แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - n0menskyiii01

หน้า: [1]
4

รากสามสิบ
รากสามสิบ คุณประโยชน์สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพที่คนอยากมีลูกห้ามพลาด
          รากสามสิบ คุณประโยชน์เด่นๆของสมุนไพรตัวนี้ขึ้นชื่อลือนามเรื่องเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งหลายๆคนบางทีอาจเคยได้เห็นสมุนไพรรากสามสิบแบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วรู้ไหมค่ะว่า ประโยชน์ซึ่งมาจากรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้มิได้มีดีแค่ช่วยคนต้องการมีลูกแค่นั้น
รากสามสิบ สมุนไพรนี้มีที่มา
          รากสามสิบแท้จริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมากๆดังเช่น สาวร้อยผัว จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
          ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้าแล้วก็รากใต้ดินเหมือนรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอม ฯลฯที่มีผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน และมีเมล็ดสีดำ
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
คุณประโยชน์รากสามสิบ
          รากสามสิบถูกเปรียบให้เป็นพลังแห่งการฟื้นฟูความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณแล้วก็หมอสมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งก็นับเป็นที่มาของชื่อสาวร้อยสามี ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนรุ่นเก่ามักจะนำรากมาต้มกินหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อๆกันว่า จะช่วยบำรุงรักษาสตรีให้ไมว่าจะอายุเท่าไรก็มีลูกได้ง่าย
          นอกเหนือจากนั้นสมุนไพรรากสามสิบยังผ่านการค้นคว้าวิจัยคุณประโยชน์มาล้นหลาม โดยพบว่า รากสามสิบมีคุณประโยชน์ทางเภสัชวิทยาตามนี้ติดตัวอยู่ด้วย
          - ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อรา
          - คลายกล้ามมดลูก
          - บำรุงหัวใจ
          - ลดการอักเสบ
          - แก้ปวด
          - ยับยั้งโรคเบาหวาน
          - ปราบเซลล์มะเร็ง
          - กระตุ้นภูมิต้านทาน
รากสามสิบ
          - ต้านทานภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
          - ลดระดับไขมันเลือด
          - คุ้มครองป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
          - ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง
          - มีฤทธิ์ใกล้เคียงฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)
          - ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง
          - ขับน้ำนม
          - ช่วยให้การตกไข่บริบูรณ์
          - ช่วยทำนุบำรุงกำลังท่านชาย
          - เสริมความแข็งแรงของน้ำกามสเปิร์ม
          - ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะ
          - ลดอาการกรดเกินในกระเพาะ
          - ยั้งพิษต่อตับ
          - แก้ริดสีดวงทวาร
          - ขับลม
          - ขับฉี่
          - ขับเสมหะ
          - บำรุงเด็กในครรภ์
          - แก้แท้งลูก
          - รักษาโรคคอพอก
          - แก้ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว
          - ฝนรากทาเป็นยาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้
          - กระตุ้นประสาท ชูกำลัง
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
          และก็ด้วยคุณประโยชน์ของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยจังหวัดพะเยาจีงได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการคุ้มครองป้องกันการสลายเนื้อกระดูกแล้วก็อวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เพราะเล็งเห็นว่า โรคกระดูกพรุนซึ่งชอบเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนั้น มีมูลเหตุหลักจากการลดน้อยลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนคราวหลังหมดระดู โดยสำเร็จการทดสอบมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบหลังจากถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากรุ๊ปหนูถูกตัดรังไข่แต่ว่าไม่ได้รับสารสกัดสมุนไพร[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ[/url][/url][/color]
          นอกเหนือจากนี้สารสกัดรากสามสิบยังไม่นำมาซึ่งความเคลื่อนไหวในเยื่อบุโพรงมดลูก โดยเหตุนี้ก็เลยสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีสมรรถนะสำหรับการป้องกันการสลายของเนื้อกระดูกในตัวทดลองได้ โดยไม่มีผลเสียใดๆก็ตามต่ออวัยวะสืบพันธุ์ ทว่ายังคงจำต้องทดลองเพิ่มเพื่อศึกษาว่า สารสกัดรากสามสิบจะมีผลเสียใดๆกับอวัยวะอื่นไหม
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี       

หารากสามสิบได้จากที่ไหน
          แม้ต้นรากสามสิบจะยังมีให้เห็นอยู่ในประเทศไทย แม้กระนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปขุดหารากสามสิบมาต้มกินให้อ่อนล้า เนื่องจากปัจจุบันนี้มีสารสกัดรากสามสิบในรูปแคปซูลมาให้เลือกซื้อมากไม่น้อยเลยทีเดียว แม้กระนั้นทั้งนี้ควรจะตรวจสอบให้แน่ว่าแคปซูลรากสามสิบมีตราแล้วก็ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานอาหารแล้วก็ยาหรือเปล่า
          แม้กระนั้นถ้าคนไหนกันแน่สามารถหาต้นรากสามสิบใหม่ๆได้ จะนำมาต้มยารับประทานเองพวกเราก็มีสูตรยาสมุนไพรรากสามสิบมาให้ด้วยจ้ะ
น้ำรากสามสิบ (สูตรดั้งเดิม)
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กก.
  • น้ำ 10 ลิตร


     วิธีการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกแล้วก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกครั้ง
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากสามสิบ ลงในหม้อต้ม
  • เคี่ยวราวๆ 3 ชั่วโมง
  • ชิมรส และสามารถเพิ่มเติมน้ำตาลกรวดหรือใบเตยเพิ่มความหอมลงไปได้
รากสามสิบแช่อิ่ม
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 โล
  • น้ำตาล 1.5 กิโลกรัม
  • น้ำ 5 ลิตร
    กระบวนการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกเปลือกและดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกรอบ
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • เติมน้ำตาล ลงในหม้อต้ม
  • ต้มจนน้ำตาลละลายหมด
  • ใส่รากสามสิบ
  • ต้มต่อกระทั่งเป็นสีเหลืองทองคำ
รากสามสิบ
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการใช้สมุนไพรรากสามสิบ
          เนื่องด้วยสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน เพราะฉะนั้นจึงจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อผู้หญิงที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว ได้แก่ คนที่มีอาการป่วยด้วยโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) เป็นต้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรหารือแพทย์ก่อนที่จะดีที่สุดนะคะ       
          มองเห็นคุณประโยชน์รากสามสิบกันไปแล้วคนไม่ใช่น้อยเริ่มสนใจอยากหารากสามสิบมาบำรุงสุขภาพกันบ้าง แต่ว่าก็อย่าลืมที่เตือนไว้นะคะ ก่อนซื้อแคปซูลรากสามสิบมากิน ควรจะพิจารณามูลเหตุแล้วก็ตรา รวมถึงการยืนยันจากหน่วยงานที่น่าไว้ใจด้วย http://www.disthai.com/

5

กระเทียม
กระเทียมกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างไม่เหมือนกับพืชทั่วๆไป ด้วยเหตุว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกนั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ ดังเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสุขภาพร่างกาย
กระเทียม
คนไม่ใช่น้อยอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่หลายท่านเชื่อว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวพันกับหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ทั้งนี้ข้อรับรองหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ ประโยชน์ และความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดแล้วก็ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่มีระดับความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดต่ำลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจพูดได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีความสามารถสำหรับในการรักษาคนเจ็บความดันเลือดสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่บ่งบอกถึงถึงความสามารถของกระเทียมสำหรับการลดระดับความดันเลือดได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเพราะว่าผลของการทดลองบางทีอาจยังไม่ถูกต้องพอเพียงที่จะสรุปสมรรถนะของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็เส้นเลือดในคนไข้ความดันเลือดสูง ก็เลยยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันคุณภาพที่กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมแล้วก็ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ชัดแจ้งรวมทั้งยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งปวงศชายและเพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แต่ มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่พบหลักฐานที่น่าไว้วางใจถึงที่เหมาะจะช่วยส่งเสริมความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งมีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านโรคมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น รูปแบบของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะก่อให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เช่นกัน
แก้หวัด หลายคนมั่นใจว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และมีการนำมาใช้เพื่อคุ้มครองป้องกันและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความต่างกันเพียงนิดหน่อย แม้ผลของการทดลองข้างต้นจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางคลินิกยังไม่พอรวมทั้งจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
ลดน้ำหนักรวมทั้งมวลไขมัน ในคนไข้ภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีเหตุที่เกิดจากโรคอ้วน เบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจน้อยเกินไป ถ้าหากไม่ดูแลหัวข้อการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมจึงบางทีอาจเป็นหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์รวมทั้งสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติป้องกันภาวการณ์อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้วิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเพศชายรวมทั้งเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งสิ้น 110 คน รับประทานกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งภายในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่รับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักแล้วก็มวลร่างกายต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เป็นผลมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่การเล่าเรียนในอนาคตยังจะต้องวางแบบการทดลองให้ดีขึ้นและก็ควรจะเพิ่มช่วงเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับสมรรถนะของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบและการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่องจำนวน 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้นิดหน่อย แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น หรือเปล่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงแต่อย่างใด จึงยังจำเป็นที่จะต้องเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อหาข้อสรุปและก็ยืนยันประสิทธิภาพของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับในการกินกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะปลอดภัยถ้ารับประทานในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นอาจจะเป็นผลให้เกิดผลใกล้กันได้ อาทิเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกึ่งกลางอก ท้องเฟ้อ อ้วก อ้วก หรือท้องเสีย อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจก่อให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคืองได้
ข้อควรระวังสำหรับเพื่อการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการมีท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าหากรับประทานเป็นอาหารหรือในปริมาณที่เหมาะสม แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการท้องหรือให้นมบุตร
เด็ก การกินกระเทียมในจำนวนที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจทำให้มีการระคายเคืองพื้นที่เดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลงมากกว่าปกติ
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดรับประทานกระเทียมก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์ด้วยเหตุว่าอาจส่งผลให้เลือดออกมากและก็ส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด และผู้ที่มีภาวการณ์เลือดออกผิดปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะสิด เนื่องจากว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและก็ส่งผลต่อสมรรถนะหลักการทำงานของยา รวมทั้งไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

6

กระเทียม
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม[/url][/url][/color] ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) รวมทั้งอยู่ในตระกูลย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)
สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากในทางภาคเหนือรวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ว่าสำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี กลิ่นฉุนคงจะหนีไม่พ้นจังหวัดศรีสะเกศ
คุณประโยชน์ของกระเทียม
ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงแล้วก็แข็งแรง
ช่วยสร้างเสริมการเติบโตของเยื่อในร่างกาย
ช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและก็น้ำตาลในเลือด
ช่วยทำให้ปรับสมดุลในร่างกาย
ช่วยแก้อาการวิงเวียนหัว อาการงงงัน ปวดศีรษะ หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบขยายพันธุ์และระบบทางเท้าเยี่ยว เนื่องจากมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งยังหญิงและชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มกำลังวังชาให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดการเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวรุนแรง
ช่วยต้านทานเนื้องอก
ช่วยจัดการกับปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยป้องกันการเกิดรวมทั้งรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยสำหรับการขับพิษแล้วก็พิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
ช่วยคุ้มครองผนังเส้นเลือดดกรวมทั้งแข็งตัว
สารสกัดน้ำมันกระเทียมมีสารที่มีส่วนช่วยสำหรับในการละลายลิ่มเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดเส้นโลหิตอุดตัน
มีสารต้านไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล ป้องกันหวัด
ช่วยรักษาโรคไข้หวัดรวมทั้งไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบแล้วก็ไซนัส
ช่วยรักษาโรคไอกรน
ช่วยแก้อาการหอบ โรคหืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยหยุดกลิ่นปากกระเทียม
ช่วยสำหรับเพื่อการขับเหงื่อ
ช่วยสำหรับการขับเสลด
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยของกินมาย่อยแผลในกระเพาะ
ช่วยสำหรับเพื่อการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
ช่วยสำหรับเพื่อการขับเยี่ยว
ช่วยในการขับพยาธิได้หลายแบบ อาทิเช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิหมุด พยาธิไส้เดือน ฯลฯ
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบประเภทรุนแรงได้
ช่วยปกป้องการเกิดโรคไต
ช่วยฆ่าเชื้อโรครา เชื้อแบคทีเรียต่างๆรวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะรวมทั้งรอบๆเล็บ
ช่วยยั้งเชื้อต่างๆอาทิเช่น เชื้อที่ส่งผลให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค ฯลฯ
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่วกระเทียมคุณประโยชน์
ช่วยรักษาขี้กลาก โรคเกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเยื่อ บำรุงข้อต่อและก็กระดูกภายในร่างกาย
บรรเทาอาการปวดข้อและก็เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการเคล็ดลับขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
มีสารต้านทานอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาว่ากล่าวสซั่ม
กระเทียมมีกลิ่นฉุนก็เลยสามารถช่วยไล่ยุงได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากของกิน
ประโยชน์ซึ่งมาจากกระเทียม
ผลดีหลักๆของกระเทียมอาจจะหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยแต่งรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆอีกสารพัน
กระเทียมเป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินรวมทั้งแร่หลายชนิด รวมทั้งยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงขึ้นมากยิ่งกว่าพืชประเภทอื่นๆทั้งยังยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA รวมทั้ง RNA ของเซลล์ในร่างกาย
นอกจากนี้ยังมีการนำกระเทียมไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างนานาประการ ยกตัวอย่างเช่น กระเทียมเสริมอาหาร กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง ฯลฯ

คุณประโยชน์ทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
ใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี 1 0.2 มก. 17%
วิตามินบี 2 0.11 มก. 9%
วิตามินบี 3 0.7 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี 5 0.596 มิลลิกรัม 12%
วิตามินบี 6 1.235 มก. 95%
วิตามินบี 9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มิลลิกรัม 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มก. 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มก. 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มก. 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มิลลิกรัม 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มิลลิกรัม 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มิลลิกรัม 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มก. 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% จำนวนร้อยละของจำนวนแนะนำที่ร่างกายอยากในทุกวันสำหรับคนแก่ (ที่มา : USDA Nutrient database)
คำเสนอแนะรวมทั้งข้อพึงระวังสำหรับในการใช้กระเทียม
กระเทียมยิ่งสดเยอะแค่ไหนก็ยิ่งมีคุณประโยชน์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยแนวทางต่างๆหรือผ่านการดอง จะทำให้วิตามินแล้วก็สารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นสลายตัวไป
วิตามินและก็แร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากมายหรือน้อยก็ขึ้นกับดินรวมทั้งสภาพอากาศที่ใช้เพื่อการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังตั้งท้องหรือให้นมลูก คนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดปกติ หรูหราความดันเลือดเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงคนที่ใช้ยาอื่นๆบ่อยๆ ดังเช่นว่า ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต่อต้านเชื้อไวรัส คุณไม่สมควรรับประทานกระเทียมหรือสินค้ากระเทียมเสริมในจำนวนที่มากจนถึงเกินความจำเป็น เนื่องจากว่าอาจจะส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้
สำหรับคนที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเสมอๆ อาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อรับประทานได้ โดยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการคลื่นไส้ และก็มีอาหารหัวใจที่เต้นแรงไม่ปกติ แต่ว่าอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นจะเบาๆหายไปเองภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่ประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการทำกับข้าวชอบก่อเกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบสดๆ
สำหรับผู้ที่อยู่ในครัวหรือผู้จำเป็นต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมเป็นประจำรวมทั้งเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลให้ผิวหนังมีการอักเสบ มีตุ่มน้ำได้ ด้วยเหตุดังกล่าวคุณควรจะหลบหลีกการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเป็นประจำด้วยการใส่ถึงมือทุกครั้งในตอนที่จะใช้กระเทียม
หากว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่จำนวนมาก แต่คุณก็ไม่สมควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลสำหรับในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง ทั้งผลที่ได้ในแต่ละบุคคลก็บางครั้งก็อาจจะต่างกันออกไป ด้วยเหตุนั้นคุณควรที่จะทำการเลือกรับประทานให้นานาประการรวมทั้งครบ 5 กลุ่ม จะเป็นลู่ทางที่เยี่ยมที่สุด ด้วยเหตุว่าพืชผักสมุนไพรปกติ ถ้าเกิดศึกษาเล่าเรียนกันจริงๆแล้ว มันก็มีสาระไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ปัจจุบันนี้ในบ้านเรายังไม่มีการยืนยันว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง อาจเป็นไปได้เพียงสมุนไพรลู่ทางสำหรับในการรักษาแล้วก็สมุนไพรเสริมสุขภาพแค่นั้นhttp://www.disthai.com/

หน้า: [1]