ผู้เขียน หัวข้อ: วิวัฒนาการอันน่าทึ่งของใช้หลอดไฟ  (อ่าน 236 ครั้ง)

sudteen555

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2231
    • ดูรายละเอียด
วิวัฒนาการอันน่าทึ่งของใช้หลอดไฟ
« เมื่อ: มกราคม 23, 2018, 10:34:07 am »

 
ตั้งแต่หนหลังจนถึงสมัยนี้เจ้าหลอดใสๆ ก็ให้ความรุ่งเรืองแก่มนุษย์ในยามราตรีได้ทั้งนั้น เริ่มพลัดเมื่อร้อยกว่าปีเดิมที่หลอดไฟเริ่มมีบทบาทในการดำรงชีวิตของเรา พร้อมกับใช้ต่อเนื่องมาถึงสมัยนี้ มีการเพิ่มปริมาณต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ หมดทางไปมาถึงหลอดไฟ LED ในปัจจุบัน พร้อมทั้งมีแนวโน้มในการพัฒนาไปอีกในภายภาคหน้า วันนี้เราจึงมีมรรคการพันาของเจ้าหลอดไฟนี้มาเล่าสู่กันรับฟังค่ะ มาเริ่มกันในยุคแต่เดิมเลยค่ะ หมายความว่า
 
 ยุคหลอดไส้ ใช่ไหมชื่ออย่างเป็นทางการว่า หลอด Incandescent
ร้อยกว่าปีมาแล้ว ที่หมู่นักวิทยาศาสตร์ค้นเจอหลอดไส้ แต่น่าเสียดายว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่สมรรถทำได้จริง เมื่อ โทมัส เอวา เอดิสัน ก็ได้นำแง่มุมที่ว่านี้ มางอกงามต่อจนประสบการบรรลุ และในยุคต่อมา เขาก็ทำเป็นค้นเจอวิธีการสร้าง หลอดไฟ หลอดแรก ของโลก เพราะว่าเป็นหลอดไส้ ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งต่อมาก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องตรงที่ว่า หลอดไส้ของโทมัสสามารใช้งานได้ช้านานที่สุดแค่ 13 ชม. เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจึงคิดค้นวิธีที่จะทำเอามีระยะการใช้งานที่ช้าขึ้น และในที่สุดก็ได้พัฒนาเป็นหลอดไส้แบบทังสเตนที่สมรรถทนความร้อนได้สูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส ทำให้ใช้งานได้เป็นเวลายาวนานขึ้นจาก 13 ชม. เป็น 1,000 - 3,000 ชม.

ยุคหลอดก๊าซปรอท หลอดไฟยุคกลาง (ประมาณ 80 ปี โดยประมาณ)
 หลอดก๊าซปรอทไม่ใช่หรือเรียกง่าย ๆ ว่า หลอดนีออน หรือไม่ก็หลอด ฟลูออเรสเซนต์ และที่เรียกว่าหลอดก๊าซเนื่องจากบรรจุก๊าซไว้ข้างใน หลักการง่าย ๆ ของหลอดพรรค์นี้คือ การใช้กระแสไฟไหลผ่าน บัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ (คุ้น ๆ ใช่มั้ยหล่ะ) เพื่อกระตุ้นให้ก๊าซในปรอท เกิดการเคลื่อนที่และวางธุระพลังงานออกมา 2 อย่าง ด้วยกัน นั่นคือ ความร้อนด้วยกันแสงสว่าง แต่เนื่องมาจากแสงที่ได้ยังเป็นน่ากลัวต่อการมองเห็นของคน จึงจำเป็นต้องมาสารเคลือบฟอสฟอรัส ที่มาเคลือบที่ผิวหลอดชั้นใน ด้วยให้เกิดเป็นปรากฎการณ์เรืองแสง และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก็เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน จะมีมากหลายขนาด ตั้งแต่รุ่น T10 จนพัฒนามาเป็น T8 กับปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ T5 กันบ้างแล้ว
** คำว่า T10 หมายความว่าขนาด 10 หุ้น หมายเหตุ 1 นิ้ว มี 8 หุ้น T8 คือขนาด 8 หุ้น หรือครอบครองขนาด 1 นิ้วพอดี T5 หรือขนาด 5 หุ้น ประมาณ 1/2 นิ้วกว่าๆ หลอดฟลูออเรสเซนต์ได้เริ่มใช้กัน ปี 1940 จนมาถึงสมัยปัจจุบัน ความสามารถการให้แสงสว่างอยู่ในระดับปานกลาง รกินไฟ พอควร แต่ติดตรงที่ ต้องใช้ปัลลาสต์ พร้อมทั้งบัลลาสต์ ใช้ไฟสูงถึง 10-12 W

ยุคล่าสุด ยุค LED ชื่อเต็มคือ Light Emitting Diode
หลอดไฟ LED ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ เครื่องใช้ระบบแสงสว่าง ที่ตอนนี้กำลังเข้ามาแปรระบบแสงสว่างใหม่ ของคนทั้งโลก เป็นการวิวัฒน์จากการเห็นของสารกึ่งตัวนำ ไดโอด พร้อมทั้งหลอดไฟ LED มีการความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จนยุคปัจจุบันแปลงเป็นหลอดไฟที่เขียมไฟ และอัจฉริยะ รอบรู้ทำงานได้หลายหลากฟังก์ชั่น ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหลอดไฟอย่างเดียว แต่ยังสามารถเข้าไปอยู่ในหน้าจอทีวี ป้ายไฟต่าง ๆ และอีกมายมาย และยังเสถียร พ้นไปการปล่อยความร้อน กับแสง UV ให้กำเนิดมาอีกด้วย
 
ในปัจจุบันหลอดไฟก็ได้ถูกจัดเป็น 1 ข้างใน 5 เทคโนโลยีที่สำคัญมัตถกะของโลก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวมาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากระบิลไฟฟ้าของวัฏสงสาร ในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้และสามารถเป็นเหตุให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน รอจับตาดูกันนะคะ ว่าจะเพิ่มปริมาณไปได้ไกลแค่ไหน ^^
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ไฟ led

เครดิตบทความจาก : http://www.lesson2plan.com/index.php?topic=236060.new#new

Tags : ไฟ led

 

Sitemap 1 2 3