ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 388 ครั้ง)

Ona1wotos0000

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาทำกับข้าวเพราะเหตุว่าส่งกลิ่นหอม นอกเหนือจากนี้ ขิงยังใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และก็เครื่องแต่งหน้าทั้งหลายเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน ยกตัวอย่างเช่น โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานเกี่ยวกับการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีก๊าซในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก ไม่อยากกินอาหาร
คุณสมบัติของขิงเชื่อว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอ้วกและลดการอักเสบ โดยนักวิจัยจำนวนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะแล้วก็ไส้ และสารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แม้กระนั้นข้อสันนิษฐานดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วยังไม่ชัดเจนนัก รวมทั้งคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ตอนนี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังนี้
การรักษาที่อาจสำเร็จ
อาการอาเจียนคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านทานเชื้อไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง สรรพคุณบรรเทาอาการอ้วกคลื่นไส้ของขิงบางทีอาจมีประโยชน์ต่อคนไข้โรคนี้ที่มักมากรับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนคนเจ็บจำนวน 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่เกิดจากการดูแลรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้
อาการอาเจียนอ้วกหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยทุเลาอาการอ้วกและก็อ้วกจากการผ่าตัดได้เช่นกัน โดยการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์โดยมากชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกคลื่นไส้ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งทดสอบแบ่งผู้เจ็บป่วยปริมาณ 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้รับประทานแคปซูลขิง 1 กรัม แล้วก็อีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่แบ่งให้ 2 ครั้งกระโน้นผ่าตัด ซึ่งผลสรุปพบว่าผู้ป่วยในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอาเจียนอาเจียนน้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้สมรรถนะสูงสุดเมื่อรับประทานเป็นประจำแล้วก็บ่อยโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกจากนี้ การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการอ้วกในคนป่วยโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งผอง แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ร่วมกับยาลดคลื่นไส้คลื่นไส้นั้นบางทีอาจได้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับผู้ป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอาเจียนคลื่นไส้น้อยอยู่และอาจไม่เป็นผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง เป็นต้นว่า อ้วก อ้วก หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุครรภ์ต่ำลงยิ่งกว่า 20 สัปดาห์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกวี่วันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้ว่าจะเปลี่ยนการรับประทานอาหารรวมทั้งตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลได้ทำให้เห็นว่าขิงอาจสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ในฐานะการรักษาโอกาสต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานค้นคว้าวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงมีครรภ์ที่มีลักษณะอาการแพ้ท้องได้ แม้กระนั้นการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้คลื่นไส้คลื่นไส้ นอกจากนี้ การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อจำกัดรวมทั้งพบคำตอบที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการเวียนหัวศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการอาเจียนนี้อาจบรรเทาให้ได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานค้นคว้าที่ทดสอบด้วยการให้คนที่มีอาการบ้านหมุน และก็ตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการตาลายศีรษะได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แต่ว่ามิได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงประเภทหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อเข่าภายหลังการรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์ในการช่วยลดอาการเจ็บขณะยืน ลักษณะการเจ็บหลังเดิน แล้วก็อาการข้อติด
นอกเหนือจากนั้น มีการเล่าเรียนเทียบคุณภาพระหว่างขิงรวมทั้งยาแก้ปวด โดยให้คนเจ็บโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายและก็ข้อเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมวันแล้ววันเล่า วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลทุเลาอาการปวดได้เทียบเท่ากับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานวิจัยที่เสนอแนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มบางทีอาจช่วยทุเลาอาการปวดแล้วก็เหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนป่วยที่มีลักษณะอาการเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดประจำเดือน เว้นเสียแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดรอบเดือน เช่น การทดลองในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีรอบเดือนต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีรอบเดือน รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของลักษณะของการปวดประจำเดือนได้อย่างเป็นจริงเป็นจังด้านการเรียนรู้เทียบคุณภาพของขิงและก็ยาลดลักษณะของการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มิลลิกรัม ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละจำพวกในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีเมนส์ คำตอบปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยแรกเป็นขิงมีคุณภาพบรรเทาความร้ายแรงของอาการปวดระดูไม่ได้แตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลรักษาที่บางทีอาจไม่ได้ผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการเอ๋ยถึงกันมากมาย แต่ทว่าแม้ขิงอาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แม้กระนั้นสำหรับการเวียนหัวอาเจียนที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางนั้น งานวิจัยส่วนมากบอกว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ดังเช่นว่า การแบ่งกรุ๊ปให้นักเรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาการคลื่นไส้แล้วก็ตาลายลดลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับนิดหน่อยเพียงแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาเรียนรู้ที่ชี้ว่าการกินผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับในการปกป้องอาการเมารถหรือหลักการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวข้องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
การดูแลและรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการเจาะจงประสิทธิภาพ
อาการอาเจียนอาเจียนจากกระบวนการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งคุณประโยชน์เป็นลดอาการคลื่นไส้และก็คลื่นไส้ ซึ่งมีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แม้กระนั้นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนไข้ที่รับเคมีบรรเทานั้นยังเป็นที่คัดค้านกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนไข้รับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานสม่ำเสมอตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่มิได้กินแคปซูลขิง แม้กระนั้นเห็นผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า มีความหมายว่าการกินขิงในปริมาณมากจึงบางทีอาจไม่ได้ทำให้อาการอ้วกดียิ่งขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ดี มีหลักฐานที่ปะทะคารมข้อเกื้อหนุนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วซึ่งเป็นงานค้นคว้าวิจัยที่เปิดเผยว่าการกินขิงมิได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ดังนี้ ผลวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีปัจจัยมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดสอบนั้นแตกต่าง รวมถึงขณะที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้คุณประโยชน์ทางการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลไหมอาจจะควรมีการรับรองเพิ่มเติมอีกถัดไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานในปัจจุบันยังส่งผลการศึกษาที่ไม่แน่นอน งานวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้เบาหวานประเภทที่ 2 และก็อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางประเภทจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยอื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยบอกว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือระยะเวลาที่คนไข้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยเรียนรู้ความสามารถของขิงในคนป่วยที่มีอาการอาหารไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการอดอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารและเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย ทว่าการรับประทานขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมการทดลองนี้มีปริมาณน้อย ทำให้ไม่อาจกำหนดได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนแค่ไหน
อาการเมาค้าง เช้าใจกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการเมาค้างซึ่งเป็นผลข้างๆจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยเมื่อก่อนที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน และน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในคราวหลัง รวมทั้งอาการอาเจียน คลื่นไส้และก็ท้องร่วง อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังที่กล่าวถึงมาแล้วยังจัดว่าไม่ชัดแจ้งอยู่มากมายและไม่บางทีอาจรับรองได้ว่ามีเหตุที่เกิดจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนไข้ที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม คำตอบบอกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยภาวการณ์นี้ได้ไหมคงจะจำเป็นต้องคอยการเรียนรู้ในอนาคตที่แจ่มแจ้งกันต่อไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยไหมนั้นยังคงไม่กระจ่างและก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมโดยตลอดนาน 124 ชั่วโมง พบว่าอีกทั้งขิงสดและขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
แต่ว่าอีกงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งกลับเจอผลสรุปตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 1 วันและ 48 ชั่วโมงหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่าไม่ได้ส่งผลให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดจากการออกกำลังกายน้อยลง แต่ว่านักวิจัยพบว่าการกินขิงอาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อค่อยๆดียิ่งขึ้นในวันแล้ววันเล่า แม้บางทีอาจไม่เห็นผลประโยชน์ในทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการเล่าเรียนกับคนป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดศีรษะไมเกรนกระทันหันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3