เปิดตัว โรงพยาบาล medpark กับการออกแบบที่คิดมาแล้วเพื่อทุกคน

       หากถามว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล มีใครบ้าง ถ้าตอบแบบง่ายที่สุดก็คือ ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และทีมแพทย์ พยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าคำตอบจะไม่ยาก แต่จะมีสักกี่โรงพยาบาลที่ออกแบบได้โดยให้ความสำคัญกับคนทั้งสามกลุ่ม ทำให้ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ... แนวคิดนี้ได้เกิดขึ้นเป็นจริงแล้วกับ medpark พระราม 4 โรงพยาบาลแห่งใหม่บนทำเลคุณภาพ ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันได้เลยครับ

ออกแบบด้วยแนวคิดการคำนึงถึงผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการเป็นสำคัญ
 
        นี่คือแนวคิดแรกที่ โรงพยาบาลหรู medpark ให้ความสำคัญ จึงมีการใส่ใจในรายละเอียดของหลายส่วน ตั้งแต่ส่วนสำหรับรอพบแพทย์ ซึ่งบริเวณถูกจัดไว้เป็นพื้นที่โปร่งสบาย นั่งรอโดยมีระยะห่างระหว่างกัน ทำให้ผู้มาใช้บริการรู้สึกไม่อึดอัด ยังคงรู้สึกว่ามีพื้นที่ส่วนตัว ที่นี่ยังเสริมความรู้สึกผ่อนคลายด้วยต้นไม้จำนวนมากที่นำมาตกแต่งในตัวอาคาร ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเข้าห้องตรวจแล้ว ยังได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยห้องตรวจที่นี่จะไม่ใช่การนั่งเผชิญหน้ากันระหว่างคุณกับแพทย์ แต่เป็นการนั่งหันข้างให้กัน เหมือนเรานั่งคุยกับเพื่อน จึงทำให้บรรยากาศมีความผ่อนคลายและเป็นกันเอง ส่งผลให้ผู้ป่วยกล้าบอกอาการของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้ทีมแพทย์วินิจฉัยโรคได้ง่ายขึ้นด้วย

ออกแบบโดยให้ญาติผู้ป่วยได้รับความผ่อนคลายขณะมาเฝ้าไข้

          หากคุณมีญาติที่ต้องนอนโรงพยาบาล และมาพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลแถวพระราม 4 อย่างเมดพาร์คแห่งนี้ นอกจากคนไข้จะได้รับการรักษาอย่างมีคุณภาพจากทีมแพทย์เฉพาะทางแล้ว ตัวคุณในฐานะญาติคนไข้ก็ยังเหมือนกับได้มาพักผ่อนอีกด้วย เพราะห้องพักผู้ป่วยของที่นี่ให้ความสำคัญกับญาติไม่แพ้ตัวผู้ป่วยเอง โดยมุมสำหรับญาติจะมองเห็นวิวธรรมชาติได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวิวสวนป่าเบญจกิตติ วิวทะเลสาบ หรือแม้แต่วิวแบบพาโนรามา (ขึ้นอยู่กับว่าเลือกห้องพักในส่วนไหน) สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็มีอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ฟรีอินเทอร์เน็ตและบางห้องยังมีเครื่องชงกาแฟจัดไว้ให้ด้วย นอกจากนี้การที่ผู้ป่วยได้รับความใส่ใจจากทีมแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างดี ยังช่วยลดความเครียดของญาติผู้ป่วยได้อีกด้วย

ออกแบบโดยให้ทีมแพทย์ทำงานได้สะดวกขึ้น

          จุดเด่นของ โรงพยาบาล medpark คือห้องพักบางห้องที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้อง ICU ได้เพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นเข้าไปเท่านั้น เพราะระบบต่าง ๆ ได้รับการวางไว้เรียบร้อยแล้ว จึงช่วยให้แพทย์ทำงานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องรักษาแบบเร่งด่วน นอกจากนี้ ศูนย์เฉพาะทางของที่นี่ยังเป็นบริการแบบ One Stop Service คือให้บริการทุกอย่างอยู่ในที่เดียว เช่น ศูนย์ตรวจสุขภาพ ก็ทำทุกอย่างเสร็จได้ในที่เดียว อาจดูเป็นความสบายของผู้ป่วย แต่ถ้ามองดูให้ดีก็จะพบว่ามันทำให้ทีมแพทย์ทำงานได้รวดเร็วขึ้นด้วย

        คงเห็นแล้วว่า medpark พระราม 4 ได้รับการวางแผนทุกอย่างมาแล้วเป็นอย่างดี โดยใช้แนวคิดการออกแบบที่ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อแพทย์ทำงานได้ง่าย เพราะผู้ป่วยมีความรู้สึกผ่อนคลายและญาติของผู้ป่วยก็ได้ความรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย ทั้งหมดนี้จึงส่งผลเป็นการรักษาอย่างมีคุณภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ป่วยอย่างแท้จริง

ตรวจร่างกายที่ไหนดี  https://www.akerufeed.com/health/medical-checkup
ตรวจสุขภาพที่ไหนดี https://www.wongnai.com/articles/healthy-check
ที่มาข้อมูล
https://www.medparkhospital.com/about?section=2

โรงพยาบาล medpark สุดยอดความหรูหราพร้อมพื้นที่สีเขียวกลางกรุงเทพฯ
   เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็น Medical Hub ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย ร่วมกับคณะแพทย์จากหลากหลายสาขาได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ทีพีพี เฮลท์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อพัฒนาที่ดินขนาด 90,000 ตารางเมตร ของย่านพระราม 4 ให้กลายเป็น โรงพยาบาล medpark พระราม 4 ขนาด 550 เตียง ที่เน้นการรักษาโรคเฉพาะทางหรือโรคซับซ้อนระดับ “จตุตถภูมิ” (Quaternary Care) โดยการออกแบบส่วนต่าง ๆ ของโรงพยาบาลนอกจากจะต้องคำนึงถึงการใช้งานด้านการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการใช้บริการทุกด้านอีกด้วย

ทำเลทองย่านพื้นที่สีเขียวกลางกรุงเทพฯ
   medpark ถือเป็น โรงพยาบาล แถวพระราม 4ที่ตั้งอยู่ในทำเลทองที่สุดของย่านพระราม 4 เลยก็ว่าได้ เพราะถูกโอบล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่เปรียบเหมือนปอดขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ถึงสองแห่ง โดยด้านหน้าโรงพยาบาลหันหน้าไปทางโค้งน้ำเจ้าพระยาและสวนป่าบางกระเจ้า ส่วนด้านหลังเป็นสวนป่าเบญจกิติเนื้อที่ 320 ไร่  การออกแบบโรงพยาบาลจึงสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวเหล่านี้มาช่วยเสริมบรรยากาศผ่อนคลายภายในโรงพยาบาลได้อย่างเต็มที่ โดยมีการออกแบบและตกแต่งภายในตัวอาคารที่เน้นความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สามารถมองทะลุออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวทั้งด้านหน้าและด้านหลังโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการนำต้นไม้และไม้ประดับต่าง ๆ ตกแต่งอยู่แทบทุกมุม เพิ่มความกลมกลืนทั้งภายในและภายนอกอย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้น medpark ยังออกแบบอาคารโดยยึดมาตรฐานสีเขียว หรือ LEED ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระจกกรองแสงแดดเพื่อลดความร้อนภายในตัวอาคาร, การใช้วัสดุรีไซเคิล รวมถึงการบำบัดน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้อีกด้วย

ห้องพักผู้ป่วยสุดหรูหราสำหรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์
   medpark พระราม 4 ถือเป็นโรงพยาบาลระดับไฮเอนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ ดังนั้น ห้องพักผู้ป่วยจึงได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่สามารถใช้งานด้านการแพทย์ได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังมีทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย และฟังก์ชันการใช้งานที่แทบไม่ต่างจากห้องพักโรงแรมหรือคอนโดหรู มีการแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ป่วยและญาติอย่างลงตัว และให้ความเป็นส่วนตัวทั้งแก่ญาติและผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ โดยห้องพักผู้ป่วยทุกห้องจะมีการแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ป่วยและญาติเพื่อความเป็นส่วนตัว สไตล์การออกแบบภายในห้องเน้นความเรียบหรู เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ทั้งชั้นวางของหรือตู้เสื้อผ้าล้วนถูกซ่อนไว้ด้านหลังผนังห้อง เพื่อให้สามารถทำความสะอาดง่าย ลดการสะสมของเชื้อโรค แถมยังช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง สบายตาอีกด้วย เปิดรับแสงแดดและมองเห็นวิวพื้นที่สีเขียวภายนอกได้อย่างชัดเจน 
   นอกจากนี้ medpark ยังมีห้องพักผู้ป่วย VIP ที่มีพื้นที่ถึง 100 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องพักผู้ป่วย ห้องทำงาน ห้องรับแขก/นั่งเล่น ครบครัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น

สวนลอยฟ้ากลางพื้นที่สีเขียว
   เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องกฎหมายระยะร่นของอาคาร โรงพยาบาล medpark จึงใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างบนชั้น 5 และชั้น 10 สำหรับออกแบบเป็นสวนลอยฟ้าที่มีทั้งส่วนที่เป็นต้นไม้และส่วนที่เป็นพื้นที่เปิดสำหรับรับแสงและลมธรรมชาติ ให้ผู้ป่วยสามารถออกมาสัมผัสกับธรรมชาติพร้อมชมวิวพื้นที่สีเขียวที่อยู่รายรอบ รวมถึง Skyline ของกรุงเทพมหานครได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่จำเป็นต้องทำกายภาพบำบัด สามารถใช้พื้นที่สวนลอยฟ้าเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายได้มากขึ้น

ที่มาข้อมูล
https://healthmenowth.com/hospital/medpark-hospital-bangkok-thailand/
https://www.medparkhospital.com/about?section=2
ตรวจร่างกายที่ไหนดี https://www.wongnai.com/articles/healthy-check

บอกถึง สาเหตุของโรคเบาหวาน พร้อมแนะวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตราย

    โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ซึ่งกระทบต่อการทำงานของหัวใจ สมอง หลอดเลือดแดง ไต ตา และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำ การรักษาโรคเบาหวาน ในทันที ไม่ให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงในภายหลัง หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ สาเหตุของการเกิดโรคมาจากหลายปัจจัยเสี่ยง เบาหวานมีโอกาสถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีประวัติคนใกล้ชิดในครอบครัวป่วยจะเป็นโรคเบาหวานกันทุกคน ถึงแม้ไม่มีญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวานแต่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อโรค เช่น ความเครียด โรคอ้วน ไม่ออกกำลังกาย มีโอกาสเป็นเบาหวานได้เช่นเดียวกัน

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน มีดังนี้

-เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง ร่างกายได้รับอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ วัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารเช้า 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป และหลังมื้อเช้า ระดับน้ำตาลในเลือด 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป
-ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ การผ่าตัดตับอ่อน ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินต่ำลงและไม่เพียงพอกับความต้องการ หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้หลอดเลือดเสียนาน เกิดภาวะเบาหวานขึ้นตาและจอประสาทตาเสื่อมในระยะยาว
-โรคอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญของเบาหวาน เนื่องจากไขมันและกลูโคสสะสมในกระแสเลือดมากเกินไป ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินมากขึ้นเพื่อดูดซึมน้ำตาลในเลือด ตับอ่อนทำงานหนักเกินไปมีผลให้น้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติซึ่งเป็น สาเหตุของโรคเบาหวาน ได้เช่นกัน การออกกำลังกายทำให้น้ำหนักลดลง ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยให้ควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น
-การติดเชื้อไวรัส เช่น หัดเยอรมัน คางทูม ทำให้การทำงานของตับอ่อนมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง international hospital แนะนำให้ฉีดวัคซีนรวมให้ครบถ้วนตามกำหนดเพื่อป้องกันไว้ก่อน โดยเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุ 12-15 เดือน ตามด้วยเข็มที่ 2 ช่วงอายุ 4-6 ขวบ ไม่ต้องรอให้เกิดโรคและเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานยิ่งขึ้น
-ความเครียด นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะความดันโลหิตสูง ล้วนเป็นสาเหตุทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและสุขภาพจิตในระยะยาวด้วย
-การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด และยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน สเตียรอยด์มีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากและควบคุมยาก อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้สเตียรอยด์มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกายมีผลให้ติดเชื้อได้ง่าย เป็นอันตรายสำหรับคนที่เป็นแผลบริเวณเท้าแล้วแผลแห้งยาก เสี่ยงที่เชื้อโรคและแบคทีเรียจะลุกลามทำให้ต้องตัดอวัยวะออก
-หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่มีการสร้างฮอร์โมนจากรกและเอนไซม์หลายชนิดมีฤทธิ์ต้านอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือด มักจะเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินในช่วงกลางหรือช่วงปลายของการตั้งครรภ์ซึ่งจะลดลงในระยะหลังคลอดและหายได้เองโดยไม่ต้องทำ การรักษาโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องตรวจเช็กเป็นระยะเพราะถือว่าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานในอนาคต
-พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กินอาหารไขมันสูงและอาหารรสจัด เป็นสาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เป็น สาเหตุของโรคเบาหวาน รวมทั้งส่งผลเสียต่อผู้ป่วยเบาหวานโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ
แนวทางการป้องกันภาวะเสี่ยงเกิดแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องตรวจเช็กและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ร่วมกับการดูแลสุขภาพและ ตรวจ สุขภาพ เป็นประจำทุกปี เพื่อไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงตามมาสมทบ รวมทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดในสมอง หากสงสัยว่าตนเองอาจป่วยเป็นโรคเบาหวานควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะกว่าที่สัญญาณเตือนอาการของโรคจะปรากฏอาจหมายถึงป่วยเป็นเบาหวานระยะร้ายแรงแล้วก็ได้
 
ที่มาข้อมูล
https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/บทความ-เบาหวาน-ความดัน/รู้ได้อย่างไร-ว่าเป็นเบาหวาน-#:~:text=การตรวจเลือดปลายนิ้ว (capillary,ซ้ำทุก 1-3 ปี
https://www.phyathai.com/article_detail/3285/th/อ้วนเมื่อไรเสี่ยงเบาหวานเมื่อนั้น

ไขข้อกังวลเกี่ยวกับโรคหัวใจด้วย โปรแกรม ตรวจ หัวใจ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลศูนย์โรคหัวใจ

         โรคหัวใจ (Heart Disease) เป็นอาการความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจ ซึ่งมีหลายลักษณะบางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่ปกติ บางรายมีปัญหาลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว บางรายมีปัญหาที่กล้ามเนื้อหัวใจหรือปัญหาที่มักพบได้บ่อย ๆ ก็คือ ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งความผิดปกติต่าง ๆ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต ดังนั้นโรคหัวใจจึงเป็นโรคที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตสูง แต่กระนั้นก็สามารถป้องกันและสังเกตอาการเบื้องต้นได้ไม่ยากเพื่อจะได้ดูแลตัวเองและรับการรักษาอย่างทันท่วงที

โรคหัวใจ อาการ ผิดปกติที่สามารถสังเกตได้
 
         โดยปกติแล้วผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจจะสามารถสังเกตอาการต่าง ๆ เหล่านี้ได้ด้วยตนเอง ได้แก่
- อาการเจ็บหน้าอก โดยทั่วไปแล้วอาการนี้อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับหัวใจก็ได้ เพราะบริเวณหน้าอกจะมีอวัยวะอีกหลายส่วนที่อยู่ใกล้กัน แต่ในกรณีที่เป็นสัญญาณความผิดปกติเกี่ยวกับโรคหัวใจโดยเฉพาะภาวะ “หัวใจขาดเลือด” ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บแน่นและอึดอัดบริเวณกลางหน้าอกซึ่งจะเป็นเฉพาะด้านซ้ายหรือทั้งสองด้านก็ได้ ในบางรายจะปวดร้าวลงไปที่แขนทั้งสองข้างหรืออาจจะเป็นเฉพาะข้างซ้ายด้านเดียวก็ได้ทั้งยังมีอาการจุกแน่นบริเวณลำคอ นอกจากนี้ในบางรายจะมีอาการเจ็บบริเวณกรามร่วมด้วย โดยอาการดังกล่าวจะรุนแรงและเด่นชัดมากขึ้นขณะที่ออกกำลังกาย โกรธหรือขณะที่กำลังรีบเร่ง ซึ่งจะทำให้มีอาการเหงื่อออกมากหรือถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้
หอบ เหนื่อยง่ายผิดปกติ อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกันกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคปอด โรคอ้วนหรือโรคแพนิค แต่หากเกิดจาก
- อาการของโรคหัวใจจะสังเกตอาการได้ชัดเจนในขณะผู้ป่วยออกกำลังกาย และหากมีอาการรุนแรงผู้ป่วยก็จะยังคงเหนื่อยหอบแม้จะนอนพัก สำหรับบางรายมีอาการเหนื่อยหอบมากจนไม่สามารถนอนราบได้

- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เต้นผิดจังหวะหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ

- ขาบวม เกิดจากร่างกายมีโซเดียมหรือน้ำคั่งอยู่ในร่างกายโดยสามารถเกิดจากโรคไต หลอดเลือดดำอุดตันก็ได้ ดังนั้นหากมีอาการนี้แพทย์จึงต้องตรวจอย่างละเอียด

- เป็นลม วูบ มีอาการหน้ามืด ตาลายและมองเห็นภาพไม่ชัดเจน เป็นหนึ่งในอาการเตือนของโรคหัวใจได้เช่นเดียวกัน

            จะเห็นได้ว่าหลายอาการเตือนของโรคหัวใจนั้นมีความคล้ายคลึงกับสัญญาณเตือนของโรคอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ดังนั้นหากมีสัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ในโรงพยาบาลต่าง ๆ  ( thailand hospital ) หรือขอเข้า โปรแกรม ตรวจ หัวใจ ซึ่งจะมีให้บริการตามโรงพยาบาลศูนย์โรคหัวใจ ทั่วไปที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับตรวจเช็กความผิดปกติของโรคหัวใจได้อย่างละเอียด และหากมีการตรวจพบความผิดปกติของโรคหัวใจจะได้รับการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

     สำหรับผู้ที่ยังไม่มีสัญญาณความผิดปกติเหล่านี้แต่มีความเสี่ยงในเรื่องของอายุที่เพิ่มขึ้นหรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ควรเข้ารับการ ตรวจ สุขภาพ ประ จํา ปี เป็นการตรวจเช็กร่างกายเพื่อป้องกันก่อนการเกิดโรคได้

ที่มาข้อมูล
www.thaiheart.org/รู้จักหัวใจ/อาการโรคหัวใจ.html

วิธี รักษา โรค หัวใจ  https://www.medparkhospital.com/content/heart-disease

การจัด ฟัน แบบ ใส มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร

        ปัจจุบันการ จัด ฟัน แบบ ใส (Invisalign) เป็นที่นิยมมากเนื่องจากผลิตจากวัสดุที่มีความใสแทบมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน เหมือนการจัด ฟัน แบบ โลหะ ช่วยให้ยิ้มอย่างมั่นใจไม่ทำให้เสียบุคลิก ชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใสทำจากพลาสติกชนิดพิเศษผลิตขึ้นโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสแกนระบบ 3 มิติแทนการพิมพ์ฟัน ผลิตวัสดุจัดฟันเฉพาะบุคคลซึ่งสวมพอดีกับฟันและช่องปากแล้วครอบลงบนฟันทั้งหมดเพื่อปรับแนวฟันเรียงตัวสวยงามอย่างแม่นยำและประหยัดเวลากว่าการจัดฟันแบบปกติ และง่ายกว่าการ จัด ฟัน ด้าน ใน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกของการจัดฟันที่มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟันซึ่งวิธีการยุ่งยากซับซ้อนกว่า ทั้งยังมีราคาแพงกว่าการจัดฟันแบบใสเป็นเท่าตัว

      ชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใสสามารถถอดและใส่ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ช่วยให้ดูแลความสะอาดช่องปากง่ายระหว่างจัดฟัน สามารถแก้ไขปัญหาฟันเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนเก ฟันห่าง ใส่ รากฟัน เทียม ปัญหาการสบฟันไม่ปกติ ขากรรไกรล่างยื่น หรือแม้แต่การจัดฟันร่วมกับการตกแต่งเหงือก

โรง พยาบาล พระราม 4 มีโปรแกรมการ จัด ฟัน แบบ ใส แบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ดังนี้

1.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ เอ็กซ์เพรส (Invisalign Express) ใช้ชุดเครื่องมือจัดฟัน 7 ชุดเท่านั้น เหมาะสำหรับการจัดฟันกรณีที่มีฟันซ้อนเกหรือฟันห่างเพียงเล็กน้อย 1-2 ซี่ หรือในกรณีที่เคยจัดฟันมาก่อนและฟันยังไม่ยึดกระดูกสมบูรณ์แต่ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์หลายวัน ทำให้ฟันเคลื่อนตัวออกจากที่ สามารถแก้ไขได้ด้วยการการจัดฟันใสแบบเอ็กซ์เพรสช่วยผลักฟันกลับไปตำแหน่งเดิม วิธีนี้ใช้เวลาจัดฟันประมาณ 2-3 เดือน
2.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ ไลท์ (Invisalign Lite) ใช้ชุดเครื่องมือจัดฟันระหว่าง 7-14 ชุด เหมาะสำหรับแก้ไขฟันห่าง ฟันซ้อนฟันเก ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ปรับโครงสร้างฟันให้เคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ต้องการ แทนการใส่เหล็กจัดฟัน ทำให้ฟันเรียงตัวเป็นระเบียบและสบฟันได้ตามปกติ โดยใช้เวลาทำประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี
3.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ โก (Invisalign Go) ใช้ชุดเครื่องมือจัดฟัน 20 ชุดขึ้นไป เหมาะสำหรับกรณีที่ฟันซ้อนเกไม่มากนัก หรือเคยจัดฟันมาก่อนแต่ไม่ได้ใส่เครื่องมือคงสภาพฟันเป็นประจำและทำให้ฟันเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยใช้เวลาทำประมาณ 3-6 เดือน
4.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ โมเดอเรท (Invisalign Moderate) ใช้ชุดเครื่องมือจัดฟัน 15-26 ชุด เหมาะสำหรับแก้ปัญหาความผิดปกติของฟันระดับปานกลางถึงมาก โดยใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ปี
5.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ ฟูล (Invisalign Full) ใช้ชุดเครื่องมือจัดฟัน 27 ชุดขึ้นไป เหมาะสำหรับกรณีที่มีฟันซ้อนเกหลายซี่ หรือการสบฟันผิดปกติมากซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ โรคเหงือก และเคี้ยวบดอาหารลำบาก วิธีนี้สามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันครอบคลุมทุกรูปแบบ โดยใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ปี
6.การจัดฟันใสแบบอินวิสไลน์ ทีน (Invisalign Teen) เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่เข้ารับการจัดฟันโดยไม่ใช้ลวดโลหะ จำนวนชุดจัดฟันไม่แน่นอน ตามระยะเวลาที่เหมาะสมจนกว่าฟันจะเรียงตัวสวยตามต้องการ

ข้อดีของการ จัด ฟัน แบบ ใส มีดังนี้
- วัสดุพลาสติกพิเศษมีลักษณะใส มองเกือบไม่เห็นว่าจัดฟันอยู่
- ถอนและใส่ด้วยตัวเองได้ง่าย
- ดูแลความสะอาดง่าย ใช้แปรงสีฟันและไหมขัดฟันทำความสะอาดได้ตามปกติ ลดปัญหาฟันผุและกลิ่นปาก
- อุปกรณ์จัดฟันผลิตจากเทคโนโลยีสแกน 3 มิติมีขนาดพอดีกับช่องปากเฉพาะบุคคล ไม่ค่อยมีปัญหาในการพูดและเคี้ยวอาหาร
- เจ็บน้อยกว่าการจัดฟันทั่วไป วัสดุจัดฟันแบบใสมีผิวสัมผัสเรียบ ไม่มีปัญหาเหล็กจัดฟันเกี่ยวเนื้อเยื่อในช่องปาก ไม่ระคายเคืองช่องปากและเหงือกบวมแดง
- ระยะเวลาจัดฟันสั้นกว่าการจัดฟันแบบโลหะและไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย

ที่มาข้อมูล
https://www.medparkhospital.com/content/invisalign-go
https://www.caredental.clinic/invisalign/
https://www.cosdentbyslc.com/orthodontic/invisalign/
https://hdmall.co.th/dental-clinics/orthodontics-invisalign-lite-28-aligners-bangkok-smile-dental

มาทำความรู้จัก ยางรถยนต์ แต่ละประเภทกันว่าเหมาะสมกับการใช้งานต่างกันอย่างไร

       รถยนต์แต่ละคันมีการใช้งานที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ก็ย่อมมีความต้องการคุณสมบัติของยางที่แตกต่างกันออกไปด้วย ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักยางที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกัน และเหมาะสมกับการใช้งานบนท้องถนนบ้านเรากัน ซึ่งประกอบไปด้วย 1) Touring Tires 2) High Performance Tires 3) Fuel Efficiency Tires 4) Off-road Tires 5) Run-Flat Tires

1.       Touring Tires
ยางรถยนต์ ประเภทนี้เหมาะสำหรับสายชอบทัวร์หรือการเดินทางที่ต้องการความนุ่มเงียบ ด้วยดอกยางขนาดเล็กและละเอียด ทำให้ยางสามารถเกาะถนนเรียบได้ดี และลดเสียงรบกวนระหว่างเดินทาง ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น TURANZA T005A ที่เป็นยางที่เหมาะกับการใช้งานโดยสารในเมืองเป็นหลัก ที่ช่วยให้การขับขี่นั้นมีความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวน
2.       High Performance Tires
ยางประเภทนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะในการขับขี่ที่สูง เป็นรุ่นตัวท็อปของแต่ละยี่ห้อ ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยด้วยความเร็วสูงทั้งทางตรงและทางโค้ง ให้ระยะเบรกที่สั้นและช่วยในการควบคุมทิศทางของรถได้ดีทั้งบนสภาพถนนที่เปียกและแห้ง ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น POTENZA ADRENALIN RE004 และ POTENZA S007A ที่เป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แนวยางสปอร์ตและต้องการการเบรกที่ดียิ่งขึ้น
3.       Fuel Efficiency Tires
เน้นการประหยัดเชื้อเพลิงในการเดินทางได้มากขึ้นกว่าเดิม เหมาะสำหรับการใช้งานในยุคที่เชื้อเพลิงมีราคาแพงและผู้ต้องขับขี่เป็นประจำที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง ช่วยให้รถยนต์ของคุณวิ่งได้ไกลขึ้นกว่าเดิมด้วยการใช้เชื้อเพลิงเท่าเดิม ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น ECOPIA EP300 และ ECOPIA H/L 001 ที่เป็นยางที่รีดประสิทธิภาพเรื่องการประหยัดพลังงานออกมาสูงสุด
4.       Off-road Tires
ยางรถยนต์ 4x4 ที่เหมาะสำหรับการใช้งานสมบุกสมบันบันและมีการบรรทุกที่หนักหน่วง ยางประเภทนี้ยังสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น A/T All Terrain ที่สามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิวจราจร ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น ALL TERRAIN 697, ALL TERRAIN 693 และ DESTINATION A/T เป็นต้น และอีกประเภทหนึ่งก็คือ ยาง M/T Mud Terrain ที่เหมาะกับการวิ่งบนผิวขรุขระและผิวโคลน ด้วยการออกแบบดอกยางให้แข็งแรงขึ้นและมีร่องยางที่ใหญ่ช่วยในการตะกุย ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น MUD TERRAIN 674 ที่เป็นยางออฟโรดอย่างแท้จริง
5.       Run-flat Tires
เป็นยางที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่เช่นเดียวกันกับยางประเภท High Performance Tires แต่มีข้อแตกต่างตรงที่มีการเสริมด้วยเทคโนโลยีรันแฟลต ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุยางรั่วหรือยางแตกจะทำให้รถยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้งานในรถยนต์ส่วนบุคคลขนาดใหญ่หรือรถยนต์แนวสปอร์ต ตัวอย่างเช่น ยางรุ่น POTENZA S001 RFT, TURANZA ER300 RFT ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ที่สูง ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ และให้ความปลอดภัยสูงสุด

จะเห็นได้ว่า เราสามารถแบ่งประเภทของยางออกได้เป็น 5 ชนิด ตามลักษณะของการขับขี่ที่ได้รับ คือ

1) Touring Tires 2) High Performance Tires 3) Fuel Efficiency Tires 4) Off-road Tires 5) Run-Flat Tires โดยรุ่นต่าง ๆ ที่กล่าวแนะนำไว้ข้างต้นนั้น เป็นของแบรนด์ Bridgestone ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คนไทยได้ให้ความไว้วางใจ หาศูนย์บริการได้ง่าย และผลิตยางออกมาหลากหลายรุ่น ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันทุกประเภท ทำให้คุณสามารถเลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติตรงตามที่คุณต้องการ มั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการ โดยสามารถเช็กรุ่น และ ราคายางรถยนต์ ได้ที่ https://www.bridgestone.co.th/th
 


ที่มาข้อมูล
https://www.bridgestone.co.th/en/tire-type

หาคำตอบมาให้แล้ว การขับขี่แบบไหนถึงควรเลือกใช้ ยาง firestone?

   ยางรถยนต์ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถที่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง เนื่องจากเป็นเพียงส่วนเดียวของรถยนต์ที่สัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ผู้ใช้รถส่วนใหญ่จึงมักให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ยางของตัวเองอย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกยางให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเองให้มากที่สุดเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด ซึ่ง “firestone” ถือหนึ่งในยางยอดฮิตที่ผู้ใช้รถหลายคนเลือกใช้ เพราะนอกจากจะตอบโจทย์สไตล์การขับขี่ที่หลากหลายแล้ว ยังสามารถใช้ได้กับรถยนต์มากมายหลายรุ่นหลายขนาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถบางคนก็ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้อยางประเภทไหนจึงเหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเองดี ดังนั้น วันนี้เราจึงจะพาไปหาคำตอบกันว่า การขับขี่แบบไหนถึงควรเลือกใช้ ยาง firestone?
   
สไตล์การขับขี่รถยนต์แต่ละประเภท
   เพื่อให้ง่ายสำหรับการเลือกใช้ยางให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่แต่ละประเภท เราจึงจำแนกสไตล์การขับขี่ที่สังเกตได้ง่าย ๆ มาให้ลองเปรียบเทียบกับการขับขี่ของตัวเองกัน ได้แก่
   การขับขี่ทั่วไป: ไม่เน้นการใช้ความเร็วสูง หรือการเดินทางระยะไกลเป็นประจำ ส่วนใหญ่มักใช้ในเดินทางในชีวิตประจำวัน เช่น ขับขี่ไปทำงาน, ขับขี่บนถนนในเมือง รวมถึงการขับขี่ระยะไกลเป็นครั้งคราว โดยยางที่เหมาะสมกับการขับขี่ประเภทนี้ควรมีสมรรถนะ “นุ่มเงียบ” ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เพิ่มความรู้สึกนุ่มสบายตลอดการเดินทาง
   ใช้ความเร็วสูง (สปอร์ต): เน้นการใช้ความเร็วสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โชว์สมรรถนะเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ยางที่เหมาะสมจึงควรเป็นยางที่สามารถยึดเกาะถนนได้ดี ทนความร้อนที่เกิดจากการใช้ความเร็วได้ และตอบสนองต่อพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ 
   การขับขี่เชิงพาณิชย์: เน้นความทนทานและการขับขี่ระยะไกลพร้อมน้ำหนักบรรทุกมาก ๆ ยางที่เหมาะจึงควรเป็นยางที่รับน้ำหนักได้ดี มีความนุ่มนวล ลดแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนที่จะส่งผลกระทบต่อสินค้าที่บรรทุกมาได้เป็นอย่างดี
   
   การขับขี่วิบาก (ออฟโรด): เน้นการเดินทางท่องเที่ยวประเภทบุกป่าฝ่าดง พร้อมลุยทุกสภาพถนนทั้งทางลูกรังและดินโครน ยางที่เหมาะสมจึงควรมีสมรรถนะยึดเกาะทุกสภาพถนน มีความทนทานสูง สามารถตะลุยไปได้แทบทุกสภาพพื้นผิว รับแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี
การขับขี่แบบไหนถึงควรเลือกใช้ ยาง firestone?
   สำหรับ ยางรถยนต์ firestone ของ BRIDGESTONE ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ทุกสไตล์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ทั่วไป, การขับขี่สไตล์สปอร์ต, การขับขี่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการขับขี่แบบออฟโรด โดย firestone มียางให้เลือกใช้งานหลายรุ่นตามสไตล์การขับขี่ ได้แก่
   - FIREHAWK SPORT 01: ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการขับขี่สไตล์สปอร์ตโดยเฉพาะ นิยมกับรถยนต์ส่วนบุคคลทั้ง Toyota Yaris, Honda Jazz, Toyota Corolla Altis, Honda Civic, Toyota Camry, Honda Accord ฯลฯ
   - F01 FUEL FIGHTER: เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป เน้นการยึดเกาะถนนทุกสภาพผิว เพิ่มความนุ่มเงียบ และการช่วยประหยัดน้ำมัน นิยมใช้กับรถยนต์หลายรุ่น เช่น Nissan March, Honda Brio, Mitsubishi Mirage, Honda Jazz, Honda City, Toyota Vios, Toyota Corolla Altis, Honda Civic ฯลฯ
   - DESTINATION LE-02 PICK UP: เหมาะสำหรับใช้บรรทุกและขนส่งทั่วไป เน้นความนุ่มสบาย และความทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน นิยมใช้กับรถกระบะและรถตู้หลายรุ่น เช่น Toyota Revo, Toyota Commuter, Isuzu D-Max, Mitsubishi Triton, Mitsubishi Strada, Chevrolet Colorado, Ford Ranger, Mazda BT-50 Pro, Nissan Frontier ฯลฯ
   - DESTINATION A/T: ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ทุกสภาพถนน ทั้งการขับขี่บนทางเรียบและทางขรุขระ มีความทนทานสูง สามารถตะลุยไปบนทางขรุขระได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นิยมใช้ในรถออฟโรด, รถ 4x4, รถกระบะ, SUV หลายรุ่น เช่น Toyota Vigo, Toyota Fortuner, Isuzu D-Max, Isuzu Mu-7, Isuzu Rodeo, Mitsubishi Triton, Mitsubishi Pajero Sport, Chevrolet Colorado, Chevrolet Trailblazer, Ford Ranger ฯลฯ
   เรียกได้ว่า ยาง firestone สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มสมรรถนะทุกสไตล์การขับขี่ นอกจากนี้ยังยางให้เลือกมากมายหลายรุ่นซึ่งสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bridgestone.co.th/th/tire-brand/firestone เราหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกยางที่ราคายางรถยนต์เหมาะสมและตรงกับสไตล์การขับขี่ของตัวเองได้เพื่อสมรรถนะในการขับขี่สูงสุด

ที่มาข้อมูล
https://www.bridgestone.co.th/th/tire-brand/firestone
https://www.bridgestone.co.th/th/tire-type

ทาวน์โฮม บางนา COVER by Nirvana โครงการใหม่ของคนอยากมีบ้าน

   การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังเป็นความใฝ่ฝันของหลายคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะหากพิจารณาถึงความคุ้มค่าในระยะยาวแล้ว การมีบ้านถือว่าคุ้มค่ามากกว่าการเช่าอยู่มากเลยทีเดียว ซึ่งโครงการบ้านใหม่ในกรุงเทพฯ ที่มีให้คนกรุงได้เลือกนั้นก็ถือว่ามีจำนวนมาก แต่ ทาวน์โฮม บางนา COVER by Nirvana นี้มีความโดดเด่นอะไรที่ทำให้คนอยากมีบ้านต้องเลือก เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยดีกว่า

แบบบ้านและแปลนบ้านที่คนอยากมีบ้านต้องการ

- แบบ COVER A ให้พื้นที่ใช้สอยมาทั้งหมด 133 ตร.ม. โดยมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน เหมาะกับคนที่ต้องการมีบ้านเพื่อใช้ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง โดยมีพื้นที่ในแต่ละส่วนของบ้านกว้างขวาง ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อต้องอยู่ร่วมกันหลายคน

- แบบ COVER B ให้พื้นที่ใช้สอยมาทั้งหมด 112 ตร.ม. โดยมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน อาจดูเหมือนเป็นแบบบ้านที่มีขนาดเล็กกว่าแบบ A แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจัดสรรพื้นที่ภายในตัวบ้านและพื้นที่รอบบ้านที่ทางโครงการได้มอบให้กับเจ้าของบ้านนั้นสามารถทำให้เจ้าของบ้านสัมผัสได้ถึงความโอ่อ่าและโล่งสบายไม่แตกต่างกัน

ทาวน์โฮมใหม่ ที่ให้สิ่งอำนวยความสะดวกครบ

- ฟิตเนส มีเครื่องเล่นที่ใช้ในการออกกำลังกายหลายรูปแบบ ให้เจ้าของบ้านและสมาชิกบ้านได้เข้ามาใช้บริการเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีไปด้วยกัน
- สระน้ำ เป็นระบบน้ำเกลือที่สมาชิกครอบครัวที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็กสามารถมาทำกิจกรรมด้วยกันที่สระว่ายน้ำได้เสมอ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยเป็นระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และมีระบบกล้องวงจรปิด CCTV ที่คอยบันทึกไว้ตลอดเวลา
- เดินทางได้ง่ายในทำเลคมนาคมที่สะดวก รถไฟฟ้า Airport Link สถานีบ้านทับช้าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับเจ้าของบ้านที่ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
- ทางด่วนวงแหวน บางนา-บางปะอิน ให้เจ้าของบ้านที่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางได้สะดวกมากกว่า 1 เส้นทางถนนหลัก โดยเป็นทางด่วนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าของบ้านเดินทางเข้า-ออกนอกเมืองได้ง่าย
- ห้างสรรพสินค้า Seacon Square, Paradise Park และ Mega Bangna ที่อยู่ใกล้โครงการ โดยเจ้าของบ้านสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะได้ตามความสะดวก

       ต้องบอกว่า หมู่บ้านแถวบางนา โครงการทาวน์โฮมใหม่ จาก เนอวานา นี้สามารถตอบโจทย์ให้คนอยากมีบ้านที่อยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางเข้าออกนอกเมืองได้สะดวก มีการคมนาคมที่คล่องตัวและเป็นโครงการทาวน์โฮมที่คนทำงานมาแล้วสักระยะหนึ่งสามารถเอื้อมถึงได้ หมู่บ้าน เนอ วา นา นี้จึงเหมาะกับการเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนอยากมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง