บนเส้นทางออฟโรดนั้นผู้ขับขี่ต้องมีทั้งทักษะ ความรู้ และความมั่นใจ ดังนั้นการทำความเข้าใจกับรถคู่ใจคันเก่งจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์แล้ว
ยางออฟโรดมีบทบาทมากในการดึงศักยภาพของรถให้ออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและรู้ใจสายลุย
4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาง ออฟ โร ด และ SUV - รู้จักหน้าที่ของยาง
แม้ว่ายางรถทุกชนิดจะมีหน้าที่หลักเหมือนกันนั่นคือรับน้ำหนักทั้งหมดของรถ ช่วยลดการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกจากพื้นถนน ควบคุมทิศทาง รวมทั้งเป็นตัวกลางถ่ายทอดพลังงานในการขับเคลื่อนให้รถวิ่งไปข้างหน้าหรือหยุดนิ่งตามต้องการ แต่ด้วยรถมีหลายประเภทและผู้ขับขี่ก็มีหลายสไตล์ ดังนั้นยางที่ใช้จึงต้องมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับยางออฟโรดและ ยาง suv ซึ่งต้องมีคุณสมบัติพิเศษในการยึดเกาะถนน ให้สมรรถนะการทรงตัวดี แข็งแรง ทนทาน สามารถดูดซับแรงกระทบได้มากกว่ายางทั่วไปเพื่อช่วยปกป้องล้อเมื่อต้องขับเคลื่อนบนเส้นทางขรุขระ
- รู้จัก LT ตัวอักษรบนหน้ายาง
บริเวณแก้มยางหรือหน้ายางมักจะปรากฏกลุ่มตัวเลขและตัวอักษรต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบรายละเอียดของยางได้ เช่น ยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะพบตัวอักษร P (Passenger) ในขณะที่ยางออฟโรดจะใช้ตัวอักษร LT (Light Truck) แสดงว่ายางเส้นนี้ใช้ได้ในกลุ่มรถปิคอัพหรือกระบะอเนกประสงค์ทั่วไปที่ใช้งานไม่หนักมาก ทั้งนี้ยาง LT จะมีโครงสร้างแข็งแรงกว่าแต่นุ่มนวลน้อยกว่ายาง H/T และใช้ความเร็วได้ตามเกณฑ์กำหนดบนหน้ายาง
- รู้จักตัวเลขขนาดยาง
เนื่องจากกลุ่มตัวอักษรและตัวเลขบนหน้ายางสามารถบอกรายละเอียดของยางเส้นนั้น ๆ ได้ จึงควรรู้จักและเข้าใจให้มากขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือก ยางออฟโรด ที่เหมาะกับรถ ยกตัวอย่างเช่น LT 245/75R17 80S สามารถบอกรายละเอียดของยางได้ดังนี้
245 คือ ความกว้างของหน้ายาง (มม.) ซึ่งวัดระยะจากแก้มยางทั้งสองด้าน ในสภาวะเติมลมยางตามมาตรฐาน
75 คือ อัตราส่วนระหว่างความสูงกับความกว้างของยางแล้วคูณด้วย 100 นิยมเรียกเป็นซีรีส์ จากตัวอย่างยางเส้นนี้ซีรีส์ 75 หมายความว่ายางสูงเป็น 75% ของความกว้างนั่นเอง
R คือ โครงสร้างเป็นยางเรเดียล
17 คือ ความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ (นิ้ว) เพื่อบอกขนาดของกระทะล้อที่ใช้ได้ ในที่นี้หมายความว่าสามารถใช้กับกระทะล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 นิ้ว หรือเรียกว่ายางขอบ 17
80 คือ รหัสบอกน้ำหนักสูงสุดที่รับได้ต่อล้อ ซึ่งรหัส 80 แสดงว่าล้อสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 450 กิโลกรัม
S คือ ดัชนีระบุความเร็วสูงสุดของยางที่สามารถวิ่งได้ โดย S หมายถึง 180 กม./ชม.
(หมายเหตุ รหัสต่าง ๆ เหล่านี้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือคู่มือรถ)
- รู้จักการทำความสะอาดที่ถูกต้อง
ข้อห้ามอันดับแรกในการทำความสะอาดยางคือไม่ควรล้างด้วยผงซักฟอกหรือขัดด้วยแปรง เพราะจะทำให้โมเลกุลของคาร์บอนและสารเคมีในเนื้อยางเสียหาย ส่งผลให้ยางแตกลายงาและเนื้อยางหมดอายุเร็วขึ้น ควรใช้เป็นสเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดยางโดยเฉพาะจะดีกว่า หลังจากออกทริปหรือผ่านการลุยหนักอย่าลืมตรวจเช็กตะกั่วถ่วงล้อด้วยว่ายังอยู่ครบหรือไม่ หากมีเวลาควรนำรถไปล้างขอบเพื่อทำความสะอาดสิ่งปรกที่ฝังลึกอยู่ระหว่างล้อกับยาง เนื่องจากเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลมยางซึมออกมา
เมื่อรู้จัก
ยาง suv และออฟโรดมากขึ้นแล้วการเลือกยางก็จะง่ายขึ้น บริดจสโตนมี DUELER ยางออฟโรดสมรรถนะสูง แข็งแกร่ง ทนทาน ใช้งานได้ดีทั้งถนนทางเรียบและทางทุรกันดาร ผลิตจากเนื้อยางสูตรพิเศษด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ให้การยึดเกาะถนนและการทรงตัวเป็นเยี่ยม มีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ แต่หากถามว่า
ยางรถยนต์ขอบ 18 ของยี่ห้อไหนดี ? แนะนำ DUELER H/T 684II ยางขอบ 18 จากบริดจสโตน ยางที่ให้สมรรถนะเต็มพลัง เกาะถนนดี มีประสิทธิภาพในการเข้าโค้งเป็นเยี่ยม เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งยังนุ่มนวล ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน เมื่อเลือกยางที่รู้ใจรถได้แล้วเตรียมตัวพารถคู่ใจออกลุยบนเส้นทางออฟโรดได้เลย
