ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งรวมทั้งคุณประโยชน์ที่น่ารู้แล้วก็จำเป็นต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 243 ครั้ง)

promiruntee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2207
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวนิดหน่อย เป็นอาหารหลักของผึ้งราชินีแล้วก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับเพื่อการเจริญเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และยังรวมไปถึงเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงรวมทั้งเครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักโดยประมาณ 60-70% และก็อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆดังเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังพบสารอื่นในนมผึ้ง เป็นต้นว่า กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับในการเติบโตของผึ้ง สารแอซิติเตียนลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกรวมทั้งกลไกรูปแบบการทำงานของร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนเพศ ดังเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ดังนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ แล้วก็ลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งไม่เหมือนกันออกไป ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมถึงแผลเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าถ้านำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะอาจช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างพวกนี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานทางด้านการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ ประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
ประโยชน์ซึ่งมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ
บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นอยู่กับสตรีกลางคน ทำให้เกิดอาการหลายสิ่งหลายอย่าง ดังเช่นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ อาการดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต้านทานจุลชีวัน (Antimicrobial Activity) และมีคุณลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาเล่าเรียนโดยให้ผู้หญิงวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี จำนวน 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนชนิดครีมยี่ห้อหนึ่ง และอีกกลุ่มใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมและสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลการทดลองอาจจะกล่าวว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและก็ทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวพันกับช่องคลอดของเพศหญิงวัยทอง และทางผู้ศึกษาวิจัยยังได้เจาะจงอีกว่าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้ที่ให้ผู้หญิงวัยทองร่างกายแข็งแรงปริมาณ 36 คนรับประทานนมผึ้งขนาด 150 มิลลิกรัม เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเป็นผลให้เกิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนและหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (LDL) ต่ำลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% รวมทั้งระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดสอบอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและก็อาจเป็นหนทางหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับภาวการณ์ไขมันในเลือดสูง
ยิ่งกว่านั้น ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงชนิดไม่รุนแรงจำนวน 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดน้อยลงสิ่งเดียวกัน ทั้งยังยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) รวมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นโลหิตรวมทั้งหัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีรอบเดือนมักมีผลในทางลบกับสุขภาพของหญิง บางทีการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นักศึกษาแพทย์จำนวน 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีระดู แล้วก็กินสม่ำเสมอจนกระทั่งหมดเมนส์ในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนต่ำลง จากผลการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันตรงเวลา 2 เดือน อาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีระดูได้
รักษาแผลเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ทั่วไปในคนไข้เบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนมากจะเจอแผลเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและปลายฝ่าตีน ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต้านทานอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต้านเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการดูแลและรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลรวมทั้งปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกปลอดเชื้อโรคเป็นเวลา 3 เดือนหรือจวบจนกระทั่งแผลจะหาย แล้วก็มีการประเมินผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงจึงทำให้แผลหายดี แล้วก็ค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และก็ความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มม. และ 0.11 มิลลิเมตรเป็นลำดับ จากผลการศึกษาวิจัยอาจจะบอกได้ว่านมผึ้งอาจมีคุณภาพเป็นช่องทางหนึ่งในการรักษาแผลโรคเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก อย่างไรก็ดีผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแต่ 8 คนซึ่งบางครั้งอาจจะเล็กเกินไปที่จะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน
แม้กระนั้นการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นคำตอบของนมผึ้งที่แตกต่างออกไป โดยให้คนที่มีแผลโรคเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลตรงเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายสิ่งเดียวกัน แม้กระนั้นยังไม่อาจจะสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลโรคเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เพราะเหตุว่าการศึกษาเล่าเรียน 2 ชิ้นข้างต้นบอกให้เห็นคำตอบของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน ก็เลยบางทีอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปคุณภาพของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างชัดเจน จึงต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีก
บรรเทาอาการเมื่อยล้าจากโรคมะเร็ง
อาการเมื่อยล้าที่มีต้นเหตุมาจากโรคมะเร็งเป็นผลมาจากการดูแลรักษาทั้งการฉายรังสีหรือการทำเคมีบรรเทา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และก็คุณภาพชีวิตของคนป่วย ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมทั้งการรับประทานอาหารเสริม เช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเช่นเดียวกัน ก็เลยสอดคล้องกับการศึกษาหนึ่งที่ให้คนเจ็บโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่กินน้ำผึ้งแปรรูปและนมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 อาทิตย์ มีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็งดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็ดียังจำต้องเล่าเรียนเพิ่มอีกถึงบทบาทที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับการบรรเทาอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ประเภทหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรงกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้คนไข้มีลักษณะคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ไม่สบายละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กลุ่มหนึ่งรักษาด้วยการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และก็จวบจนกระทั่งจะหมดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่า 2 กรุ๊ปยังคงพบลักษณะของไข้ละอองฟาง แล้วก็หรูหราความรุนแรงของอาการที่ไม่ต่างอะไรกันมากนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้อาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจไม่มีสมรรถนะต่อการดูแลและรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ได้ จึงยังต้องเรียนเพิ่มอีกเกี่ยวกับสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาไข้ละอองฟางที่กระจ่างเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรับประทานนมผึ้ง
การกินนมผึ้งค่อนข้างจะไม่เป็นอันตรายถ้าหากกินในปริมาณที่สมควร แต่ก็ได้โอกาสที่จะเป็นผลใกล้กันได้ เช่น เลือดออกในลำไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายแม้มีลักษณะแพ้อย่างหนักอาจจะก่อให้มีลักษณะอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างปลอดภัย แต่ว่าไม่ควรทาบริเวณหนังหัวเพราะว่าอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly

 

Sitemap 1 2 3