารญี่ปุ่น จะรับประทานขิงดองตามเข้าไปหลังจากรับประทานอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติของกินจานเดิมติดอยู่ในปากกระทั่งทำให้มีความรู้สึกมันรวมทั้งกินจานต่อไปไม่ไหว ทั้งยังยังส่งผลให้ชิมรสของกินจานถัดไปได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
* โซเดียมต่ำ
 ขิงดองจะมีรสจัด แม้กระนั้นน่าประหลาดที่ขิงดองเป็นอาหารที่มีโซเดียมต่ำมากมายเมื่อเทียบกับของกินหมักดองชนิดอื่นๆเมื่อนำมารับประทานและจากนั้นก็ทำให้ไม่ต้องวิตกกังวลกับจำนวนโซเดียม ลดการเสี่ยงที่จะกำเนิดความดันเลือดสูงลงไปได้อีกมากมายเลย
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง แล้วก็โทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
ข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการทานขิง
- อาจจะทำให้เกิดภาวะสอดแทรกสำหรับเพื่อการตั้งท้องได้
 มีบางการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งท้องและก็การแท้ง แม้กระนั้นในการตั้งครรภ์รายอื่นๆนั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะมีผลให้กำเนิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอ้วกจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย โดยเหตุนั้นคุณควรไปหารือหมอก่อนที่จะที่ใช้ขิงสำหรับในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองค่ะ
- ทำให้มีการเกิดแผลร้อนในด้านในปากได้
 ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากว่ากินเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุข้างในช่องปากเกิดการอักเสบจนกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ ฉะนั้นไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไปค่ะ
- ยั้งการแข็งตัวของเลือด
 การศึกษาหนึ่งในประเทศออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีคุณประโยชน์ในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้ออกการตักเตือนให้งดเว้นการรับประทานขิงเวลาที่ใช้ยาละายลิ่มเลือดเพราะเหตุว่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ เพราะเหตุนี้หากว่าคุณมีลักษณะอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงค่ะฃ http://www.disthai.com/

18

มะขาม
ชื่อสมุนไพร มะขาม
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น ขาม (ภาคใต้) , ม่องโคล้ง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) , ตะลูบคลำ (วัวราช) หมากแกง (ฉาน-แม่ฮ่องสอน) , อำเปียล (เขมร-สุรินทร์) , ส่าหม่อเกล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ซึงกัก , ทงฮ้วยเฮียง (จีน)
ชื่อสามัญ  tamarind
ชื่อวิทยาศาสตร์  Tamarindus indica Linn.
ตระกูล  Fabaceae
ถิ่นเกิด เช้าใจกันว่ามะขามมีบ้านเกิดเมืองนอนในแอฟริกา แถบประเทศซูตานในขณะนี้ แล้วหลังจากนั้นมนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้นำมะขามมาปลูกเอาไว้ในแถบอินเดีย รวมทั้งในประเทศแถเขตร้อนของทวีปเอเชียและก็ประเทศแถบลาตินอเมริกา แม้ว่าจะมีหลักฐานว่ามะขามมีถิ่นเกิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปแอฟริกา แม้กระนั้นสำหรับในประเทศไทยมะขามก็เข้ามา รวมทั้งเป็นที่รู้จักดีเยี่ยมว่า 700 ปีแล้ว ดังปรากฏใจความในแผ่นจารึกหลักที่ 1 ยุคบิดาขุนรามคำแหง ที่เอ๋ยถึงมะขามอยู่หลายที่ อาทิเช่น ตอนหนึ่งว่า “หมากขามก็หลายในเมืองนี้ผู้ใดกันสร้างได้ไว้แก่มัน” เป็นต้น  จากหลักฐานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงอาจพูดได้ว่า มะขามเป็นพืชที่มีการกระจายชนิดเข้ามาสู่ประเทศไทยกว่า 700 ปีมาแล้ว  ยิ่งไปกว่านี้มะขามยังเป็นพืชพันธุ์ไม้พระราชทางแล้วก็เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย
ดังนี้มะขามฯลฯไม้แข็งแรงทน และก็ฯลฯไม้ที่แก่ยืนยาวมาก ในประเทศศรีลังกามีแถลงการณ์ว่าเจอมะขามที่มีอายุมากยิ่งกว่า 200 ปี ส่วนในประเทศไทย เจอมะขามยักษ์ที่วัดแค อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีขนาดลำต้น 6-7 คนโอบ มั่นใจว่ามีอายุกว่า 300 ปี โดยวัดแคนี้มีปรากฏชื่อในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนเณรแก้วเรียนวิชากับอาจารย์อาจจะเจ้าอาวาสวัดแค ว่า
“พิชัยสงครามล้วนความรู้บางครั้งก็อาจจะปราบศัตรูไม่สู้ได้
      ฤกษ์พานาทีทุกสิ่งทุกอย่างไปเสกใบมะขามดีกว่าแตน”
มีชาวสุพรรณฯ เป็นจำนวนมากเชื่อว่า มะขามยักษ์ที่วัดแคในปัจจุบัน เป็นมะขามต้นเดียวกันกับต้นที่เณรแก้วฝึกฝนเสกใบมะขามเหนือชั้นกว่าแตนในครั้งก่อน
ลักษณะทั่วไป  มะขามเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 6-20 เมตร เปลือกต้นสีเทา ดำ มีริ้วรอยมาก แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ไม่มีหนาม ใบเป็นใบประกอบ ปลายเป็นใบคู่ ใบยาว 8-11 ซ.มัธยม มีใบย่อย 14-40 ใบ ใบย่อยลักษณะใบยาวปลายมนกลม ยาว 1-2,4 ซ.ม. กว้าง 4.5-9 มัธยมม. ปลายใบมน หรือบางครั้งบางคราวก็เว้าเข้าน้อย ฐานใบทั้ง 2 ข้างเว้าเข้าแตกต่างกัน ตัวใบเรียบไม่มีขน ดอกออกที่ปลายก้านหรือจากซอกใบ เป็นช่อบานจากโคนไปปลาย ดอกมีกลีบห่อหุ้มดอกอ่อน 1 กลีบ สีแดง ขอบมีขนสั้นสีขาว เมื่อดอกบานจะหลุดหล่นไปกลีบเลี้ยงไปกลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ สีเหลืองปลายกลีบแหลมมีสีแดงอ่อนๆกลีบดอกไม้มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีเหลืองมีลายเส้นกลีบสีแดงเข้ม ริมกลีบดอกมีรอยย่นๆกลีบ 2 กลีบล่างจะฝ่อ เล็กหายไป มีเกสรตัวผู้ 3 อัน ก้านเกสรชิดกันจากศูนย์กลางลงมา รังไข่มี 1 อัน เป็นฝักยาว ส่วนปลาย เป็นก้านเกสรตัวเมีย มีเม็ดมากมาย ฝักทรงกระบอก แบนนิดหน่อย ยาว 3-14 เซลเซียสม. กว้าง 2 ซ.ม. เปลือกนอกสีเทา ภายในมีเมล็ด 3-10 เม็ด เม็ดมีเปลือกนอก สีน้ำตาลแดงเรียบเป็นมัน ออกดอกในช่วงพ.ค.เป็นต้นไป ฝักแก่ในราวธ.ค.
การขยายพันธุ์  โดยปกติ มะขามสามารถเพาะพันธุ์จะได้ด้วยเมล็ด แต่เดี๋ยวนี้ มะขามเริ่มมีการปลูกเพื่อกิจการค้าเยอะขึ้น ก็เลยนิยมนำมาปลูกจากต้นชนิดที่ได้จากการตอน รวมทั้งการแทงยอดเป็นหลัก ด้วยเหตุว่าสามารถได้ผลผลิตได้เร็วเพียงไม่ถึงปีข้างหลังการปลูก ทั้ง ต้นที่ปลูกด้วยแนวทางนี้จะมีลำต้นไม่สูงราวกับการเพาะเม็ด ทำให้ไม่ยุ่งยากต่อการจัดแจง และการเก็บผลผลิตซึ่งการปลูกขั้นตอนต่างๆดังต่อไปนี้

  • การเตรียมแปลง จัดเตรียมแปลงด้วยการไถกลบหน้าดิน แล้วตากดิน รวมทั้งหญ้าให้ตายก่อน 1 ครั้ง ระยะตากดินนาน 7-14 วัน หลังจากนั้น ค่อยไถกลบอีกรอบ แล้วตากดินทิ้งเอาไว้อีก 5-7 วัน ก่อนจะกระทำขุดหลุมปลูกลงในระยะ 8 x 8 เมตร หรือ 10 x 10 เมตร ขนาดหลุมลึก 50 ซม. กว้างยาว 50 ซม.
  • การปลูก ใช้ต้นประเภทที่ได้จากการตอน หรือการเพาะเม็ด ควรที่จะเลือกขนาดต้นพันธุ์ที่สูงโดยประมาณ 0.5-1 เมตร ก่อนปลูกให้โรยตูดหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยธรรมชาติหรือวัสดุทางการเกษตรอื่นๆร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราที่หลุมละ 1 กำมือ แล้วโกยดินลงคลุกผสมให้หลุมตื้นขึ้นมาเหลือประมาณ 25-30 ซม. ก่อนนำต้นจำพวกลงปลูก พร้อมกลบดิน และรดน้ำให้เปียก ต่อจากนั้น ให้นำฟางข้าวมาวางปกคลุมรอบโคนต้น
  • การดูแล การให้น้ำ ภายหลังจากการปลูกแล้วจะกระทำการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นเพื่อให้ต้นตั้งตัวได้ โดยควรจะให้น้ำในทุกๆ3-5 วัน/ครั้ง ต่อไป ค่อยให้น้อยลงมาเหลือ 3-4 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้ อาจไม่ให้น้ำเลยถ้าเกิดเป็นตอนฤดูฝนไม่ต้อง


การใส่ปุ๋ย ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในระยะนี้จนกว่าต้นจะเติบโตพร้อมให้ผล ซึ่งตอนนั้นจึงเริ่มให้ปุ๋ยสูตร 12-12-24 ร่วม เพื่อรีบผลผลิต ความถี่การใส่ปุ๋ยโดยประมาณ ปีละ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ ควรจะใส่ปุ๋ยคอกโรยรอบโคนต้นด้วยทุกคราวหลังจากการปลูกแล้วโดยประมาณเข้าปีที่ 2 หรือปีที่ 3 จึงให้เริ่มติดผลประโยชน์
                นอกจากนั้นมะขามยังสามารถปลูกได้ในประเทศแถบร้อนเปียกชื้น ดังเช่นว่า ประเทศในแถบอเมริกากึ่งกลาง เอเซียอาคเนย์ แล้วก็อาฟริกา  ก็เลยถือว่ามะขามไม้ผลที่มีค่าทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคโดยยิ่งไปกว่านั้นเมืองไทยรวมทั้งประเทศอินเดียที่เป็นแหล่งปลูกมะขามขนาดใหญ่ซึ่งมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับมะขามเยอะมากๆ
องค์ประกอบทางเคมี
จากข้อมูลพื้นฐานเม็ดมะขามมีอัลบูมินอยด์ (albuminoids)  โดยที่มีจำนวนไขมัน 14 -20%, คาร์โบไฮเดรต 59 – 60 %,น้ำมันที่ถูกทำให้แห้งนิดหน่อย  (semi-drying fixed oil) 3.9 – 20 %,น้ำตาลรีดิวซ์  (reducing sugar) 2.8%, สารที่มีลักษณะเป็นเมือก  (mucilaginous material) 60% เช่น โพลีโอส (polyose) ซึ่ง       Tannin : Wikipedia
ใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้า เมื่อพินิจพิจารณามององค์ประกอบหลักๆพบว่าเปลือกหุ้มเมล็ดมะขามประกอบไปด้วยโปรตีน 9.1% และก็ไฟเบอร์ 11.3% โดยที่เมล็ดมะขามมีโปรตีน 13 % ลิปิด 7.1 % เถ้าถ่าน 4.2% แล้วก็คาร์โบไฮเดรต 61.7%
โปรตีนหลักที่พบในเมล็ดมะขามเป็นอัลบูมิน (albumins) และโกลบูลิน  (globulins) โปรตีนจากเม็ดมะขามประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบหมายถึงสิสเทอีนและก็เมทไธโอนีน อยู่มากถึง 4.02% เมื่อเทียบกับมาตรฐาน FAO/WHO (1991) ซึ่งตั้งค่าไว้เท่ากับ 2.50%  นอกจากนั้นเปลือกหุ้มเม็ดมะขามยังประกอบด้วยสารพวกอทนนิน โดยมีกล่าวว่าในเปลือกเมล็ดมะขามประกอบไปด้วยแทนนิน (tannins) ถึง 32% ซึ่งแทนนินนี้จำแนกประเภทได้เป็นโฟลบาแทนนิน  (phlobatannin) 35%ที่เหลือเป็นคะเตวัวแทนนิน (Catecholtannin)
ส่วนในเนื้อมะขามที่ให้รสเปรี้ยวยังพบกรดทาริทาริก (Tartaric acid)  และในใบมะขามเจอกรด ทาริทาริก (Tartaric acid) รวมทั้งกรดมาลิก (Malic acid) นอกเหนือจากนั้น ส่วนต่างๆของมะขามจะมีเม็ดสี ซึ่งได้มีผู้นำไปใช้ประโยชน์กันอย่างมากมาย โดยมะขามประเภทแดงมีแอนโทไซยานิน (anthocyanin) คริสแซนทีนิน (chrysanthemin) ส่วน Tartaric acid : Wikipedia
มะขามพันธุ์อื่นๆมีเม็ดสีประเภทแอนทอลแซนตำหนิน (anthoxanthin) ลูทีนโอลีน (lute olin) และก็อาปิเจนิน (apigenin) อยู่ในใบมะขามประมาณจำนวนร้อยละ 2 ฝักมะขามมีแอนทอคแซนตำหนินเล็กน้อย ในดอกมะขามมีแซนโทฟิล (xanthophyll) เท่านั้น และก็ในเปลือกเม็ดมะขามมีลิววัวแอนโทไซยานิดิน (leucoanthocyanidin) เป็นต้น
ส่วนค่าทางโภชนาการของมะขามีดังต่อไปนี้

  • พลังงาน 239 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรัม
  • น้ำตาล 57.4 กรัม Malic acid : Wikipedia       
  • เส้นใย 5.1 กรัม
  • ไขมัน 0.6 กรัม
  • โปรตีน 2.8 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.428 มก.
  • วิตามินบี 2 0.152 มิลลิกรัม Chrysanthemin : Wikipedia       
  • วิตามินบี 3 1.938 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.143 มก.
  • วิตามินบี 6 0.066 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม
  • โคลีน 8.6 มก.
  • วิตามินซี 3.5 มิลลิกรัม Luteolin : Wikipedia           
  • วิตามินอี 0.1 มก.
  • วิตามินเค 2.8 ไมโครกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 74 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 2.8 มิลลิกรัม Apigenin : Wikipedia           
  • ธาตุแมกนีเซียม 92 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 628 มิลลิกรัม
  • ธาตุโซเดียม 28 มิลลิกรัม Xanthopyll : Wikipedia           
  • ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม


ประโยชน์/สรรพคุณ ประโยชน์ของมะขามสิ่งแรกที่เรามักใช้ประโยชน์กันบ่อยเป็นใช้บริโภคไม่ว่าจะรับประทานสดๆหรือใช้ทำมะขามเปียกไว้สำหรับทำกับข้าว มะขามแฉะมีกรดอินทรีย์อยู่สูงจึงเปรี้ยวมาก ใช้ทำกับข้าวไทยที่อยากได้รสเปรี้ยว ดังเช่น แกงส้ม ต้มส้ม ต้มโคล้ง แล้วก็ต้มยำโฮกอือ ฯลฯ นอกเหนือจากนั้นยังใช้ในการปรุงเครื่องจิ้มน้ำพริกต่างๆหลายแบบ ดังเช่นว่า น้ำปลาหวาน หลนต่างๆน้ำพริกเผา น้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรก แล้วก็น้ำพริกคั่วแห้ง เป็นต้น
ทั้งนี้มะขามฝักอ่อนและใบมะขามอ่อน ก็นำมาทำครัวได้เหมือนกัน ทั้งยังสามารถนำมะขามมาทำสินค้าแปรรูปได้อีกหลายอย่าง ได้แก่ มะขามดอง , มะขามกวน , มะขามแช่อิ่ม , มะขามแก้ว , และไวน์มะขาม ผงมะขาม , สบู่ , และก็ยาสระผมมะขาม เป็นต้น  ส่วนคุณประโยชน์ด้านอื่นๆก็มีอีกอย่างเช่น เนื้อไม้มะขาม สำหรับชาวไทยแล้วเขียงกว่าร้อยละ 90 ทำจากไม้มะขาม เพราะเหตุว่ามีคุณลักษณะสมควรกว่าไม้อื่นๆเช่น เหนียว เนื้อละเอียด สีขาวสะอาด ไม่มีกลิ่นหรือสารพิษที่จะปนไปกับอาหาร ยิ่งกว่านั้นยังหาง่ายอละคงทนอีกด้วย เว้นเสียแต่ใช้ทำเขียงแล้ว ยังเหมาะสำหรับทำครก สาก เพลา และก็ดุมเกวียน ใช้กลึงหรือแกะสลัก ถ้าหากเอามาเผาเป็นถ่าน จะให้ความร้อนสูง  เม็ดมะขาม (แก่) นำมาใช้เป็นของกินได้หลายแบบ อาทิเช่น คั่วให้สุกแล้วกินโดยตรง นำมาเพาะให้งอกก่อน (เสมือนถั่วงอก) แล้วก็ค่อยนำไปทำกับข้าว หรือนำไปคั่วให้ไหม้เกรียม แล้วบดละเอียด ใช้ชงดื่มแทนกาแฟ ยิ่งไปกว่านี้เมล็ดแห้งนำไปบดเป็นแป้งใช้ลงผ้าให้อยู่ตัวได้ดี
สำหรับสรรพคุณทางยานั้น ตามตำรายาไทยระบุว่า ดอก ใบรวมทั้งฝักอ่อน ปรุงเป็นของกินกินแก้ร้อนในฤดูร้อน แก้อาการไม่อยากอาหารและก็อาหารไม่ย่อยในฤดูร้อนลดระดับความดันโลหิต น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ของกินไม่ย่อยรวมทั้งเยี่ยวทุกข์ยากลำบาก น้ำสุกจากใบให้เด็กรับประทานขับพยาธิ รวมทั้งเป็นประโยชน์ในคนเป็นโรคโรคตับเหลือง ใบสด ใช้พอกบริเวณหัวเข่าหรือข้อพับทั้งหลายที่บวมอักเสบหรือที่เคล็ดปวดเมื่อย, ฝี, ตาเจ็บ แล้วก็แผลหิด ใบแห้งบดเป็นผง ใช้โรยบนแผลเน่าเปื่อยเรื้อรัง และก็ใช้ผสมน้ำเป็นยากลั้วคอ ใบมีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรียได้ ใบสดมะขามใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในไส้ ใบสดมะขามช่วยรักษาหวัด อาการไอ ช่วยในการรักษาโรคบิด  ช่วยฟอกเลือด เอามาต้มผสมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆใช้อาบหลังคลอด เปลือกต้น ฝาดสมานเป็นยาบำรุงและก็แก้ไข้ ,แก้ท้องเสีย , รักษาแผล เนื้อหุ้มเม็ด (เนื้อมะขาม) มีฤทธิ์ระบายอ่อนๆบางทีอาจเนื่องมาจากกรดตาร์ตาริค แต่ว่าถ้าเกิดเอาไปต้มจนสุก ฤทธิ์ระบายอ่อนๆนี้จะหายไป นอกจากนั้นยังใช้แก้เลือดออกตามไรฟัน ช่วยสำหรับการย่อย ขับลม ขับเสลด , ละลายเสลด  ฝาดสมาน แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ทำให้มีชีวิตชีวา ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย  แล้วก็เป็นยาฆ่าเชื้อ แล้วก็ให้กินในรายที่ท้องผูกบ่อยๆ แก้พิษเหล้า ของกินไม่ย่อย คลื่นไส้ ป่วยแล้วก็ท้องร่วง เนื้อในเม็ด ใช้ถ่ายพยาธิไส้เดือน รากมะขามมีส่วนช่วยแก้อาการท้องเดิน ช่วยสำหรับการสมานแผล รักษาโรคเริม รักษาโรคงูสวัด
ต้นแบบ/ขนาดวิธีการใช้ แก้ร้อน จากอากาศร้อน ไม่อยากอาหาร แพ้ท้อง อาเจียนคลื่นไส้ ท้องผูก เด็กเป็นต้นตานขโมย ใช้เนื้อหุ้มห่อเม็ด 15-30 กรัม ผสมน้ำ คั้นแล้วอุ่นให้กิน  แก้พิษเหล้า ขับเสลด ใช้เนื้อหุ้มเม็ด 3 กรัม ผสมน้ำตาลทรายกิน  แก้ไข้ ใช้เนื้อห่อหุ้มเมล็ดแช่น้ำ ผสมน้ำตาลให้มีรสหวาน ใช้ดื่มแก้หิวช่วยลดความร้อน ใช้เป็นยาระบาย รับประทานเนื้อห่อหุ้มเม็ด แล้วดื่มน้ำตามมากๆใช้ใบต้มน้ำอาบ หลังคลอดแล้วก็ข้างหลังรู้สึกตัวใช้ ทำให้ชื่นบาน หรือใช้อบไอน้ำ แก้หวัด คัดจมูก ขับเสมหะ แก้ท้องขึ้นแน่น ของกินไม่ย่อย ใช้เปลือกต้นผสมเกลือ เผาในหม้อดินจนเป็นเถ้าขาว รับประทานครั้งละ 60-120 มก. และก็ยังคงใช้ขี้เถ้านี้ผสมน้ำอมบ้วนปากบ้วนปาก แก้คอเจ็บรวมทั้งปากเจ็บได้อีกด้วย หรือบางทีอาจใช้เนื้อห่อหุ้มเมล็ดกินทีละ 15 กรัม ช่วยสำหรับการย่อยอาหาร  หรือ   ใช้เนื้อมะขามรักษาอาการท้องผูก       สามารถทำเป็น 3 แนวทาง เป็นใช้เนื้อจากฝักละลายน้ำแล้วผสมเกลือสวนเข้าทางทวาร หรือใช้เนื้อจากฝักผสมเกลือกิน หรือ เอาเนื้อจากฝักผสมเกลือน้อย แล้วปั้นเป็นลูกกลอนรับประทาน แก้ท้องร่วง ท้องเสีย ใช้เปลือกเมล็ดสีน้ำตาลแดงเป็นเงา 600 มก. เทียนขาว(Cumin) อย่างละเท่าๆกัน ผสมน้ำตาล ต้มกินวันละ 2-3 ครั้ง แก้อาการผิดปกติเกี่ยวกับน้ำดี ใช้เนื้อห่อเม็ด กินครั้งละ 10-60 กรัม เปลือกต้น ใช้ต้มกับน้ำ (จะมีแทนนินออกมา) ใช้เป็นยาสมานฝี แผล กันอักเสบ แก้ท้องร่วงแล้วก็คลื่นไส้และใช้แก้โรคหืด ช่วยถ่ายพยาธิตัวกลมในไส้ พยาธิไส้เดือน ด้วยการใช้เมล็ดมะขามมาคั่ว กะเทาะเปลือกออก นำเนื้อในเม็ดมาแช่น้ำเกลือจนถึงนุ่ม แล้วรับประทานครั้งละ 20 เม็ด เครื่องดื่มชื่อ “เชอร์เบต” (sherbet) ซึ่งผสมโดยต้มเนื้อมะขาม 30 กรัม ในนม 1 ลิตร เพิ่มลูกเกด 2-3 ลูก กานพลู กระวานแล้วก็การบูรเล็กน้อย ใช้ดื่มแก้ไข้แล้วก็อาการอักเสบต่างๆอย่างเช่น ไม่สบาย ของกินไม่ย่อย อาการแตกต่างจากปกติเกี่ยวกับกระเพาะ ท้องเสีย แล้วก็ใช้แก้ลมแดดก้าวหน้า ส่วน น้ำชงจากเนื้อมะขาม จัดแจงโดยแช่เนื้อมะขามในน้ำ แล้วรินออกมากิน แก้อาการเบื่ออาหาร (สมรรถนะของยาชง จะมากขึ้นอีก โดยการเติมพริกไทยดำ น้ำตาล กานพลู กระวานแล้วก็การบูร ช่วยเพิ่มรส) รวมทั้งในระยะฟื้นไข้ ก็ให้กินเนื้อหุ้มเมล็ดกับนม เนื้อห่อเมล็ดอุ่นให้ร้อนใช้พอกแก้บวมอักเสบ เนื้อห่อเมล็ดผสมเกลือให้เป็นครีมใช้เช็ดนวดในโรครูห์มาว่ากล่าวสซั่ม น้ำมะขามใช้อมบ้วนปากบ้วนปากแก้เจ็บคอ กระเพาะอักเสบ  นำมะขามเปียกไปแช่น้ำ ลอกเอาใยออก นำมะขามมาถูตัวเบาๆช่วยทำให้ผิวหนังกระชุ่มกระชวยตลอดวัน มะขามแฉะรวมทั้งดินสอพองผสมจนเข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ราว 20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับแจ่มใสและก็สะอาดเพิ่มขึ้น  มะขามแฉะผสมกับน้ำอุ่นรวมทั้งนมสด ใช้พอกผิว ช่วยทำให้ผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใส

การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย   สารสกัดน้ำร้อนจากใบ สารสกัดเอทานอล 95% จากใบ ไม่กำหนดขนาดที่ใช้  สารสกัดอีเทอร์-เฮกเซน-เมทานอล จากใบ ความเข้มข้น 100 มค.ก. และก็สารสกัดเอทานอล 95% จากผล ไม่กำหนดขนาดที่ใช้ ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus สารสกัดน้ำร้อนจากผล ไม่เจาะจงขนาดที่ใช้ ได้ผลยั้งเชื้อ S. aureus คลุมเครือ ในขณะที่สารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 200 มก./มิลลิลิตร ได้ผลยั้งเชื้อดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นต่ำมากมาย สารสกัดเอทานอล 95% รวมทั้งสารสกัดน้ำร้อนจากราก ไม่เจาะจงขนาดที่ใช้ สารสกัดเฮกเซนและสารสกัดน้ำจากผล ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/มล. และสารสกัดน้ำ ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้ ความเข้มข้น 1 ก./มล. ไม่มีผลยับยั้ง S. aureus สารสกัดส่วนเนื้อมะขามด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในหลอดทดลองที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง เช่น  Bacillus subtilis, Escherichia coli และ Salmonella typhi แม้กระนั้นสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม และสารสกัดด้วยน้ำ มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างอ่อน
มีการทดสอบในสัตว์ (in vivo study) โดยให้เปลือกหุ้มเม็ดมะขาม หรือเม็ดมะขาม ให้สัตว์ทดสอบรับประทานพบว่าเปลือกเมล็ดมะขามที่กำจัดแทนนินออกแล้วมีค่าปริมาณที่สมควรสำหรับในการบริโภคในไก่เป็น100 มิลลิกรัมต่อกก. โดยซึ่งสามารถลดความตึงเครียดจากความร้อน (heat stress) และก็ลดภาวะออกสิเดทีฟสเตรทได้ แม้กระนั้นการศึกษาอีกฉบับรายงานว่าเม็ดมะขามต้มแล้วเอกเปลือกเมล็ดมะขามออกนั้นไม่สารถเพิ่มคุณค่าทางอาหารในไก่ได้ ไก่ที่กินเม็ดมะขามดังที่กล่าวผ่านมาแล้วพบผลกระทบในด้านที่เสียหายคือ กินน้ำมากเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีขนาดของตับอ่อนและความยางของลำไส้เล็กมากขึ้น โดยที่ผลที่ได้นี้ผู้วิจัยชี้แนะว่าเกิดจากโพลีแซคคาไรด์ที่ไม่อาจจะย่อยได้
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
          หนูถีบจักรเพศผู้และเพศภรรยาที่กินอาหารผสมด้วยส่วนสกัดโพลีแซคติดอยู่ไรด์จากเมล็ด ขนาด 5% ของของกิน ไม่เจอพิษ แต่ว่าหนูถีบจักรเพศเมียที่รับประทานอาหารผสมดังที่กล่าวมาข้างต้นขนาด 1.2 และ 5% จะมีน้ำหนักต่ำลงตั้งแต่อาทิตย์ที่ 34
          ไก่ (Brown Hisex chicks) รับประทานอาหารผสมด้วยเนื้อมะขามสุก 2% แล้วก็ 10% นาน 4 อาทิตย์ พบว่าน้ำหนักน้อยลง (weight gain) และก็ feed conversion ratios ต่ำลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง  มีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพเป็นมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ไขมันของตับ (fatty change) เซลล์ตับ และ cortex ของไตตาย (necrosis) ในสัปดาห์ที่ 2 และก็ 4 ไก่กลุ่มที่กินอาหารผสม 10% จะมีพยาธิภาวะรุนแรงกว่าไก่กรุ๊ปที่ทานอาหารผสม 2% ผลของการตรวจทางซีรัมพบว่า กรดยูริก total cholesterol, alkaline phosphatase (ALP), glutamic oxaloacetic trans-aminase (GOT) ในซีรั่มเพิ่มขึ้น total serum protein ต่ำยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุม (กรุ๊ปที่ไม่ได้รับอาหารผสมเนื้อมะขามสุก) sorbitol dehydrogenase และก็ total bilirubin ไม่เปลี่ยนแปลง ค่า ALP กรดยูริก cholesterol และก็ total protein จะไม่กลับสู่ภาวการณ์ธรรมดาในช่วง 2 อาทิตย์ภายหลังไม่ได้กินอาหารผสมแล้ว ผลการตรวจทางโลหิตวิทยาไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หนูขาวเพศภรรยารวมทั้งเพศผู้รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของโพลีแซคคาไรด์จากเม็ดมะขาม 4, 8 และก็ 12% นาน 2 ปี ไม่เจอการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม อัตราการตาย น้ำหนักร่างกาย  การกินอาหาร ผลทางวิชาชีวเคมีในปัสสาวะและเลือด ผลของการตรวจเลือด น้ำหนักอวัยวะ และก็พยาธิสรีระ
          หนูถีบจักรที่กินสารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากดอก พบว่าขนาดความเข้มข้นของสารสกัดสูงสุดที่หนูทนได้ พอๆกับ 1 ก./กิโลกรัม นน.ตัว
          หนูขาว Sprague-Dawley SPF รับประทานอาหารที่ผสมด้วย pigments จากเม็ดที่เผาในขนาด 0, 1.25, 2.5 และก็ 5% ของอาหาร ตรงเวลา 90 วัน ไม่เจอความไม่ปกติอะไรก็ตามความเข้มข้นสูงสุดของ pigments ที่ให้โดยการผสมในของกินในหนูเพศผู้เท่ากับ 3,278.1 มก./กก./วัน และในหนูเพศภรรยาพอๆกับ 3,885.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน ไม่พบพิษ
พิษต่อตัวอ่อน  L-(-)-di-Butyl malate ที่ได้จากสารสกัดเมทานอลจากฝักมะขาม เป็นพิษต่อเซลล์ตัวอ่อนของ Sea urchin แต่ว่าสารสกัดเอทานอล : น้ำ จากฝักมะขาม ให้ทางสายยางลงไปยังกระเพราะอาหารหนูขาวที่ตั้งท้อง ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไม่พบพิษต่อตัวอ่อนในท้อง และก็สารสกัดเอทานอล 100% จากผล ให้ทางสายยางให้อาหารลงสู่กระเพาะของกินหนูขาวเพศภรรยา ขนาด 200 มก./กก. ไม่ทำให้แท้ง และไม่ส่งผลต้านการฝังตัวของตัวอ่อน
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์    ฝักมะขามขนาด 0.1 มก./จานเพาะเชื้อ กระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ของ Salmonella typhimurium TA1535 แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อ S. typhimurium TA1537, TA1538 และ TA98
ข้อเสนอ/ข้อควรคำนึง

  • ในการเลือกซื้อมะขามมาใช้ประโยชน์(โดยยิ่งไปกว่านั้นมะขามสุก)นั้นควรเลือกมะขามที่ปลอดเชื้อโรครา เพราะว่าบางทีอาจได้รับอันตรายต่อร่างกายได้
  • การบริโภคมะขามมากเกินไปอาจจะเป็นผลให้เป็นผลกระทบกับร่างกายได้อย่างเช่น ท้องร่วง ท้องเดิน
  • การบริโภคมะขามไม่สมควรหวังผลสำหรับการรักษา/สรรพคุณของมะขามมากจนเกินความจำเป็นควรจะบริโภคแต่พอดิบพอดีและไม่ควรบริโภคติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
  • ยังมีมีผลการศึกษาวิจัยที่บ่งชัดว่ามะขามสามารถใช้ลดน้ำหนักได้ โดยเหตุนี้จึงไม่ควรใช้มะขามมาลดหุ่น
เอกสารอ้างอิง

  • สมพล ประคองพันธ์.วันชัย สุทธนันท์ .การใช้ดพลีแซคคาไรต์จากเมล็ดมะขามในยาอิมัลชั่นและยาแขวนตะกอน.วารสารเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล 1988:53
  • ภัคสิริ สินไชยกิจ,ไมตรี สุทธิจิตต์.คุณสมบัติชีวเคมีและการประยุกต์ใช้ของเมล็ดมะขาม,บทความปริทัศน์.วารสารนเรศวรพะเยา.ปีที่4.ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม.2554.
  • กองวิจัยทางการแพทย์. สมุนไพรพื้นบ้าน ตอนที่ 1.  กรุงเทพฯ: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2526.
  • Aengwanish, W. and Suttajit, M. Effect of polyphenols extracted from tamarind (Tamarindus indica L.) seed coat on physiological changes, heterophil/ lymphocyte ratio, oxidative stress and body weight of broiler (Gallus domesticus) under chronic heat stress. Ani Sci J 2010; 81: 264-270
  • เดชา ศิริภัทร.มะขาม.ต้นไม้ประจำครัวไทย.คอลัมน์ต้นไม้ใบหญ้า.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่163.พฤศจิกายน.2535
  • Ahmad I, Mehmood Z, Mohammad F.  Screening of some Indian medicinal plants for their antimicrobial properties.  J Ethnopharmacol 1998;62:183-93. http://www.disthai.com/
  • บวร เอี่ยมสมบูรณ์.  ดงไม้.  กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม, 2518.
  • มะขาม.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Pugalenthi M, Vadivel V, Gurumoorthi P, Janardhanan K. Comparative nutritional evaluation of little known legumes, Tamarindus indica, Erythrina indica and Sesbania bispinosa. Tropic Subtropical  Agroecosys 2004; 4(3): 107-123
  • George M, Pandalai KM.  Investigations on plant antibiotics. Part IV.  Further search for antibiotic substances in Indian medicinal plants.  Indian J Med Res 1949;37:169-81.
  • ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.มะขามและผักคราดหัวแหวน.คอลัมน์อื่นๆ นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่15.กรกฎาคม.2523
  • ก. กุลฑล.  ยาพื้นบ้าน.  กรุงเทพฯ:ปรีชาการพิมพ์, 2524.
  • Ross Sa, Megalla SE, Bishay DW, Awad AH.  Studies for determining antibiotic substances in some Egyptian plants. Part 1. Screening for antimicrobial activity.  Fitoterapia 1980;51:303-8.
  • Watt JM, Breyer-Brandwijk MG. The Medicinal and Poisonous Plants of Southern and Eastern Africa. 2nd edition. Edinburgh and London, E&S Livingstone. 1962.
  • พระเทพวิมลโมลี.  ตำรายากลางบ้าน.  กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์มง

19

น้ำมันเหลือง เป็นอย่างไร ?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพยอดเยี่ยม ทำมาจากพืชสมุนไพรจำพวกต่างๆกัน สรรพคุณที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อบรรเทาอาการต่างๆสรรพคุณนี้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นแนวทางสำหรับในการดูแลสภาพผิวและก็สุขภาพที่ขอแนะนำเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรและก็พืชต่างๆที่อุดมไปด้วยผลดีที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นรวมทั้งเนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอม และสัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความเคร่งเครียด ทำให้พวกเราผ่อนคลาย รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นแล้วก็ผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้พวกเราจะพาไปดูคุณประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันว่ามีประโยชน์ในด้านใดบ้าง
บริการนวดน้ำมันเหลืองและก็จำนวนมากสร้างความเข้มแข็ง ระบบภูมิต้านทานและช่วยในการย่อยอาหารดีขึ้น.
ศิลปะที่สวยของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับความอยากส่วนตัวของคุณและก็บรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดน้ำมันเหลืองผ่อนคลายและก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อจะรักษาความสมดุลทางจิตวิญญาณของคุณและสุขภาพที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.สรรพคุณมีอะไรบ้าง ?
สรรพคุณของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีเยอะมากทีเดียว
น้ำมันเหลืองบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง
แก้เคล็ดลับปวดเมื่อย บวมช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
ทาแก้ผดผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาเช็ดนวดฝ่าเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดหัวเข่า ปวดขา บวมช้ำ ปวดกล้าม สูดกลิ่นแก้อาเจียน วิงเวียน อาการหอบหืด และก็ไซนัส
- บรรเทาอาการเวียนหัวศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง
- น้ำมันเหลือง แก้กลยุทธ์ปวดเมื่อย ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น

  • ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น
  • บรรเทาอาการคัดจมูก เนื่องมาจากหวัด


น้ำมันเหลือง ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดหัวเข่า ปวดขา ฟกช้ำดำเขียว ปวดกล้ามเนื้อ สูดแก้อ้วก วิงเวียน โรคหอบหืด รวมทั้งไซนัส
- บรรเทาอาการหน้ามืดหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม
- น้ำมันเหลือง แก้เคล็ดลับขัดยอก ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผดผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น
- บรรเทาอาการคัดจมูก เพราะหวัด
3.น้ำมันเหลือง ของ ช้อนทองคำมงคล มีสเตอรอยด์ไหม ?
น้ำมันเหลืองของช้อนทองคำมงคล ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำมาจากสมุนไพรไทย 100% จึงสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย สามารถใช้โดยจะนวดหรือไม่นวดก็ได้ ใช้แล้วไม่มีการสะสม ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เลยชอบพอ พอใช้หาย และก็บอกต่อๆกัน


20

น้ำมันเหลือง เป็นยังไง ?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพยอดเยี่ยม ทำจากพืชสมุนไพรประเภทต่างๆกัน สรรพคุณที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆสรรพคุณนี้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีในการดูแลสภาพผิวแล้วก็สุขภาพที่ขอเสนอแนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรรวมทั้งพืชต่างๆที่อุดมไปด้วยผลดีที่ดีต่อร่างกาย โดนการนำสารสกัดกลิ่นและเนื้อน้ำมันเหล่านั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอม แล้วก็สัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความเครียด ทำให้เราบรรเทา รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้พวกเราจะพาไปดูคุณประโยช์จากการนวดน้ำมันว่ามีคุณประโยชน์ในด้านใดบ้าง
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถที่จะหายสนิทได้เอง แม้ว่าอาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงลดลงก็ตาม แล้วก็ท้ายที่สุดก็จะเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อรังรวมทั้งนำมาซึ่งความทุกข์ยากสำหรับในการดำรงชีวิตมากขึ้น
เมื่อปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆปัญหาเรื่องข้อที่มีอยู่ก็จะแพร่กระจายไปจนกระทั่งทำให้มีแค่เพียงการผ่าตัดเท่านั้นที่จะเป็นทางออกเดียวที่ช่วยได้
ในบางกรณีที่เป็นรุนแรงมากจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงข้อต่อทั้งปวงด้วย
ความเจ็บปวดมีเพียงแค่จะเพิ่มมากขึ้น
การผ่าตัดสามารถเลี่ยงได้
ฟื้นฟูข้อต่อของคุณให้รวดเร็วทันใจที่สุดเท่าที่จะทำเป็นในช่วงเวลาที่โรคยังมิได้ขยายเกินไปนัก
  หมอท้องถิ่นหรือการแพทย์แผนไทย สารภาพในสรรพคุณอันดีเลิศของยาแผนโบราณตามตำรายาสมุนไพร ตำรับดั้งเดิมวัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุๆพนสะอาดมังคลาราม ซึ่งเป็นยาสมุนไพรแผนโบราณขนานเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังและก็ได้รับความไว้วางใจในการรักษาโรคมานานมากแล้ว สมกับคำที่กล่าวไว้ว่า "นวดแผนโบราณ ยาแผนโบราณ ตำรายาสมุนไพร จำต้องวัดโพธิ์ ความคิดของคนไทยทั้งชาติของบรรพบุรุษไทย"
ศิลป์ที่งดงามของการนวดได้ทวีความร้ายแรงมากขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับสิ่งที่มีความต้องการส่วนบุคคลของคุณและก็ผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการนวดผ่อนคลายและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลทางจิตวิญญาณของคุณรวมทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.

  • คุณประโยชน์มีอะไรบ้าง ?


คุณประโยชน์ของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากทีเดียว
บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
แก้เคล็ดขัดยอก บวมช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาเช็ดนวดฝ่าตีน ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดหัวเข่า ปวดขา บวมช้ำ ปวดกล้าม ดมแก้คลื่นไส้ วิงเวียน โรคหอบหืด และไซนัส
- บรรเทาอาการเวียนหัวหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- แก้กลยุทธ์ขัดยอก ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- ทุเลาอาการคัดจมูก เนื่องมาจากหวัด
น้ำมันเหลืองผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเผยว่า คนเจ็บโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนเจริญขึ้น บรรเทาลักษณะการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ จะทรมานจากอาการเจ็บปวดลดน้อยลง อ้วกน้อยครั้ง ไหมอาเจียนเลย รู้สึกแจ่มใสขึ้น ความดันดีกว่าเดิม และเครียดจากอาการป่วยลดน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันเหลืองขึ้นอยู่กับการใช้แรงงาน และก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันเหลืองแต่ละชนิด โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันเหลือง ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงขึ้นมากยิ่งกว่าน้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลือง แล้วก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ รวมทั้งทำลายของเสียที่รังแกเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ป้องกันการเกิดมะเร็ง ยิ่งกว่านั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มสดชื่น
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละจำพวกจะมีคุณลักษณะ และคุณค่าที่นาๆประการ ขึ้นกับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้งาน
สิ่งของ เครื่องใช้ไม้สอย
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ได้แก่ ขวดใส่กาแฟ ขวดแก้ว
กระบวนการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรทีละตัวทอดแม้กระทั่งหมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนผสมทั้งยัง 3 ชนิด ในอัตราส่วนที่ระบุหมายถึง(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนประกอบทั้งผองละลายเป็นของเหลว (ถ้าเกิดไม่ใช่ไม้คนอาจใช้กระบวนการเขย่าขวดให้ส่วนประกอบละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
สรรพคุณน้ำมันเหลือง เป็นผลิตภัณฑ์ ที่คนส่วนมากนิยมทำใช้คุ้นเคย เพราะว่าสมุนไพรหาได้ง่าย ใช้ทาแก้อัมพาต เหน็บชา ปวดสันหลังปวด บั้นท้าย ปวดเข่า ฟกช้ำดำเขียว ปวดกล้ามเนื้อ ดมแก้คลื่นใส้ ตาลาย หอบหือ รวมทั้งไซนัส

Tags : น้ำมันเหลือง

21

น้ำมันนวดสมุนไพร
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ พวกเราแค่ทาลงไปในส่วนที่พวกเราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้าม เท่านี้จ้ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้ลักษณะของการปวดเมื่อยลดลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะกับคนใดกันบ้าง?

  • ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ผู้ที่ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
  • คนที่ปวดมือรวมทั้งคอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • ผู้ที่ปวดหลังจาก Office syndrome
  • คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • คนที่ปวดหัวเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • เจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท จนกระทั่งปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นมือถือ
น้ำมันนวด ที่เหมาะสมที่สุดของคุณผ่อนคลายร่างกายแล้วก็สนับสนุนการนอนหลับที่ดีมากยิ่งกว่าสำหรับวัน.
หลายท่านทรมานจากความแปลกของการนอนต่างๆได้มองเห็นการปรับปรุงในนิสัยการนอนของพวกเขาหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, ดังนั้นคนส่วนมากมีประสบการณ์การนอนหลับลึกและก็พักมากขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
นวดน้ำมันเพิ่มขึ้นและก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีประสิทธิภาพหลักการทำงานของกล้ามทั้งสิ้น, เยื่อรวมทั้งข้อต่อจึงปรับแก้การแสดงกีฬารวมทั้งการดูแลความสะดวกสำหรับในการขยับเขยื้อนร่างกายของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น. เว้นแต่สิ่งกลุ่มนี้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย, นวดยังช่วยคุ้มครองปกป้องการเจ็บและเพิ่มความเร็วในการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับเพื่อการทุเลาความตึงเครียดของกล้ามแล้วก็ทำนุบำรุงร่างกายของคุณ พอดี แล้วก็มีความยืดหยุ่นเป็นระยะเวลานาน.
กำจัดสารพิษ
ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันซึ่งมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตฉะนั้นการผลักดันและสนับสนุนสุขภาพที่ดีขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมันแล้วก็ส่วนใหญ่สร้างความเข้มแข็ง ระบบภูมิต้านทานและช่วยในการย่อยอาหาร.
ศิลป์ที่สวยของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆสำหรับเพื่อการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับความต้องการส่วนบุคคลของคุณแล้วก็บรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดผ่อนคลายแล้วก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลทางใจวิญญาณของคุณและก็สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถหายขาดได้เอง ถึงอาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงน้อยลงก็ตาม แล้วก็สุดท้ายก็จะเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อรังรวมทั้งนำมาซึ่งความยากลำบากสำหรับการดำเนินชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
1.น้ำมันนวดจะเข้าไปช่วยกระตุ้นลักษณะการทำงานของระบบประสาท ให้ปฏิบัติงานเจริญเยอะขึ้น ลดอาการเคร่งเคลียดให้เราบรรเทาจากการความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนเพลียสะสม
2.การนวดน้ำมัน จะเข้าช่วยการกระตุ้นการทำงานของเลือด ให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีมีประสิทธิภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนแล้วก็สารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน คุ้มครองโรคต่างๆและก็ลดระดับความดันเลือดเจริญด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมและก็ฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานก้าวหน้าและมีคุณภาพเยอะขึ้น
4.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดพิษ อีกทั้งในร่างกายแล้วก็ภาวะผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น มองผุดผ่องและชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อยๆ
5.ช่วยในประเด็นการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผ่อนคลายสมองรวมทั้งร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การนวดน้ำมันยังเป็นประโยชน์อีกหลายประเภทต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกแก่คู่รักสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับผู้ที่เคยทรมาทรกรรมจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อย หมอก็ได้เสนอแนะให้ลองไปนวดบรรเทาสุขภาพดูบ้าง เพราะจากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถบรรเทาอาการใกล้กันของโรคไมเกรน และนอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้งาน รวมทั้งสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละประเภท โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด อย่างเช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ รวมทั้งทำลายของเสียที่รังแกเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต คุ้มครองการเกิดโรคมะเร็ง ยิ่งกว่านั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสุขภาพ ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มกระชุ่มกระชวย
โดยดังนี้น้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณลักษณะ แล้วก็คุณค่าที่นาๆประการ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้งาน

Tags : น้ำมันนวด

22

น้ำมันนวดสมุนไพร
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันวด ถือเป็นหนึ่งในแนวทางบรรเทาความตึงเครียด ผ่อนคลายจิตใจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาความเมื่อนล้า นอกจากนั้นคุณคุณลักษณะของน้ำมันหอมระเหยแต่ละจำพวกที่ผสมอยู่ในน้ำมันนวดตัวของเรานั้นนังสามารถบรรเทาอาการต่างๆของร่างกายได้ดีอีกด้วย ที่ช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ ทุเลาอาการหวัดคัดจมูกเมื่อเวลาดม หรือเมื่อผสมกับน้ำมันก็จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายผิว ที่ช่วยปกป้องแมลงก่อกวน ฯลฯ
การนวดน้ำมันเป็นวิธีดูแลภาวะผิวและก็สุขภาพที่ขอชี้แนะเลย เป็นส่วนมากจะการนวด ที่สกัดมาจากสมุนไพรรวมทั้งพืชต่างๆโทนร้อนพอประมาณ ที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย โดยการนำสารสกัดกลิ่นรวมทั้งเนื้อน้ำมัน พวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกาย ด้วยกลิ่นหอมยวนใจแล้วก็แล้วก็สัมผัสของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างของร่างกาย ลดความเคร่งเครียด ทำให้พวกเราผ่อนคลาย รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้จ้ะเราจะพาไปดูประโยช์จากการนวดน้ำมันกันว่า มีสาระด้านใดบ้าง
1.การนวดน้ำมันจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ดำเนินงานก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ลดอาการตึงเครียดให้เราผ่อนคลายจากการความเหน็ดเหนื่อยและความเมื่อยล้าสะสม
2.น้ำมั่นนวด กระตุ้นการทำงานของโลหิต ให้ดำเนินงานได้ดิบได้ดีมีประสิทธิภาพมากเพิ่มขึ้นแล้วก็สามารถหล่อเลี้ยงออกสิเจนและก็สารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ คุ้มครองโรคต่างๆรวมถึงลดความดันเลือดได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมรวมทั้งฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ดำเนินงานก้าวหน้าแล้วก็มีคุณภาพมากเพิ่มขึ้น
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดพิษ อีกทั้งในร่างกายแล้วก็สภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูผุดผ่องรวมทั้งชีวิตชีวามากขึ้น
5.ช่วยในหัวข้อการนอนหลับให้ดีกว่าเดิม บรรเทาสมองและร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนั้นการนวดน้ำมันยังเป็นประโยชน์อีกหลายสิ่งหลายอย่างต่อสภาพร่างกาย ซึ่งถือได้ว่าหนทางแก่คู่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดีลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรนสำหรับคนที่เคยทรมานจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่หลายครั้ง หมอก็ได้เสนอแนะให้ทดลองไปนวดบรรเทาสุขภาพดูบ้าง ด้วยเหตุว่าจากผลการศึกษาเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีลักษณะปวดหัวไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างๆของโรคไมเกรน แล้วก็นอนหลับได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ


ทุเลาอาการกล้ามเนื้ออักเสบจากการออกกำลังกาย


          เวลาที่บริหารร่างกายอย่างมาก ร่างกายจะได้รับผลกระทบเป็นอาการปวดเมื่อย หรือกล้ามเนื้ออักเสบเป็นของแถม ซึ่งการเล่าเรียนของ Buck Institute for Research on Aging and McMaster University in Ontario, Canada ก็ได้เปิดเผยแนวทางบรรเทาอาการว่า ให้ทดลองไปเอนกายรับบริการนวดตัวดูบ้าง เนื่องจากว่าการนวดจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากการบริหารร่างกายได้ดิบได้ดีเทียบเท่าการรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อยังไงแบบนั้นเลยล่ะ
การนวด


มองเด็กขึ้น


          ต่อแต่นี้ไปไม่ต้องลำบากแอ๊บแบ๊วฉุดกระชากวัยอีกต่อไป เพราะว่าเพียงไปสปาให้เขานวดๆบีบๆร่างกายอยู่เสมอๆก็สามารถทำให้พวกเราดูเด็กขึ้นได้แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก็ได้อธิบายเพิ่มอีกว่า การขัดหน้าหรือนวดหน้า รวมถึงนวดตัว เป็นการกระตุ้นให้เลือดภายในร่างกายไหลเวียนดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ทำให้สุขภาพผิวด้วย ทั้งยังการนวดยังช่วยกระตุ้นรูปแบบการทำงานของต่อมท่อน้ำเหลือง ให้กำจัดสารพิษที่อยู่ใต้ผิวหนังให้หมดไป ทำให้สารอาหารรวมทั้งวิตามินต่างๆซึมไปสู่เซลล์ผิวได้ดีขึ้น ช่วยให้ผิวมองเบิกบานใจเต่งตึงได้อีกครั้ง รวมถึงกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณผิวหน้าได้อีกด้วยนะ


คุ้มครองปกป้องอาการ PMS


          สาวๆทุกคนคงจะทราบว่าอาการ PMS ก่อนมีประจำเดือนนั้นสร้างความทรมานให้กับเราได้มากมายขนาดไหน แต่ว่าวันนี้พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจกับอาการกลุ่มนี้อีกต่อไป ด้วยเหตุว่าผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยของ Touch Research Institute and University of Miami Medical School พบว่า การนวดตัวสามารถคุ้มครองปกป้องอาการข้างๆทุกประเภทในตอนที่หญิงมีระดูได้อยู่มือ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดข้างหลัง เจ็บท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการรำคาญโกรธ แต่แนวทางนวดบางครั้งก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกับผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 19-45 ปี แค่นั้นนะคะ
นวดแผนไทย

  • ลดอาการข้างๆของโรคมะเร็ง ผลการศึกษาเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยบอสตันเผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนก้าวหน้าขึ้น บรรเทาลักษณะการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า คนไข้โรคมะเร็งระยะแพร่ จะทรมาทรกรรมจากลักษณะของการเจ็บปวดลดลง อ้วกน้อยครั้ง ไหมคลื่นไส้เลย รู้สึกสดชื่นขึ้น ความดันดียิ่งกว่าเดิม รวมทั้งเครียดจากลักษณะของการป่วยน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด
  • บรรเทาลักษณะของการปวดเรื้อรัง


          ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกายภาพบำบัดรักษาได้บรรยายถึงประสบการณ์ของตนให้ฟังว่า คนที่มีลักษณะอาการปวดเรื้อรัง อย่างเช่น ปวดตามข้อ โรคข้ออักเสบ รวมทั้งอาการปวดปวดเมื่อยเรื้อรังอื่นๆจะคลายลักษณะของการเจ็บปวดกลุ่มนี้ลงไปได้มาก หลังจากได้รับบริการนวดอย่างแม่นยำต่อเนื่องกันเพียงแค่ 2-3 ครั้งเพียงเท่านั้น เพราะว่าการนวดได้อย่างตรงจุด จะช่วยบรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว ก็เลยสามารถทุเลาลักษณะการเจ็บปวดของกล้ามบริเวณนั้นได้อย่างทันใจนั่นเองจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้งาน และก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ตัวอย่างเช่น น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ แล้วก็ทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด คุ้มครองป้องกันการเกิดมะเร็ง นอกเหนือจากนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มกระชุ่มกระชวย โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละจำพวกจะมีคุณลักษณะ รวมทั้งคุณค่าที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้แรงงาน

Tags : น้ำมันนวด

หน้า: 1 [2]