ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 314 ครั้ง)

าร

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวถึงแล้วมีส่วนสำหรับเพื่อการยัยยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยจำนวนมากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดลองทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลพอเพียงที่ส่งเสริมให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบจากการรวบงานค้นคว้าวิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าคนไข้สนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดรักษาหรือรังสีบำบัดรักษาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับในการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด
ยิ่งไปกว่านี้ จาการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่ามีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดียิ่งขึ้น และก็ในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้และนอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุนั้น จึงอาจพูดได้ว่า สิ่งที่ใช้พิสูจน์ทางคุณสมบัติรวมทั้งประโยชน์ของเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้เป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแค่การทดสอบในคนเจ็บบางกลุ่มแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรดำเนินการทดลองต่อไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แน่ชัดรวมทั้งมีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต และก็การเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทเยี่ยว
มีขั้นตอนทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนไข้เพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะปัสสาวะติดขัด ข้างหลังการทดลองกว่า 12 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้เป็น ผู้เจ็บป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบคำถาม แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ดังนั้น การทดสอบดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่ชัดแจ้งเพียงพอ จึงควรมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่เด่นชัดสำหรับในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลและรักษาสภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนไข้โรคเบาหวานจำพวก 2 ร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับเพื่อการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในงานค้นคว้าเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิภาพของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อป้องกันและการดูแลและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป และก็ให้ได้ความชัดเจนชัดดเจนในด้านดังกล่าวข้างต้นมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลดีต่อแนวทางการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องถัดไปในอนาคต
จำนวนที่สมควรสำหรับในการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งกระจ่างแจ้ง เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค เพราะฉะนั้น คนซื้อ ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค ด้วยเหตุว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างอาจส่งผลใกล้กันที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน

โดยทั่วไป จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันอย่างเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นลูกค้าก็ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ปรึกษาหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านจำนวนรวมทั้งรูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะเหตุว่าบางทีอาจเป็นผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในวันหลัง
โดยข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือเช่น
ผู้บริโภคทั่วไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้มีอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจทำให้เกิดผลกระทบได้ เช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์ขยายพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่ควรระวังในการบริโภคเป็นพิษ
คนที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการยืนยันผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้ใช้นี้แม้กระนั้นผู้ที่ตั้งท้องรวมทั้งคนที่กำลังให้นมลูกควรจะหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของตัวเองและลูกน้อย
คนที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางรายที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ผู้เจ็บป่วยควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ ขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง โดยเหตุนี้ คนเจ็บภาวการณ์ความดันเลือดต่ำจึงควรหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ฉะนั้นคนป่วยภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกผิดปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางราย โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะเลือกออกไม่ปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3