ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีให้เข้ากับธุรกิจของท่าน  (อ่าน 286 ครั้ง)

lnwneverdie2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 370
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบันนี้ SME หลายบริษัทต่างคัดเลือกวิธีที่จะสร้างศักยภาพในธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ เพื่อสามารถแข่งขันและรอดชีวิตในยุคที่เศรษฐกิจซบเซาเช่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้  software โปรแกรมบัญชีก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แม้กระนั้น software มีมากมายหลายเจ้า จะเลือกซื้ออย่างไรจึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอชี้ช่องข้อควรตรวจสอบเพื่อเป็นวิธีให้คุณเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับร้านค้าของท่าน ดังนี้ครับ

1.อุตสาหกรรม
ธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือบริษัทให้บริการ ซึ่งแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการทำบัญชีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้นักพัฒนาซอฟแวร์จะพัฒนาโปรแกรมบัญชีให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทธุรกิจ อย่างไรก็ดี โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ดีกับกลุ่มธุรกิจหลายๆ ชนิดเช่นเดียวกัน แต่ถ้าท่านอยากได้โปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชั่นเหมาะสมกับธุรกิจคุณ หรือมีส่วนเบ็ดเตล็ดพิเศษสำหรับกลุ่มธุรกิจบางแบบ เช่น ธุรกิจปลูกสร้าง โรงงานผลิต และกิจการโลจิสติก ควรจ้างโปรแกรมเมอร์มาออกแบบโปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับบริษัทท่านจะดีกว่า
2.ขนาด ธุรกิจ
รายละเอียดของการทำบัญชีจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ ร้านค้า คุณอาจจะใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ กิจการที่มียอดขาย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้ากิจการของคุณมีขนาดใหญ่กว่านี้และมีความซับซ้อน โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถรองรับระบบได้ เพราะฉะนั้นควร เลือกซื้อให้เข้ากับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย
3.ความต้องการในการใช้งาน
ก่อนการ ซื้อซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรตั้งคำถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่กิจการท่านจำเป็นต้องใช้งาน ควรเขียนความต้องการเหล่านี้ คุณสมบัติ หรือรูปแบบที่อยากได้เป็นเรื่องๆ เสียก่อน บางกิจการอาจจะต้องการการเข้าถึงที่ง่ายๆ มีฟังก์ชันไม่ซับซ้อน ขณะที่ธุรกิจอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการชำระเงินออนไลน์ หรือการใช้เครดิตการ์ด หรือการจัดการสินค้าคงคลัง หรือสร้างดัดแปลงใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร เลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และลงตัวกับบริษัทท่าน อย่าเสียเงินให้กับส่วนเสริมที่ไม่จำเป็น
4.การบริการ
เวลาที่คุณมีปัญหาใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทตัวแทนสามารถรองรับ แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ง่ายสะดวก น่าเชื่อถือหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญบริษัทเหล่านั้น มีผู้ชำนาญการด้านบัญชี คอยให้คำแนะนำคุณหรือไม่ โดยรายละเอียดเหล่านี้สามารถ หาได้ จากอินเตอร์เน็ต หรือสอบถามกิจการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
5.งบประมาณ
งบประมาณจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างสำคัญต่อการ ตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีทั่วไปจะมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีเฉพาะที่ดีไซน์ Function การใช้พิเศษ ท่านคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำการวิเคราะห์ความคุ้มค่าขั้นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินจริง หรือไม่คุ้มกับการลงทุน
6.โปรแกรมบัญชีมีระยะเวลาทดลองใช้หรือไม่
จะดีมากถ้าท่านสามารถทดลองโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะซื้อจริง เพราะจะทำให้รู้ข้อดีข้อเสียต่างๆ ทั้งเรื่องความคล่องในการใช้งาน ปัญหาที่พบ การใช้งานฟังก์ชันโมดูลต่าง เหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ก่อน ซื้อซื้อซักถามกับตัวแทนว่ามีระยะเวลาทดลองฟรีหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปจะให้ใช้ฟรี 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นการดีก่อนที่จะเสียเงินซื้อจริง
ท้ายสุดแล้วควรสอบถามร้านค้าอื่นๆ ที่คุณคุ้นเคยเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่อยู่ในความสนใจ อย่างน้อย 3 ร้านค้า ควรไต่ถามข้อดีข้อเสีย ปัญหาที่พบจากการใช้งาน อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการบริการซับพอร์ทของตัวแทนจำหน่ายเป็นอย่างไร ทั้งนี้สิ่งสำคัญควรตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่ติดอันดับ มีธุรกิจใช้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโปรแกรมที่ดี ไม่มีปัญหามาก

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://accountonlineforyou.wordpress.com/2015/07/02/หลักของการทำงานของโปรแ/

Tags : โปรแกรมบัญชี

 

Sitemap 1 2 3