Forex กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งทำในตอนนี้หลายท่านคงจะได้ยินคำว่า ฟอเร็กซ์ มากขึ้น อาทิเช่น “
Forex คืออะไร?” ค้าขายเช่นไร? เกิดมาได้ยังไง? และก็ ฟอเร็กซ์ มีดียังไง? ในวันนี้พวกเราจะมาทำความเข้าใจกับคำถามเหล่านี้กัน
Forex คืออะไร Forex หรือ FX ย่อมาจากคำว่า “Foreign Exchange” ซึ่งแปลว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ พวกเราสามารถสร้างรายได้จากตลาด ฟอเร็กซ์ ด้วยเก็งกำไรผลต่างของสกุลเงิน ด้วยการซื้อมาในราคาที่ถูกแล้วขายไปในราคาที่แพงกว่า
ถ้าอธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ คือ ตลาด ฟอเร็กซ์ มีความคล้ายกับตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง สมมุติว่าหากพวกเราอยากซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทย พวกเราจะต้องซื้อหุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่งในตลาดหุ้นไทย แต่ว่าในตลาด ฟอเร็กซ์ จะไม่มีหุ้นให้จำหน่าย แต่ว่าในตลาด ฟอเร็กซ์ จะซื้อขายแลกเปลี่ยนในลักษณะการเก็งกำไรสกุลเงินแทน ยกตัวอย่างเช่น ปี 2540 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 60 บาท ผมได้นำเงิน ดอลลาร์มาแลกเปลี่ยนจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์ ผมได้เงินไทยจำนวน 60,000 บาท ตอนนี้ผมจะนำเงินที่เคยแลก มาแลกเปลี่ยนกลับเป็นเงินดอลลาร์ ปรากฎว่าตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 30 บาท ผมนำเงินจำนวน 60,000 บาทมาแลกเปลี่ยนจะได้เงินกลับมาเป็นจำนวนเงิน 2,000 ดอลลาร์ มองเห็นได้ว่าการแลกเปลี่ยนเงินในคราวนี้ทำให้ผมได้กำไรถึง 1,000 ดอลลาร์ ในตลาด ฟอเร็กซ์ ก็เหมือนกัน เราจะทำเงินด้วยการซื้อมาในราคาที่ถูกแล้วขายไปในราคาที่แพงกว่า แต่หากซื้อมาในราคาที่แพงแล้วขายไปในราคาที่ถูกก็จะทำให้ขาดทุน การสร้างรายได้รูปแบบนี้พวกเราเรียกว่า “การเก็งกำไร”
ในตลาด Forex จะซื้อขายสกุลเงินในลักษณะคู่เงิน ตัวอย่างเช่น USD/THB ดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินบาทไทย
สกุลเงินตัวหน้ามีชื่อเรียกว่า Base currency ในตัวอย่างคือ USD
สกุลเงินตัวหลังมีชื่อเรียกว่า Quote currency ในตัวอย่างคือ THB
สมมุติให้ USD/THB = 30
หมายความว่า Base currency มีค่าเท่ากับ 1 Quote currency มีค่าเท่ากับ 30 หรือ 1 ดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 30 บาท
สมมุติให้ USD/JPY = 112
หมายความว่า Base currency มีค่าเท่ากับ 1 Quote currency มีค่าเท่ากับ 112 หรือ 1 ดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 112 เยน
สาเหตุที่ตลาด ฟอเร็กซ์ จำต้องซื้อขายเป็นคู่เงินเพราะต้องการให้มีการเปรียบเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ทราบว่าสกุลเงินหนึ่งจะแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบอีกสกุลเงินหนึ่ง จากตัวอย่างก่อนหน้ามองเห็นได้ว่าเราซื้อเงินบาทตอนเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ต่อไปเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นมาเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐจาก USD/THB = 60 เป็น USD/THB = 30 พวกเราจึงกระทำการขายเพื่อทำกำไร
ข้อเท็จจริงที่หลายอาจจะไม่ทราบคือประชากรไทยเกิน 60% มีความเกี่ยวข้องในตลาด ฟอเร็กซ์ โดยที่ไม่รู้ตัว ด้วยความที่ตลาด ฟอเร็กซ์ มีอยู่ทุกๆที่ทั่วโลกที่มีการแลกเงินตราระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเงินไปเที่ยวต่างประเทศก็ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในตลาด ฟอเร็กซ์ แล้ว หรือแม้กระทั้งการซื้อของนำเข้าจากต่างประเทศอันนี้ก็ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในตลาด ฟอเร็กซ์ เช่นเดียวกัน
ในปัจจุบันตลาด ฟอเร็กซ์ มีมูลค่าการค้าขายกว่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน ก็เลยจัดได้ว่าตลาด
ฟอเร็กซ์ มีปริมาณการค้าขายใหญ่ที่สุดของโลก
ประวัติของ Forex ภายหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ละประเทศจะต้องสร้างความมั่นคงยั่งยืนด้านการเงินให้กับประเทศตัวเองอย่างเร่งด่วน จึ่งได้จัดงานสัมมนาจากตัวแทนในแต่ละประเทศ รวม 29 ประเทศที่เมือง Bretton Woods เพื่อให้หาทางออกเกี่ยวกับสภาวะด้านการเงิน จนได้ข้อตกลงที่เป็นระบบเศรษฐกิจใหม่ แล้วก็หนึ่งในนั้นคือ อัตราการแลกเปลี่ยนที่ถูกระบุขึ้นมา ด้วยเหตุ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)” ก็เลยได้เกิดขึ้นรวมทั้งถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้ข้อตกลง Bretton Woods
ปฏิบัติงานในปี พุทธศักราช 2492 ซึ่งส่งผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนถูกกำหนดไว้อย่างตายตัว
ต่อมาเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2503 ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราแบบคงเดิมเริ่มสลายตัวลง เนื่องจากปัจจัยด้านการเมืองรวมทั้งเศรษฐกิจระหว่างชาติ
กระทั่งในปี พ.ศ. 2514 ผู้นำ นิกสันแห่ง แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ระงับการผูกขาดเงินดอลลาร์สหรัฐไว้กับทอง เพื่อปรับปรุงการล่มสลายของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่รู้จักกันในนาม นิกสัน ช็อค (Nixon Shock) กระทั่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดระบบการแลกเปลี่ยนเงินทองแบบลอยตัว ในต้นปี พ.ศ. 2516
ในปี พ.ศ. 2519 ทุกสกุลเงินหลักได้เกิดการเปลี่ยนจากการแลกเปลี่ยนเงินตราแบบแน่นอนมาเป็นอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว ทำให้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระแล้วก็ราคาเปลี่ยนไปตามกลไกลของตลาด นี่ก็เลยนับว่าเป็นจุดกำเนิดของตลาด ฟอเร็กซ์
ที่มา - Forex ไทย
