ผู้เขียน หัวข้อ: อยู่พัฒนาการ 20 สถานพยาบาลรักษาโรคหมอสุนัข-แมว ฉีดวัคซีน รับเลี้ยงรายวัน แมว ตอบ  (อ่าน 339 ครั้ง)

kkthai20009

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2548
    • ดูรายละเอียด
โดยสัตวแพทย์ สถานพยาบาลรักษาโรคหมอหมา-แมว ฉีดวัคซีน สัตว์เลี้ยงป่วย รับเลี้ยงรายวัน สุนัข วันละ 250 บาท (รวมน้ำ+อาหารเม็ด) โทรติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
รักษาสัตว์ป่วยทุกชนิด รับเลี้ยงรายวัน กระต่าย วันละ 250 บาท (รวมน้ำ+อาหารเม็ด)  ที่ที่จัดไว้ให้เพื่อไม่ให้เกิดอาการเครียดค่ะ  รับอาบน้ำ สุนัข ทางร้านเรามีทรงให้เลือกตามใจลูกค้าเลยค่ะ มีทรงให้เลือกที่ร้าน ทรงหน้ากลม ฯลฯ

กระบวนการที่แมวจะบอกรักคุณนั้นมีดังนี้ …
1. กระโจนนั้งตักคุณ แล้วก็ใช้หน้าถูกับตัวคุณ แมวโดยมากมักจะแสดงออกอย่างงี้ เรียกว่าเป็นการแสดงออกแบบสากลก็ว่าได้
2. แผดเสียงร้องเรียกคุณ “เมี้ยว เมี้ยว” เบาๆแล้วหลังจากนั้นก็ทำหน้าอ้อนๆทำตาหวานใส่แมวที่เป็นระเบียบมักจะเป็นอย่างนี้
3. กัดที่แข้ง หรือข้อศอกเบาๆผู้ครอบครองบางบุคคลจะเกลียดชัง และหลงผิดว่าแมวดุ แต่ว่าจริงๆ
แล้วเป็นการแสดงความรักของแมวระดับหัวหน้าฝูงก็ว่าได้ เนื่องจากว่าเหล่านี้จะอ้อนไม่ค่อยเป็น
4. นวดหลัง บางทีเมื่อคุณนอนอยู่จะเห็นว่าแมวจะขึ้นไปเดิน หรือเหยียบหลังคุณ
ถ้าหากคุณรู้สึกพอใจมันก็จะทำเป็นประจำเพื่อคุณสบาย แมวเหล่านี้จัดเป็นพวกไอคิวสูงมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
5. หอมแก้ม บางโอกาสเวลาอุ้มแมวจะถูกแมวหอมแก้ม อันนั้นมันพูดว่า ” รักคุณมากมายเลยหล่ะ ”
6. แมวใช้เท้าหน้าลูบคลำหน้าคุณ หรือตบที่หน้าเบาๆ
รูปแบบนี้ก็อย่างกับความรู้สึกเวลาคุณลูบหน้าคนที่คุณรักนั่นแหละ
7. ลูบหน้า และจากนั้นก็ร้องๆเบาๆมันบอกคุณว่า ” รักเจ้านายสูงที่สุดในโลกเลย ”
8. แมวเอาตัวมาเช็ดที่ขา แรงๆแล้วหลังจากนั้นก็ร้องดังๆอันนี้เป็นการแสดงออกว่ารัก ของแมวประเภทหัวหน้าชอบโวยวาย
9. กระโจนเกาะที่ข้างหลังเวลาเจ้าของนั่งลง แมวสนุกสนาน หรือแมวที่ดื้อ หรือแมวเด็กๆ
มักจะแสดงออกอย่างงี้ก็เช่นเดียวกับในตอนที่ตอนคุณเด็กๆคุณก็ต้องการให้บิดา อุ้มข้างหลังขึ้นเช่นเดียวกัน
10. มานอนซุกคุณเวลาคุณนอนหลับ อันนี้แสดงว่ารักมากมาย อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา แม้เวลาจะนอน
 
นิสัยแมวๆตามความเชื่อของคนโบราณ
1.แมวขึ้นไปติดอยู่บนเพดานบ้าน
คนรุ่นก่อนเชื่อว่า แมวที่เลี้ยงไว้ หากดื้อจนกระทั่งขึ้นไปติดอยู่บนเพดานบ้านแล้วลงมิได้ คนสมัยเก่าท่านว่าจะรู้หรือมีญาติมาหา บางคนจะได้ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในวันนั้น
2.แมวที่เลี้ยงไว้หนีหายไม่ยอมเข้าใกล้
คนรุ่นเก่าเชื่อว่าถ้าหากแมวที่เลี้ยงในบ้านมองเห็นคนเลี้ยงที่เคยหยอกเย้าหรือเล่นด้วยลุกหนี ไม่ยินยอมเล่นด้วยเช่นเคย เป็นนิมิตที่ไม่ค่อยดีนัก ขอให้ระวังศัตรูที่คอยคิดร้าย การทำงานระวังจะมีคนคิดคดทรยศ หรือรอแกล้งให้ท่านเสียชื่อเสียง
3.แมวไม่ยินยอมจับหนู
ปกตินิสัยแมวๆที่เลี้ยงไว้โดยมากจะเป็นศัตรูกับหนูรวมทั้งชอบจับหนู ถ้าแมวมองเห็นหนูแล้วไม่ยอมจับตามนิสัยแมวๆคนสมัยก่อนเชื่อว่าจะมีผลให้คนเลี้ยงหรือคนภายในบ้านโชคดี จะมีสตรี มาให้คุณด้านการงานการเงิน หรือให้ลาภแบบไม่คาดคิด
4.แมวเดินตามแบบไม่ดีเหมือนปกติ
คนรุ่นก่อนมีความเชื่อว่าถ้าหากแมวที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้านเดินตามผู้ครอบครองแบบไม่ปกติ ท่านเชื่อว่าเจ้าของจะได้เพื่อนที่ดี บางคนบางทีอาจได้เพื่อนยากซึ่งสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ
5.แมวถูกใจพันแข้งพันขามากมายเปลี่ยนไปจากปกติ
คนสมัยก่อนเชื่อว่าแมวที่เลี้ยงไว้ แม้เดินเข้ามาคลอเคลียร์พันแข้งพันขาคนเลี้ยงมากมายแตกต่างจากปกติ ให้ระวังในเรื่องของอารมณ์ ทำการสิ่งใดพากเพียรอย่าใจร้อนหุนหันพลันแล่น แล้วจะมีผลดีในคราวหลัง
6.แมวมีพฤติกรรมวิ่งวนอย่างเปลี่ยนไปจากปกติ
คนรุ่นเก่ามีความเห็นกันว่าถ้าเกิดแมวที่เลี้ยงเอาไว้ภายในบ้านวิ่งวนไปบริเวณห้องอย่างแตกต่างจากปกติ ไหมเคยมีการกระทำที่ได้กล่าวมาแล้วเหล่านี้มาก่อน คนโบราณท่านว่าห้ามตีด้วยเหตุว่าเป็นนิมิตที่ดี จะโชคดีเรื่องเงินทอง จะมีคนนำทรัพย์สินมา ให้แบบไม่คาดคิด
 
ความลับเรื่องแมวที่คุณอาจไม่รู้จัก

1. เชื่อว่าแมวจะขโมยลมหายใจของเด็กแบเบาะ
ที่จริงแล้วแมวไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆกับเด็กอ่อนของคุณหรอกนะคะ เพียงแต่ว่าพวกมันถูกใจหาที่อบอุ่นๆแล้วก็สบายๆนอน ซึ่งลมหายใจของเด็กแบเบาะเป็นอุณหภูมิที่แมวอยากได้พอดิบพอดี ด้วยเหตุนี้เองก็เลยทำให้แมวชอบเข้าไปคลุกคลีกับเด็กแรกเกิดบ่อยๆเพียงเท่านั้น แต่ว่าดังนี้คุณก็ไม่ควรให้แมวเข้าใกล้เด็กทารกของคุณมากจนเกินความจำเป็นเนื่องจากว่าเด็กบางครั้งก็อาจจะติดโรค หรืออาจส่งผลให้เด็กทารกเกิดภูมิแพ้ได้
2. เชื่อว่าหญิงมีท้องไม่สมควรเลี้ยงแมว
ที่จริงแล้วเพศหญิงที่ตั้งครรภ์นั้นไม่ควรสัมผัสตัวแมว หรือทำอะไรเกี่ยวกับแมวบ่อยนัก เพราะว่าบางทีอาจจะหนช่องทางติดเชื้อโรคท็อกโซพลาสโมซิสจากแมวได้ โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรก ซึ่งถ้าหากเด็กแรกเกิดติดโรคอาจจะมีการเกิดอาการสมองบวมน้ำ ประสาทตาอักเสบ หรืออารมณ์แตกต่างจากปกติ ด้วยเหตุดังกล่าวหญิงตั้งครรภ์จึงควรหลบหลีกการสัมผัสตัวแมว และก็ของใช้ที่เกี่ยวกับแมวทั้งหมดดียิ่งกว่า
3. เชื่อว่าแมวดำคือสัญลักษณ์ของความโชคร้าย
จากผลการสำรวจผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ในปี 2000 พบว่าคนป่วยโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการสัมผัสแมวขอสีดำ หรือแมวขนสีเข้มมากยิ่งกว่าแมวขนสีอ่อนๆถึง 4 เท่า โน่นเป็นเพราะว่าตามผิวหนัง รวมทั้งในน้ำลายของพวกแมวขนสีดำ หรือแมวขนสีแก่มีสารสำคัญสำหรับการก่อภูมิแพ้ที่เรียกว่า Fel.d1 สะสมอยู่มากกว่าแมวขนสีอ่อน ด้วยต้นสายปลายเหตุนี้เองที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าแมวดำจะความโชคร้ายมาให้นั่นเอง
4. มั่นใจว่าแมวมี 9 ชีวิต
ความศรัทธาที่ว่าแมว มี 9 ชีวิตนั้นถูกกล่าวขานเป็นตำนานกันออกไปต่างๆนานาทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศแถบยุโรป เอเชีย อเมริกา หรือแอฟริกา โดยเฉพาะในประเทศอียิปต์ที่นับถือว่า แมวเป็นตัวแทนของทวยเทพอย่างยิ่งจริงๆ เหตุที่ทำให้ผู้คนต่างมีความคิดว่าแมวมี 9 ชีวิตบางทีก็อาจจะเพราะว่าว่า ลำตัวของแมวมีความยืดหยุ่นสูง ก็เลยทำให้สามารถกระโจนจากที่สูงได้โดยไม่เจ็บ รวมทั้งแมวก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยอยู่กับผู้คนเท่านั้นเอง
5. มั่นใจว่าแมวสามารถลงพื้นได้โดยสวัสดิภาพทุกหน
ถึงแม้ว่าแมวจะมีร่างกายที่ยืดหยุ่นสูง แม้กระนั้นก็ใช่ว่าพวกมันจะกระโดดลงจากที่สูงลงมาได้โดยสวัสดิภาพเสมอ เนื่องจากว่าแมวก็มีสิทธิ์พลาด แล้วก็พลั้งพลาดตกลงมาได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นในบางครั้งแมวก็ได้โอกาสกำเนิดบาดแผล และเกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นเดียวกัน

 6. เชื่อว่าเสียงครางหมายความว่าแมวกำลังจะมีความสบาย
เสียงครางเป็นเสียงแรกที่แมวสามารถทำเป็น ตั้งแต่อายุน้อย เพราะในขณะนั้นพวกมันไม่อาจจะทำเสียงสูง หรือเสียงต่ำได้ จึงทำให้ท่านได้ยินเสียงครางบ่อยๆและก็เข้าใจว่าแมวเริ่มจะมีความสำราญ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเสียงครางก็เลยไม่ได้แสดงว่าพวกมันกำลังจะมีความสุขเพียงอย่างเดียวแค่นั้น แต่ว่าบางครั้งก็อาจจะกำลังติดต่อสื่อสารให้คุณรู้ว่าพวกมันกำลังเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บอยู่ก็เป็นไปได้
7. เชื่อว่าแมวรังเกียจน้ำ
ก็ใช่ว่าแมวทุกตัวจะกลัว หรือไม่ถูกใจน้ำเสมอหรอกนะคะ เพราะว่าแมวบางตัวก็ถูกใจเล่นน้ำเหมือนกัน ดังเช่นว่าแมวสายพันธุ์ เตอร์กิชแวน สุดที่รักการว่ายน้ำเป็นความรู้สึกนึกคิด จนได้รับสมญานามว่า “Swimming cat” เลยทีเดียว แม้กระนั้นที่เรามีความคิดเห็นว่าแมวเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใกล้จุดที่มีแหล่งน้ำสักเท่าไหร่ ก็เพราะแมวคิดว่ามันไม่คุ้มกับการที่จะต้องหาเรื่องทำให้ตนเองเปียก เพื่อแลกเปลี่ยนกับปลาตัวเล็กๆในสระ ทั้งๆที่มีของกินจานใหญ่รออยู่ตรงหน้าแล้วนั่นเอง
8. เชื่อว่าแมวเป็นสัตว์หากินช่วงกลางคืน
โน่นเป็นเนื่องจากว่าสายตาของแมวสามารถแลเห็นสิ่งต่างๆผ่านแสงไฟน้อยๆหรือความมืดดำในช่วงเวลากลางคืนได้ดีกว่าแสงสว่างในกลางวัน โดยยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลาเย็น หรือใกล้ค่ำ จะตรงเวลาที่เหมาะสมกับการล่าเหยื่อมากที่สุด แม้กระนั้นก็ใช่ว่าแมวจะสามารถมองเห็นในที่มืดสนิทได้หรอกนะ
9. มั่นใจว่าแมวถูกใจความสันโดษ
หากแม้แมวจะได้อยู่รวมกันเป็นฝูงเสมือนสัตว์ชนิดอื่นๆแม้กระนั้นพวกมันก็จะอาศัยอยู่ในพื้นที่รอบๆเดียวกัน หรือรอบๆใกล้ๆกับแหล่งของกินของพวกมันนั่นเอง โดยเฉพาะแมวเพศผู้ที่มีอายุโดยประมาณ 18 ข้างขึ้นไป ก็จะออกไปหารับประทานตัวเดียวมากกว่าแมวเพศเมีย ดังนั้นถ้าเกิดคุณไม่ต้องการให้แมวที่คุณเลี้ยงหนีออกไปอยู่นอกบ้าน ก็ควรจะเลี้ยงแมวตั้งแต่พวกมันอายุ 8 – 10 เดือน แล้วก็ควรจะเลี้ยงสองตัวขึ้นไป ก็จะก่อให้พวกมันมีนิสัยอยู่ติดบ้านมากยิ่งกว่า เลี้ยงแมวแก่ หรือเลี้ยงแมวแค่เพียงตัวเดียว
คลินิกรักษาสัตว์ คู่รักงหมา แมว กระต่าย กระรอกให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง ตอบได้ทุกปริศนา
 เปิดบริการทุกวัน 10.00 น. - 21.00 น.


ขอบคุณบทความจาก : http://www.vetpattanakarn20.com/

Tags :  คลินิคสัตว์, คลินิกสัตว์ พัฒนาการ, หมอสัตว์ พัฒนาการ

 

Sitemap 1 2 3