แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - yulyul

หน้า: [1] 2
1

ขายกระชายดำ[/u] แคนตาลูป (Cantaloupe) หรือ “แตงแคนตาลูป” แคนตาลูป ชื่อuy,iu,.วิทยาศาสตร์ คือ “Cucumis melo L. varerkjuuili;. cantaloupensis” เป็นผลไม้เพื่อสุejyuklu.lขภาพประเภทหนึ่งuyl.io.io/.ที่มีต้นกำเนิดมาจwsrhjtyykuากปรuuiliะเทศอินเดีย แต่olio;i;;oiul8;ว่ามีหัวหน้าผลไม้ปkykukukระเภทนี้ไปปลูi;กที่ประเทศอิตาลีในเมือง “แคนตาลูโป (Cantalupu)” ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงโรมจำหน่ายกระชายดำก็เลยเป็oi;op'นสาเหตุของชื่อผลไม้ชนิดจำหน่ายกระชายดำนี้ โดยผลไม้ชนิดนี้ได้นำเข้าyjkyuloi;มาในประเทศไทยเมื่อ พุทpo';p[]ธศักราช2478 โดยปลูกrjyukuililครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ แม้ulกluระนั้นp[]ประสบความล้มเหลว จนได้มีการเอามาทดสอบปลูกที่มหาวิทulio'o'[ยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ปรากฏว่าได้ประสิทธิภาพที่ดี โดยแหล่งปลูกแคนตาลูปที่สำคัญulของประเทศในขณะนี้อยู่ที่ อำเภอไพรulประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอไทykuiluรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จังหrjyukuiklวัluดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานครผลแคนตาลูปจะมีลักษณะคล้ายกัi;op';p['บแตงไทยบ้านพวกเรา ชาวไท';p['pluยจึlulงนิยมเรีp['p[ยกulกันว่า แตงเทศ, แตงฝรั่ง, แตงไทยฝรั่ง โดยรูปulululแบบของผลจะกลม ผิวมีสีเขียว เหลือulululง ขาว น้ำตาลคล้ำขายกระชายดำ ดัluงนี้จะขึ้นอยู่กับulสายพันธุ์นั้นๆเป็นหลัก ผิวขluluองผลจะหยาบคาย เปuลือกแข็ullง มีร่อง'p['ลึกรอบๆผล เปลือกจะมีลายคล้ายร่างแหหรือตาข่ายul เมื่อสุกแulนื้อข้างในจะมีสีส้มหulสีจำปา รสออกหวullาน มีกลิ่นหอมสuดชื่น แต่ว่าถ้าห'p[ululาuกlจะululนำมาทำน้ำแคนตาลูป เสนอแนะว่าควรที่จะเpp'อกแคนตาลูปที่กำลังสุกพอดิบพอดี ถ้าอ่อนมากเกินความจำเป็นจะไม่มีกลิ่นหอมสดชื่น แต่ว่าถ้าสุกมากเกินไปเมื่อทดลองขย่าดูจะมีน้ำอ8k79k8liopยู่ข้างใน ยิ่งเสียงน้ำมากแค่ไหนมีความหมายว่ายิ่งสุกมากมายเykuพียงแค่นั้น รวมทั้งให้เลือกผลขนาดกลางๆน้ำหนักโดยประมาณ 1 กิโลyklio;ขายกระชายดำ โดยเลือกผิวที่เรียบตึง ไม่เป็นรอยหยักหรือเลือกที่เป็tkuiol;i;rejt77นสีนวลราวกับเปลือกไข่ก็ใช้ได้

Tags : ขายกระชายดำ

2

ขายขมิ้นชัน[/i] ลักษณะของกล้วยเต่าต้นกล้วยเต่า จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงได้โดยประมาณ 1 เมตร ตghmuiามกิ่งอ่อนมีขนอ่อนขึ้นปกคmk89ลุมอย่างหนา87แน่น ส่วนwsjn5ymกิ่งแก่จะเรียบเป็นสีน้ำตาล 56bjkเพio;i;าะพันธุ์ด้วyhkยแrkuilวทางเพาะi;เlล็ด เจhkuilริญเติบโตได้ดิบได้ดีในจำหน่ายขมิ้นชันดินร่kyวนคละเคล้าทรy;pou;าย ไม่อุ้มน้ำ ชอdjyrjบแส7ylงตะวันจัด มีเขต7ผู้กระทำระจายชนิ9';0'ดในเวียดนามแล้วก็ลrkjาว ในประเทy7lulศไทยพyบกระจายป8l;;ระtyjเภททางภาค8kเrkjykykหนือ ภาคกึ่งกลาง gkและภา89p89;คตะวันออก โดยเจอขึ้นใu8lนป่าtkดงดิบ ป่าเขาหรือป่าโปร่ง ป่าเต็งรั78ol8lง บนulilพื้นที่สูงจากระgดับน้ำท7ol8ejะเลตั้งแต่ 100-350 เมตร1,2,3,4rต้นกล้วยเต่าใบกล้วยเต่า ใบเป็นใบkyukลำพัง ออกเรียงสลับในราบykเดียวกัน รูปแ09;'0';0ykuul8'บบของใบy;oiเป็นรูปขอบขนานจนกระทั่งรูtjytkop/ปไข่กลัyบปนรูปใบหอก ปลายใบแห8kลมหรือykuiมนและก็มีติ่งแหลoip';op'ม โคนใบมนหรือหยักเว้าน้อย แผ่ใบแคบ มีulขนาดกว้างu8l9uyk;ประมาณ kyk2-5 เซนติเมตรจำหน่ายขมิ้นชันและยาวio;ราวๆ 5-13 เซนติเrkuม9lตร {หลัง|ข้างหลัykuk;บเป็rlk97lนสีเขียวเข้มuilkl;สะอาดเป็นมัน ส่วนท้องใบมีขนkj.lk.และก็มีสีจาjtjงกว่า เส้นแขนejr68kงใบมีข้างละ 7-10 เส้น ก้านใบสั้น trkukuiมีความยาวได้เพียงแi;ค่ 3 มม. drkrjyfut7แล้9lวก็มีขนสีเหลืองอ่อนขึ้นห89;l;นาแน่นดอกdekjktrjjulกล้วยเต่า ออกเป็นดอกคนเดีykยวขนาดเล็ก7tlyuki8yตามง่ามใบ ก้านดอกสั้น ดอกเป็นสีเหi;ลืองykอ่อน กลีบ ดอกเรียงสลับกันมี 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ ลักษณะของขายขมิ้นชันกลีบเป็rk78lนรูปไข่หรือรูปไข่แกมtll8รูปใบหอก ปลายมน มีขนาดกว้uyllางโดยประมาณ 4 มม. แ989ioละก็ยาวราt7k8lว 5-8 มม. rlt7ltภา98l89lยนอกกลีบมีขนละเอีย7lดสีเหลืtrluk89lองอ่อน ส่วนกลีบเลี้ยงt7l8y9lดอกมีขนาดเล็กio;รวมทั้งมี 3 กลีบ ลักษtkl8y9ณะเป็นรูปสามเหลี่ยมกลายๆมีขนาดกว้างio;และยาวรulาว8l 2 มม.ขายขมิ้นชัน ด้านนอกมีขi;7lk8l9อ่อนนุ่ม ดอกมีเ;9;0;กสรเพศผู้เยอfryklulะแยะอยู่บนแกนกลางของดอก

Tags : ขายขมิ้นชัน

3

ขายว่านชักมดลูก สาลี่ คุณประโui,ยชน์ดีต่อสุขภาพ จัดu.wtคือผลไม้ฉ่ำน้ำกิน5h56jjui,แล้วสดชื่น นำไปคือผลไม้ไหว้ก็ได้ เพราะว่าสาลี่มีความหมาtmjยดีๆในตัวเองผลไม้อย่างสาลี่คือผลไม้ที่มีให้รัu,uio.oi.บประทานจำหน่ายว่านชักมดลูกตลอดทั้งปี สาtjลี่เลยเป็นหนึ่งในผลไ7leehม้มงคลที่คนนิยมนำมาไหว้เi.i.จ้ากัน jเพราะสาลี่มีความykmหมายถึงโชคลาภyu, อีกทั้งผิวเปลือกสีเหลืองทองคำยังเป็นสีที่ค่อนข้างจะมง7yk78คลอีkกด้วยykyul แต่เว้นแต่คุณประโยชน์ต่างๆที่ไkด้รับจากสา67k7ลี่ในเรื่องความมีโชคมีลาภแล้ว สาgmjyukลี่ ผลดีต่อสุขภiu,าพก็มีไม่น้อย ลองอ่านปyระโยนช์7ของyk,7trfjtสาลี่กัyนหน่อยดีมากยิ่งกว่าจ้ะจะมองเห็นได้ว่าสาลี่คือผลไม้ขายว่านชักมดลูกฉ่ำน้ำจริงๆรวมทั้งเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างให้k6y67พลังงานต่ำ ไขมันก็ต่ำ แต่ปริมาณแร่ธาตุต่างๆรวมไปถึงน้ำตาลของสาลี่แต่ละพันธุ์นั้นไม่เหมือนกัน6j6y7ikนิดหน่อยถึงปาน7l8l88lกลาง ซึ่งจุดนี้สาลี่จำพวกน้ำตาลต่ำที่สุดก็คือ สาลี่น้ำผึ้ง ซึ่งมีจำนวนน้ำตาลอยู่ที่ 7 กรัมต่อสาลี่ 100 กรัม นั่นเองนะคะ ยิ่งกว่านั้นพวfe3gf4กเรายังมีข้อมูลจำนวนน้ำตyk6k7k7rาลในผลไม้จำพวกต่างๆมาให้อ่านกันด้วยสาลี่ จำหน่ายว่านชักมดลูกคุณป6k6k7ระโยชน์ไม่น้อย รับประทานก็อร่อยอีกต่างหาก สรรพคุณของสาลี่ที่นอกเหนือจากที่จะคือผลไม้มงคลแล้ว สาลี่ยังy,y,มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย5tjgfj5ตามนี้เลยค่ะ แก้กระหาย คลายร้อนสาลี่คือผลไม้ที่มีจำนวนน้ำมากมายtjwgdgแทบทุกชนิด รวมทั้งยังมีรสหวi.i.านจากu,uน้ำตาลธรรมชาyu,ติพอควร โดยเหตุนี้ผู้ใดได้รับประทานสาลี่ก็จะได้รับความมีชีวิตชีวาจากสาลี่ในทันทีทันใด ยิ่งขายว่านชักมดลูกถ้าเกิดu,ui,นำสาลี่ไปแช่เย็นหน่อยนะ อย่างฟินเลยhj5u,.ioi

Tags : ขายว่านชักมดลูก,ขายว่านชักมดลูก

7
ประโยชน์น้ำมันนวด ขายน้ำมันนวด

9

สมุนไพรพญายอ
เสลดพังพอนตัวเมีย
เสมหะพังพอนตัวเมีย ชื่อสามัญ Snake Plant
เสมหะพังพอนตัวเมีย ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Clinacanthus burmanni Nees, Clinacanthus siamensis Bremek., Justicia nutans Burm. f.) จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาแพทย์ (ACANTHACEAE)
สมุนไพรเสมหะพังพอนตัวเมีย พญายอ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า ลิ้นมังกร ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด (จังหวัดเชียงใหม่), พญาบ้องคำ (ลำปาง), เสมหะพังพอนตัวเมีย (พิษณุโลก), พญาบ้องดำ พญาบ้องทองคำ (ภาคกึ่งกลาง), ลิ้นงูเห่า พญายอ (ทั่วๆไป), โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ชิงเจี้ยน หนิ่วซิ้วฮวา (จีนกลาง) ฯลฯ
ลักษณะของเสมหะพังพอนตัวเมีย
ต้นเสลดพังพอนตัวเมีย จัดเป็นพรรณไม้พุ่มแกมเถา มักเลื้อยพิงไปตามต้นไม้อื่นๆมีความสูงได้ราว 1-3 เมตร ลำต้นมีลักษณะหมดจด ต้นอ่อนเป็นสีเขียว ลำต้นมีลักษณะกลม ผิวเรียบเป็นข้อสีเขียว แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางปักชำหรือแยกเหง้าแขนงไปปลูก เติบโตได้ดิบได้ดีในดินทุกประเภท ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี มีแสงแดดจัด มีเขตการกระจายชนิดในจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย แล้วก็ไทย ในประเทศไทยพบได้มากขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วทุกภาคของประเทศ หรือเจอปลูกกันตามบ้านทั่วๆไป
ต้นเสมหะพังพอนตัวเมีย
ต้นพญายอ
ใบเสมหะพังพอนตัวเมีย ใบเป็นใบคนเดียว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ๆรูปแบบของใบเป็นรูปใบหอก รูปรีแคบขอบขนาน ปลายใบและโคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างราวๆ 2-3 เซนติเมตร และก็ยาวราว 7-9 ซม. แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบ
ใบเสมหะพังพอนตัวเมีย
ดอกพญายอเสลดพังพอนตัวเมีย มีดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกประมาณ 3-6 ดอก กลีบดอกไม้เป็นสีแดงส้ม โคนกลีบดอกเชื่อมชิดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 3-4 ซม. ปลายแยกออกเป็น 2 ปาก คือ ปากล่างแล้วก็ปากบน ดอกหนึ่งมี 5 กลีบ กลีบเป็นทรงกระบอก ส่วนกลีบรองกลีบดอกนั้นเป็นสีเขียว ยาวเท่าๆกัน มีขนเป็นต่อมเหนียวๆอยู่โดยรอบ ดอกมีเกสรเพศผู้ 2 อัน ส่วนเกสรเพศเมียเกลี้ยงไม่มีขน มีดอกในตอนราวๆเดือนตุลาคมถึงมกราคม (แต่ว่ามักจะไม่ค่อยมีดอก)
ดอกเสมหะพังพอนตัวเมีย
พญาบ้องทองคำ
ลิ้นงูเห่า
ผลเสลดพังพอนตัวเมีย ผลสำเร็จแห้งแล้วก็แตกได้ (แม้กระนั้นผลไม่เคยติดเป็นฝักในประเทศไทย) ลักษณะของผลเป็นรูปกลมยาวรี ยาวได้ราว 0.5 เซนติเมตร ก้านสั้น ภายในผลมีเมล็ดโดยประมาณ 4 เม็ด
หมายเหตุ : เสลดพังพอน เป็นชื่อพ้องของพรรณไม้ 2 ชนิดเป็นเสมหะพังพอนเพศผู้ และเสลดพังพอนตัวเมีย ซึ่งจะไม่เหมือนกันตรงที่เสลดพังพอนเพศผู้ลำต้นจะมีหนามและก็มีดอกเป็นสีเหลือง ส่วนเสมหะพังพอนตัวเมียลำต้นจะไม่มีหนามและก็มีดอกเป็นสีแดงส้ม เพื่อไม่ให้เป็นการงงมากหลายๆตำราก็เลยนิยมเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า “พญายอ” หรือ “พญาบ้องทองคำ” โดยเสลดพังพอนตัวผู้นั้นจะมีสรรพคุณทางยาอ่อนกว่าเสมหะพังพอนตัวเมีย และตำรายาไทยนิยมนำมาใช้ทำยากันมาก
สรรพคุณของเสลดพังพอนตัวเมีย
รากแล้วก็เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำเป็นยาบำรุงกำลัง (รากและก็เปลือกต้น)
ต้นและใบใช้รับประทานเป็นยาถอนพิษไข้ ดับพิษร้อน (ทั้งต้นและก็ใบ)1,3 ใช้เป็นยาลดไข้ ด้วยการกางใบสด 1 กำมือ ตำอย่างละเอียด ผสมกับน้ำซาวข้าว ใช้พอกบนหัวผู้เจ็บป่วยโดยประมาณ 30 นาที ลักษณะของการมีไข้และอาการปวดศีรษะจะหายไป (ใบ)6
ช่วยแก้อาการผิดสำแดง (กินอาหารแสลงไข้ แล้วทำให้โรคกำเริบเสิบสาน) ด้วยการใช้รากสดนำมาต้มรับประทานทีละโดยประมาณ 2 ช้อนแกง (ราก)
ใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ ด้วยการนำใบสดมาบดราวๆ 10 ใบ กลืนเอาแต่น้ำยาพอให้ยาจืด แล้วจึงคายกากทิ้ง (ใบ)6
ช่วยแก้คางทูม ด้วยการใช้ใบสดโดยประมาณ 10-15 ใบ ตำให้รอบคอบผสมกับสุราโรง คั้นเอาน้ำมาทาบริเวณที่บวม อาการบวมจะหายไป และก็อาการเจ็บปวดจะหายไปข้างใน 30 นาที (ใบ)
ใช้เป็นยารักษาโรคบิด (ทั้งยังต้นและใบ)
รากใช้ปรุงเป็นยาขับฉี่ ขับระดู (ราก)
ใช้เป็นยาแก้ระดูมาเปลี่ยนไปจากปกติ (ทั้งต้น)
ช่วยแก้อักเสบแบบดีซ่าน (อีกทั้งต้น)
ใช้เป็นยาแก้แผลอักเสบมีไข้ ไข่ดันบวม ด้วยการใช้ใบสดโดยประมาณ 3-4 ใบ นำมาตำกับข้าวสาร 3-4 เม็ด ผสมกับน้ำพอเพียงเปียก ใช้พอกราวๆ 2-3 รอบ จะช่วยทำให้อาการ (ใบ)
ลำต้นนำมาฝนแล้วก็ใช้ทาแผลสดจะช่วยทำให้แผลหายเร็ว (ลำต้น)ใช้รักษาแผลจากหมากัดมีเลือดไหล ด้วยการกางใบสดโดยประมาณ 5 ใบ นำมาตำพอกรอบๆแผลสัก 10 นาที (ใบ)
ใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวก ด้วยการกางใบสดเอามาตำเคี่ยวกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำมันงา เอากากพอกแผล แผลจะแห้ง หรือจะใช้ใบสดเอามาตำให้ถี่ถ้วนผสมกับเหล้า ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่ถูกไฟลุกหรือน้ำร้อนลวก จะมีคุณประโยชน์ช่วยดับพิษร้อนเจริญ4 ส่วนอีกตำราเรียนบอกว่า นอกจากจะใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลเปื่อยเนื่องจากถูกแมงกะพรุนไฟ แผลหมากัด และแผลที่เกิดขึ้นจากการเช็ดกกรดได้อีกด้วย แค่เพียงนำใบไปหุงกับน้ำมันแล้วเอามาทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย ด้วยการกางใบราว 3-4 ใบ อาหารสาร 5-6 เม็ด เพิ่มเติมน้ำลงไปให้พอเปียก แล้วนำมาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองได้ดิบได้ดี ทำให้แผลแห้งไว โดยให้แปลงยาวันละ 2 ครั้ง พอกไปครู่หนึ่งหนึ่งแล้วให้เอาน้ำมาหยอดกันยาแห้งด้วย (ใบ)
ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ด้วยการกางใบสดตำผสมกับสุราใช้ทา หรือใช้เหล้าสกัดใบเสมหะพังพอน จะได้น้ำยาสีเขียวนำมาทาแก้ผื่นคัน (ใบ)
ใช้แก้สิวเม็ดผดผื่นคัน ด้วยการนำใบมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวและก็เม็ดผื่นผื่นคัน (ใบ)
ใช้แก้ฝี ด้วยการใช้ใบเอามาโขลกผสมกับเกลือรวมทั้งเหล้า ใช้พอกบริเวณที่เป็น แปลงยาทุกยามเช้าและก็เย็น (ใบ)
อีกทั้งต้นรวมทั้งใบใช้เป็นยาขับพิษ ทำลายพิษ โดยเฉพาะพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย อย่างเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง อื่นๆอีกมากมาย รวมถึงผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ผื่นคัน แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ใบสดโดยประมาณ 5-10 ใบ นำมาขยี้หรือตำใช้ทาบริเวณที่เป็น หรือใช้ใบสดนำมาตำให้พอเพียงแหลก แช่ลงในเหล้าขาวประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นแผลส่วนอีกตำรับยาแก้ผื่นคัน ตามข้อมูลระบุว่า ให้ใช้ใบตำผสมกับดินสอพอง ใส่น้ำบางส่วน ใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)

ชาวเมืองจะนำใบมาตากแห้งแล้วตำผสมกับแมงป่องปิ้ง ใช้เป็นยาแก้พิษงู (ใบ)
พญายอ ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังประเภทเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ขยุ้มตีนหมา และก็ใช้เป็นยาทำลายพิษต่างๆด้วยการกางใบเสมหะพังพอนตัวเมียสดราวๆ 10-20 ใบ (เลือกเอาเฉพาะใบสดสีเขียวเข้มวาว ไม่อ่อนหรือแก่กระทั่งเหลือเกิน) แล้วนำมาตำผสมกับสุราหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลแล้วก็เอากากพอกบริเวณแผล หรืออีกวิธีให้จัดแจงเป็นทิงเจอร์เพื่อใช้ทารักษาอาการอักเสบจากเริมในปาก โดยใช้ใบสด 1 กก. นำมาปั่นอย่างรอบคอบ เติมแอลกอฮอล์ 70% ลงไป 1 ลิตร แล้วหมักทิ้งเอาไว้ 7 วัน ระเหยบนเครื่องอังไอน้ำให้ขนาดลดลงกึ่งหนึ่ง (ห้ามตั้งบนเตาไฟโดยเด็ดขาด) แล้วก็เพิ่มเติมกลีเซอรีน (Glycerine pure) อีกเท่าตัว (ครึ่งลิตร) แล้วนำน้ำยาเสมหะพังพอนกลีเซอรีนที่ได้มาใช้ทาแผลเริม งูสวัด แผลร้อนในปาก และใช้ถอนพิษต่างๆสำหรับหนังสือเรียนยาแก้งูสวัดอีกตำรับจะใช้ใบสดผสมกับดอกลำโพง โกฐน้ำเต้า อย่างละเสมอกัน รวมกันตำให้พอเพียงแหลก แช่กับเหล้า แล้วนำมาใช้ทาแก้แผลงูสวัด (ใบ)
พญายอ ใช้แก้ถูกหนามท้องดอตำหรือถูกใบตะลังตังช้าง ด้วยการนำขี้ผึ้งแท้มาลุกลนไฟให้ร้อน แล้วเอามาคลึงเพื่อดูดเอาขนย้ายใบตะลังตังช้างออกเสียก่อน แล้วจึงใช้ใบเสลดพังพอนผสมกับเหล้าทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
ใช้เป็นยาแก้แพ้เกสรรักษาป่า ยางรักป่า รวมทั้งยางสาวน้อยประแป้ง ด้วยการใช้ใบผสมกับเหล้า นำมาทาบริเวณที่คัน (ใบ
ใช้แก้ฝึกหัด เหือด ด้วยการใช้ใบสดโดยประมาณ 7 กำมือ เอามาต้มกับน้ำ 8 แก้ว ต้มให้เดือด 30 นาที เทยาออกและผึ่งให้เย็น แล้วนำใบสดมาอีก 7 กำมือ ตำผสมกับน้ำ 8 แก้ว แล้วเอาน้ำยาทั้งสองมาผสมกัน ใช้รับประทานและก็ชโลมทา (ยาทาให้ใส่พิมเสนลงไปบางส่วน) เด็กที่เป็นหัด เหือด ให้กินวันละ 3 ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ว (ใบ)
พญายอ ทั้งยังต้นใช้เป็นยาแก้ปวดบวม เคล็ดลับปวดเมื่อย บวมช้ำ กระดูกร้าว ช่วยขับความชื้นในร่างกาย แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าเพราะเย็นเปียกชื้น (ทั้งยังต้น)
รากใช้เป็นยาแก้อาการปวดปวดเมื่อยบั้นท้าย (ราก)
ขนาดรวมทั้งวิธีการใช้ : ยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 5-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน ส่วนยาสดให้ใช้ทีละ 30 กรัม เอามาตำคั้นเอาน้ำรับประทาน หรือตำพอกแผลข้างนอก
ข้อควรตรึกตรองพญายอ
: หากแม้ในอดีตกาลจะมีการใช้ใบสดนำมาตำแล้วพอกรอบๆที่เป็นแผล แต่ว่าในตอนนี้วิธีนี้ไม่ได้รับความนิยมแล้ว เนื่องจากว่าจะทำความสะอาดได้ยาก ทำให้กากติดแผล และอาจทำให้ติดโรคเป็นหนองได้
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเสมหะพังพอนตัวเมีย
พญายอ รากเจอสาร Betulin, Lupeol, β-sitosterol ส่วนใบพบสาร Flavonoids ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกรุ๊ป monoglycosyl diglycerides เช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol รวมทั้งสารกลุ่ม glycoglycerolipids ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสเริม
จากการทดสอบในสัตว์ใช้สกัดจากใบสดของเสมหะพังพอนตัวเมียด้วย n-butanol พบว่า สามารถลดการอักเสบได้2 โดยพบว่าจะช่วยลดการอักเสบของข้อเท้าหนูที่ทำให้บวมด้วยสาร carrageenan ได้ เมื่อใช้ตำรับยาที่มีเสลดพังพอนตัวเมียปริมาณร้อยละ 5 ใน Cold cream และก็สารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ นำมาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะช่วยลดการอักเสบเรื้อรังได้ แต่ว่าเมื่อใช้สารสกัดด้วย n-butanol มาทาที่ผิวหนังจะไม่ได้ผล
สารสกัดจากใบความเข้ม 15 กรัม ต่อ 1 กก. มีคุณภาพต่อต้านการอักเสบได้ดี
เมื่อให้หนูเม้าส์รับประทานสารสกัดด้วย n-butanol จากใบ พบว่า จะช่วยลดความเจ็บของหนูที่ถูกรั้งนำให้ปวดด้วยกรดอะซีติเตียนคได้ ขึ้นรถสกัดความแรง 90 มก.ต่อกก. จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มก.ต่อกิโลกรัม ส่วนสารสกัดด้วยน้ำและสารสกัดด้วยเอทานอล 60 จากใบ พบว่าไม่เป็นผลลดความเจ็บ
สารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล แล้วก็เอทิลอะซิเตทจากใบเสลดพังพอนตัวเมียมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเชื้อเริม HSV-1 เมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 4 และก็ใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล พบว่าจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเจริญและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ ในขณะเมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะมีพิษต่อเซลล์ แล้วก็จากรายงานการดูแลและรักษาผู้เจ็บป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ประเภทเป็นซ้ำด้วยการใช้ยาจากสารสกัดเสมหะพังพอนตัวเมีย เปรียบเทียบกับยา acyclovir และยาหลอก โดยให้คนไข้ป้ายยาวันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้มีความแตกต่างในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลคนไข้ที่ใช้ยาจากสารสกัดใบแล้วก็ยา acyclovir โดยแผลจะเป็นสะเก็ดด้านใน 3 วัน รวมทั้งหายสนิทภายใน 7 วัน ซึ่งผิดแผกแตกต่างกับยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยยาที่สกัดจากใบเสลดพังพอนตัวเมียจะไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการอักเสบและก็ระคายเคือง ในขณะที่ acyclovir จะมีผลให้แสบ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการใช้ยาที่ทำจากเสมหะพังพอนตัวเมียในผู้เจ็บป่วยโรคเริม งูสวัด รวมทั้งแผลอักเสบในปาก แล้วพบว่าสามารถรักษาแผลแล้วก็ลดการอักเสบได้ดี
พญายอ สารที่สกัดจากบิวทานอล (Butanol) ของใบเสมหะพังพอนตัวเมีย มีฤทธิ์ทำลายเชื้อเชื้อไวรัส Varicella zoster ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสจำพวกที่นำมาซึ่งเริมแล้วก็อีสุกอีใส3 จากรายงานการดูแลและรักษาคนไข้โรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดจากใบเปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ทายาวันละ 5 ครั้ง ตรงเวลา 1-2 สัปดาห์ จนกว่าแผลจะหาย พบว่าผู้เจ็บป่วยสุดที่รักษาด้วยสารสกัดจากใบเสมหะพังพอนตัวเมีย แล้วมีแผลเป็นสะเก็ดด้านใน 3 วัน และหายด้านใน 7-10 วัน จะมีเยอะมากๆกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และก็ระดับความเจ็บจะน้อยลงเร็วกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก โดยไม่พบผลกระทบอะไรก็แล้วแต่9
จากการทดลองความเป็นพิษ เมื่อป้อนสารสกัด n-butanol จากใบให้หนูเม้าส์ พบว่ามีพิษบางส่วน แม้กระนั้นจะมีพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าท้อง ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัมต่อโล (เท่ากันใบแห้ง 5.44 กรัมต่อโล) เมื่อเอามาป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าท้องหนูเม้าส์ พบว่าไม่ส่งผลให้เกิดอาการเป็นพิษใดๆก็ตาม
จากการศึกษาพิษกึ่งเรื้อรัง
ด้วยการป้อนสารสกัด n-butanol จากใบในขนาด 270 รวมทั้ง 540 มิลลิกรัมต่อกิโล ให้หนูแรททุกๆวัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่เป็นผลต่อการเติบโต แต่ว่าพบว่ามีน้ำหนักต่อมธัยมัเศร้าใจลง ในขณะน้ำหนักของตับเพิ่มขึ้น และไม่พบว่ามีความผิดธรรมดาต่ออวัยวะอื่นๆหรืออาการไม่ปรารถนาแต่ว่าอ http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเสลดพังพอน (พญายอ)

10

สมุนไพรพญายอ
ชื่อสมุนไพร พญายอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau
ชื่อตระกูล ACANTHACEAE
ชื่อพ้อง Clinacanthus burmanni  Nees
ชื่ออังกฤษ ไม่มี
ชื่อแคว้นผักมันไก่  ผักลิ้นเขียด  พญาปล้องคำ  พญาปล้องดำ พญายอ  โพะโซ่จาง  เสลดพังพอนตัวเมีย


ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์


          ไม้พุ่มรอคอยเลื้อย ลำต้นแล้วก็กิ่งก้านสะอาดเป็นมัน สูงได้ถึง 3 เมตร ใบลำพังออกเรียงตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือขอบขนานปนใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว 7-9 เซ็นต์ โคนใบมน ปลายใบแหลม ก้านใบยาว 0.5 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกระจุกที่ปลายยอด กลีบดอกไม้สีส้มแดงเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 2 ปาก ยาว 3-4 ซม. ไม่ติดฝัก


ส่วนที่ใช้เป็นยาและคุณประโยชน์


-ส่วนใบ รักษาอาการเพราะเหตุว่าแมลงกัดต่อยรวมทั้งโรคเริม


สารสำคัญที่ออกฤทธิ์


สารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกลุ่ม monoglycosyl diglycerides อย่างเช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol รวมทั้งสารกลุ่ม glycoglycerolipids จากใบ  มีฤทธิ์ยั้งเชื้อไวรัสเริม


ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา


ฤทธิ์ลดการอักเสบ
       เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยเอ็นบิวทานอลให้หนูแรท  หรือฉีดสารสกัดด้วยน้ำจากใบเข้าท้องของหนูแรท  จะลดการอักเสบของข้อเท้าหนูแรทที่ทำให้บวมด้วยสารคาราจีแนน (carrageenan) ได้   ตำรับยาที่มีพญายอจำนวนร้อยละ 5  ใน cold cream รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เมื่อนำมาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะสามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้  แต่เมื่อใช้สารสกัดด้วยนเอ็นบิวทานอลทาที่ผิวหนังจะไม่เป็นผล
ฤทธิ์ลดอาการปวด
                 เมื่อให้หนูเม้าส์กินสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบ จะลดความเจ็บปวดของหนูที่ถูกรั้งนำให้ปวดด้วยกรดอะซีตำหนิค  โดยสารสกัดความแรง 90 มก./โล จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มก./กิโล (5)  ส่วนสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (2)  สารสกัดด้วยน้ำ และก็สารสกัดด้วยเอทานอล 50% จากใบ (3) ไม่เป็นผลลดความเจ็บ

ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส
เชื้อไวรัสเริม
       พญายอสารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล แล้วก็เอทิลอะซิเตทจากใบ มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสเชื้อเริม HSV-1  และเมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นร้อยละ 4 แล้วก็ใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล  พบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์  ในตอนที่เมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะเป็นพิษต่อเซลล์
                 จากรายงานการรักษาคนไข้โรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ชนิดเป็นซ้ำด้วยยาจากสารสกัดพญายอ เปรียบเทียบกับยา acyclovir  และก็ยาหลอก  โดยให้คนป่วยทายาวันละ 4 ครั้ง ตรงเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้แตกต่างในช่วงเวลาการตกสะเก็ดของแผลคนไข้ที่ใช้ยาจากสารสกัดใบพญายอและยา acyclovir   โดยแผลจะตกสะเก็ดด้านใน 3 วัน แล้วก็หายสนิทข้างใน 7 วัน ซึ่งผิดแผกกับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ ยาที่สกัดจากใบพญายอไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการอักเสบ ระคายเคือง ในเวลาที่ acyclovir ทำให้แสบ   นอกเหนือจากนี้มีการใช้ยาที่ทำจากพญายอ ในคนเจ็บโรคเริม งูสวัด รวมทั้งแผลอักเสบในปาก พบว่าสามารถรักษาแผลและลดการอักเสบได้ดี   
เชื้อไวรัส Varicella zoster
                 สารสกัดจากใบพญายอออกฤทธิ์ทำลายไวรัส Varicella zoster ที่เป็นสาเหตุโรคงูสวัดรวมทั้งอีสุกอีใสได้โดยตรงก่อนที่จะเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์
จากรายงานการรักษาผู้เจ็บป่วยโรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดใบพญายอเปรียบเทียบกับยาหลอก  โดยให้ป้ายยาวันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน กระทั่งแผลจะหาย  พบว่าผู้ป่วยหวานใจษาด้วยสารสกัดจากใบพญายอ แล้วมีแผลเป็นสะเก็ดด้านใน 3 วัน แล้วก็หายภายใน 7-10 วัน จะมีเยอะแยะกว่ากรุ๊ปที่รักษาด้วยยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ ระดับความเจ็บลดลงเร็วกว่ากรุ๊ปยาหลอก และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ


อาการใกล้กัน


ความเป็นพิษทั่วๆไปและก็ต่อระบบขยายพันธุ์


การทดสอบความเป็นพิษ
เมื่อป้อนสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แต่ว่าเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าช่องท้อง  ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัม/กิโล (หรือเทียบเท่าใบแห้ง 5.44 กรัม/กิโลกรัม) เมื่อป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าช่องท้องหนูเม้าส์ ไม่ก่อให้เกิดอาการพิษอะไรก็ตาม
การศึกษาพิษ
[url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]พญายอ[/url]ครึ่งหนึ่งเรื้อรัง พบว่าเมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดเอ็นบิวทานอลจากใบขนาด 270 มก./กิโลกรัม และก็ 540 มิลลิกรัม/กก. วันแล้ววันเล่า นาน 6 อาทิตย์ พบว่าไม่เป็นผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าน้ำหนักต่อมธัยมัเสียใจลง ตอนที่น้ำหนักตับเพิ่มขึ้น ไม่พบความไม่ดีเหมือนปกติต่ออวัยวะอื่น และไม่พบอาการไม่พึงปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ หนูแรทที่กินสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1 กรัม/กิโล แต่ละวันนาน 90 วัน พบว่าการกินอาหารของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดและก็กลุ่มควบคุมไม่ได้ต่างอะไรกัน แต่น้ำหนักของหนูเพศผู้ที่ได้สารสกัดขนาด 1.0 กรัม/โล ต่ำกว่าพญายอกรุ๊ปควบคุม  เกร็ดเลือดของหนูแรททั้งคู่เพศสูงกว่า และครีอาติเตียนนินต่ำกว่ากลุ่มควบคุม  แต่ว่าไม่พบความผิดปกติด้านจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายใน แล้วก็พยาธิภาวะข้างนอกhttp://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพร เสลดพังพอน (พญายอ)

11

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา แล้วก็เอเซียอาคเนย์ ใบและลำต้นประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของประเทศอินเดียรวมทั้งจีนมาอย่างนาน ใช้รักษาหลายโรค ดังเช่นว่า โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาประกอบอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอยู่หลายประเภท ดังเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียติเตียนโคไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และกรดมาดีคาสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายประเภท ดังเช่นว่า บรรเทาอาการอักเสบ แม้ใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดความดันเลือดในหลอดเลือดดำ แล้วก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆยกตัวอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด ฯลฯ นอกเหนือจากนั้น ยังมีความเห็นกันว่าถ้าเกิดใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นสาระสำคัญในการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการมีท้อง แม้กระนั้นสิ่งพิสูจน์หรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันความเชื่อถือ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจเห็นผล
เส้นโลหิตขอด มีการศึกษาชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงและสร้างสมดุลสำหรับในการเจริญวัยของเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด มีผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและก็เส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับแก้การไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนั้น ยังมีการเรียนรู้โดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวพัน 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก รวมทั้งอาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างมีนัยสำคัญ ถึงสารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการคนเจ็บเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แต่จากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่าข้อสรุปข้างต้นต้องตีความด้วยความรอบคอบเนื่องจากความจำกัดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้วิจัย รวมทั้งยังจึงควรเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินคุณภาพการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานส่งเสริมไม่เพียงพอ
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับเพื่อการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกรุ๊ปหนึ่งรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกเป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นโลหิต พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้งยัง 2 กรุ๊ปไม่แตกต่างกัน แม้กระนั้นในกลุ่มที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดน้อยลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอรวมทั้งขาลดลง รวมถึงลักษณะของพลัคอีกทั้งความดกและความยาวก็น้อยลงด้วยเหมือนกัน ทั้งยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ รวมทั้งมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เพราะเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งยังน้อยเกินไป ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีเหตุมาจากการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวแล้วก็เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในคนที่โดยสารเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการศึกษาชิ้นนี้จะคือการลดการสะสมของลิ่มเลือด เพราะหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการปกป้องลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในผู้ป่วยเบาหวาน การค้นคว้าหนึ่งให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารสามเทอร์พีนอยด์เป็นสาระสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีสาระต่อการไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยของคนไข้โรคเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนเลือดยังน้อยเกินไป จึงจำต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนเจ็บเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารเอเชียตำหนิโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกจำนวน 2 แคปซูลข้างหลังมื้อของกินวันละ 3 ครั้ง รวมทั้งมีการวัดผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนป่วยที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือกล่าวได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีสมรรถนะสำหรับในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลข้างเคียง แม้กระนั้นเนื่องจากว่าหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลโรคเบาหวานยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
แผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ได้แก่ ทวีปเอเชียว่ากล่าววัวไซด์ กรดเอเชียว่ากล่าวก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายแล้วก็อาจมีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาแผลต่างๆแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 อาทิตย์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมทั้งแผลเป็นแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่เนื่องจากหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน บ่อยๆทุกวี่วันในตอน 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนการคลอด ซึ่งบางทีอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงมีท้องจำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจทำให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องจากว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกไม่สบายใจ การดูแลและรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการไม่มีชีวิตชีวารวมทั้งความรู้สึกวิตกกังวล ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความรู้สึกกังวลใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความไม่สบายใจ ช่วยลดความเคร่งเครียด แต่ว่ายังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกต่อไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรควิตกกังวล
โรคและก็อาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การติดเชื้อทางเท้าปัสสาวะ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจำเป็นจะต้องวิจัยหาประสิทธิภาพรวมทั้งความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยในการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมลูก เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานด้านการแพทย์เพียงพอที่จะส่งเสริมถึงเรื่องความปลอดภัยต่อเด็ก มารดา หรือทารกในครรภ์
การกินใบบัวบกอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรกินใบบัวบก เพราะอาจจะส่งผลให้อาการต่างๆห่วยแตกลงได้ รวมถึงไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่ส่งผลต่อตับในกลุ่มเหล่านี้ อาทิเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติน เป็นต้น
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจก่อให้รู้สึกง่วงได้มากกว่าปกติ หรือถ้าเกิดรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาคลายกังวล อย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรจะหยุดรับประทานใบบัวบกขั้นต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับคนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะเหตุว่าบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้เพื่อการผ่าตัดรวมทั้งอาจจะก่อให้รู้สึกง่วงนอนได้มากขึ้น
ควรจะขอคำแนะนำหมอก่อนกินใบบัวบก ถ้าอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาถ้าเกิดรับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของคนเจ็บโรควิตกกังวล ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกลุ้มอกกลุ้มใจน้อยลง แล้วก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุว่าอาจจะเป็นผลให้กดประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

12

เหงือกปลาหมอ
บ้านเกิดเหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของไทยเราเพราะเหตุว่ามีประวัติสำหรับในการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้งรวมทั้งมักจะพบได้ทั่วไปในรอบๆป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งลำคลอง เจริญเติบโตเจริญในที่ร่มรวมทั้งมีความชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ชอบที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้เหมือนกัน เหงือกปลาหมอ พบอยู่ 2 พันธุ์หมายถึงประเภทดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบมากในภาคกลางรวมทั้งภาคตะวันออก ชนิดดอกสีม่วง  Acanthus ilicifolius L. เจอทางภาคใต้ ทั้งยังเหงือกปลาแพทย์ยังเป็นประเภทไม่ลือชื่อของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไป
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงราวๆ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งชัน มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบลำพัง ลักษณะของใบมีหนามคมอยู่ขอบขอบของใบและปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบเป็นเงาลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแนวก้างปลา เนื้อใบแข็งรวมทั้งเหนียว ใบกว้างโดยประมาณ 4-7 ซม. และก็ยาวราวๆ 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวโดยประมาณ 4-6 นิ้ว ดังนี้สีของดอกขึ้นกับพันธุ์ของต้นเหงือกปลาหมอคือ ดอกมีทั้งประเภทดอกสีม่วง หรือสีฟ้า รวมทั้งประเภทดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันคือ  ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบดอกไม้เป็นท่อปลายบานโต ยาวประมาณ 2-4 ซม. รอบๆกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวราวๆ 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ด้านในฝักมีเม็ด 4 เมล็ด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในแบบเรียนยาไทยบอกว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อไวรัสก็จะลดลงลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้ว่าจะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แม้กระนั้นเมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นทั้งยารับประทานรวมทั้งต้มน้ำอาบต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดลงลงอย่างชัดเจน สำหรับคนป่วยโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยาและก็วิธีการใช้ยาก็มีหลายวิธี คือ
แนวทางต้มยารับประทานและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง ยามเช้า-เย็น ก่อนอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง รุ่งเช้า-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แต่ถ้าเกิดมีเหงือกปลาหมอจำนวนมาก อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่ทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
กระบวนการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้งยัง 5 หนตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางทีก็อาจจะรับประทานครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุรวมทั้งน้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนกินอาหาร ยามเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยตราบจนกระทั่งจะหาย แม้กระนั้นหากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็จะต้องกินตลอดไป

ขั้นตอนการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการเหินเป็นผงละเอียดราวกับแป้งใส่แคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่กินทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนรับประทานอาหาร เด็กลดน้อยลงตามส่วน
 เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์มากไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น
-ราก มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีสรรพคุณรักษาโรคหลายประเภท โดยใช้ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค อาการผอมแห้งแรงน้อย ถ้าเกิดใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาต่างกันออกไปอีก
-อีกทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มกินแก้พิษโรคฝีดาษ ฝีทั้งมวล ผลรับประทานเป็นยาขับโลหิตระดู ยิ่งกว่านั้น ถ้าตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาทั้งตัว
- ทั้งต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดียิ่งขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง จับไข้จับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมบางเหลืองหมดทั้งตัว กินแต่ละวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือนิดนึง หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำจนถึงเดือดให้งวดก็เลยชูลง กลั้นหายใจรับประทานขณะอุ่นกระทั่งหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนตลอดตัว มึนหัว ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ"  5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ ปริมาณเท่ากัน กะตามอยาก ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา รุ่งเช้า กลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้หมอเอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย รวมทั้งต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานวันแล้ววันเล่า
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ประเภท หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่เคยรู้เหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งสิ้นที่บอกเป็นตำราเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่สมควรลบหลู่ดูหมิ่น รู้ไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

13

สมุนไพรรากสามสิบ
สมุนไพร รากสามสิบแคปซูล รากสามสิบ แบบล้วน  คุณประโยชน์และก็ประโยชน์ ข้อบังคับ ผลกระทบจากรากสามสิบ สำหรับหญิงที่มีปัญหาเรื่องกระชับช่องคลอด
อยู่ยังไงให้ชีวิต Sex  กระชับช่องคลอด เพิ่มน้ำหล่อลื่น ทำให้กระชับ (รีแพร์) แบบผู้หญิง ทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง มีความชื้น แล้วก็ สุขสบายทางเพศ รักษาสภาวะประจำเดือนผิดปรกติ ปวดรอบเดือน มีลูกยาก ตกขาว หมดอารมณ์ทางเพศ  กามตายด้าน บำรุงน้ำนม บำรุงครรภ์ คุ้มครองแท้ง แพงส่ง แล้วก็ ราคาไม่แพง ยี่ห้อ รีวิวเยอะแยะ กว่า 8 ปี
สมุนไพรเน้นย้ำ กระชับ ช่องคลอด ตกขาว รอบเดือน อารมณ์เพศปรวนแปร ไร้สมรรถภาพทางเพศหญิง รากสามสิบ ราชินีสมุนไพรชีวิตสมรส  ดูแลปัญหาระบบภายในช่องคลอดไม่กระชับรวมทั้งมีปัญหาชีวิตคู่บนเตียงมีกลิ่นเหม็นอับ ไม่พึ่งปรารถนาตกขาวมดลูกต่ำ สตรีวัยทอง ดูแลปัญหารอบเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ
สมุนไพร รากสามสิบ แคปซูล กระชับช่องคลอด
ปัญหาลับๆอาทิเช่น ช่องคลอดหย่อนยานไม่กระชับ เจ็บท้องเวลามีเมนส์ ระดูไม่ทันเวลา เป็นปัญหาต่างๆที่ก่อกวนจิตใจของเพศหญิงกว่า 98% รวมทั้ง หน้าอกเล็กแบบ หย่อน พุงป่อง หรือปัญหาเหล่านี้มีต้นเหตุมาจากการขาดสมดุลในฮอร์โมน แนะนำ กวาวเครือขาว แล้วก็ รากสามสิบ ซื้อ กวาวเครือขาว แล้วก็ รากสามสิบ
รากสามสิบ กระชับช่องคลอด
คุณประโยชน์ ผลดี และ ข้อบังคับ ผลข้างเคียง
สมุนไพรไทย รากสามสิบแบบแคปซูล กระชับสำหรับสตรี  ไม่ว่าจะเป็นอันมากเสือโคร่ง โด่งไม่ทราบล้ม สาวน้อยตกเตียง จนกระทั่งมาถึงรากสามสิบหรือต้นสาวร้อยผัวนี้แหละ ต่างคนต่างมึนงง ว่ามันคืออะไร คุณประโยชน์ ทำให้กลับมาเป็น ใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี สาว(female rejuvention) กระชับช่องคลอด รักษาสภาวะระดูมาแตกต่างจากปกติ ปวดประจำเดือน สภาวะมีบุตรยาก ตกขาว อารมณ์ทางเพศเสื่อมถอย  สภาวะหมดประจำเดือน บำรุงน้ำนม บำรุงท้อง คุ้มครองปกป้องการแท้ง ยิ่งกว่านั้นยังใช้เป็นยาบำรุงกำหนัดในผู้ชายได้ด้วยขอรับ  นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้เป็นยาแก้ไอ ยาแก้โรคกระเพาะ แก้ไข้ แก้อักเสบ ได้เหมือนกัน เป็นสมุนไพรที่มีการออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน 
ต้น รากสามสิบ แคปซูล แพทย์ยาในอดีตจะเรียกกันว่า"สาวร้อยสามี" ส่วนมากใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ทำให้มีแรง สดชื่น ไม่แก่ ราวกับๆสาวสองพันปี
ในตำราอายุรเวทใช้สมุนไพรจำพวกนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับเป็นยาบำรุงในผู้หญิง สำหรับการทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาว (female rejuvenation) นอกนั้น ยังช่วยขจัดปัญหาอื่นๆของหญิง ได้แก่ สภาวะรอบเดือนไม่ปกติ ปวดระดู ภาวะมีลูกยาก ตกขาว ภาวะไม่มีอารมณ์ทางเพศ สภาวะหมดประจำเดือน (menopause) บำรุงน้ำนม บำรุงท้อง คุ้มครองปกป้องการแท้ง (habitual abortion)

สมุนไพรรักษาโรค รากสามสิบ กระชับภายในสตรี ชุดกระชับแบบสาวน้อย
" รากสามสิบ " เป็นสมุนไพรที่มีการทำการศึกษาเรียนรู้กันเยอะพอสมควร ในด้านการศึกษาวิจัยในห้องทดลองเจอฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ ต้านเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อรา คลายกล้ามของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้การอักเสบ แก้ปวด มีฤทธิ์เสมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านทานอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ปกป้องกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นจากความดันเลือดสูง ขับนม ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหารยับยั้งพิษต่อตับ
ในตำราเรียนอายุรเวทใช้ รากสามสิบ เป็นสมุนไพรหลักสำหรับ บำรุงในสตรี  ในการ ทำให้สตรีกลับมาเป็นสาว นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆของผู้หญิงเป็นต้นว่า ภาวการณ์ระดูเปลี่ยนไปจากปกติ ปวดเมนส์ ภาวการณ์มีลูกยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมโทรม ภาวการณ์หมดเมนส์ สมุนไพรรักษาโรค รากสามสิบ แคปซูล กระชับช่องคลอด อาการตกขาว ปจด.เพิ่มอารมณ์เพศ
#รากสามสิบ ถือเป็นสมุนไพรที่เป็นประโยชน์มากสำหรับเพศหญิงช่วยสำหรับการสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิงจาก #รากสามสิบแคปซูล
เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติหลัก ในทางเภสัชมีการชี้แนะว่าพืชที่ให้ เอสโตรเจน ส่งผลดีกว่าการใช้ตัวยาปรับสมดุลฮอร์โมน เนื่องมาจากไม่มีผลข้างเคียงในทางลบ "ราชินีที่สมุนไพร"
เหตุผลที่ ผู้หญิงนิยมใช้ รากสามสิบ กล้วยๆคือ ทานแล้วได้ผล
1 ช่วยกระชับช่องคลอด  ทำให้แฟนไม่เบื่อ แทบจะไม่รู้เรื่องเลยว่าเราเคยมาก่อนรึเปล่า  ราวกับเป็นครั้งแรกของเรา
2 ช่วยฆ่าเชื้อโรคในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดสะอาด ไม่กังวลเรื่อง กลิ่นเหม็นอับ อีกต่อไป
3 เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี ไม่ตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว
4 ราคาไม่แพง เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ในประเทศไทย ภูมิปัญญาไทยๆไม่เสียค่านำเข้าใดๆก็ตาม
 ขนาดรับประทาน
4 ขวด เริ่มกระชับ สุขสบาย
6 กระชับแบบสาวรุ่น สุขสบายแน่ๆ
12 ผลสรุปช้านาน และ สำเร็จเกือบจะถาวร (รายบุคคล)
รากสามสิบ แคปซูล
ชุดนี้แถม ผสม ฮี่ยุ่มหรือหญ้ารีแพร์ 1 ต่อ 1 กับ รากสามสิบ
รากสามสิบ "  เป็น สมุนไพรที่คนไทยและคนเอเชียใช้กันมาช้านานแล้ว  คนส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ เรียกนานับประการในแต่ละภาค ชื่อในภาคกลางหรือคนทั่วไปเรียกขานว่า "รากสามสิบ" หรือ "สามร้อยราก"นั่นเอง แพทย์ยาโบราณส่วนมากจะรู้ว่าสาวร้อยสามีเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ก็เลยให้ชื่อว่า "สาวร้อยสามี" ชื่อนี้เป็นไม่ว่า สาวใดจะอายุมากแค่ไหนก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้(ไม่ได้หมายถึงสาวใจแตก)  ความหมายคล้ายสาวสองพันปีที่ยังสาวเสมอนั่นเอง รวมทั้งเป็นที่น่าตกอกตกใจว่าในประเทศอินเดียก็เรียกสมุนไพรชนิดนี้คล้ายกับเมืองไทย โดยในภาษาสันสกฤต เรียกว่า ศตวารี (Shtavari) แปลว่า ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก หรือบางหนังสือเรียนกล่าวว่าเป็นผู้หญิงที่มีร้อยผัว "Satavari" http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

14

รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในสกุลหน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) แล้วก็อยู่ในตระกูลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี), ผักหนาม (จังหวัดนครราชสีมา), ผักชีช้าง (จังหวัดหนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดเชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยสามี, สาวร้อยผัว, ศตาวรี เป็นต้น
รูปแบบของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนแปลงมาจากใบเกล็ดรอบๆข้อ) สามารถเลื้อยปีนป่ายต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงราว 1.5-4 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวปนเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น และวาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 มม. เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวราวๆ 1-4 มม. รอบๆข้อมีกิ่งแตกกิ่งก้านสาขาแบบรอบข้อ และกิ่งนี้จะกลายเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างราว 0.5-1 มม. รวมทั้งยาวราวๆ 0.5-2.5 มม. ทำหน้าที่แทนใบ มีเหง้ารวมทั้งรากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกระจุกคล้ายกระสวย รูปแบบของรากออกเป็นพวงเหมือนรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามากมาย มีเขตผู้กระทำระจายจำพวกในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย และประเทศออสเตรเลีย เจอขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแห้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบผู้เดียว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กเหมือนหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกลุ่ม 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก ลักษณะของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างโดยประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร รวมทั้งยาวราว 10-36 มิลลิเมตร แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวราว 13-20 เซนติเมตร
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ มีดอกเป็นช่อกระจะ ยาวโดยประมาณ 2-4 ซม. โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบแล้วก็ข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวรวมทั้งมีกลิ่นหอมสดชื่น มีราว 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวราวๆ 2 มม. มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ รวมทั้งวงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร รวมทั้งยาวประมาณ 2.5-3.5 มิลลิเมตร กลีบดอกไม้มีลักษณะบางและก็ย่น โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมแล้วก็อยู่ตรงข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวราว 1 มิลลิเมตร มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เมล็ด หรือมากกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะมีดอกในช่วงราวๆเดือนเมษายนถึงมิถานายน1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ รูปแบบของผลเป็นรูปทรงออกจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบเป็นมัน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ 4-6 มิลลิเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ด้านในผลมีเมล็ดราวๆ 2-6 เม็ด เม็ดเป็นสีดำ เปลือกหุ้มมีลักษณะแข็งแต่ว่าเปราะ ให้ผลในตอนราวเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม1,8
ผลรากสามสิบ
เม็ดรากสามสิบ

คุณประโยชน์ของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสเฝื่อนเย็น มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
แบบเรียนยาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กษัย (ราก)
ในประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่าแล้วก็ต้นจันทน์แดง ผสมกับสุราโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาลดระดับความดันเลือดและลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นลักษณะการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
ทั้งต้นหรือรากเอามาต้มกับน้ำดื่มเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสเฝื่อนเย็น ใช้กินเป็นยาแก้พิษร้อนในกระหายน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสลด4 แก้การตำหนิดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาช่วยขับลม และก็ช่วยลดกรดในกระเพาะ (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ แก้อาการของกินไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการท้องเสีย แก้บิด (ราก)
ใบมีคุณประโยชน์เป็นยาระบาย (ใบ)
ตำรายาสมุนไพรท้องถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากเอามาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีคุณประโยชน์เป็นยาแก้ขัดเบา ขับปัสสาวะ ช่วยหล่อลื่นแล้วก็กระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการเมนส์ผิดปกติของสตรี (ราก)
ต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ตกเลือด (ราก, ทั้งต้น)
ในประเทศอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นสมรรถนะทางเพศทั้งยังชายแล้วก็หญิง คนทางภาคเหนือบ้านพวกเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้กินเป็นยาบำรุงสำหรับเพศชาย รับประทานแล้วครื้นเครงราวกับม้า 3 ตัว ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ม้าสามต๋อน” ส่วนแพทย์ยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นสาเหตุของชื่อ “สาวร้อยผัว” หรือ “สามร้อยสามี” พูดอีกนัยหนึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ อายุมากแค่ไหนก็ยังมองสาวเสมอ แม้กระนั้นไม่ใช่รับประทานแล้วจะสามารถมีผัวได้เป็นร้อยคน ในหนังสือเรียนอายุรเวทจะใช้สมุนไพรจำพวกนี้เป็นสมุนไพรหลักในการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยไขปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นภาวะระดูผิดปกติ ภาวการณ์หมดเมนส์ ปวดเมนส์ ตกขาว มีบุตรยาก ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ช่วยทำนุบำรุงท้อง บำรุงนม คุ้มครองปกป้องการแท้ง ฯลฯ สำหรับวิธีการใช้ก็ให้นำรากมาต้มกิน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผุยผงปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง นอกเหนือจากนี้ยังคงใช้กระตุ้นนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับและก็ปอดให้กำเนิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับและปอดพิการ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้ลักษณะของการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยทำลายพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยทุเลาอาการระคาย (ราก)
รากใช้รับประทานเป็นยาแก้อาการปวดเมื่อยล้า ครั่นเนื้อครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้อาการปวดข้อและก็คอ (ราก)
ใบมีสรรพคุณช่วยขับน้ำนม ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กทารกในท้อง บำรุงน้ำนม บำรุงร่างกายหลังการคลอดบุตรของสตรี (ราก)
ใน “พระหนังสือสรรพคุณ (แลมหาพิกัด)” ได้กล่าวถึงสรรพคุณของรากสามสิบไว้ว่า “ผักหวานตัวผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้ตาโรค รากสามสิบ 2 มีคุณยิ่งกว่าผักหวาน” กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 ชนิด อย่างแรกเป็นตัวร้อน ไม่อยากกินอาหาร ปวดหัว และอีกอย่างหนึ่ง คือ มีอาการร้ายแรงมากกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีอาการคัน ไอ มีเสมหะ รวมทั้งมีเลือดออกทางปากแล้วก็จมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ “พระคัมภีร์เวชศาสตร์อนุเคราะห์” ได้พูดถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อนยาน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆอีกหลายอย่าง โดยกล่าวว่ามีคุณประโยชน์ (ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยกันจำเริญชีวิตให้เกิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้เจริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังมากแตกต่าง กินเข้าไปแล้วหาโทษมิได้ ใช้ได้ทั้งยังเด็ก คนชรา คนมีกำลัง คนผอม คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อนยาน ให้ประกอบยานี้กันเหอะ อนึ่ง กินแล้วให้เกิดขึ้นลูก ให้อกตอแค่นดวงเดือนงอีกทั้ง 4 มีกำลัง ถึงกระหักดีแล้ว แพทย์ก็นับถือรักษาโดยใช้ยานี้เหอะ (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคผอมบาง แก้หอบหืด แก้ปิดตะ แล้วก็แก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ด้วยกัน 20 อย่างแล้วก็รากสามสิบ (ราก)
ใน “พระตำราวรโยคสาร” ตำรับยา “วะระทุ่งนาทิแผนก” เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง และก็รากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีลักษณะเสียดแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสลด แก้คุลุมโรคหายแล รวมทั้งยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสลด ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง และรากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงท้อง แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 ประเภท ยกตัวอย่างเช่น รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียนทั้ง 5 บัวน้ำ 5 โกฐทั้งยัง 5 จันทน์ 4 และก็เทวดาทาโร (ใช้อย่างละเท่ากัน) นำทั้งหมดทั้งปวงมาใส่ด้านในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน เพิ่มน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 ซม. แช่ทิ้งไว้ราวๆ 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มต้มประมาณ 30 นาที น้ำยาเดือดและมีกลิ่นหอมก็เลยชูลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนที่จะกินอาหารเช้าตรู่และก็เย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงท้องอย่างยอดเยี่ยม (ราก)
นอกนั้นยังมีสรรพคุณของรากสามสิบตามเว็บต่างๆนอกเหนือจากที่กล่าวมา สมุนไพรชนิดนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิง แก้วัยทองคำ เพิ่มขนาดอกและสะโพก ช่วยจัดการกับปัญหาช่องคลอดอักเสบ กำจัดกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปร่าง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่เฒ่า ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก ช่วยสร้างเสริมและก็พัฒนาความจำและเชาวน์ (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดรวมทั้งการใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากประมาณ 90-100 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินวันละครั้งในช่วงเวลาเช้า
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่พบ อย่างเช่น asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้อาการปวด คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นมาจากความดันโลหิตสูง ขับน้ำนม มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยั้งเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะ ยับยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่พบในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติภารกิจเลียนแบบฮอร์โมนเพศ ก็เลยน่าจะมีหน้าที่ในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดระดูของสตรี รวมถึงการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือดรวมถึงโรคกระดูกพรุน
จากการศึกษา
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนกะทันหันและตอนยาวต่อเนื่อง โดยการเล่าเรียนในตอนเฉียบพลันป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อกก. ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน หนูแรทที่เป็นโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 และประเภทที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แม้กระนั้นช่วยทำให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของเดกซ์โทรส ในนาทีที่ 30 ดียิ่งขึ้น ส่วนการศึกษาเล่าเรียนตอนยาวต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมทั้งเพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน แล้วก็เพิ่มไกลวัวเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มโรคเบาหวานควบคุม จึงสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการยับยั้งการสรุปยรวมทั้งการดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต แล้วก็เพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับการนำไปใช้รักษาคนป่วยโรคเบาหวานได้9
จากการทดลองทางสถานพยาบาลเป็นการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการกินผงแห้งของราก พบว่าได้ผลดีสำหรับเพื่อการรักษาแผลที่กระเพาะแล้วก็ลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี คริสต์ศักราช1997 ที่ประเทศอินได้กระทำการทดลองใช้รากสามสิบกับคนไข้ความดันโลหิตสูงชนิด mild hypertension โดยทดสอบเปรียบเทียบกับยาลดความดัน (Propranolol) ใช้ช่วงเวลาทำการทดสอบนาน 3 เดือน ผลการทดสอบพบว่า คนเจ็บมีความดันเลือดน้อยลง < 90 mm.Hg. และก็ลดไขมันได้ประสิทธิภาพที่ดี

  • K. Mitra แล้วก็แผนก (คริสต์ศักราช1996) ที่อินเดียได้กระทำทดสอบการใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับตัวทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/

15

กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงทำกับข้าว กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก ยิ่งกว่านั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ได้แก่ อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) และก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
กระเทียม
หลายๆคนอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสุขภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่คนไม่ใช่น้อยมั่นใจว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ดังนี้สิ่งที่ใช้พิสูจน์หรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ ประโยชน์ รวมทั้งความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
ความดันเลือดสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือสินค้าเสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดและทำให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้ผู้ป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. ตรงเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีความสามารถสำหรับการรักษาคนไข้ความดันโลหิตสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่บอกให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียมสำหรับเพื่อการลดความดันเลือดได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แต่เนื่องมาจากผลการทดลองอาจยังไม่ถูกต้องเพียงพอที่จะสรุปความสามารถของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิตในผู้ป่วยความดันเลือดสูง ก็เลยยังควรต้องเล่าเรียนเพิ่มเพื่อยืนยันคุณภาพที่กระจ่างยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมและก็การเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังกำกวมรวมทั้งยังคงเป็นที่คัดค้านกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งปวงศชายรวมทั้งผู้หญิงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะลดน้อยลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยอีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้ใจพอดีจะช่วยสนับสนุนความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งทรวงอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจะจำกัดที่เกื้อหนุนว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน โรคมะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติอเมริกา (NCI) ได้บอกว่ากระเทียมเป็นผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นเหตุอื่นๆอาทิเช่น ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่มากมาย อาจก่อให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก แล้วก็เมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ภายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้ความสามารถของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และมีการนำมาใช้เพื่อปกป้องและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แต่ช่วงเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กรุ๊ปมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แม้ว่าผลการทดสอบข้างต้นจะบ่งบอกถึงถึงสมรรถนะของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดลองทางคลินิกยังไม่เพียงพอแล้วก็ควรต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้เด่นชัดเพิ่มขึ้น
ลดน้ำหนักรวมทั้งมวลไขมัน ในคนเจ็บภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักมีต้นเหตุมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดน้ำหนักอาจน้อยเกินไป ถ้าไม่ดูแลหัวข้อการทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้นศชายและก็เพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งมวล 110 คน กินกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งด้านในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามเดิม แม้กระนั้นรับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายลดลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก จึงอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับรวมทั้งคุ้มครองหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นการเรียนในอนาคตยังจำเป็นที่จะต้องวางแบบการทดลองให้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งควรเพิ่มช่วงเวลาสำหรับการทดลองเพื่อยืนยันความสามารถของกระเทียมให้แจ้งชัดเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองรวมทั้งการศึกษาโดยการทบทวนการวิจัยที่เกี่ยวปริมาณ 29 ชิ้น ได้ทำให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้นิดหน่อย แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือเปล่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร ก็เลยยังควรต้องศึกษาเพิ่มเพื่อหาผลสรุปแล้วก็ยืนยันสมรรถนะของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มชัดยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยในการรับประทานกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะปลอดภัยแม้กินในปริมาณที่เหมาะสม แต่อาจจะก่อให้เกิดผลใกล้กันได้ ได้แก่ ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกึ่งกลางอก ท้องอืด อ้วก คลื่นไส้ หรือท้องร่วง อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด อีกทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนแล้วก็ระคายได้
ข้อควรตรึกตรองสำหรับการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการท้องค่อนข้างจะปลอดภัยถ้าเกิดกินเป็นของกินหรือในปริมาณที่เหมาะสม แม้กระนั้นอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากกินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการมีท้องหรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่เหมาะสมแล้วก็ในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่ว่าการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้กำเนิดอาการแสบร้อนและระคาย
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจส่งผลให้มีการระคายเคืองที่ดินเดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ การกินกระเทียมอาจส่งผลให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าธรรมดา
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด แล้วก็ผู้ที่มีภาวการณ์เลือดออกแตกต่างจากปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เพราะบางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค เป็นต้นว่า ไอโซไนอะสิด เนื่องจากกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายแล้วก็มีผลต่อคุณภาพหลักการทำงานของยา รวมทั้งไม่สมควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อโรคเอชไอวีหรือโรคเอดส์
ยาคุม
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

หน้า: [1] 2