แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - guupost

หน้า: 1 [2]
16


เส้นผม นับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความงามและความมั่นอกมั่นใจให้ใครหลายๆ คน ปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายที่ช่วยทำให้เส้มผมนุ่มสลวย เงางาม แลดูมีน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นแชมพูสูตรเสริมวิตามินบำรุงเส้นผม ครีมนวดผม ทรีตเมนต์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมเองได้ตามความต้องการ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคอร์สสปาผม ที่ต้องเดินทางไปทำที่ร้านทำผมหรือสถาบันเสริมความงาม แต่หลายคนอาจงงว่า สปาผม คืออะไร จำเป็นต้องทำเป็นประจำหรือไม่ ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมได้จริงหรือไม่ HonestDocs มีคำตอบ

สปาผมคืออะไร
สปาผม คือกระบวนการเสริมความงามที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผมและบำรุงหนังศีรษะอย่างเข้มข้น เพื่อให้เส้นผมนุ่มสลวย เงางาม แลดูสุขภาพดี โดยคอร์สสปาผมในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ น้ำมันสกัดเย็น หรือวิตามินต่างๆ ชโลมไปที่เส้นผมและหนังศีรษะแล้วทิ้งไว้เพื่อให้สารสำคัญซึมซาบสู่เส้นผมและรากผม การใช้เทคโนโลยีจำพวกการอบไอน้ำเข้ามาช่วยบำรุงเส้นผม หรือบางคอร์สอาจมีการนวดศีรษะเพื่อการผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับเทคนิคของร้านทำผมหรือสปาแต่ละแห่ง

จำเป็นต้องทำสปาผมหรือไม่?
ก่อนจะทราบว่าเราจำเป็นต้องทำสปาผมหรือไม่ ลองมาทำความเข้าใจลักษณะเส้นผมโดยธรรมชาติกันก่อน โดยมีองค์ประกอบดังนี้
- โปรตีน 80%
- น้ำ 10-15%
- เม็ดสีผม แร่ธาตุและไขมันประมาณ 5-10%

หากนำเส้นผมมาตัดขวางจะพบว่าเส้นผมของเราแยกส่วนประกอบได้ 3 ชั้น ซึ่งได้แก่
- ผิวนอก (Cuticle) มีลักษณะเป็นเกล็ดใสๆ โปร่งแสงไม่มีสี เรียงซ้อนกันแบบเกล็ดปลาอยู่ชั้นนอกสุดของเส้นผม โดยองค์ประกอบหลักของเส้นผมชั้นนี้คือเคราติน ทำหน้าที่ห่อหุ้มเส้นผม ป้องกันสิ่งสกปรกที่จะซึมผ่านเข้าไปทำลายเส้นผม ปกป้องเนื้อผมไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น ปกป้องเส้นผมจากแสงแดดและรังสียูวี นอกจากเคราตินแล้วผิวชั้นนอกยังมีน้ำมันตามธรรมชาติเคลือบอยู่ด้วย ช่วยทำให้ผมเรียบรื่น เป็นเงางาม

- เนื้อผม (Cortex) เป็นชั้นที่มีความหนาที่สุดและเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผม ชั้นเนื้อผมเป็นแหล่งรวมของเม็ดสี (pigment) เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวกำหนดสีผม มีช่องอากาศ โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีนที่เกาะเกี่ยวกัน ช่วยให้ผมมีความนุ่มและยืดหยุ่น

- แกนผม (Medulla) ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมัน แกนผมนับว่าไม่มีบทบาทในการทำงาน ส่วนมากจะพบในผมที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยผมเส้นเล็กมักไม่มีแกนผม

ตามปกติเส้นผมของเราจะมีความแข็งแรง นุ่มสลวยเป็นทุนเดิม แต่หากมีสิ่งเร้ามากระทบ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด สารเคมี สภาพอากาศ ฝุ่นควันหรือมลพิษต่างๆ อาจส่งผลให้ผิวนอกถูกทำลาย ทำให้ผมมีอาการชี้ฟู แห้งแตก กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ขาดความมั่นอกมั่นใจได้ หลายท่านจึงเลือกเข้ารับบริการสปาผม เพื่อฟื้นบำรุงสภาพผมให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

สำหรับท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม หนังศีรษะ หรือผู้ที่เส้นผมได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้าบ่อยๆ อาทิเช่น ใช้ครีมเปลี่ยนสีผม หรือสเปรย์จัดแต่งทรงผมเป็นประจำ คอร์สปาผมก็ถือว่ามีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาผมชี้ฟู ขสดหลุดร่วงลงได้ ซึ่งอาจเข้ารับบริการเดือนละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคน

ติดตามอ่านข้อดีของการทำสปาผมได้ที่ https://www.honestdocs.co/hair-spa

17


การนวดไทย หรือที่เรียกกันโดยทั่ว ๆ ไปว่านวดแผนโบราณ เป็นการรักษาที่เรียกว่าหัตถเวชกรรมไทย โดยใช้การบีบ การนวด คลึง ดัด ดึง กด ทุบ เคาะ สับ ประคบร้อน อบ เพื่อให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนได้อย่างสมดุล

นวดไทยมีกี่ประเภท
การนวดไทย นอกจากจะแบ่งตามลักษณะการนวดที่มีมาแต่โบราณออกได้เป็น 2 ประเภทคือ การนวดแบบเชลยศักดิ์และการนวดแบบราชสำนักแล้ว ยังสามารถแบ่งตามสรรพคุณได้ 4 ประเภทคือ นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อการบำบัดรักษา นวดป้องกันโรค และนวดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ
1. การนวดเพื่อสุขภาพ เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี เส้นเอ็นที่ตึงจะหย่อนลง ทำให้ข้อต่อต่างๆ ของร่างกายไม่ติดขัด
2. นวดเพื่อบำบัดรักษา คือการนวดที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะในการักษาโรคหรือรักษาผู้ป่วย เน้นนวดเพื่อให้อาการของกล้ามเนื้อและข้อต่อดีขึ้น ช่วยให้ขยับข้อต่อได้สะดวกยิ่งขึ้น การนวดในลักษณะนี้ ได้แก่โรคเกี่ยวกับปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ดังเช่น ปวดหลัง ปวดคอ โรคเกี่ยวกับข้อต่อ อย่างเช่น ไหล่ติด เข่าตึง ส่วนที่นิยมนำมาใช้เป็นการรักษาเสริม เช่น ปวดหัว โรคเครียด โรคนอนไม่หลับการนวดรูปแบบนี้ผู้นวดต้องมีความรู้เรื่องโรคต่าง ๆ ที่ให้การรักษาอย่างมาก
3. นวดเพื่อป้องกันโรค การนวดแนวนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อยและไม่ได้เคลื่อนไหว อาทิ ผู้ป่วยนอนติดเตียง ช่วยลดการเกิดแผลจากกดทับที่ผิวหนังหุ้มกระดูก การตบบริเวณหน้าอกช่วยขับเสมหะออกจากปอดป้องกันเสมหะอุดตันที่หลอดลม
4. นวดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นการนวดเพื่อให้ร่างกายกับสู่สภาวะปกติ เหมาะสมกับผู้ที่ป่วยเรื้อรัง เป็นต้นว่า ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคพาร์กินสัน ซึ่งจะช่วยลดอาการเกร็ง ทำให้การฟื้นตัวในการทำงานของร่างกายดีขึ้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากที่สุด และช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการนวดในนักกีฬาทั้งก่อนและหลังการเล่นกีฬา รวมถึงการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

องค์ประกอบการนวด
การนวดแต่ละครั้งอาจมีกรรมวิธีหลายอย่างประกอบกันดังนี้
- นวดด้วยมือ เป็นการใช้มือทั้ง 2 ข้างนวดคลึงด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่ กด บีบ บิด ดึง ดัด ทุบ เคาะ สับ เพื่อสร้างความผ่อนคลายจุดต่างๆ ของร่างกายตั้งแต่นวดตัว (Body massage) เพื่อการปรับสมดุลของสรีระ นวดฝ่าเท้า (Foot massage) ช่วยผ่อนคลายเส้นเอ็น น่อง ขา และเข่า อาจใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือผสมผสานกันก็ได้
- นวดน้ำมัน (Aroma therapy) การนวดน้ำมันจะใช้น้ำมันอโรม่า ที่สกัดจากพืชธรรมชาติมีกลิ่นหอมช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นวิธีบำบัดด้วยกลิ่นและการซึมเข้าผิวหนัง เช่นว่า น้ำมันกุหลาบลดความเครียดได้ น้ำมันเซจลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ลดปฏิกิริยาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ
- นวดประคบ (Herbal ball massage) การประคบสมุนไพรมักเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากนวดเสร็จแล้ว ใช้เวลาประคบราว 15-20 นาที โดยใช้ความร้อนช่วยให้สมุนไพรซึมเข้าสู่ผิวหนัง สามารถช่วยให้ลดความปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดการติดขัดของข้อต่อ เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น สมุนไพรที่นิยมใช้ประคบได้แก่ ตะไคร้ มะกูด ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ไพล ใบมะขาม ใบส้มป่อย ใบพลับพลึง

ติดตามอ่านบทความหัวข้อ นวดไทย ต่อกันได้ที่ เว็บไซต์ : https://www.honestdocs.co/thai-massage

18

ดื่มเหล้ามากๆ ระวังจะตับแข็ง เชื่อเหลือเกินว่า แทบทุกคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้าง แต่ทราบไหมว่าจริงๆ แล้วพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคตับ ไม่ใช่แค่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่การทานอาหารที่มีไขมันสูง การทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าใครรู้ตัวว่า กำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยง การตรวจตับก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ท่านรู้ว่า ตอนนี้ตับของคุณยังแข็งแรงอยู่หรือไม่

ทำไมเราจึงต้องตรวจตับ?
ตับเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญ เนื่องจากตับมีหน้าที่หลากหลาย ทั้งเป็นแหล่งผลิตสารสำคัญต่างๆ ในร่างกาย เป็นแหล่งสะสมอาหาร เป็นแหล่งสร้างน้ำดี ขับของเสียออกจากร่างกาย ป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม เป็นแหล่งรีไซเคิลโปรตีนในร่างกายของเราให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้งโดยไม่มีอวัยวะใดมาทำหน้าที่เหล่านี้แทนได้เลย ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ยังไม่สามารถคิดค้น หรือผลิตอุปกรณ์ใดๆ มาทำหน้าที่แทนตับได้เช่นกัน

ตับนับว่าเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์อย่างมากเพราะแม้จะถูกทำลายจนเหลือใช้งานได้เพียง 30% แต่ก็ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แถมยังมีกลไกในการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองอีกด้วย (ต่างจากอวัยวะอื่นๆ ที่หากถูกทำลายไปแล้วก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลย)

ด้วยความมหัศจรรย์นี้เอง ทำให้เราไม่เคยรับรู้ถึงสัญญาณเตือนใดๆ ว่า ตับของเรากำลังมีปัญหาอยู่หรือไม่ จึงทำพฤติกรรมที่ทำลายตับไปเรื่อยๆ (แม้ว่าตับของเรานั้นจะซ่อมแซมตัวเองได้ แต่หากถูกทำลายซ้ำๆโดยไม่ได้หยุดพัก ก็เกิดปัญหาได้เช่นกัน)

ผู้ที่เป็นโรคตับส่วนมากจึงมาพบคุณหมอเมื่ออาการของโรคลุกลามไปมากจนเกินเยียวยาและอาจส่งผลให้เป็นอันตรายถึงชีวิต

การตรวจตับอย่างเป็นประจำในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องมาจากหากรับทราบถึงปัญหาและหยุดยั้งสาเหตุที่ทำลายตับได้ทันก็มีโอกาสหายจากโรคนั้นๆ ได้ และตับนั้นก็ยังสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติได้อีกครั้ง

ใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรตรวจตับบ้าง? ติดตามต่อได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.honestdocs.co/liver-check

19


ฮัลโหลซิสสายแฟชั่นตัวแม่สุดจี๊ดทั้งหลาย! เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีมาได้ซักพักใหญ่จนใกล้จะได้ฤกษ์นับวันรอเตรียมเค้าท์ดาวน์เข้าสู่ปี 2020 กันแล้ว จะบอกว่า มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรเฝ้าคอยก็คือ อัพเดทเทรนด์แฟชั่นที่มีแนวโน้มว่า ในปีหน้ามาแน่แม่ จะได้นำกระแสหรือเตรียมเนื้อเตรียมตัวเข้าเทรนด์ได้แบบไม่มีเอาท์ ในครั้งนี้เรานั้นเลยขอยก กระเป๋าสตางค์ใบยาวที่มีแววฮิตเปรี้ยงปร้างในช่วงปี 2020 นี้มาอัพเดทให้สาวๆ ได้ชมกันว่า ใบไหนเป็นของที่มันต้องมีบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วก็ตามมากันเลย


เทรนด์แรก : กระเป๋าคลัทช์ขนาดใหญ่
ใครที่ส่องติดตามเทรนด์แฟชั่นอยู่แล้วคงจะพอเคยเห็นกระเป๋าคลัทช์ขนาดใหญ่กันมาบ้าง โดยหน้าตารูปทรงของนางจะมีความต่างจากกระเป๋าสตางค์ใบยาวปกติไปอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะขนาดที่ค่อนข้างใหญ่สามารถใส่ได้หลายสรรพสิ่ง ทั้งกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก เครื่องสำอาง ของเล็กน้อย ฯลฯ และรูปทรงที่เปลี่ยนจากหน้าตาดูคล้ายคลึงกระเป๋าสตางค์สะพายข้างกลายเป็นเหมือนกระเป๋าทรงถุงจนมีคนเรียกอีกชื่อว่า Pouch ใช้งานด้วยการใส่ของแล้วหนีบไว้ตรงข้อพับแขน ตอบโจทย์ได้ทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียน ไปจนถึงวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงวัย แต่เท่าที่เห็น เราว่า กลุ่มสาววัยทำงานนี่แหละมีไว้พกแล้วเป๊ะ หนีบข้างตัวแล้วปังสุดๆ ไปเลย


เทรนด์สอง :  กระเป๋าคลัทช์รูปทรงแปลกตามศิลปะสมัยใหม่
อยากจะอัพเดทเทรนด์ให้เก๋ล้ำนำใคร ต้องแปลกใหม่ และแตกต่างแบบฉีกแนวไปเลย หากนึกสไตล์ไม่ออกขอนำเสนอให้ล่องส่องตามงานแฟชั่นวีค อาทิ กระเป๋าคลัทช์ล่าสุดจาก YSL ที่ทำเป็นทรงสามเหลี่ยม เน้นว่า สามเหลี่ยมนะคะ ไม่ใช่ขนมจีบเด้อ, ส่วน off white ก็ไม่ยอมแพ้ตีความแซ่บในแบบเรียบๆ ตรงคอนเซ็ปต์น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชึ่น ได้เลย ทรงมนเรียบๆ สไตล์วินเทจร่วมสมัย โดยเพิ่มความสวยได้ตรงที่ทำออกมาสมกับที่เป็นกระเป๋าสตางค์ใบยาวได้สมชื่อ ยาวประมาณจากมือถึงข้อศอกเลยทีเดียว ฯลฯ


เทรนด์สาม :  กระเป๋าแบบเป็นเข็มขัดแนบตัว หรือกระเป๋าคาดเอว
หลายช่วงเวลาที่กระเป๋าแนวแบบเข็มขัดโดยมีกระเป๋าสตางค์ใบยาวแนบอยู่ด้วยจะถูกหยิบมาเป็นอินสปายเรชั่นเพื่อสร้างสรรค์กระเป๋าแนวใหม่ให้สวยล้ำนำเทรนด์ใคร โดยในปี 2020 นี้มีแนวโน้มที่กระเป๋ารูปทรงหน้าตาแบบนี้จะถูกนำกลับมาใช้และฮิตติดเป็นกระแสอีกครั้ง เนื่องด้วยเทรนด์การแต่งกายแนววินเทจยังคงอยู่ต่อ เมื่อแต่งตัวแนวนั้นแล้วคาดกระเป๋าเข็มขัดแบบนี้มันช่างดูเข้ากันซะเหลือเกิน แต่ใบที่จะฮิตก็จะมีความแปลกใหม่และเก๋ไก๋เพิ่มขึ้นมาบ้าง อาทิเช่น มีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ เรียงร้อยหลายใบไว้เป็นแถบ ฯลฯ


เทรนด์สี่ : กระเป๋าสตางค์ใบยาวที่มีหน้าตาเป็นเจ้าขนปุกปุย
เพื่อนขนยังคงมาเหมือนเดิม โดยเริ่มกลับมาตั้งแต่ที่ เจ้ากระเป๋า Valentino SS19 ถูกรังสรรค์ไปด้วยขนรอบใบ สร้างกระแสฮือฮาให้เริ่มมีการทำกระเป๋าสไตล์สวมวิญญาณเจ้าขนปุกปุย และแน่นอนว่า หนึ่งในกระเป๋าที่ถูกหยิบมาตกแต่งเพิ่มความเก๋ไก๋ให้พร้อมนำกระแสในปี 2020 นี้ ก็มี กระเป๋าคลัทช์ หรือกระเป๋าสตางค์ใบยาวรวมอยู่ด้วย จนติดอันดับหนึ่งใน The Best Bag Trends ของเว็บ ELLE

เทรนด์ห้า : เฉดสีกระเป๋าสตางค์ใบยาวที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไป
จากที่ช่วงก่อนหน้านี้ คุณ ๆ จะเลือกสีโทนมินิมอลหรือออกแนวพาสเทลโทนสีลูกกวาดไปเลย ในช่วงตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2019 ไปจนถึง 2020 นี้ เฉดสีที่ค่อนข้างโดดเด่น มีความสด แต่ก็ไม่แปร๋น ดูแล้วสบายตา เช่น สี Lazy Purple ,  Contrast Teal, Summer Dark Forest, Tangerine Blues, Silver Flamingo, Purple Bluebird, Red Sunflower Shadow, Glacier Pea Green ฯลฯ


เทรนด์หก : กระเป๋าสตางค์ใบยาวแนววินเทจยังคงเป็นที่นิยมตลอดกาล
ถ้าจะพูดว่า แฟชั่นเป็นศิลปะที่อมตะ ก็คงจะไม่ผิดซักเท่าไหร่ เหตุเพราะช่วงเวลาหนึ่งแฟชั่นสไตล์นี้อาจจะหายไปแต่วันหนึ่งก็อาจจะถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นและกลับมาฮิตอีกครั้งก็ได้ใครจะรู้ และเทรนด์ที่ช่วยตอกย้ำคำพูดนี้ได้เป็นอย่างดีก็คือ กระเป๋าสตางค์ใบยาวแนววินเทจก็ยังคงฮิตตลอดกาล มีหลายแบรนด์ที่ทำสไตล์นี้ อย่างเช่น Tory Burch, Versace ฯลฯ ถ้าหยิบชุดรุ่นคุณแม่ขึ้นมาแต่งก็จะได้ฟีลวินเทจย้อนยุค แต่หากหยิบชุดสไตล์ในปัจจุบันก็จะได้ความมินิมอลดูเรียบง่าย ร่วมสมัย แต่ไม่เชยไปอีกแบบ


แถมอีกนิด : เคล็ดไม่ลับกับการเลือกกระเป๋าสตางค์ใบยาว
สาวๆ คนไหนที่อ่านมาจนเริ่มรู้สึกว่า เราจะต้องมีกระเป๋าสตางค์ใบยาวอีกซักใบ ไว้ครอบครองให้ทันเทรนด์ช่วงปีที่จะถึงนี้ เราขอเสนอแนะหลักการเลือกซื้อกระเป๋าสตางค์ใบยาวง่ายๆ แค่เพียงไม่กี่ข้อ ดังนี้ เริ่มจากการดูว่า เราต้องการใช้แบบไหน เพื่อใส่อะไรบ้าง บางท่านอาจจะอยากได้ไว้เพื่อพกเพื่อใส่เงินและบัตรต่างๆ เท่านั้น อาทิ แบบกระเป๋าคลัช Clutch Daisy- M.Wine  ยี่ห้อ St.James ฯลฯ หรือบางคนอาจจะต้องการใส่ของจุกจิกเล็กๆ เพิ่มเติม ถัดจากนั้นลองพิจารณาดูถึงรูปทรงการออกแบบโดนใจหรือไม่ และสุดท้ายก็ดูวัสดุว่า ทำมาจากอะไร หากลงทุนไปแล้วจะสามารถใช้ได้นาน/คุ้มค่าหรือไม่

สุดท้ายนี้ เมื่อเริ่มต้นปีใหม่แล้ว ก็อย่าลืมเริ่มต้นสร้างกำลังใจในช่วงฤกษ์งามยามดีเตรียมพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาด้วยการมองหาของใหม่ๆ มาใช้เพื่อเป็นกำลังใจ(เผื่อจะ)ช่วยเสริมดวงให้ตัวเองได้บ้างไม่มากก็น้อย ดังเช่น การหากระเป๋าสตางค์ใบยาวใบใหม่มาใช้ ฯลฯ ไม่เพียงแค่ตามเทรนด์ทัน แต่ช่วยเพิ่มกำลังใจและบอกกับตัวเองได้ว่า ปีนี้เงินจะไหลมาเทมาเป็นการต้อนรับกระเป๋าใบใหม่ให้เราแน่ๆ ยังไงตอนนี้เราขอตัวลาไปหาซื้อกระเป๋าสตางค์ใบยาวมาเพิ่มในกรุก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่น้า xoxo หรือสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.stjamesandtrend.com/product-category/long-wallets/

20
บริษัท ชิปนี่ จำกัด บริการ Freight Forwarder และชิปปิ้ง (Shipping)สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เรามีบริการทั้งการขนส่งทางเรือและการขนส่งทางเครื่องบิน (FCL, LCL, Air) พร้อมดำเนินพิธีการศุลการกร เคลียร์ภาษี ครบวงจร สามารถรับสินค้าของท่านได้ตั้งแต่หน้าโรงงานประเทศจีน และส่งมาถึงบริษัทท่านที่ประเทศไทย

สินค้าที่เราบริการนำเข้า ดังเช่น
- เสื้อผ้า กระเป๋า ตุ๊กตา
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- อะไหล่รถยนต์

นอกจากนี้เรายังบริการส่งออกระหว่างประเทศดังต่อไปนี้ จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, เวียดนาม

อ่านรายละเอียดวิธีนำเข้าสินค้าจากจีน อย่างถูกกฎหมายได้ที่
https://www.shipnee.com/how-to-import-from-china-legally

ชิปนี่พร้อมดูแลการขนส่งระหว่างประเทศของคุณ
ขอใบเสนอราคาค่าเฟรท ติดต่อเราได้เลยครับ
เว็บไซต์ : https://shipnee.com
โทรศัพท์ : 098-489-4894
แอดไลน์: @shipnee
E-Mail : cs@shipnee.com


นำเข้าสินค้าจากจีน
ชิ้ปปิ้งจีน






หน้า: 1 [2]