ผู้เขียน หัวข้อ: กู้หนี้ยืมสินก่อสร้างบ้าน เลือกใช้อัตราดอกเบี้ยแบบไหนดี  (อ่าน 220 ครั้ง)

Cloudsupachai111

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2617
    • ดูรายละเอียด
กู้เงินสร้างบ้าน เลือกใช้อัตราค่าดอกเบี้ยแบบไหนดี

เป็นคำถามที่ผู้สร้้างบ้านบางคนอาจจะคิดไม่ตกว่าจะเลือกแบบไหนดี เนื่องจากในตอนนี้สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีทางเลือกให้กับผู้กู้มากกว่า 1-2 หนทาง

อัตราดอกเบี้ยที่แบงค์เสนอในตลาดเดี๋ยวนี้จะมีอีกทั้งแบบ “อัตราค่าดอกเบี้ยลอยตัว” (Floating rate loan), แบบ “อัตราดอกเบี้ยคงเดิม” (Fixed rate loan) แล้วก็แบบ “อัตราค่าดอกเบี้ยคงเดิมระยะหนึ่งแล้วก็ปรับเป็นคงเดิมใหม่ทุกรอบเวลา" (Rollover Mortgage Loan) ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีต้นแบบที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
    อัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ อัตราค่าดอกเบี้ยที่กำหนดมาแล้ว แต่จะไม่อยู่คงเดิมแน่นอนตลอดเวลากู้ ธนาคารสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง ตามที่เห็นสมควร ขึ้นกับสภาพคล่องในระบบการเงิน หรือตามเงินลงทุนการคลังของแบงค์ บางปีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอาจมีการปรับเปลี่ยนไปถึง 4-5 ครั้ง แต่ว่าบางปีก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็มี ซึ่งการเปลี่ยนแปลง (อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว) นี้บางครั้งก็อาจจะมีผลกระทบต่อเงินงวดที่ผู้กู้ชำระในแต่ละเดือนได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมีการปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้นในวันหลัง จนทำให้เงินงวดต่อเดือนที่ผู้กู้ผ่อนส่งกับแบงค์ไม่เพียงพอจ่ายดอกที่เกิด ขึ้น อาจจะต้องเพิ่มเงินงวดต่อเดือนในภายหลัง จนเกินที่ผู้กู้จะแบกรับภาระไหวก็ได้
ด้วยเหตุนั้นผู้กู้หนี้ยืมสินแบบอัตราค่าดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงที่อัตราค่าดอกเบี้ยต่ำก็เลยจะต้อง ระวังใน กรณีนี้ด้วยแต่ในการคำนวณเงินงวดหากแม้ธนาคารฯ จำนวนมากจะคิดอัตราค่าดอกเบี้ยตามประกาศจริง แต่มีบางแบงค์ใช้ขั้นตอนการคำนวณเงินงวดต่อเดือนของลูกค้า โดยคิดเพิ่มจากอัตราค่าดอกเบี้ยจริงบวกด้วย 1-3% ที่ตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้กู้ในเรื่องที่ดอกเบี้ยเพิ่มในคราวหลัง หรือหากดอกไม่เพิ่มหรือต่ำลงเงินงวดที่ผู้กู้จ่ายเกินไว้ก็จะไปตัดเงิน ต้นมากขึ้น และก็ทำให้หนี้สินเงินกู้หมดเร็วขึ้นกว่าที่เจาะจงในสัญญากู้ ดังเช่น กู้ 30 ปี บางครั้งอาจจะเหลือ 27-28 ปี เป็นต้น
ส่วนอัตราค่าดอกเบี้ยคงที่ ที่เสนอในตลาดเวลานี้แบ่งเป็น 3 แบบอย่างหมายถึงอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้, อัตราดอกเบี้ยคงเดิมในตอนแรกแล้วหลังจากนั้นเป็นลอยตัว, อัตราค่าดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในทีแรกๆหลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ย ลอยตัว ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นจุดด้วยแตกต่าง ดังต่อไปนี้

- อัตราค่าดอกเบี้ยคงเดิมตลอดเวลากู้ แบงค์จะกำหนดอัตราค่าดอกเบี้ยแบบคงเดิมหรือแน่นอนตามประกาศของแบงค์ในตอนที่ขอ กู้ โดยไม่ปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดเงินตราหรือเงินลงทุนด้านการเงิน ด้วยเหตุนี้เงินงวดที่จ่ายในแต่ละเดือนก็จะคงที่ตลอดเวลากู้ 5-10-15-20-30 ปี ตามแต่ผู้กู้จะเลือก เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ประจำและก็ต้องการผ่อนส่งเงินงวดในอัตราเท่าๆกันทุกเดือน

- อัตราค่าดอกเบี้ยคงเดิมในระยะแรกหลังจากนั้นเป็นลอยตัว แบงค์จะกำหนดดอกคงที่ระยะสั้นๆ1-5 ปี หลังจากนั้นจะกลายเป็นดอกลอยตัว ซึ่งบางครั้งอาจจะสูงหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงเดิมเดิมก็ได้ ขึ้นกับสถานการณ์ตลาดเงินตราและก็เงินลงทุนทางด้านการเงินของแบงค์ตอนนั้น เหมาะกับผู้กู้ที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เพราะเหตุว่าภายหลังอัตราดอกเบี้ยคงที่แล้วปรับเป็นลอยตัว ซึ่งส่วนมากจะมีอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ย คงเดิม

- อัตราค่าดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในขั้นแรกต่อจากนั้นเป็นอัตราค่าดอกเบี้ย ลอยตัว สถาบันการเงินจะกำหนดดอกแบบคงเดิมในระยะสั้นราว 1-5 ปี แต่ในระหว่างนั้นอาจระบุคงที่แบบขั้นบันได ดังเช่น ระบุอัตราดอกเบี้ยคงเดิม 4 ปี ปีแรก = 1%, ปีที่ 2 = 2.5%, ปีที่ 3 = 3.5%, ปีที่ 4 = 4.5% ต่อไปจะเปลี่ยนเป็นอัตราค่าดอกเบี้ยลอยตัว ฯลฯ
 

อัตราดอกเบี้ยคงเดิมระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา ธนาคารจะกำหนดดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง ได้แก่ 3 ปี หรือ 5 ปี และจะปรับเป็นคงเดิมใหม่ทุกรอบเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี ตลอดระยะเวลาตามคำสัญญากู้ ดังเช่น สินเชื่อเคหะรวมจิตใจ หรือ สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงเดิมนาน 30 ปีซึ่งจะมีรายลเอียดและก็ข้อตกลงดังนี้ สินเชื่อเคหะรวมจิตใจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆปล่อยกู้

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในแต่ละตอนจะคงเดิมจะอิงกับต้นทุนพันธบัตรบวก 2.5% ตัวอย่างเช่น เงินลงทุนพันธบัตร 5% อัตราดอกเบี้ยจะ =7.5% เป็นต้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงเดิมนาน 30 ปี ของบรรษัทบริหารทรัพย์สินสถาบันการเงิน (บตท.) ร่วมกับสถาบัน การเงินทุกแห่งรวมถึงบริษัทเงินลงทุนต่างๆที่เข้าร่วมโครงงาน โดยอัตราดอกเบี้ยคงเดิมในแต่ละตอนจะขึ้นกับสถานการณ์อัตราค่าดอกเบี้ยแล้วก็ เงินลงทุนการระดมทุนของ บตท.ขณะนั้น
 
เพราะฉะนั้นผู้กู้แต่ละรายที่กู้ต่าง เวลากันหรือในช่วงต่อครั้งที่ 2,3,4 ฯลฯ อัตราค่าดอกเบี้ยจึงไม่เท่ากันอาจจะต่ำหรือสูงขึ้นมากยิ่งกว่า เป็นต้น ในส่วนของผู้ที่กำลังมองหาแหล่งเงินกู้กู้ ชี้แนะให้สะสมอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งชนิดเงินกู้ของสถาบันการเงินหลายๆแห่งเมื่อสะสมจำพวกเงินกู้แบบต่างๆของแต่ละสถาบันการเงินแล้ว ผู้กู้ก็นำอัตราค่าดอกเบี้ยจริงมาเปรียบว่าที่ไหนให้เท่าใดสูงต่ำลงยิ่งกว่ากัน ยังไง
 
ซึ่งหลักโดยธรรมดาถ้าเป็นเงินกู้ยืมชนิด เดียวกัน ดอกเบี้ยต่ำที่สุดก็จะมีประโยชน์กับผู้กู้มากที่สุด เพราะว่าดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้เงินงวดรายเดือนที่ผ่อนหนี้ต่ำไปด้วย
 
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง บ้าน คอนโโ ที่ดิน เกี่ยวกับการซื้อขาย ได้ที่นี่ homefy.com
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง บ้าน คอนโโ ที่ดิน เกี่ยวกับการซื้อขาย ได้ที่นี่ homefy.com

Tags : คอนโดมือสอง,ขายที่ดิน

 

Sitemap 1 2 3