ผู้เขียน หัวข้อ: ควรทำตัวยังไงถ้ารู้ตัวเองว่าเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม เรามีคำตอบ  (อ่าน 221 ครั้ง)

veerachai29

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2617
    • ดูรายละเอียด
โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นผลลัพธ์มาจากการใช้งานหัวเข่าอย่างผิดๆ และรองรับแรงกดที่เกินความจำเป็น หรืออาจจะมีสาเหตุจากอาการบาดเจ็บ หรือท่าทางนั่งที่ไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ อาการโรคข้อเข่าเสื่อม อาจจะปรากฏข้างเดียวและสองข้างก็ได้เช่นกันขึ้นอยู่ที่ปัจจัยและพฤติกรรมของแต่ละท่าน แม้กระนั้นส่วนใหญ่จะมีสภาพปวดในขณะใช้ข้อเข่า ตอนขยับเขยื้อน รองรับน้ำหนัก หรือว่าขึ้นๆ ลงๆบันได ทั้งนี้เพราะจะมีการขัดสีกันของปลายกระดูกที่ข้อต่อ ซึ่งหากท่านทราบว่ามีอาการข้อเข่าเสื่อมแล้วควรจะดำเนินการดังต่อไปนี้
 
1.สืบหา
 
อย่างแรกสุดนั่นก็คือการหาสาเหตุที่มาของอาการเจ็บหัวเข่ากระทั่งเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ซะก่อน ทั้งนี้ระยะต้นมักเริ่มต้นโดยการเจ็บข้อเข่าเล็กน้อย ทำกิจวัตรประจำวันได้ ครู่หนึ่งก็สูญหายไปเอง กระทั่งเริ่มเจ็บปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนระยะสุดท้ายมิสามารถที่จะลุกยืนหรือเดินเหินได้
 
ในช่วงต้นกระดูกอ่อนจะเริ่มสึกขึ้นเรื่อยๆ ช่องว่างในระหว่างกระดูกขาจะเล็กลง กระทั่งสุดท้ายกระดูกอ่อนสึกกร่อนหมดรวมทั้งมีหินปูนคล้ายๆหนามยึดเป็นเหตุให้เกิดการขัดสี เสียงดังตามข้อ มีผลกระทบให้ขาโก่ง ก้าวเดินไม่ถนัด มีอาการอักเสบรวมทั้งบวมน้ำ ทั้งนี้เนื่องจากสาเหตุ โรคข้อเข่าเสื่อม อาจมาจากทางสรีระร่างกาย เช่น ขาโก่ง อ้วน ระบบกล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยเพลียแรง และการสวมใส่รองเท้าไม่ดี รวมถึงการใช้แบบผิดๆ เช่น ออกกำลังกายที่หนักเกินไป ยืนปฏิบัติงานตลอดวัน แบกยกของหนัก เป็นต้น
 
2.บำบัดรักษา
 
กรรมวิธีเยียวยารักษา โรคข้อเข่าเสื่อม นั้น ขึ้นกับระดับของความเสื่อมที่เป็น ถ้าหากเกิดเป็นระยะต้น มีอาการเจ็บไม่มาก เมื่อยล้า เจ็บแข้งขา คุณหมอมักใช้แนวทางให้กินยาแก้อักเสบ และมักแนะนำแก้ไขพฤติกรรม ออกกำลังสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตามถ้าหากเป็นระยะอักเสบ เอ็นระบบกล้ามเนื้อปฏิบัติงานไม่ปกติ ล้าเป็นบางครั้งบางคราว โดยมากใช้เทคนิคเจาะเอาน้ำที่อยู่ในข้อเข่าออก กายภาพบำบัด รวมทั้งชี้แนะให้ออกกำลังกายโดยการเดินช้าๆ การว่ายน้ำ และคนแก่ก็ให้ยกขาแข้งสม่ำเสมอ
 
แต่ถ้าหากว่าเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ระยะสุดท้าย มักมีลักษณะอาการดุเดือด ข้อเข่าอักเสบ บวมมีน้ำบ่อยๆ ข้อเสื่อม พบว่ามีการผุพังมากขึ้น เข่าผิดรูปร่าง โก่ง การทานยาไม่เป็นผลแล้ว อาจจะเลือกเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนสวมใส่ข้อเข่าเทียม เพราะฉะนี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจรวมทั้งสังเกตร่างกายตัวเอง ถ้าพบว่าบริเวณเข่ามีสภาพบวมแดง มีไข้ร่วม ควรจะรีบเร่งไปหาแพทย์ ให้พิจารณาสภาพ เพื่อได้บำบัดรักษาโดยทันที อย่างไรก็ตามการรักษาเป็นเพียงขั้นตอนบรรเทาเพียงนั้น ผู้ที่เป็นควรปรับปรุงนิสัยประจำวันอีกทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงอย่างเอาจริงเอาจัง โดยการออกกำลังหรือควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
 
อย่างไรก็ตามถ้าหากบริหารร่างกายแล้วรู้สึกเจ็บปวด มีอาการอักเสบบวมขึ้นมา ไม่ควรฝืนเดินน้ำหนักที่เข่ามากเกินไป เนื่องจากไม่แค่เพียงส่งผลให้เกิดอาการเจ็บยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการเร่งให้เข่าเสื่อมเร็วอีกด้วย  ข้อสำคัญพยายามหยุดพักหยุดปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ  พร้อมทั้งบำบัดรักษาจนหายสนิทซะก่อน ไม่ควรสร้างน้ำหนักกดทับให้กับเข่าโดยมิจำเป็นต้อง การปรับท่าทางประจำวันก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ควรนั่งลงบนเก้าอี้นั่งทดแทนนั่งทำงานกับพื้น แบกยกวัสดุหนักโดนถูกต้องและปลอดภัย เปลี่ยนแปลงการนั่งส้วมซึมเป็นส้วมอนามัย เป็นต้น ทางด้านคนสูงวัยซึ่งเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ควรใช้ไม้เท้าเพื่อลดแรงกดข้อเข่า
 
นอกจากนี้ไม่ซื้อหายาแก้อักเสบมาทานเอง ทั้งนี้เพราะการเลือกใช้อย่างผิดๆ โดยปราศจากคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทาง ส่งผลเสียหายกับร่างกายอย่างมาก เช่นว่า ยาผสมสเตียรอยด์  ถ้ากินต่อเนื่องนานๆ ก็อาจจะเป็นแผลข้างในกระเพาะอาหารได้ ทำให้ต่อมหมวกไตผิดปกติ และติดเชื้อได้ ท้ายที่สุดการฟื้นฟู โรคข้อเข่าเสื่อม ให้กับมาดีดังเดิมนั้น ขึ้นอยู่ที่ผู้อ่าน เพราะว่าในขณะนอนหลับหรือว่าทำงานใดๆ ก็แล้วแต่ไม่คนอื่นมาค่อยนั่งจับผิด คอยตรวจสอบ หรือว่าบอกตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ท่านจำต้องเอาใจใส่ตัวคุณเอง

เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=cWvs_ZgBLx8

Tags : ข้อเข่าเสื่อม,ข้ออักเสบ,ปวดเข่า

 

Sitemap 1 2 3