แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - amazonian

หน้า: 1 [2]
16

หากการตั้งคำถามของเราไม่เคยได้รับคำตอบ หรือหนทางแก้ไข เราอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวและไร้ค่า ทำให้เรารู้สึกดาวน์และไม่เป็นที่รัก เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนบนโลกใบนี้ แต่จะมีกี่คนบ้างที่ฉุกคิดว่า นั่นจะเป็น red flag ว่าสุขภาพจิตของเรากำลังต้องการการรักษาและเยียวยาไม่แพ้โรคทางกายภาพเลยที่สามารถแสดงอาการได้อย่างชัดเจนว่าเรากำลังป่วย เช่น อาการท้องเสีย ปวดหัว ตัวร้อนมีไข้

เพราะการละเลยอาการบ่งชี้ทางสุขภาพจิต เราเลยละเลยสาเหตุและอาการต่างๆที่มีผลต่อสุขภาพจิต ยิ่งถ้าสะสมและมีอาการมาเป็นเวลานานตั้งแต่อายุยังน้อย อาการจะหนักมากๆ ต้องใช้เวลารักษาหลายปี ใครว่าเด็กป่วยทางสุขภาพจิตไม่ได้ เด็กนั้นจะได้รับสารและความรุนแรงเร็วมากหากเกิดเรื่องราวต่างๆในครอบครัว พ่อแม่ที่แสดงความรุนแรงต่อกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันเสมอ การดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้นคือ มองหาสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นกีฬา งานอดิเรก หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมส์เอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราผ่อนคลายได้ แม้กระทั่งการเขียนเว็บไซต์ ที่มีการใช้โคดต่างๆ ทั้ง HTML หรือคีย์เวิร์ดต่างๆที่ช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการจดจำผ่านทางเว็บสืบค้นซึ่งอาจจะมีการรับทำ SEO สายเทาหรือสายสีขาว ที่มีหลายเว็บไซต์ใช้บริการอยู่ เพราะทำให้เว็บไซต์นั้นอยู่ในหน้าแรกๆของการสืบค้นและสร้าง traffic เข้าเว็บไซต์ได้เพิ่มอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ก็ทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ และทำให้ปัญหาด้านสุขภาพจิตของเราดีขึ้นอีกด้วย การได้อยู่กับธรรมชาติจะช่วยเยียวยา เว็บไซต์ kbkj clinic ได้แชร์บทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตไว้อย่างน่าสนใจว่า เริ่มต้นรักษาสุขภาพใจ ด้วยการรักษาสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิต อาจเริ่มต้นจากการทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การไม่มีโรคประจำตัว หรืออาการป่วยที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีสุขภาพจิตที่ดี ลดหรืองดการเสพสื่อที่อาจสร้างความกังวลและบั่นทอนจิตใจ การรับรู้ข่าวสาร และอัปเดตเรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราใช้เวลากับสื่อต่าง ๆ มากเกินไป และรับแต่เนื้อหาเชิงลบ หรือเนื้อหาที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ก็อาจส่งผลให้เรารู้สึกเครียดมากขึ้น ดังนั้น หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการเครียด การลดเวลาการใช้โซเชียลมีเดีย หรือรับสื่อต่าง ๆ อาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นไม่มากก็น้อย พูดคุยถึงปัญหาและเรื่องราวต่าง ๆ กับคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนรัก หากเรามีปัญหา หรือความเครียดสะสมในใจ การได้ระบายออกมา อาจสามารถช่วยคลายความกังวลหรือความเครียดลงได้บ้าง และเราอาจได้รับข้อคิด หรือความคิดดี ๆ จากคนรอบตัวอีกด้วย

17

เมื่อการทำธุรกิจการค้าขายไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งเป้าหมายและตามแพลน เราอาจจะต้องขาดทุนหรือเสียเวลาไปกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งปัญหาเหล่านั้นก็จะสร้างความเครียดและความกังวลใจให้เราเป็นอย่างมาก อีกทั้งอุปสรรคต่างๆที่ตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งทางการค้า การจัดส่งสินค้าและการให้บริการที่ไม่เป็นที่พึงพอใจให้แก่ลูกค้า ที่เราต้องรีบแก้ไขไม่ให้สิ่งเหล่านี้มีผลเสียต่อธุรกิจของเรา เพราะอาจมีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้ กว่าจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ถ้ามีภาพลักษณ์ในทางลบแล้วล่ะก็ จะต้องใช้สื่อมีเดียต่างๆเพื่อกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมา

เนื่องจากปัญหาและอุปสรรคคต่างๆที่อาจเกิดได้อย่างไม่คาดคิด เราจึงต้องเตรียมตัวอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบต่างๆที่นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที เช่น หากเราต้องส่งสินค้าให้กับลูกค้าทั่วประเทศหรือทั่วโลก เราจะเป็นจะต้องมี code หรือ รหัส และระบบที่ track สินค้าได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะตกหล่นอยู่ที่ไหน เราจะต้องมีคำตอบให้แก่ลูกค้าของเราได้ หากธุรกิจของเราเป็นงานบริการ เราก็จะต้องสามารถให้บริการได้อย่างพึงพอใจและสร้างความประทับใจ หากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นเราจะต้องรีบเสนอ complimentary ให้ลูกค้าทันที เป็นต้น และถ้าในเรื่องธุรกิจที่มี details มากมาย การเลือกที่ปรึกษาที่ดีที่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุมรวมไปถึงการทำ intellectual property Thailand ที่จะสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต และเว็บไซต์ businessplus ได้แชร์บทความที่น่าสนใจไว้ว่า วิธีรับมือกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต ยอมรับความจริง ชีวิตของคนทุกคนไม่สามารถหลีกหนีจากความทุกข์ได้ มีความสุขก็ต้องมีความทุกข์เป็นของคู่กัน สิ่งที่เราทำได้คือการยอมรับการมีอยู่ของความทุกข์นั้น หาทางแก้ไข แล้วก้าวผ่านมันไปให้ได้ ยิ้มให้กับตัวเอง ต่อให้รอบตัวคุณไม่มีใครให้พึ่งพิง แต่คุณก็ยังมี "ตัวคุณเอง" ที่สามารถเติมพลังและกําลังใจให้ตัวของคุณเองได้ พูดกับตัวเองว่า “มันคงดีที่สุดแล้ว" ก่อนที่จะลืมตาขึ้น ยิ้มให้ตัวเอง และก้าวเดินต่อไป มองหาต้นเหตุของปัญหา ทุกปัญหาย่อมต้องมี "ต้นเหตุ" มองหาต้นเหตุนั้นให้เจอ หากแก้ไขได้ก็จงพยายามแก้ไข หากมันยากเกินกว่าที่จะทำได้ ก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ตัวเราจะได้ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง จงรีบเป็นอิสระจากความเศร้า อย่าให้ความเศร้าครอบครองชีวิตของเรานานเกินไป รีบดึงจิตใจของเราให้ขึ้นมาจากความทุกข์ใจ หากิจกรรมสนุกๆ ที่เราชอบทำ พบปะเพื่อนฝูง หาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายจิตใจให้คุณได้ มองแง่บวก สร้างภูมิต้านทานให้ ตนเอง หากเรามองในแง่บวก ว่าเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น มีภูมิต้านทานมากขึ้น จงเรียนรู้จากเรื่องแย่ๆ เหล่านั้น สร้างภูมิต้านทานให้ตัวเราเอง และก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง

18

เราเคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่า นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งรุ่นที่เป็นตำนานและนักธุรกิจหน้าใหม่ ไฟแรง อายุน้อย เขาผ่านการเดินทาง เส้นทางการทำธุรกิจมาแบบไหนบ้าง พบเจออุปสรรคและโอกาสใดๆถึงสามารถก้าวผ่านทุกวิกฤติจนมีทั้งชื่อเสียงและความสำเร็จ เพราะเราจะได้ยินแต่เรื่องราวที่เป็นด้านความสำเร็จ แต่ไม่ค่อยได้ฟังในเรื่องความล้มเหลว เราจึงคิดว่าความสำเร็จที่พวกเขาเหล่านั้นได้มาไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

การทำธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ การศึกษาในเบื้องต้นเกี่ยวกับการหากลุ่มเป้าหมาย การทำการตลาดคือสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ ในเมื่อสมัยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว การตลาดก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งการสร้าง connection จะส่งผลค่อนข้างมากในการประสานงานด้านธุรกิจ แต่กว่าจะเข้าไปถึง connection ได้นั้น เราต้องสร้างโปรไฟล์ ความน่าไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือหลายปี ต่างกับในสมัยปัจจุบันที่แพล็ตฟอร์มและเทคโนโลยีต่างๆเข้ามามีบทบาท แทบจะสามารถทำทุกอย่างได้แค่ปลายนิ้ว ศึกษางานและเรียนรู้ได้จากหลายแหล่ง การหา connection ก็สามารถหาได้หลากหลายทั่วโลก เพราะการสื่อสารที่ไร้พรมแดน รวมไปถึงการวิเคราะห์ตลาดที่สามารถดูรายละเอียดและสามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้ล่วงหน้าอีกด้วย ทำให้เราสามารถเตรียมความพร้อมหากมีสิ่งใดๆเกิดขึ้น จากบทความที่ได้สืบค้นบนสื่อออนไลน์อย่าง Google ระบุว่า แนวความคิดทางการตลาด เป็นการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานทางการตลาด และจัดสรรทรัพยากรของกิจการ เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายตามแนวทางนั้น แนวทางการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของสังคม ระบบเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีจุดเริ่มต้นขึ้นในช่วงของการปฎิวัติอุตสาหกรรม ที่มีการนำเครื่องจักรมาใช้ในกระบวนการผลิตแทนแรงงานคนที่ทำด้วยมือ ในลักษณะของการผลิตจำนวนมาก (Mass Production) เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งทำให้การตลาดมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์มีปริมาณมากขึ้น คู่แข่งขันมีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงเริ่มเกิดแนวความคิดทางการตลาดและได้มีการพัฒนาขึ้นตามลำดับ เป็นวิวัฒนาการของแนวความคิดทางการตลาด แนวความคิดแบบมุ่งเน้นการผลิต (Production concept) เป็นแนวความคิดที่เปลี่ยนแปลงจากการทำเกษตรกรรมมาเป็นการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในการผลิตแทนการผลิตด้วยมือ ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น นักการตลาดจึงให้ความสำคัญกับการผลิตและกระบวนการผลิต โดยพยายามคิดค้นวิธีการผลิตใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลผลิตในปริมาณมากภายใต้ต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุด สินค้าที่จะใช้บริโภคมีมากกว่าอุปทาน (Supply) ซึ่งเป็นปริมาณของการเสนอขายสินค้าที่ผลิตสินค้าออกสู่ตลาด แนวความคิดทางการตลาดแบบมุ่งเน้นการผลิตนี้ จะยึดหลักว่าผู้บริโภคจะพิจารณาซื้อด้วยความพึงพอใจในสินค้าที่มีราคาต่ำและหาซื้อได้ง่าย นักการตลาดจึงต้องปรับปรุงการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อลดทุนให้ต่ำและจัดจำหน่ายให้ทั่วถึง ซึ่งจะเป็นตลาดของผู้ขายหรือตลาดผูกขาด


19

หากเราจะเล่าเรื่อง วางสตอรี่เกี่ยวกับตัวเราหรือสิ่งที่เราทำ ซึ่งเราอยากจะให้สิ่งนั้นเป็นที่น่าจดจำและสามารถระลึกถึงได้แม้แค่เพียงแค่ได้เห็นสิ่งนั้น โดยเฉพาะหากเราทำธุรกิจหรือทำแบรนด์สินค้า เราเองก็อยากให้สินค้าของเราสามารถสร้างสิ่งที่น่าสนใจและภาพจำได้ การสร้างรูปแบบเฉพาะและอัตลักษณ์ของตัวแบรนด์และสินค้าจึงได้กลายมาเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การวางแผนด้านการตลาด เพราะถ้าภาพจำนี้สามารถลงลึกไปยังกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการได้ ก็เปรียบได้กับว่าเราได้ทำการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดแล้ว

การสร้างภาพจำนั้น ต้องใช้การวิเคราะห์ในเรื่องสตอรี่เรื่องราวของแบรนด์และการบริการของธุรกิจเป็นหลัก และเราสามารถนำสิ่งนี้มาออกแบบโลโก้ให้เข้ากับสินค้าของเราได้มากที่สุด ใช้สีสันและลายเส้นทางศิลปะสร้างสรรค์และใส่ความหมายเพื่อบ่งบอกตัวตนได้อย่างชัดเจน การสร้างตัวตนในด้านธุรกิจนั้น เว็บไซต์ softbankthai ได้แชร์ไว้ว่า Personal branding คือการสร้างตัวเองให้กลายเป็นแบรนด์ เป็นจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวแทนของสินค้าหรือบริการ โดยการทำแบรนด์ลักษณะนี้จะเป็นการเน้นไปที่ตัวบุคคลหนึ่งๆ หรือกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะให้กลายเป็นจุดขาย โดยสร้างบุคลิกหรือภาพลักษ์ให้โดดเด่นเพื่อนำไปต่อยอดในด้านการตลาด ซึ่งหากทำแบรนด์ในลักษณะนี้ ลูกค้าก็จะรู้จักแบรนด์เราพร้อมๆ กับตัวบุคคลที่เป็นแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน ตัวอย่างเช่นหากพูดถึงอิชิตัน เราก็ต้องนึกถึงคุณตัน ส่วนถ้าพูดถึงเถ้าแก่น้อย ก็นึกถึงคุณต๊อบ เป็นต้น ทั้งนี้หากเราอยากสร้างตัวเองให้เป็นแบรนด์ หรือขั้นกว่านั้นคือสร้างตัวเราเองให้กลายเป็นแกนกลางของธุรกิจ เราก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งพาบริษัทโฆษณาใหญ่ยักษ์ เพียงแต่เราต้องทำวางแผนกันสักเล็กน้อยก่อนจะลงมือสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเอง เริ่มแรกเลยเราต้องสำรวจตัวเอง ทั้งด้านความสนใจว่าเราสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ เพราะหากไม่ได้สนใจในสิ่งนั้น เราก็จะมีความกระตือรือร้นค่อนข้างน้อย และหากเจออุปสรรคก็อาจท้อถอยได้ง่าย จากนั้นก็สำรวจความสามารถของตนเองด้วยเช่นกัน ว่าเรามีความสามารถอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ สิ่งใดที่เราทำได้ดี จากนั้นก็ตั้งเป้าหมายจากสิ่งที่สนใจและถนัด เช่น ฉันอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น หรืออยากเป็นกูรูด้านนี้ เช่น เรามีความรู้ด้านการเงินการลงทุนอยู่แล้ว ก็สามารถต่อยอดจากสิ่งนี้ได้ การเป็นกูรูด้านการเงินก็ไม่ไกลเกินฝัน ถามคนรอบตัว หลังจากสำรวจตัวเองแล้วว่าเราเก่งกาจด้านนี้ก็อย่างเพิ่งมั่นใจเกินร้อย เราควรถามคนรอบข้างสักเล็กน้อยว่าสิ่งที่เราคิดเราเข้าใจเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถามคนรอบข้างว่าพวกเขามองเราเป็นอย่างไร ว่าความสามารถเราโดดเด่นอย่างที่เราคิดหรือไม่ หากใช่ เราเก่งมากแค่ไหน แต่หากไม่ แล้วเราเก่งด้านใดกันแน่ ให้พวกเขาช่วยคุณสำรวจความสามารถ จากนั้นลองคิดวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเป้าหมายเรา หรือหาทางแก้ไขจุดด้อยเหล่านั้น เช่น หากเราคิดว่าเก่งด้านการลงทุน แต่คนรอบตัวยังมองว่าเรายังเก่งไม่มากพอที่จะแนะนำคนอื่น เราก็ควรหาความรู้เพิ่มเติม หาทางแก้ไขจุดอ่อนนั้น







20

เวลาเราเลือกซื้อสินค้า หรือ ผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สะดุดตาเราหรือผู้ซื้อหลายๆคนนั้นคืออะไร และมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้บริโภคเหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งถ้ามองตามหลักความเป็นจริงแล้ว สิ่งสำคัญคือ คุณภาพของสินค้าและตัวผลิตภัณฑ์นั้น แต่ในแง่ของการทำธุรกิจ ทุกโอกาสที่เราสามารถสร้างกำไร และสร้างความน่าสนในคือความท้าทายของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพราะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่แรกเห็น และยิ่งเพิ่มความเป็นต่อในไลน์สินค้าเดียวกัน

ทำไมบรรจุภัณฑ์ถึงได้มีความสำคัญและน่าสนใจ ทุกวันนี้ มนุษย์เรามีสุนทรีในการเสพสิ่งต่างๆรอบตัว ยิ่งถ้ามาในแนวศิลปะ ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเหล่านั้น เราจะสังเกตได้จากที่มีคอมเมนท์จากลูกค้าว่า สินค้าดูไม่แพง นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่คนทำธุรกิจเอามาวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ต่างๆในการทำธุรกิจ สังเกตได้จากสินค้าที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุดเพศทุกวัย เว็บไซต์ krungsri ได้แชร์บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้บริโภคในยุคใหม่ว่าใช้หลักการใดในการเลือกสินค้า ไว้ว่า แม้ว่าการรีวิวสินค้าจะเป็นสิ่งที่มีมาเนิ่นนาน แต่ปัจจัยนี้ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ในการตัดสินซื้อ ข้อมูลการสำรวจของ BrightLocal พบว่า 88% ของลูกค้านั้นเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์มากพอ ๆ กับการแนะนำจากคนรอบ ๆ ข้างแบบออฟไลน์ ส่วนการรีวิวนั้นก็สามารถเกิดได้จากหลากหลายช่องทางตั้งแต่การเอ่ยปากขอลูกค้าที่มาซื้อสินค้า หรือใช้บริการของเราให้รีวิวสินค้าของเราสั้น ๆ เพื่อแลกรับสิทธิหรือส่วนลดอะไรบางอย่างเพื่อใช้ในครั้งถัดไป หรือถ้าหลาย ๆ ที่ก็เลือกที่จะจ้างรีวิว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปแบบสินค้า หรือบริการของเราด้วย จากข้อแรกที่เป็นเรื่องของการรีวิวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากผู้ใช้จริง ๆ ที่เข้ามาใช้บริการ หรือเลือกซื้อสินค้าของเรา แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็เลือกใช้การตลาดโดยใช้ผู้มีอิทธิพล ฟังดูแปลก แต่ถ้าพูดถึงคำว่า Influencer Marketing เราก็จะเข้าใจ ข้อมูลจากการสำรวจของ Nielsen พบว่ากว่า 92% ของผู้ทำแบบสำรวจค่อนข้างเชื่อถือแนะนำ หรือการรีวิวจากบุคคลอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักก็ตาม พาร์ทนี้หลายแบรนด์เลือกที่จะพยายามส่งสินค้า หรือคูปองต่าง ๆ ให้กับเหล่า Influencer เพื่อให้พูดถึงแบรนด์ หรือสินค้าของตนเอง และเช่นเดิมหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะแบ่งงบไปทำ Influencer Marketing ความง่าย แม้ว่าสินค้าและบริการนั้นจะดีมากขนาดไหน แต่ถ้าการเข้าถึง การชำระเงิน หรือขั้นตอนในการใช้บริการนั้นเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ก็มีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ลองนึกถึงประสบการณ์ในการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่างของตัวเองดูสิ มีครั้งไหนไหมที่เราตัดสินใจไม่ไปต่อ เพราะว่า “มันยาก” และ “วุ่นวาย”







หน้า: 1 [2]