แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - pussy22

หน้า: [1] 2
1

ขายยากษัยเส้น กระท้อน ผลไม้รสชาติอร่อยตามฤดูกาลghiulio' ที่ไม่เพียงแค่โดดเด่นในเรื่y;-'-=องของรส sdtjyukแม้กระนั้นคุณประโยชน์ของกระท้อนยังejk97lytklเด่นกระทั่งน่าทดlลอ7ง ถ้าหej87l8l;o;กเอ๋ยถึงtrlko0;8ลไม้ยอดนิยมในเรื่องจำหน่ายยากษัยเส้นรสชาติที่อร่อย แถมยังสามารถy8;'0'นำไปกินได้นานาประการรูปแบบ y7หนึ่งในนั้นควรเป็นกejท้อน8yl;9;rอย่าlงแน่แท้ jykulเ7พราะ8l;ว่ากระท้อนเป็trkนผลไม้ที่อร่อยชอบใจใครๆp/pากไม่น้อยเลยทีเดีlkyrkotยว วันนี้เราก็เลยขอนำวิชาคulioวามรู้ดีๆที่เกี่ยวกับผลไม้จำพวกนี้มาk9ฝากกัน บอกไ86lด้เลยว่ากระท้อนไม่ได้มีดีเพียงแ8ค่รสชาติอร่อย แต่ว่ายังช่วยบำรุงสุขภาพขายยากษัยเส้น และป้องกันภัยสุขภาพได้อีกlหลายแบบเลยล่ะค่ะกระท้897kอ7น  กระท้อน (Santol) ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sandoricum koetjape (Burm. f.) Merr. ส่วนภาษาอังกฤษคือ Santol เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในแถบอินโด98จีน โดยในแต่ละประเทศมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ในส่วนของประเทศไทย ภาคอีสfiugานเรียกกระท้อนว่า มะจำต้อง หรือหมากต้อง ภาคเหนือเรียก มะจะต้อง หรือ มะติ๋น uส่วนภาษาใต้เรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า เตียน ล่อyu;pน สะท้อน สตียา สะตู สะโต เป็นผลไม้ที่อยู่ส9i';p'กุลเดียวกับลางสาดแล้วก็ลองกอง มีทั้งปวง 4 สายพัdนธุ์เป็นต้นว่า ขายยากษัยเส้นกระท้io;อนพันธุ์ปุยฝ้าย กระท้อนประเภทอีล่า กระท้อนจำพวกทับทิม และกระท้อนพันธุ์นิ่มนวล

Tags : ขายยากษัยเส้น,จำหน่ายยากษัยเส้น

3
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆขอพญายอ

4

น้ำมันเหลือง เป็นยังไง ?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพเลิศ ทำจากพืชสมุนไพรประเภทต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อบรรเทาอาการต่างๆสรรพคุณนี้ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีสำหรับในการดูแลสภาพผิวแล้วก็สุขภาพที่ขอแนะนำเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรแล้วก็พืชต่างๆที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นแล้วก็เนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมหวน แล้วก็สัมผัสของของน้ำมันเหลืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความเครียด ทำให้พวกเราผ่อนคลาย รวมถึงช่วยในเรื่องของความชื้นแล้วก็ผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้เราจะพาไปดูคุณประโยช์จากการนวดน้ำมันว่าเป็นประโยชน์ในด้านใดบ้าง
บริการนวดน้ำมันนวดแล้วก็ส่วนใหญ่สร้างความแข็งแรง ระบบภูมิต้านทานแล้วก็ช่วยสำหรับในการย่อยอาหารดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่งามของการนวดได้ทวีความร้ายแรงเยอะขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันเหลืองที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับสิ่งที่ต้องการเฉพาะบุคคลของคุณและผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการนวดน้ำมันเหลืองบรรเทาแล้วก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อรักษาความสมดุลทางด้านจิตวิญญาณของคุณและก็สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.คุณประโยชน์มีอะไรบ้าง ?
สรรพคุณของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากไม่น้อยเลยทีเดียวทีเดียว
บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
แก้กลยุทธ์ปวดเมื่อย บวมช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
ทาแก้ผดผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาถูนวดฝ่าเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดเข่า ปวดขา ฟกช้ำดำเขียว ปวดกล้ามเนื้อ สูดแก้อ้วก ตาลาย อาการหอบหืด และก็ไซนัส
- ทุเลาอาการหน้ามืดหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
- แก้เคล็ดลับปวดเมื่อย ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- น้ำมันเหลืองบรรเทาอาการคัดจมูก เนื่องด้วยหวัด
คนใดกันที่ชอบใช้ น้ำมันเหลือง บ่อยๆห้ามพลาด เพราะว่าวันนี้เรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วไปนั้นมีการทำกันเปลี่ยนสูตรมากมาย สุดแท้แต่ว่าคนไหนกันชอบสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งหมดมักใช้แก้ปวด แก้มึนหัว แก้ตะคิว รักษาหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้ท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรแนวทางการทำกันเลย
วัสดุ วัสดุอุปกรณ์
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ดังเช่นว่า ขวดบรรจุกาแฟ ขวดแก้ว
ขั้นตอนการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนกระทั่งน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรทีละตัวทอดถึงแม้ว่าจะหมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนประกอบทั้ง 3 จำพวก ในอัตราส่วนที่ระบุ คือ (เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนผสมทั้งผองละลายเป็นของเหลว (หากไม่ใช่ไม้คนบางทีอาจใช้กระบวนการเขย่าขวดให้ส่วนผสมละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
ประโยชน์ของการนวดน้ำมัน
นวดจริงคือการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อส่งเสริมสุขภาพแล้วก็ฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมด. น้ำมันนวดถูกออกแบบมาเพื่อให้มือเลื่อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นในระหว่างนวด รวมทั้งในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้ผ่อนคลายสูงที่สุดสำหรับทั้งกายและใจ. อ่านถัดไปเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันรวมทั้งบรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดชื่นบาน.
เมื่อมาถึงการนวด[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url], มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ต่างกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากมากไม่น้อยเลยทีเดียวน้ำหอมรวมทั้งสีที่ต่างกันเพื่อให้บริการ. น้ำมันนวดบรรเทา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถเจอได้ในตลาดท้องน้ำมันนวดน้ำมันเหลืองเพื่อให้คุณสามารถเลือกที่เยี่ยมที่สุดสำหรับสิ่งที่จำเป็นและความต้องการของคุณ.
ลดการ ความตึงเครียด
นวดเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมาก ลดความเคร่งเครียด รวมทั้งความตึงเครียดที่มีการสะสมภายในร่างกายของคุณในระหว่างวันที่อ่อนเพลีย.
น้ำมันนวดน้ำมันหอมระเหยที่มีน้ำมันหอมระเหยที่สงบประสาท, ช่วยทำให้คุณผ่อนคลายและก็กำจัดความคิดแง่ลบที่สะกิดความเครียด.
สุภาพ, , ช่วยทำให้คุณ รักษา แล้วก็คืนจิตวิญญาณและก็ความสมดุลทางอารมณ์ของคุณ.
เสริมการไหลเวียนของเลือดดียิ่งขึ้น
หนึ่งในผลตอบแทนที่สำคัญที่สุดของน้ำมัน นวด คือมันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดแล้วก็ในขณะเดียวกันจะช่วยลดความดันเลือดซึ่งเป็น น.

5

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบและก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของอินเดียและก็จีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และก็ยังนำมาเตรียมอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกายอยู่หลายแบบ ดังเช่นว่า ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และกรดมาดีติดอยู่สสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายชนิด อาทิเช่น บรรเทาอาการอักเสบ หากใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันเลือดในเส้นเลือดดำ และนำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเดินฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีความคิดกันว่าแม้ใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับเพื่อการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่เกิดจากการท้อง แต่ว่าหลักฐานหรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองความเชื่อ สรรพคุณ รวมทั้งความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นโลหิตขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงและสร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและก็เส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้ที่เกี่ยวพัน 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในผู้เจ็บป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้สารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการคนป่วยเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แต่จากงานวิจัยกล่าวว่าผลสรุปข้างต้นต้องแปลความด้วยความระวังด้วยเหตุว่าข้อจำกัดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้วิจัย และยังจะต้องเรียนรู้เพิ่มเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอในการประเมินคุณภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานสนับสนุนน้อยเกินไป
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกรุ๊ปหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กรุ๊ปไม่แตกต่างกัน แต่ว่าในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดน้อยลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอและขาลดลง รวมทั้งรูปแบบของพลัคอีกทั้งความหนารวมทั้งความยาวก็ลดลงด้วยเช่นกัน ทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่พึงประสงค์ สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ และก็มีการบันทึกผลของการตรวจเลือดบ่อยๆ เพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่โดยสารเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการศึกษาเล่าเรียนชิ้นนี้จะคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เนื่องจากหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการป้องกันลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป จึงจำต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในคนไข้โรคเบาหวาน งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งให้คนไข้เบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารไตรเทอร์พีนอยด์เป็นข้อสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก พบว่าสารไตรเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยของคนป่วยเบาหวาน แต่ว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถรวมทั้งผลข้างเคียงของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งคนป่วยโรคเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกลุ่มหนึ่งรับประทานสารทวีปเอเชียติเตียนโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง แล้วก็มีการวัดผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่เจอผลข้างเคียง หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และก็สามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลข้างๆ แต่ว่าเหตุเพราะหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการรักษาแผลเบาหวานยังน้อยเกินไป ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ยกตัวอย่างเช่น เอเชียติวัวไซด์ กรดเอเชียตำหนิก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายและก็อาจมีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งได้ชี้แนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นเนื่องจากหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแผลยังน้อยเกินไป จึงต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังมีครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน บ่อยๆวันแล้ววันเล่าในช่วง 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงท้องจำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้กำเนิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องด้วยหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ลดความกลุ้มใจ การดูแลและรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเศร้าหมองและความกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความหนักใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลของการทดสอบทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านความรู้สึกวิตกกังวล ช่วยลดความเครียด แต่ว่ายังคงจะต้องเล่าเรียนเสริมเติมถัดไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคกังวล
โรคและก็อาการอื่นๆอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การตำหนิดเชื้อทางเท้าฉี่ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจำต้องทำการศึกษาเรียนรู้หาสมรรถนะและความปลอดภัยในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยสำหรับในการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังมีท้อง หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยต่อเด็ก แม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรรับประทานใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจก่อให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมถึงไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มพวกนี้ เป็นต้นว่า พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีไต่ ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติเตียนน เป็นต้น
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจทำให้รู้สึกอยากนอนได้มากกว่าปกติ หรือหากรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกังวลใจลดลง ตัวอย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการผ่าตัดและก็อาจจะเป็นผลให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรขอความเห็นแพทย์ก่อนกินใบบัวบก ถ้าหากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ถ้าเกิดกินใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของผู้ป่วยโรคกังวล คนเจ็บเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เจ็บป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจน้อยลง แล้วก็คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจจะทำให้กดประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

6

บัวบก
ใบบัวบกสมุนไพรจีนโบราณที่ได้ยินชื่อกันมานาน นี่เป็น สรรพคุณของใบบัวบกที่รู้แล้วจะต้องรักเจ้าสมุนไพรนี้ยิ่งกว่าเดิม
          มั่นใจว่าหลายๆคนก็น่าจะเคยรับรู้กันมานักต่อนักว่าเวลาช้ำในให้ดื่มน้ำใบบัวบก เพราะว่าจะช่วยทำให้หายจากอาการช้ำในเร็วขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วเจ้าสมุนไพรที่มีนามว่าใบบัวบก ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่นำมาใช้กันตั้งแต่โบร่ำโบราณนั้นก็ยังมีสรรพคุณอื่นๆอีกมากมาย ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพ รักษาโรค หรือแม้แต่ช่วยบำรุงความสวย ใคร่รู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าใบบัวบก สมุนไพรที่ชวนให้รู้สึกเหม็นเขียวจะมีคุณประโยชน์อะไรดีๆอีกบ้าง ถ้าอย่างนั้นลองไปดูที่เราถือมานำเสนอในวันนี้กันเลยดีกว่า บอกได้คำเดียวเลยว่า เข้าใจแล้วต้องลืมกลิ่นเขียวๆพวกนั้นไปเลยแน่นอน

  • จัดการกับปัญหาเส้นเลือดขอด


          เมื่อหลอดเลือดสูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้เส้นเลือดดำมีการฉีกขาดรวมทั้งทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณขา เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมที่เรียกว่าอาการเส้นโลหิตขอดนั่นเอง โดยมีการเรียนรู้พบว่าการรับประทานใบบัวบก สามารถลดอาการบวมและก็กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ โดยในการศึกษาเรียนรู้นั้นได้กระทำการทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 90 คน ที่มีลักษณะของเส้นเลือดขอด แล้วก็เมื่อกินใบบัวบกเข้าไปแล้วหลังจากนั้นก็พบว่าอาการเส้นเลือดขอดนั้นเมื่อเทียบกับคนที่รับประทานยาหลอก แล้วก็เมื่อทำการอัลตราซาวด์ก็พบว่าผู้ที่รับประทานใบบัวบกมีการรั่วไหลของหลอดโลหิตดำลดน้อยลงค่ะ

  • สมานแผลรวมทั้งรักษาโรคผิวหนังบางจำพวก


          หนึ่งในสารสำคัญที่ส่งผลให้ใบบัวบกแปลงเป็นสมุนไพรที่มากคุณประโยชน์ก็คือสารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ที่มีการเรียนรู้กับสัตว์แล้วพบว่าสามารถช่วยสมานรอยแผลได้ โน่นก็เป็นเพราะเหตุว่าสารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะทำหน้าที่สำหรับการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับรอยแผล และก็ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณรอยแผลเยอะขึ้นเรื่อยๆ นำมาซึ่งการทำให้รอยแผลเบาๆหายในระยะเวลาที่ลดลง ทั้งยังสารจากใบบัวบกก็ยังช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย วิธีใช้ก็ไม่จำเป็นต้องนำใบบัวบกมาตำแล้วพอกให้ยาก เพราะเหตุว่าเดี๋ยวนี้มีแบบที่เป็นครีมผสมสารสกัดไว้ทาโดยยิ่งไปกว่านั้น แค่เพียงเลือกให้เหมาะสมกับจำพวกบาดแผลก็ช่วยได้มากเลยล่ะ

  • ระบายความร้อน


          ความร้อนภายในร่างกายถ้าเกิดสูงมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายกำเนิดอาการไข้ ตัวร้อน อยากกินน้ำ ตลอดจนการอักเสบ ดังนั้นการกินใบบัวบกที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยขับพิษร้อนออกมาจากร่างกายได้อีกด้วย

  • ขับพิษร้อน แล้วก็ความชุ่มชื้น


          โรคต่างๆที่เกิดจากความร้อนและความชุ่มชื้น อาทิเช่น โรคตับเหลือง นิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือโรคบิด สามารถทุเลาได้ด้วยการรับประทานใบบัวบก เพราะว่าใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ขมเย็น สามารถช่วยสลายความชื้นภายในร่างกายรวมทั้งขับความร้อนออกมาได้ แม้กระนั้นก็ควรจะกินในจำนวนที่เหมาะสม เนื่องจากว่าถ้าหากรับประทานมากๆอาจจะเป็นผลให้ร่างกายเย็นจนเกินความจำเป็นและก็ทำให้เป็นอันตรายได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก ผลดีเลอค่า

  • ลดความกระวนกระวายใจ ช่วยทำให้จิตใจสงบ


          สารสามเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในใบบัวบกนั้น นอกจากจะช่วยสำหรับเพื่อการรักษาแผลรวมทั้งรักษาโรคผิวหนังบางจำพวกได้และก็ยังมีฤทธิ์สำหรับการลดความกระวนกระวายรวมทั้งช่วยกระตุ้นกลไกแนวทางการทำงานของสมอง โดยมีการเล่าเรียนหนึ่งพบว่าคนที่รับประทานใบบัวบกมีแนวโน้มที่จะตระหนกตกใจกับเสียงรบกวนน้อยกว่าผู้ที่กินยาหลอก แต่ว่าก็จำต้องใช้ในปริมาณที่สูงมาก จึงยังไม่มีการยืนยันแจ่มกระจ่างว่าควรใช้จำนวนใดจึงจะได้ผลและไม่ส่งผลข้างๆต่อร่างกายตามมาจ้ะ

  • รักษาโรคหนังแข็ง


          เพราะว่าใบบัวบก มีฤทธิ์สำหรับการลดการอักเสบต่างๆในร่างกาย จึงสามารถใช้บรรเทาอาการของคนป่วยโรคหนังแข็งได้ โดยมีการเรียนรู้กับเพศหญิง 13 คนที่มีอาการของโรคหนังแข็งพบว่า การกางใบบัวบกสามารถลดลักษณะของการปวดตามข้อ แล้วก็ลดการเกิดหนังแข็ง และทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ แต่ดังนี้ก็จำเป็นต้องอยู่ในปริมาณที่หมอควบคุมเพียงแค่นั้น

  • ช่วยทุเลาอาการนอนไม่หลับ


          ใครกันแน่ที่มักจะนอนไม่หลับเสมอๆทดลองหาใบบัวบกมารับประทานก็ดีเช่นเดียวกันนะ เพราะใบบัวบกไม่เฉพาะแต่ช่วยลดความกระวนกระวายเท่านั้น แม้กระนั้นก็ยังช่วยให้จิตใจสงบและก็ผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงกินเสมอๆก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนดียิ่งขึ้นได้อย่างน่าแปลกเลย
สรรพคุณใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • ลดระดับความดันเลือด


        กรมวิวัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์โอกาส ได้ออกมาแนะนำว่าใบบัวบกเป็นเยี่ยมในสมุนไพรที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ เพราะเหตุว่าเจ้าใบบัวบกนั้นจะไปทำให้หลอดโลหิตดำและเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ทั้งยังยังช่วยลดสภาวะความเคร่งเครียดอันเป็นต้นสายปลายเหตุที่นำมาซึ่งความดันโลหิตสูง ดังนี้ขั้นตอนการกินก็ง่ายดายมาก แค่เพียงนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วเอามาดื่ม จะนำไปผสมกับน้ำผึ้งสักน้อย หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความเหม็นเขียวก็ทำเป็นจ้ะ

  • ลดอาการบวม


          อาการบวมช้ำมีสาเหตุมาจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดรอบๆดังที่กล่าวถึงแล้วทำงานผิดปกติก่อให้เกิดอาการคั่งของเลือด การรับประทานใบบัวบกไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำคั้นดื่ม หรือแบบที่เป็นสารสกัดแคปซูล สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำบริเวณบาดแผลได้ และก็ยังลดอาการอักเสบที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการบวมได้อีกด้วย

  • บำรุงสมอง


          ใบบัวบกเป็นพืชอีกชนิดที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์สมอง รวมถึงช่วยคลายความอ่อนล้าของสมอง เพิ่มหลักการทำงานของสมองรวมทั้งความจำ แถมยังสามารถลดภาวการณ์ไม่มีชีวิตชีวา และก็สามารถช่วยยั้งลักษณะของโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสมองได้
สรรพคุณใบบัวบก ผลดีเลอค่า

  • รักษาอาการติดเชื้อโรค


          ใบบัวบกเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งประเภทที่ช่วยรักษาโรคหวัดได้อย่างมีคุณภาพ แถมช่วยรักษาอาการติดเชื้อโรคในทางเดินฉี่ รวมทั้งอาการติดเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อไวรัสต่างๆได้อีกเพียบเลย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะติดเชื้อโรคอะไรก็ตาม ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาได้หมด แต่ว่าทั้งนี้ก็ต้องใช้ในจำนวนที่สมควร และก็ภายใต้การดูแลของผู้ที่มีความชำนาญนะ

  • บรรเทาอาการอ่อนแรง


          เว้นเสียแต่รักษาอาการป่วยต่างๆแล้ว ใบบัวบกยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนแรงได้ และหากกินในตอนอากาศร้อนๆด้วยละก็ น้ำใบบัวบกก็สามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายแล้วก็ดับกระหายได้อย่างดีเยี่ยมเลยเชียวล่ะ

คุณประโยชน์ใบบัวบก ผลดีเลอค่า

  • บำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์


          ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรเพื่อความสวยที่อยู่ใกล้ตัวมากๆที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากว่าใบบัวบกมีสารที่ช่วยสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนและก็อิลาสตินภายในร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้น มองอ่อนเยาว์ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกก็ยังช่วยยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ก็เลยไม่น่าแปลกเลยล่ะถ้าเกิดคุณจะได้มองเห็นชื่อของเจ้าใบบัวบกเป็นเลิศในส่วนประกอบของเครื่องประทินโฉมผิว ดังนี้ยังสามารถนำใบบัวบกใหม่ๆมาใช้พอกหน้าได้อีกด้วย โดยมีวิธีดังนี้ค่ะ
           - ใบบัวพอกหน้า บำรุงผิวสวยใส ลบรอยตีนกา
วิธีการทำ

  • นำใบบัวบกสดมาล้างชำระล้าง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • นำมาปั่นหรือบดกับน้ำที่สะอาด 1 แก้ว
  • เอามาพอกหน้า หรือนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกขึ้นมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 15 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำบ่อยเป็นประจำทุกเมื่อเชื่อวันก่อนนอนจะช่วยทำให้บริเวณใบหน้ามองอ่อนกว่าวัย
  • กำจัดเซลลูไลท์


          ผู้หญิงที่ลำบากใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความสวยงามของคุณผู้หญิงอยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้ค่ะ แค่เพียงรับประทานใบบัวบกเป็นประจำก็สามารถที่จะช่วยให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดำเนินการก้าวหน้าขึ้น แล้วก็ลดการอักเสบอันมีต้นเหตุที่เกิดจากเซลลูไลท์ได้อีกด้วยล่ะ

  • บำรุงเส้นผมแล้วก็หนังศีรษะ


          คนจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมหล่นก็คงจะค้นหาทุกแนวทางเพื่อบำรุงให้เส้นผมรวมทั้งหนังศีรษะแข็งแรงเพื่อที่จะได้มีผมดกดำ ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีคุณประโยชน์เด่นในด้านนี้ โดยปัญหาผมร่วงส่วนมากก็มีต้นเหตุจากรากผมที่อ่อนแอรวมทั้งการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะไม่ดี ซึ่งใบบัวบกนี้มีฤทธิ์สำหรับในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ แล้วก็ยังช่วยทำนุบำรุงให้รากผมแข็งแรง คุ้มครองปกป้องผมร่วงทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีความแข็งแรงแล้วก็ดกดำเงางามได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีแต่อย่างใด
          ได้เห็นคุณประโยชน์ดีๆของใบบัวบกกันไปแล้วแบบงี้ คนใดกันที่ยังส่ายหน้าให้กับกลิ่นเขียวๆของใบบัวบก ก็คงจะลองหันกลับมามองดูเสียใหม่ ถึงแม้ว่าอาจจะมีกลิ่นแรงไปเสียหน่อย แต่คุณประโยชน์ที่ได้รับก็ดีไม่น้อยเลย หากไม่ทดลองเสียดายห่วยเลยนะ http://www.disthai.com/

7

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เราต่างรู้จักกันดีในฐานะของผักพื้นบ้าน นิยมนำมารับประทานกับน้ำพริกหรือเมนูอาหารต่างๆแบบสดๆและก็ยังนิยมเอามาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำใบบัวบกเพื่อดับกระหาย แก้บอบช้ำใน รวมทั้งเพื่อช่วยทำนุบำรุงร่างกาย ซึ่งจัดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในแถบทวีปเอเชียเรานี้เอง ด้วยคุณค่าที่นานัปการ ก็เลยทำให้มันเป็นอีกทั้งยารักษาโรครวมทั้งตัวดูแลสุขภาพ ในขณะนี้เริ่มมีการทำศึกษาค้นคว้า สกัดสารสำคัญในใบบัวบกประยุกต์ใช้สำหรับในการรักษาในรูปของยาแคปซูล และก็บัวบกผงสำหรับชงดื่มอีกด้วย
ลักษณะของใบบัวบก
บัวบก มีชื่อเรียกทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica อยู่ในวงศ์ Umbelliferae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกันกับผักชี ส่วนชื่อท้องถิ่นถูกเรียกในชื่อที่นานัปการ เช่น ผักแว่น ผักหนอก และกะโต่ ฯลฯ  ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์เป็นพืชล้มลุก มีกอติดอยู่ที่พื้นดิน ลำต้นจะเลื้อยแพร่กิ่งไม้ไปตามพื้นดินในแนวนอน มีอายุยืนยาวได้นานยาวนานหลายปี การแตกรากรวมทั้งใบจะเกิดขึ้นตามข้อ ลักษณะเป็นใบลำพัง มีรูปร่างราวกับไต จะออกเป็นกลุ่มตามข้อ ขอบใบหยัก มีก้านใบยื่นยาวออกมา ดอกเป็นสีม่วงคละเคล้าแดง ผลแบน ออกเป็นดอกผู้เดียวหรือช่อขนาดเล็กราว 3-4 ดอก มีเอกคุณสมบัติเฉพาะในเรื่องของกลิ่น และรสที่ขมคละเคล้าหวาน
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบักที่นิยมเอามารับประทาน
เราบางทีอาจคุ้นชินว่าบัวบกเป็นพืชสมุนไพรแก้บอบช้ำในเป็นหลัก แม้กระนั้นที่จริงแล้วสมุนไพรประเภทนี้มีสาระสำหรับการรักษาอีกนานาประการ ไม่ว่าจะเป็น การรักษาโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเดิน รักษาโรคในกระเพาะอาหาร ช่วยทำนุบำรุงสมอง แล้วก็ช่วยเพิ่มความจำ เป็นต้น การรับประทานใบบัวบกแบบสดๆจะทำให้ร่างกายได้สารสำคัญหลายแบบ ที่พบได้มากคือ "สารไกลโคไซด์" (Glycosides) ซึ่งจัดว่าเป็นสารที่ผลเข้าไปขัดขวางการเกิดสารอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมถอยภาวะของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย มีส่วนช่วยรีบการผลิตคอลลาเจนที่ผิว กระดูก รวมทั้งเส้นเอ็น ทำให้แผลสมานตัวเข้าหากันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
คุณประโยชน์ของใบบัวบก ไม่ว่าจะเป็นการทานเป็นต้นดิบๆหรือนำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ล้วนมีสรรพคุณทางยาที่ไม่ได้ต่างอะไรกัน
เนื่องมาจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็น จะช่วยลดการเกิดอาการร้อนใน ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม ในกลุ่มสตรีที่อยู่ในวัยใกล้หมดรอบเดือน ผู้ที่ต้องใช้สมองสำหรับเพื่อการทำงานมากๆใบบัวบกจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความจำก้าวหน้า ช่วยลดความเครียด ลดการอักเสบที่ผิวหนัง อาการฟกช้ำดำเขียวและร่องรอยไม่ดีเหมือนปกติที่เกิดบนผิวหนัง นอกนั้นคนที่บริโภคใบบัวบกข้างหลังการผ่าตัด จะช่วยทำให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น แล้วก็ลดการต่อว่าดเชื้อได้
คุณประโยชน์ของบัวบกกับผลที่ได้รับจากการวิจัย
งานศึกษาค้นคว้าวิจัยได้เอ๋ยถึงบัวบกเอาไว้ว่า เป็นพืชที่มีสรรพคุณสะดุดตาในด้านการบำรุงสมองเช่นเดียวกันกับแปะก๊วย ช่วยกระตุ้นสมองสำหรับการจำสิ่งต่างๆได้ดิบได้ดีขึ้น และช่วยพัฒนาการทำความเข้าใจทางสมอง และก็ด้วยคุณสมบัติพิเศษพวกนี้ทำให้มันกลายเป็นพืชที่ถูกจดสิทธิบัตรสารสกัดจากบัวบกที่มีหน้าที่่ช่วยเพิ่มความจำ
จากการทดลองในลูกหนู พบว่ามีความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ส่วนในคน มีการทดสอบในเด็กพิเศษ ด้วยการกินบัวบกวันละ 500 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่ามีความสามารถสำหรับเพื่อการศึกษาที่ดีมากกว่า ส่วนในผู้สูงวัยให้ทดสอบกินสารสกัดบัวบก 750 มก. ติดต่อกัน 2 เดือน พบว่า อีกทั้งความจำและการเรียนดีขึ้น ทั้งยังยังช่วยลดอารมณ์ปรวนแปร ทำให้คนวัยแก่มีร่าเริงแจ่มใสมากขึ้นด้วย ในรายที่เป็นวัยทำงาน ได้กระทำทดลองกับผู้หญิงอายุราว 33 ปี รับประทานสารสกัดบัวบก 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง พบว่าช่วยลดความตึงเครียด ความรู้สึกกังวล แล้วก็สภาวะกลัดกลุ้มลงได้
เมื่อเจาะลึกลงไปถึงระดับเซลล์ พบแนวทางการทำงานของสารสกัดบัวบกที่ตรงเข้าออกฤทธิ์กับสมอง ช่วยทำให้การหายใจระดับเซลล์ภายในสมองดำเนินการได้ดีขึ้น มีสารต้านอนุมลอิสระ ช่วยสร้างสมดุลสารสื่อประสาท รวมทั้งต้านการสลายตัวของเซลล์สมองได้
การนำใบบัวบกมาใช้บริโภคเพื่อเป็นยา
บัวบกสามารถนำมาใช้เป็นยาได้นานัปการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของต้นสด เม็ด หรือใบ ซึ่งได้รับความนิยมนำมาใช้สูงที่สุด การเลือกใบบัวบกที่ดี ควรที่จะทำการเลือกใบที่โตเต็มที่แล้วก็บริบูรณ์ นำมาใช้ตากแห้งป่นเป็นผงใส่ลงในแคปซูลประมาณ 500 มก. รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย
นำเอาใบบัวบกสด 1 กำมือ มาคั้นให้ได้น้ำ หรือตำให้ถี่ถ้วนแล้วผสมกับน้ำ 1 แก้ว คนจนเข้ากันต่อจากนั้นกรองให้เหลือแค่น้ำ ผสมน้ำตาลหรือเกลือก็ได้ตามถูกใจ ดื่มทีละ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ ประมาณ 5-7 วัน จะช่วยลดอาการร้อนในแล้วก็แก้บอบช้ำในได้
กรณีที่เป็นคนไข้โรคความดันโลหิตสูง ให้สามารถกินน้ำใบบัวบกทุกๆวัน ติดต่อกันราว 7 วัน จะช่วยลดความดันให้อยู่ในระดับปกติ
เม็ดของบัวบกที่มีรสขมและก็เย็น นิยมประยุกต์ใช้แก้ไข้ ลดอาการปวดหัว แล้วก็แก้บิด

ข้อควรตรึกตรองสำหรับการใช้ใบบัวบก
ก่อนกินใบบัวบกเพื่อเป็นยา จะต้องสำรวจสุขภาพทางร่างกายของตัวเองก่อนว่ารากฐานแล้วมีโรคประจำตัวอะไรที่มีการเสี่ยงหรือไม่ เนื่องจากสารบางจำพวกในใบบัวบก จะเข้าไปทำให้ลักษณะโรคกำเริบเสิบสานเพิ่มมากขึ้นได้
เหตุเพราะบัวบกเป็นยาที่มีฤทธิ์เย็น การรับประทานมากจนเกินความจำเป็นจะก่อให้สะสมภายในร่างกายจนกระทั่งรู้สึกหนาวเยอะขึ้นเรื่อยๆได้
หลบหลีกการกินใบบัวบกติดต่อกันทุกๆวัน หรือรับประทานทีละมากๆเมื่อกินติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ก็ควรจะหยุดพัก 1 อาทิตย์ แล้วค่อยกลับมากินใหม่
สำหรับคนที่รับประทานใบบัวบกใหม่ๆติดต่อกันทุกวี่วัน ควรจะกินในสัดส่วนโดยประมาณวันละ 3-6 ใบ ไม่ควรเหลือเกินกว่านี้
ถ้าหากร่างกายมีอาการหมดแรง วิงเวียน ใจสั่น หรือหัวใจเต้นแตกต่างจากปกติ รู้สึกคันตามผิวหนัง ท้องร่วง ภายหลังจากการกิน ควรหยุดรับประทานในทันทีรวมทั้งรีบเข้าพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
ในกลุ่มของผู้คนที่จะต้องรับประทานยาแก้แพ้ ยานอนหลับ หรือยากันชัก ไม่ควรกินใบบัวบก เนื่องมาจากจะยิ่งไปเพิ่มฤทธิ์ให้รู้สึกง่วงซึมเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ใบบัวบกคือพืชสมุนไพรไทยที่หาได้ง่ายทั่วๆไปตามท้องตลาด มีราคาถูก แต่ว่าเยอะแยะด้วยคุณประโยชน์ทางยา ที่จะเป็นทางเลือกสำหรับในการรักษาโรคต่างๆและก็ใช้สำหรับบำรุงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ http://www.disthai.com/

8

บัวบก
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในสกุลผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพรบัวบก มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ ฯลฯ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นแรง มีรสขมหวาน
เมื่อกล่าวถึงบัวบก สมุนไพรประเภทนี้ขึ้นมาทีไร คนจำนวนไม่น้อยอาจนึกไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แต่อันที่จริงแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณจำนวนมาก ด้วยเหตุว่าได้รับการกล่าวขานเกี่ยวการรักษาโรคได้หลายชนิด อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเดิน อาการท้องอืด แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยทำนุบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนเพลียของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น บราโมซัยด์ บราไม่โนซัยด์ ตรีเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการอักเสบ แล้วก็ยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน ยกตัวอย่างเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสครั้งดิน ฯลฯ
ใบบัวบกเหมาะกับขี้ร้อน มีสภาวะแกร่ง หรือมีความร้อนชื้น เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบกคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบก
คุณประโยชน์ของใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่ว่ามีระดับสารออกซาเลตที่เกิดอันตรายต่อสภาพร่างกายในจำนวนต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนวัย ย้อนอายุรวมทั้งวัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยสร้างเสริมและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนแล้วก็อีลาสติน
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
ประโยช์จากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษารวมทั้งรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เนื่องจากว่าบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นเอาแต่น้ำเอามาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยบำรุงรักษาประสาทรวมทั้งสมองเสมือนใบแปะก๊วย
ช่วยทำให้ความจำดียิ่งขึ้นรวมทั้งทำให้มีปฏิภาณความฉลาดเยอะขึ้น
ช่วยเพิ่มความจำในคนแก่
มั่นใจว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิว ความฉลาด รวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับการเรียนรู้
ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยชะลออาการของโรคโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงๆลืมๆระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความสามารถสำหรับเพื่อการตกลงใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดศีรษะ ปวดหัวฝ่ายเดียว
ช่วยแก้อาการเวียนหัวศีรษะ
ช่วยผ่อนคลายความเครียด
ช่วยเสริมแนวทางการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ก็เลยช่วยบรรเทาแล้วก็ทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆก้าวหน้าเพิ่มขึ้น
ช่วยกระตุ้นการผลิตเนื้อเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงรักษาเลือดในร่างกาย
ช่วยทำนุบำรุงหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยทำให้จิตใจมีชีวิตชีวา อารมณ์แจ่มใส
ช่วยให้เค้าหน้าสดใสราวกับเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยบำรุงเสียง
ช่วยรักษาลักษณะของการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดประมาณ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบกินบ่อยๆ
ช่วยแก้อยากกินน้ำคุณประโยชน์ใบบัวบก
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยต้านทานโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนเจ็บโรคเบาหวานได้ดี
ช่วยรักษาโรคโรคดีซ่านจากภาวการณ์ร้อนเปียกชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายก้อนกรวด 30 กรัม ต้มน้ำกิน
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยถนอมอาหารหืด
ช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือจะใช้บัวบกใหม่ๆทั้งต้นโดยประมาณ 30 กรัมเอามาค้นเอาน้ำ เติมน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มกินประมาณ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในช่วงแรก ด้วยการใช้บัวบกและก็เปลือกของลูกหมาก 1 ผล เอามาต้มกับสุราดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นโลหิต รวมทั้งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสมหะ
ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา เพราะว่าทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกจากเส้นเลือดรวมทั้งยังมีผลให้เลือดเย็นอีกด้วย
ช่วยแก้อาการช้ำใน เจ็บจากการกระทบกระแทก
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยทำให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องร่วง
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์คุ้มครองป้องกันรวมทั้งยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อขับถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะอาหารเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับเยี่ยว
แก้อาการฉี่ติดขัด ด้วยการกางใบบัวบกราวๆ 50 กรัม เอามาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อฉี่ชำนาญก็ดีค่อยคัดออก
ช่วยขับความร้อนเปียกชื้นทางเท้าเยี่ยว คุ้มครองการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเดินฉี่ด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำแช่ข้าวครั้งที่ 2 แล้วเอามาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกมาจากปัสสาวะ
ช่วยแก้อาการน้ำดีในร่างกายมากจนเกินความจำเป็น
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดโรคของไวรัสตับอักเสบ
แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการกางใบสดราวๆ 20 ใบเอามาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วเพิ่มขึ้น ช่วยเร่งการผลิตเนื้อเยื่อ
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วนำมาโปะรอบๆที่ฟกช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 40 กรัม ต้มกับสุราแดงโดยประมาณ 250 cc. ราว 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำเอามาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกเอามาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกรอบๆที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆอาทิเช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด หัด ฯลฯ
ช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้เป็นอย่างดีแล้วก็ใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาถอนพิษ ช่วยลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งต้นสดของบัวบกราวๆ 3 ต้นเอามาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วเอามาพอกแผลไฟไหม้
บัวบกมีการนำมาผลิตเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีคุณประโยชน์สำหรับในการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
เดี๋ยวนี้มีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในชนิดผงใช้โรยแผล และก็ในแบบเป็นเม็ดกินเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟลุก น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และก็ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ แล้วค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบและเถาบัวบกใช้กินเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ ฯลฯ
น้ำคั้นจากใบบัวบกเอามาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ชโลมหัว มีสรรพคุณช่วยบำรุงรักษาหนังหัวรวมทั้งเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ ไขปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัน
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณลักษณะช่วยลดการระคายเคืองผิวและก็ไม่เป็นอันตรายต่อสภาพร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบสำหรับเพื่อการผลิตเครื่องแต่งหน้า
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นวัสดุปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนถึงละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วบริเวณหางตาหรือทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้ราว 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาแต่ละวันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตกล่าวถึงว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวสวยใส ผิวหน้าเต่งตึงได้

กระบวนการทำน้ำบัวบก
แนวทางการทำน้ำบัวบกวิธีทำน้ำบัวบก ควรที่จะเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า กินเป็นผักสด โดยใช้รากนำมาล้างน้ำทำความสะอาด
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนนำมาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำลำดับที่สองเพื่อให้ได้ตัวยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรที่จะใช้น้ำสะอาด และก็ห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองมิได้)
ข้างหลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกจำเป็นต้องคั้นใหม่ๆจากใบใหม่ๆและไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรจะแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าหากทำมาจากน้ำต้มใบเตย จะก่อให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
คุณประโยชน์ของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน บอบช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่ต้องตระเตรียมเป็นต้นว่า บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลาน้อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้ในการทอด
นำบัวบกมาล้างจนกระทั่งสะอาดแล้วหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เพิ่มเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนให้เข้ากัน
เอามาทอดในไฟอ่อนกระทั่งไข่สุก
คุณประโยชน์ช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดหัว และเวียนหัวหัว
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
จัดเตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบ / หอมแดงหั่นหยาบ / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นหยาบๆให้พอดิบพอดีคำ
นำแป้งที่ใช้ในการทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย แล้วก็เกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นตระเตรียมไว้ เอามาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักแล้วตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว เอามาทอดให้พอเหลืองกรอบแล้วยกลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เป็นอันเสร็จ เอามาจิ้มรับประทานกับน้ำจิ้มไก่ได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้ตระเตรียมวัตถุดิบดังต่อไปนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งสารพัดประโยชน์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาลทราย 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นอย่างรอบคอบ โดยตัดก้านและใบออกจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบนำมาเรียงทับกันแล้วหั่นตามขวางรวมทั้งกลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งและก็ผงฟูมาร่อนผ่านที่กรอง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้กับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งขึ้นฟู โดยประมาณ 1 นาที
ใส่ไข่ไก่และก็กลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้เข้ากัน
ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละน้อย (ทีละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งสิ้น) แล้วตีแป้งให้เข้ากับส่วนประกอบทั้งปวง
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันอีกครั้ง
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งจะต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่อยากได้
ใช้เวลาอบประมาณ 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิประมาณ 250 องศา หรือดูว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำมันบัวบก
จัดเตรียมส่วนประกอบดังนี้ บัวบก 4 โล / น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำสะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เพิ่มน้ำลงไปในบัวบก และจากนั้นจึงนำไปปั่นจนกระทั่งละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปเคี่ยวกับน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆประมาณ 80 องศาเซลเซียส
ต้มไปเรื่อยจนเหลือแต่น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว โดยให้สังเกตลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบเม็ดทราย นับได้ว่าเป็นอันใช้ได้ ชูลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
การใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้นำมาทาเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังหัว
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งไว้โดยประมาณ 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมยาสระผมตามธรรมดา เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
น้ำมันบัวบก สรรพคุณช่วยบำรุงรักษาหนังหัวรวมทั้งเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ จัดการกับปัญหาผมหล่น ผมหงอกก่อนวัย
การตักเตือนและก็คำแนะนำ
สรรพคุณของใบบัวบกการกินใบบัวบกคุณควรพิจารณาพื้นฐานของร่างกาย อย่ามองแม้กระนั้นคุณประโยชน์เพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะสมกับคนที่มีภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องอืดเสมอๆ
การกินบัวบกในจำนวนที่มากเกินไป จะทำให้ธาตุในร่างกา
http://www.disthai.com/

9

สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicfolius L. ; Acanthus ilicfolius L. var intergrifolia T.Anderson
ชื่อสามัญ : Sea holly
ชื่อประจำถิ่นอื่น : แก้มหมอ, แก้มแพทย์เล (กระบี่) ; จะเกร็ง, นางเกร็ง, เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วๆไป) ; อีเกร็ง (ภาคกึ่งกลาง)
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงโดยประมาณ 30-100 ซม. ลักษณะลำต้นเป็นข้อ แข็ง และก็มีหนามอ่อนๆตามข้อๆละ 4 หนาม
ใบ เป็นใบโดดเดี่ยว ออกตรงกันข้ามกันเป็นคู่ๆสีเขียวเข้ม ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบใบเว้าหรือเรียบ แล้วก็มีหนามแหลม ปลายใบแหลม มีก้านใบสั่นๆ
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกเป็นช่อตั้งชันที่ยอด ช่อดอกยาว กลีบรองกลีบ มี 4 กลีบ แยกจากกันสีเขียวอ่อน กลีบสีขาว สีขาวขริบฟ้า หรือสีฟ้าอมม่วง แยกเป็น 2 ทาง กลีบบนยาวพอๆกับกลีบรองกลีบดอก แต่กลีบล่างแผ่กว้างแล้วก็โค้งลง ปลายกลีบหยักเว้าเป็น 3 หยักตื้นๆ
ผล เป็นฝักสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน มีเม็ดภายใน 4 เมล็ด
นิเวศวิทยา
เป็นไม้ที่โล่งแจ้ง มีอยู่ทั่วไปในป่าชายเลน จากที่ลุ่มริมน้ำคลอง ส่วนมากถูกใจขึ้นในที่น้ำกร่อย แต่บางทีก็เจอในน้ำจืดบ้างเช่นเดียวกัน
การปลูกรวมทั้งแพร่พันธุ์
เจริญวัยได้ดีในดินเกือบทุกประเภท ความชื้นปานกลาง เพาะพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
คุณประโยชน์ทางยา
รสแล้วก็คุณประโยชน์ในแบบเรียนยา
ต้น รสเค็มกร่อย แก้อาการผดผื่นคัน
ใบ รสเค็มกร่อย รักษาโรคปวดบวมและแผลอักเสบ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องอืด แพทย์แผนไทยตามชนบทใช้ 5 เป็นยาแก้ไข้หัว พิษฝี พิษรอยดำก้าวหน้า แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ปรุงกับฟ้าทลายโจรรมหัวริดสีดวงทวาร ตำใบผสมกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาแก้อาการตาเจ็บหรือตาแดง
ผล รสเค็มกร่อย ใช้เป็นยาขับเลือดอย่างแรง แล้วก็แก้ฝีซาง ฝีตาน
ในประเทศอินเดีย ใช้ยอดแล้วก็ใบอ่อนโขลกผสมน้ำบางส่วนปิดแผลที่ถูกงูกัด อีกทั้งต้นใช้รักษาแก้โรคที่เกี่ยวกับหลอดลมรวมทั้งแก้ไอ และนำมาต้มเอาน้ำเป็นยารักษาธาตุทุพพลภาพ
ในประเทศประเทศสิงคโปร์ ใช้เมล็ดเป็นยาแก้ไอ โดยต้มเม็ดกับดอกมะเฟืองหรือดอกตะลิงปลิง แล้วเพิ่มเปลือกอบเชย และก็น้ำตาลกรวด จิบแก้ไอ เมล็ดบดเป็นผุยผงใช้พอกแก้ฝี หรือนำไปคั่วแล้วป่นละลายน้ำดื่มแก้ฝี ฝักต้มรับประทานเป็นยาขับโลหิต และก็แก้ฝี รากต้มเป็นยาดื่มแก้โรคงูสวัด
วิธีแล้วก็จำนวนที่ใช้
รักษาโรคผิวหนัง แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย โดยใช้ทั้งต้นและใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด สับเป็นชิ้นนำไปต้มน้ำ แล้วก็ใช้น้ำอาบ รุ่งเช้า-เย็น เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ข้อควรรู้
เหงือกปลาหมอมีอยู่ร่วมกัน 2 ชนิด คือ
เหงือกปลาหมอ Acanthus ilifolius L. หรือ Acanthus ilifolius L. var intergrifolia T.Anderson ลักษณะจะมีดอกสีฟ้าอมม่วง มีประสีเหลืองตรงกลางกลีบ มีใบตกแต่งสีเขียวอีก 2 กลีบ รองรับดอกอยู่เสมอไป
เหงือกปลาหมอ Acanthus ebracteatus Vahl ลักษณะจะมีดอกสีขาวค่อนข้างจะเล็ก มีใบแต่งแต้มรองรับช่อดอก แต่ร่วงหลุดไปก่อน
สรรพคุณของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นโลหิตไม่อุดตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วผสมผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าถ้ารับประทานติดต่อกัน 1 เดือน จะมีผลให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูดี / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่เคยรู้อ่อนเพลีย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงเพราะ / 9 เดือน หนังเหนียว (ทั้งยังต้น, ราก)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงรักษาประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุผิดปกติ (ทั้งยังต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมเป็นปกติ (ต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ต้น)
ช่วยแก้โรคกษัย อาการซูบผอมเหลืองทั้งตัว ด้วยการใช้ทั้งยังต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผุยผงรับประทานวันแล้ววันเล่า (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนหมดทั้งตัว เจ็บระบบทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอและก็เปลือกมะรุมอย่างละเท่ากัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วก็ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำเดือดจนกระทั่งงวดแล้วยกลง เมื่อเสร็จให้กลั้นหายใจกินขณะอุ่นๆจนหมด อาการก็จะ (ทั้งยังต้น)
ช่วยยั้งโรคมะเร็ง ต้านโรคมะเร็ง (ทั้งยังต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมออีกทั้งต้นและอาหารมื้อเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ในรูปร่างที่เสมอกัน นำมาต้มกับน้ำจนถึงเดือดแล้วเอามาดื่มในขณะอุ่นๆครั้งละ 1 แก้ว เช้าตรู่ กลางวัน เย็น อาการจะ (ทั้งยังต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้ลักษณะของการปวดหัว (ต้น)
รากช่วยแก้รวมทั้งทุเลาอาการไอ หรือจะใช้เมล็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เหมือนกัน (ราก, เมล็ด)
ช่วยแก้โรคหืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้อาการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นมัวแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ทั้งต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นและก็รากนำมาต้มอาบแก้อาการ (ทั้งต้น)
แก้อาการไอ เม็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสลด (ราก)
หากเป็นลมเป็นแล้ง ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างถี่ถ้วนเป็นผงแล้วเอามาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นและก็พริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ทั้งต้น)
ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย นำมาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายโจร ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับปัสสาวะ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ใบและต้นเอามาตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเอามาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (ต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการใช้ใบนำมาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)

ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เม็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนแล้วก็พริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนกินก็ได้ (เม็ด, ผล, ทั้งต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยสมานแผล ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับผู้เจ็บป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง หากใช้ต้นมาต้มอาบแล้วก็ทำเป็นยารับประทานติดต่อกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยให้ลักษณะของแผลพุพองทุเลาลงอย่างแจ่มแจ้ง (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประดง รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้ทั้งต้นเอามาตำมัวแต่น้ำกิน (ทั้งต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดราว 3-4 กำมือ นำมาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ผื่นคัน (ต้น)
รากสดเอามาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ไข้ทรพิษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกประเภทภายในภายนอก ด้วยการใช้ต้นและใบทั้งยังสดและแห้งราวๆ 1 กำมือ เอามาบดอย่างระมัดระวัง แล้วเอามาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือแนวทางที่สองจะเอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วเอามาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารทีละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราว 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เม็ดนำมาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างถี่ถ้วน ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เม็ดใช้ปิดพอกฝี (เม็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน คุณประโยชน์ช่วยทำลายพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำให้ถี่ถ้วน สามารถใช้พอกบริเวณแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้ทั้งต้นของเหงือกปลาหมอ1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ทั้งยังต้น)
ต้น หากประยุกต์ใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะการเจ็บหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศนำมาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับปรุงแก้ไขข้ออักเสบรวมทั้งแก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วหัว จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ) http://www.disthai.com/

10

เหงือกปลาหมอ
ถิ่นเกิดเหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรพื้นถิ่นของไทยเราเพราะเหตุว่ามีประวัติสำหรับเพื่อการประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นกลางแจ้งและก็มักจะพบได้ทั่วไปในบริเวณป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งลำคลอง เจริญวัยก้าวหน้าในที่ร่มรวมทั้งมีความชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ชอบที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้เช่นเดียวกัน เหงือกปลาหมอ เจออยู่ 2 ประเภทเป็นประเภทดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบได้บ่อยในภาคกึ่งกลางและก็ภาคตะวันออก จำพวกดอกสีม่วง  Acanthus ilicifolius L. เจอทางภาคใต้ อีกทั้งเหงือกปลาหมอยังเป็นประเภทไม่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไป
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงราวๆ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งชัน มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1.5 ซม.
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบลำพัง ลักษณะของใบมีหนามคมอยู่ขอบขอบใบและก็ปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบวาวลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแถวก้าง เนื้อใบแข็งและก็เหนียว ใบกว้างราว 4-7 ซม. และยาวประมาณ 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวราวๆ 4-6 นิ้ว ทั้งนี้สีของดอกขึ้นอยู่กับประเภทของต้นเหงือกปลาหมอเป็น ดอกมีทั้งประเภทดอกสีม่วง หรือสีฟ้า แล้วก็พันธุ์ดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันคือ  ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบเป็นท่อปลายบานโต ยาวโดยประมาณ 2-4 ซม. บริเวณกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ รูปแบบของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวประมาณ 2-3 ซม. เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเมล็ด 4 เมล็ด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในแบบเรียนยาไทยบอกว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อไวรัสก็จะบรรเทาเบาบางลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสเอดส์ แม้จะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่ว่าเมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นทั้งยากินแล้วก็ต้มน้ำอาบต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะเบาลงลงอย่างชัดเจน สำหรับคนเจ็บโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยาและการใช้ยาก็มีหลายวิธี เป็น
แนวทางต้มยารับประทานและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มกินขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำเป็นต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำเป็นต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็นทีละ 3-4 ขัน แต่ว่าหากมีเหงือกปลาหมอเยอะมากๆ บางครั้งอาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้งยัง 5 หนตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งก็อาจจะกินครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุแล้วก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนกินอาหาร ยามเช้า-เย็น กินไปเรื่อยๆตราบจนกระทั่งจะหาย แต่ถ้าเป็นโรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่องก็จะต้องรับประทานตลอดกาล

แนวทางการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการเหินเป็นผุยผงละเอียดเหมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่กินครั้งละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนรับประทานอาหาร เด็กต่ำลงตามส่วน
 เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณจำนวนมาก ดังเช่นว่า
-ราก มีสรรพคุณสำหรับการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายอย่าง โดยใช้ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค อาการผอมแห้งแรงน้อย หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้สรรพคุณทางยาแตกต่างกันออกไปอีก
-อีกทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-อีกทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มรับประทานแก้พิษโรคฝีดาษ ฝีทั้งผอง ผลรับประทานเป็นยาขับเลือดระดู ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งยังต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาตลอดตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะ
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงรับประทาน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ไม่สบายจับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมบางเหลืองตลอดตัว กินแต่ละวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือนิดนึง หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำจนเดือดให้งวดจึงยกลง กลั้นหายใจกินขณะอุ่นจนหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนหมดทั้งตัว เวียนหัว ตามัว เจ็บระบมทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" อีกทั้ง 5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ปริมาณเสมอกัน กะตามต้องการ ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา ยามเช้า ช่วงเวลากลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย แล้วก็ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินแต่ละวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกหมวดหมู่หาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้จักอ่อนแรง
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงเพราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนหากผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งผองที่บอกเป็นหนังสือเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูถูกเหยียดหยาม ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ

11

เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ขี้กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในหนังสือเรียนยาไทยบอกว่า เหงือกปลาแพทย์สามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะลดน้อยลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาหมอเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางสูงราวๆ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นและใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งรวมทั้งมีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกไม้จะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เม็ด จะสามารถพบได้ทั่วไปตามชายน้ำ ริมฝั่งลำคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสเอดส์ แม้จะร้ายแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วๆไป แต่ว่าเมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยารับประทานรวมทั้งต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะบรรเทาเบาบางลงอย่างชัดเจน สำหรับคนเจ็บโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยารวมทั้งวิธีการใช้ยาก็มีหลายวิธี คือ
แนวทางต้มยารับประทานรวมทั้งอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆทีละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็น ก่อนรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำเป็นต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง ยามเช้า-เย็นทีละ 3-4 ขัน แต่หากมีเหงือกปลาแพทย์เป็นจำนวนมาก บางทีก็อาจจะต้มยาเพื่อแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาแพทย์ทั้งยัง 5 ทีตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางทีอาจจะรับประทานทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนกินอาหาร ตอนเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยๆจนกระทั่งจะหาย แต่ว่าหากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็ต้องกินตลอดไป

วิธีทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาแพทย์ที่ผ่านการบินเป็นผงละเอียดเสมือนแป้งใส่แคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนอาหาร เด็กต่ำลงตามส่วน
เหงือกปลาแพทย์มีสรรพคุณเยอะแยะ เป็นต้นว่า
-ราก มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ รวมทั้งใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายชนิด โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการซูบผอม ถ้าเกิดใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้สรรพคุณทางยาแตกต่างออกไปอีก
-ทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งยังต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มรับประทานแก้พิษฝีดาษ ฝีทั้งหมด ผลรับประทานเป็นยาขับเลือดประจำเดือน นอกจาก ถ้าตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาตลอดตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะ
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ป่วยจับสั่น
- ทั้งยังต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ซูบผอมเหลืองทั้งตัว กินแต่ละวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือนิดเดียว หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำจนถึงเดือดให้งวดจึงยกลง กลั้นใจรับประทานขณะอุ่นจนหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนตลอดตัว มึนหัว ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาแพทย์" อีกทั้ง 5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามต้องการ ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา ยามเช้า ช่วงเวลากลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดียิ่งขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และก็ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาแพทย์" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินแต่ละวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกประเภทหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ประเภท หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่เคยรู้เหน็ดเหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนหากผิวแตกตลอดตัวหายได้ ทั้งหมดทั้งปวงที่บอกเป็นแบบเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่น ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

12

ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula L.
ชื่อสามัญ : Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree
ชื่อประจำถิ่นอื่น : ต้นลมแล้ง (ภาคเหนือ) ; ปูโย, เปอโซ, ปือยู, แมะหล่าหยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ; คูณ (ภาคกลาง, ภาคเหนือ) ; ชัยพฤกษ์, [url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์[/url][/url][/color] (ภาคกลาง) ; กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี)
ชนิดนี้ตำราหลังเล่มเสนอ ชื่อใหม่เป็นเพียงแต่ระดับประเภทย่อย คือ Cassia javanica L.subsp javanica K.& S.S .Larsen พืชชนิดนี้เป็นไม้ใหญ่ขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง ๑๕ เมตร เมื่อลำต้นอย่างอ่อนอยู่มีน้ำแข็งที่เกิดขึ้นมาจากกิ่งแก่ที่ร่วงหล่นไป แต่ว่าเมื่อต้นแก่ขึ้นจะหายไป ลำต้นไม่ปุ่มป่ำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนเรียงสลับกัน มีใบย่อย ๕-๑๕ คู่ ก้านใบยาว ๑.๕-๔ ซม. ศูนย์กลางใบยาว ๒๐-๓๐ ซม. ใบย่อยรูปไข่ปนรูปมูลหรือรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๓ เซนติเมตร ยาว ๒-๕ เซนติเมตร ปลายใบกลมหรือมน โคนใบกลม ใต้ใบมีขนละเอียดอยู่เอนราบกับผิวใบ ก้านใบย่อยสั้นมาก ดอกออกเป็นช่อตามกิ่ง ก้านช่อดอกใหญ่และก็แข็ง ไม่แตกแขนง ยาว ๕-๑๖ เซนติเมตร เมื่อเริ่มบานมีสีชมพูแล้ว เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เมื่อใกล้โรยกลายเป็นสีออกขาว ดอกย่อยมีก้านเรียวยาว ๓-๕ เซนติเมตรราชพฤกษ์ มีกลีบเลี้ยงมี สีแดงเข้มถึงสีแดงอมน้ำตาล รูปไข่ ปลายแหลม ยาว ๗-๑๐ มิลลิเมตรกลีบดอกไม้รูปไข่กลับ กว้าง ๗-๘ มม. ยาว ๒๕-๓๕มม. โคนกลีบดอกเป็นก้านยาวราว ๓ มิลลิเมตร  เกสรเพศผู้มี ๑๐ อัน ปริมาณยาวไม่เท่ากัน รังไข่เรียว ขนคลุมบางๆผลเป็นฝักรูปกระบอกขนาดวัดผ่าศูนย์กลางราม ๑-๑.๕ เซนติเมตร ยาว ๒๐-๖๐ ซม. ห้อยลงมาจากกิ่ง ฝักแก่สีดำ หมดจด ไม่มีขน ไม่แตก มีเม็ดเยอะๆ รวมทั้งรูปแบนเกือบจะกลม สีน้ำตาลเป็นมัน
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ต้นไม้ (T) สูงราวๆ 5-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ เกลี้ยง สีเทาอ่อนหรือสีเทาอมน้ำตาล สีเทาอมขาว หรือสีนวล
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบเรียงสลับ ลักษณะใบย่อยรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบของใบเรียบ โคนใบมน แผ่นใบสีเขียว มีใบย่อยราวๆ 4-12 คู่
ดอก มีดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ เป็นช่อแขวนระย้าออกตามกิ่งหรือออกตามง่ามใบ มีดอกแบบสมมาตรข้างๆ มีกลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองสด โดยกลีบดอกเหนือสุดจะเรียงอยู่รอบในสุด ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผล เป็นฝักกลม ทรงกระบอกยาว ผิวเรียบ แล้วก็มีเปลือกแข็ง ข้างในมีฝาผนังแบนสีน้ำตาล กันเป็นห้องรวมทั้งมีเมล็ดห้องละ 1 เมล็ด ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ
เมล็ด มีเนื้อห่อหุ้มนิ่มๆสีน้ำตาลไหม้ หรือสีดำ ลักษณะกลมมนและแบน มีรสหวาน
นิเวศวิทยา
ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป มีมากทางภาคเหนือ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกข้างถนนเพื่อความงาม
การปลูกและก็เพาะพันธุ์
ปลูกได้ไม่ยากรวมทั้งเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกประเภท แต่ว่าจะถูกใจดินร่วนผสมทราย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเม็ดรวมทั้งตอนกิ่ง

คุณประโยชน์ทางยา
รสรวมทั้งคุณประโยชน์ในตำรายา
ราก รสเมา เป็นยาบำรุง รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เป็นยาถ่ายอย่างแรง รักษาอาการไข้ ระบายพิษไข้ ถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคคุดทะราด แก้กลากโรคเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึม หนักศีรษะ
เปลือกราก รสฝาด ต้มดื่มแก้ไข้ไข้มาลาเรียและก็ระบายพิษไข้ ใช้ร่วมกับเนื้อในฝักเป็นยาแก้ไข้ไข้จับสั่นและเป็นยาระบาย
แก่น รสเมา ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน รักษาอาการท้องเดิน รวมทั้งช่วยเร่งคลอด
ราชพฤกษ์เปลือกต้น รสฝาดเมา ใช้เป็นยาช่วยเร่งคลอด รักษาอาการท้องเดิน
กระพี้ รสเมา ใช้แก้โรครำมะนาด
ฝัก เนื้อในฝักรสหวานเหม็นเบื่อ ใช้กินเป็นยาระบาย ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก ขัดหรือชำระน้ำดี แก้ลมเข้าข้อและก็ขัดข้อ
เปลือกฝัก รสเฝื่อนเมา ทำให้แท้งลูก ขับรกที่ค้าง และทำให้อ้วก
ใบแก่ รสเมา ใบสดหรือตากแห้ง ใช้เป็นยาถ่าย รักษาอัมพาต ฆ่าเชื้อโรคทั้งผอง ฆ่าพยาธิผิวหนัง รักษาอัมพาตของกล้ามเนื้อบนใบหน้า พอกแก้ปวดข้อ หรือต้มน้ำกินแก้โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง แก้เส้นเอ็นทุพพลภาพ
ใบอ่อน รสเมา ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำทารักษาโรคขี้กลากเกลื้อน แก้ไข้รูมาติก
ดอก รสเปรี้ยวขม ใช้รักษาโรคกระเพาะ เป็นยาถ่ายพยาธิ ต้มดื่มแก้ไข้ แก้แผลเรื้อรัง ช่วยหล่อลื่นในไส้ ระบายท้อง
เม็ด ช่วยกระตุ้นให้คลื่นไส้ เป็นยาถ่าย
ราชพฤกษ์ แนวทางแล้วก็ปริมาณที่ใช้
แก้อาการท้องผูก โดยเอาเนื้อในฝักแก่หนักโดยประมาณ 5-10 กรัม ต้มกับน้ำ 500 ซีซี ใส่เกลือบางส่วน ดื่มก่อนนอนหรือเช้าตรู่ก่อนที่จะรับประทานอาหาร เป็นยาระบายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกเสมอๆ รวมทั้งสตรีท้องก็ใช้ฝักคูณเป็นยาระบายได้
รักษาโรคกระเพาะอาหาร โดยใช้ฝักราวๆ 30 กรัม ผสมน้ำ 100 ซีซี ต้มให้เดือดรวมทั้งเหลือน้ำ 50 ซีซี ดื่มให้หมดครั้งเดียว วันละ 3 ครั้ง http://www.disthai.com/

13

ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในสกุลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) รวมทั้งอยู่ในสกุลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกแล้วก็มักจะเขียนไม่ถูกหรือสะกดผิดเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) ฯลฯ
คำว่า “ราชพฤกษ์” มีความหมายว่า “ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ในหลวงของเราทรงครอบครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอแนะรวมทั้งสรุปให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ แล้วก็สถาปัตยกรรม ซึ่งจากการใคร่ครวญได้ข้อสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น “ศาลาไทย” และในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุผลสำหรับเพื่อการคัดเลือกดังนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดฯลฯไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่ชาวไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างล้นหลาม ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเห็นได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีความเกี่ยวข้องกับจารีตชาวไทยมาอย่างเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนามและก็ใช้ในการประกอบพิธีหลักๆต่างๆหลายพิธีการ เป็นต้นว่า พิธีการลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้ผลดีได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานและแข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีทรงและก็พุ่มที่สวยงาม มีดอกเหลืองงามเต็มต้น มองดูงดงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของชาติไทย เป็นเครื่องหมายที่พระพุทธศาสนา และยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกเหนือจากนี้ตามตำราไม้มงคล 9 จำพวกยังเจาะจงไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจวาสนา มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรครวมทั้งอาการต่างๆโดยส่วนที่นำมาใช้เป็นสรรพคุณทางยานั้น เช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก รวมทั้งเมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก สตรี รวมไปถึงคนสูงอายุ โดยปลอดภัยอะไรก็แล้วแต่
รูปแบบของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบทวีปเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนถึงประเทศอินเดีย ประเทศพม่า รวมทั้งประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาเกลี้ยง มักขึ้นทั่วๆไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกเอาไว้ภายในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกเอาไว้ในพื้นที่ แต่ในขณะนี้บางทีก็อาจจะใช้กรรมวิธีทาบกิ่งแล้วก็เสียบยอดก็ได้ แต่โอกาสสำเร็จจะน้อยกว่ากรรมวิธีการเพาะเม็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) ลักษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นเงา ช่อหนึ่งยาวราวๆ 2.5 เซนติเมตร แล้วก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆโดยประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างโดยประมาณ 5-7 เซนติเมตร แล้วก็ยาวราว 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนและสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางสะอาด มีเส้นแขนงใบถี่และก็โค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) มีดอกเป็นช่อ ยาวราว 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวราว 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดตกได้ง่าย รวมทั้งกลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกราวๆ 2-3 เท่า แล้วก็มีกลีบรูปไข่จำนวน 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะมองเห็นเส้นกลีบแจ้งชัด ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกชอบบานในตอนมี.ค.ถึงเดือนพฤษภาคม แต่ว่าก็มีบางครั้งที่มีดอกนอกฤดูเช่นกัน ดังเช่น ในช่วงธันวาคมถึงเดือนมกราคม
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกสะอาดๆฝักยาวโดยประมาณ 20-60 เซนติเมตร และก็วัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 ซม. ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆติดกันอยู่เป็นช่องๆตามแนวขวางของฝัก รวมทั้งในช่องจะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดราวๆ 0.8-0.9 ซม.
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
สรรพคุณของราชพฤกษ์
ช่วยทำนุบำรุงโลหิตในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นรวมทั้งใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการกางใบอ่อนนำมาต้มกับน้ำ (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการหิวน้ำ (ฝัก)
เปลือกเม็ดและเปลือกฝักมีคุณประโยชน์ช่วยทำลายพิษ ทำให้อ้วก หรือจะใช้เม็ดโดยประมาณ 5-6 เมล็ด นำมาบดเป็นผงแล้วรับประทานก็ได้ (เมล็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก รวมทั้งใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และก็หัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย แก้อาการเศร้าใจ หนักศีรษะ หนักตัว ทำให้สดชื่นทรวงอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สบาย ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะกับคนที่มีอาการท้องผูกบ่อยๆและสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่านิ้วโป้ง (หนักประมาณ 4 กรัม) และก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือน้อย ใช้ดื่มก่อนกินอาหารยามเช้าหรือตอนก่อนนอนเพียงแค่ครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เมล็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องเดิน (เมล็ด)
ช่วยหล่อลื่นไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารแล้วก็แผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เม็ด)
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยให้กำเนิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และก็น้ำตาล แล้วนำมากิน (เมล็ด)
ฝักแล้วก็ใบมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งโดยประมาณ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสฝาดเมา ช่วยขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
คุณประโยชน์ของคูน รากใช้แก้โรคคุดทะราด (ราก)
ใบสามารถนำมาใช้สำหรับในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากเอามาฝนใช้ทารักษากลากโรคเกลื้อน รวมทั้งใบอ่อนก็ใช้แก้ขี้กลากได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, ใบ)
เปลือกแล้วก็ใบเอามาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผื่นผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน คุณประโยชน์ของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ช่วยสมานรอยแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
คนอินเดียใช้ใบเอามาตำ นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนแล้วก็แมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำเสียไว้โดยประมาณ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยในการจัดการกับรอยคราบแมลงและก็หนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
นอกจากนี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต และแก้ไขปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน แล้วก็อบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคและความอยากเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผุยผง ช่วยแก้ลักษณะของการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกบริเวณที่เป็นจะช่วยทำให้มีการเกิดการไหลเวียนของเลือด ทุเลาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคโรคเกาต์ แล้วก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งด้าน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาติดอยู่ ทำมาจากใบคูน คุณประโยชน์ช่วยในด้านสมอง ไขปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มพร้อมกันไปกับการรักษาแบบอื่นๆ

ข้อควรตรึกตรอง !
:วิธีการทำเป็นยาต้ม ควรจะต้มให้พอควรก็เลยจะได้ผลดี ถ้าหากต้มนานเหลือเกินหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่จะก่อให้ท้องผูกแทน และควรจะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินความจำเป็น แล้วก็ยาต้มที่ได้แม้รับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้อ้วกได้
ประโยชน์ซึ่งมาจากราชพฤกษ์
นิยมนำมาปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆได้แก่ สถานที่ราชการ บริเวณริมถนนข้างทาง รวมทั้งสถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความเลื่อมใส ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามที่คนไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้ทรงเกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรี ต้นสายปลายเหตุเพราะว่าคนให้การเห็นด้วยว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและก็ยังเป็นเครื่องหมายของเมืองไทยอีกด้วย และก็ยังมั่นใจว่าจะมีผลให้ผู้อยู่อาศัยนั้นเจริญ โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะเนื่องจากทิศดังที่กล่าวถึงแล้วได้รับแสงแดดจัดในช่วงตอนบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้านและช่วยใชัพลังงานน้อยลง)
ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลและก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา ยกตัวอย่างเช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาเอกสำหรับการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ประสิทธิภาพที่ดีนัก ฯลฯ
เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆได้แก่ ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ ฯลฯ
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลสำหรับเพื่อการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีวันรวมทั้งจุลินทรีย์ขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะ โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บไซต์ที่ทำการแผนการรักษากรรมพันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เว็บไทยโพส, ที่ทำการปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานมหกรรมแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, สำนักงานกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/

14

ทับทิม
มารู้จัก “ทับทิม” ผลไม้เพื่อสุขภาพ
นักระบุของกินขึ้นทะเบียนวิชาชีพอเมริกา
ในยุคที่คนไหนกันก็ห่วงสุขภาพ รักการบริหารร่างกาย หมั่นกินผัก ผลไม้ต่างๆเมื่อกล่าวถึง “ทับทิม” คนไม่ใช่น้อยอาจจะเคยชินกันดีกับผลไม้ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาติอร่อยเชื้อเชิญพึงใจ ทับทิมนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและก็เปอร์เซีย โดยในบันทึกโบราณทางการแพทย์บอกว่า ทับทิมถูกใช้เป็นยารักษาโรคแล้วก็ใช้เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายมานานนับพันๆปี
ปัจจุบันทับทิมจัดคือผลไม้ในกลุ่ม ซุปเปอร์ฟรุ๊ต ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่สารพฤกษเคมีรวมทั้งสารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งมีจำนวนสูงเยี่ยมในทับทิมโดยสูงเป็น 3 เท่าของอาหารอื่นที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง อีกทั้งมีใยอาหารสูงมาก นอกเหนือจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง มีวิตามินบี 5 (กรดแพนโทธีนิค) วิตามินเอ วิตามินอี ส่วนแร่ธาตุที่มีมากมายเป็น แคลเซียม โพแตสเซียม แล้วก็ธาตุเหล็ก
จากการเล่าเรียนพบว่าทับทิมมีสารที่มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านขบวนการออกซิเดชันที่เกี่ยวกับการอักเสบ ซึ่งบางทีอาจช่วยปกป้องโรคมะเร็ง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระในทับทิมสูงยิ่งกว่า ไวน์และก็ใบชาเขียวถึง 3 เท่า แล้วก็ยังมีปริมาณสารโพลีฟีนอลในทับทิมสูงขึ้นมากยิ่งกว่าน้ำผลไม้อื่นๆเช่น ส้ม องุ่น แคนเบอร์รี่ ลูกแพร แอปเปิ้ล อีกด้วย
ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกลุ่มสารโพลีฟีนอล ที่สำคัญคือ สารพูนิคาลาจิน พูนิติดอยู่ลิน และก็กรดกัลลาจิก ทั้งสิ้นนี้อาจมีผลต่อการปกป้องอันตรายต่อเยื่อในร่างกายที่จะส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังรังต่างๆการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในทับทิมอาจช่วยยั้งการก้าวหน้าของเซลล์ของโรคมะเร็ง ทับทิมยังมีสารอโรมาเทสอินฮิบิเตอร์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยยั้งการผลิตฮอร์โมนเอสโทรเจนที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม ยิ่งกว่านั้นสารอาหารและก็สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมสกัดยังเป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ บางทีอาจต้านการเกิดริ้วรอย ช่วยทำให้มีผิวพรรณอ่อนกว่าวัยและมีสุขภาพดี นอกนั้นทับทิมยังจัดเป็นผลไม้ที่มีพลังงานต่ำ จึงอาจให้ประโยชน์ต่อการลดพลังงานสำหรับในการควบคุมน้ำหนัก โดยการกินทับทิมแทนอาหารหวาน
ด้วยสารสำคัญต่างๆในทับทิม นักค้นคว้าก็เลยพึงพอใจทำการศึกษาเรียนรู้ถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า สารสกัดจากทับทิมช่วยชะลอการเจริญก้าวหน้าของเซลล์ของโรคมะเร็ง และก็สามารถฆ่าเซลล์ของโรคมะเร็งในห้องทดลองได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาค้นคว้าชี้ว่า น้ำทับทิมสกัดยังสามารถช่วยลดแอลดีแอลคอเลสเทอรอคอยล ซึ่งเป็นคอเลสเทอคอยลไม่ดี ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัน และยังช่วยลดความดันเลือด มีผลในการช่วยปกป้องโรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตสมองตีบแล้วก็หัวใจวาย
ด้วยคุณประโยชน์ของทับทิมที่มีต่อสุขภาพและก็มาจากธรรมชาติ ทำให้ทับทิมได้รับความนิยมอย่างมากมายทั้งโลก เดี๋ยวนี้มีการนำทับทิมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำทับทิมสกัดแบบพร้อมดื่ม เพื่อความสะดวกสำหรับลูกค้าที่รักและก็ปรารถนาดีสำหรับในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย
งานค้นคว้าวิจัยของ Sharma, Mc Clees and Afaq ปัจจุบันในปี 2017 บอกว่า สารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ยั้งการเกิดเซลล์กลายพันธุ์ที่ส่งผลให้เกิดเซลล์ของมะเร็ง
ด้วยสรรพคุณมากมายก่ายกองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้ทับทิมได้รับการตั้งชื่อว่าเป็น “ซุปเปอร์ฟรุต” (Super fruit) ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วทั้งโลก เพราะว่ามีวิตามินแล้วก็แร่ธาตุ
ความศรัทธาและก็ตำนาน
ชาวภาษากรีกโบราณมั่นใจว่า ต้นทับทิมมีต้นเหตุที่เกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส (Di-onysus) ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งทวยเทพทั้งผองรวมทั้งเทวีนาน่า(Nana) ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ มีครรภ์ขึ้นโดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้กำเนิดเทพเทวดาแอตว่ากล่าวส (Attis) ขึ้น ดังนั้น คนที่เคารพเทพแอตว่ากล่าวสจึงไม่กินผลทับทิม ชาวยิวในสมัยพระผู้เป็นเจ้าโซโลมอนก็นับว่า ทับทิมคือผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน แขกฮินดู ในประเทศอินเดียเชื่อว่า พระคเณศทรงโปรดทับทิม คนที่เคารพพระวิฆเนศจึงนิยมนำผลทับทิมไปมอบ นอกจากนี้ ยังใช้ดอกทับทิมเส้นไหว้บูชาดวงตะวัน พระนารายณ์ และเทวีพระลักษมี อีกด้วย
คนจีนถือว่า ต้นทับทิมเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคล (โดยเฉพาะอย่างยิ่งทับทิมจำพวกดอกสีขาว) และนับว่าทับทิมเป็นสัญลักษณ์ที่ความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลานมากไม่น้อยเลยทีเดียว (เพราะเหตุว่าผลทับทิมมีเม็ดมาก) จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในพิธีแต่งงาน (เพื่อมีลูกหลานมากมายๆ) ในพิธีแต่งงานนิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมเจ้าสาว รวมทั้งปักยอดทับทิมไว้ที่ข้าวของเซ่นไหว้เจ้า ชาวจีนยังเชื่อว่า ใบหรือกิ่งทับทิมมีอำนาจไล่ภูตผีปีศาจได้ จึงนิยมปลูกทับทิมเอาไว้ในบริเวณบ้าน และก็ใช้ใบทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ หลังกลับจากงานฌาปนกิจศพ (เพื่อไม่ให้ซาตานติดตามมา)
ในญี่ปุ่นอาจรับความเชื่อเกี่ยวกับทับทิมไปจากจีน เปลี่ยนเป็นเครื่องหมายของเจ้าแม่ที่คอยคุ้มครองปกป้องรักษาเด็กๆให้ไม่มีอันตราย และก็มั่นใจว่าเมื่อเด็กๆได้กินผลทับทิมแล้วจะไม่เป็นอันตรายและก็ปลอดภัยจากภูตผีปีศาจทั้งสิ้น ชาวไทยก็คงได้รับถ่ายทอดความเลื่อมใสเกี่ยวกับทับทิมมาจากคนจีนบ้าง ดังปรากฏว่า มีศาลเจ้าหลายที่ในประเทศไทย ชื่อเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งคงจะเป็นเจ้าแม่ที่มีกำเนิดจากประเทศจีนแล้วกลายเป็นชื่อไทยทีหลัง

15

ทับทิม
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีแห่งผลไม้ มีคุณประโยชน์ต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีที่ผลไม้ มีประโยชน์ทั้งยังต้น
อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ เดือนพฤษภาคม 3, 2018 ราวเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์บทความนี้
ทับทิมได้ผลสำเร็จไม่ที่นิยมรับประทานกันมาก แล้วก็ลือชื่อในเรื่องของคุณประโยชน์ที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีที่ผลไม้ กล่าวกันว่าทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่ถูกประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์มาแล้วนับพันปี ในตอนนี้ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมปลูก และรับประทานกันทั่วทั้งโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย พิจารณาได้จากร้านค้าขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่แทบจะมีอยู่ตามท้องถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากทับทิมมีล้นหลาม ทั้งในเรื่องของสารอาหาร รวมทั้งการปกป้องคุ้มครองโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมถือเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียงแต่ 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงปริมาณร้อยละ 40 ของจำนวนที่พวกเราต้องการในหนึ่งวัน (สำหรับผู้ใหญ่) ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงในระดับนี้จึงมีสรรพคุณสำหรับการลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างดี
ช่วยบำรุงผิวพรรณ
การรับประทานทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยให้ผิวพรรณของพวกเรามองสดใส เหตุเพราะทับทิมสำเร็จได้ที่มีคุณประโยชน์สำหรับการต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยสำหรับการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเรา และด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงก็เลยช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างใส นอกเหนือจากนั้นเรายังสามารถใช้น้ำทับทิมโดยประมาณ 1 ช้อนชา ทาบริเวณบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยสำหรับการบำรุงผิวหน้าให้ดูเต่งตึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้อีกด้วย ผลดีในข้อนี้ของทับทิมสามารถยืนยันได้จากการที่ในขณะนี้ มีเครื่องแต่งหน้าหรือครีมหลายแบบได้นำทับทิมไปเป็นส่วนประกอบ
เส้นเลือดและก็หัวใจ
ในทางการแพทย์มีการวิจัยแล้วพบว่าทับทิม มีคุณประโยชน์ช่วยสำหรับการทำให้การไหลเวียนของโลหิตดียิ่งขึ้น ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนไข้โรคหัวใจ นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ที่มีความดันเลือดสูง เมื่อกินน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดระดับความดันเลือดได้ปริมาณร้อยละ 5 ช่วยลดสถานการณ์การแข็งตัวของไขมันในหลอดเลือดได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคมะเร็ง
เนื่องด้วยคือผลไม้ที่มีค่าการต้านทานอนุมูลอิสระที่สูง ก็เลยช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่า การกินทับทิมช่วยลดจังหวะการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ของมะเร็งถึง 13ช นิด แล้วก็ยังสามารถช่วยทำลายเซลล์ของโรคมะเร็งในหลอดอาหาร แล้วก็ลำไส้ได้อีกด้วย
ประโยชน์อื่นๆของทับทิม
นอกจากสรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ช่วยทุเลาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งท้อง ช่วยปรับให้สมดุลในวัยหมดประจำเดือน ลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคความจำเสื่อมในคนสูงอายุ คุ้มครองปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคกระดูกพรุน คุ้มครองป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ ลดการตกขาว กล่าวได้ว่ามีสรรพคุณมากไม่น้อยเลยทีเดียวจริง
 นอกเหนือจากส่วนที่เรานิยมกินกันอย่างเม็ดแล้ว องค์ประกอบอื่นของทับทิมก็มีคุณประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งเป็นยาแล้วก็สมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยบรรเทาอาการผมร่วงได้อย่างดี
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเราใช้รักษา แผลหิด กากโรคเกลื้อน มีสรรพคุณเกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคในทางเดินของกิน เป็นต้นว่ารักษาอาการท้องร่วงได้
เปลือกของลำต้น และก็ราก: สามารถเอามาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยเอามาผสมกับกานพลู แล้วก็บางทีอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำโดยประมาณสามถ้วย มีคุณประโยชน์ในการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการสมานแผล รวมทั้งทุเลาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่มีสาระในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่เพียงแต่เมล็ด หรือน้ำทับทิม ก็เลยไม่สนเท่ห์ใจเลยที่ทับทิมจะได้รับฉายาว่า "ราชชินีแห่งผลไม้"
โรคและอาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น โรคเส้นเลือดหัวใจ การหย่อนความสามารถทางเพศ เจ็บกล้ามข้างหลังการออกกำลังกาย กลุ่มอาการอ้วนอ้วน โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแสงแดด การต่อว่าดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเดิน โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง รวมทั้งอื่นๆยังจำเป็นต้องทำการศึกษาวิจัยเพิ่มอีกเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพรวมทั้งความปลอดภัยของทับทิมในการรักษาโรค
ความปลอดภัยในการกินทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยปกติการกินน้ำทับทิมค่อนข้างจะมีความปลอดภัย แม้กระนั้นในบางรายที่มีอาการแพ้ผลสดของทับทิมอาจเป็นผลข้างเคียงจากการกินน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสุขภาพ การกินรากรวมทั้งลำต้นของทับทิมในจำนวนมากบางทีอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมค่อนข้างจะไม่มีอันตรายสำหรับในการรับประทานหรือประยุกต์ใช้กับผิวหนัง แต่ว่าอาจส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้บางส่วนในบางราย ได้แก่ อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจลำบาก
การกินน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมลูก แม้กระนั้นยังไม่มีรายงานรับรองความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินหรือใช้ทับทิมในรูปแบบอื่น ดังเช่นว่า สารสกัดจากทับทิม จึงควรขอความเห็นแพทย์ก่อนการรับประทานทุกครั้ง
น้ำทับทิมอาจจะเป็นผลให้ความดันเลือดลดลดลงเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลให้คนไข้ที่มีภาวะความดันต่ำอาการแย่ลง

ผู้ที่มีอาการแพ้จากพิษพืชอาจมีการเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการกินทับทิม
คนไข้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดกินทับทิมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ก็เลยอาจกระทบต่อความดันโลหิตในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังหลังการผ่าตัด
การกินทับทิมพร้อมกันกับยาบางประเภทอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ได้แก่ ยาที่เกี่ยวเนื่องกับแนวทางการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome จำพวก P450 2D6 หรือจำพวก P450 3A4 ยาลดระดับความดันโลหิตหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาโรสุวาสแตติน คนที่กินยาเสมอๆหรือมีโรคประจำตัวควรขอความเห็นหมอก่อนจะมีการกินเพื่อความปลอดภัย http://www.disthai.com/

หน้า: [1] 2