ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 306 ครั้ง)

asd051sa4

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาประกอบอาหารเนื่องจากส่งกลิ่นหอม นอกจากนี้ ขิงยังคงใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องสำอางทั้งหลายด้วยเหมือนกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลายประเภทมาอย่างช้านาน อาทิเช่น โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอ้วกและก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าส่วนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะและก็ลำไส้ แล้วก็สารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แม้กระนั้นการสันนิษฐานดังที่กล่าวมาข้างต้นยังไม่กระจ่างนัก และคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงต่อร่างกายที่พวกเราเชื่อกันนั้น บัดนี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังนี้
การรักษาที่บางทีอาจได้ผล
อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านทานไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ คุณประโยชน์บรรเทาอาการอ้วกคลื่นไส้ของขิงอาจมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเล่าเรียนคนเจ็บปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต้านรีโทรไวรัส เป็นเวลาทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่เกิดจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนคลื่นไส้ภายหลังจากการผ่าตัด ขิงอาจช่วยทุเลาอาการคลื่นไส้แล้วก็อ้วกจากการผ่าตัดได้สิ่งเดียวกัน โดยการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งทดสอบแบ่งผู้ป่วยจำนวน 122 ผู้ที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม แล้วก็อีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่ว่าแบ่งให้ 2 ครั้งที่แล้วผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์พบว่าผู้ป่วยในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอ้วกอาเจียนน้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาเรียนรู้นี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับประทานเสมอๆแล้วก็สม่ำเสมอโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกจากนี้ การทดสอบทาน้ำมันขิงรอบๆข้อมือของคนเจ็บก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองปกป้องอาการอ้วกในผู้เจ็บป่วยราวๆ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมด แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอ้วกร่วมกับยาลดคลื่นไส้อ้วกนั้นบางทีอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมถึงการใช้ขิงกับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการอาเจียนอ้วกน้อยอยู่และบางทีอาจไม่ได้เรื่องเหมือนกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ได้แก่ อาเจียน อาเจียน หรือเวียนศีรษะ ผลการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณลักษณะนี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 20 อาทิตย์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกเมื่อเชื่อวันนานอย่างต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้จะเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารแล้วก็ตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในฐานะการดูแลรักษาลู่ทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการกินขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอ้วกอ้วกในหญิงตั้งท้องที่มีอาการแพ้ท้องได้ แต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้อ้วกอ้วก ยิ่งกว่านั้น การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดและก็เจอผลสรุปที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการตาลายหัว อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการคลื่นไส้นี้บางทีอาจทุเลาให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากการค้นคว้าวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุๆกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการตาลายหัวได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แต่ไม่ได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนรู้บางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้คนป่วยกินสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อเข่าภายหลังการรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกการวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์ในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเดิน และก็อาการข้อติด
ยิ่งกว่านั้น มีการศึกษาเล่าเรียนเปรียบเทียบสมรรถนะระหว่างขิงรวมทั้งยาพารา โดยให้คนเจ็บโรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกและก็ข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกๆวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลบรรเทาอาการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีการค้นคว้าวิจัยที่แนะนำว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงรวมทั้งส้มบางทีอาจช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดแล้วก็อ่อนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนไข้ที่มีอาการเจ็บเข่าได้ด้วย
ลักษณะของการปวดรอบเดือน เว้นแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดเมนส์ อย่างเช่น การทดลองในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีเมนส์ต่อเนื่องไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีเมนส์ รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดระดูได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเล่าเรียนเทียบความสามารถของขิงและก็ยาลดลักษณะของการปวดเมนส์อย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มิลลิกรัม ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในจำนวน 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีเมนส์ ผลปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยแรก คือ ขิงมีคุณภาพบรรเทาความรุนแรงของลักษณะของการปวดระดูไม่มีความต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลรักษาที่บางทีอาจไม่ได้ผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการกล่าวถึงกันมาก แต่ว่าแม้ขิงบางครั้งก็อาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ว่าสำหรับในการตาลายอ้วกที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาวิจัยส่วนมากบอกว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ดังเช่น การแบ่งกลุ่มให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาการคลื่นไส้และหน้ามืดน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับเล็กน้อยแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับในการคุ้มครองอาการเมารถหรือแนวทางการทำงานของกระเพาะอาหารที่เกี่ยวเนื่องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานพอเพียงต่อการระบุความสามารถ
อาการอาเจียนคลื่นไส้จากกระบวนการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้ ซึ่งมีการเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงผลดีข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยกินแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่มิได้รับประทานแคปซูลขิง แม้กระนั้นเห็นผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกรุ๊ปที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับสำเร็จน้อยกว่า หมายความว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากก็เลยอาจมิได้ทำให้อาการอ้วกดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ดี มีหลักฐานที่โต้เถียงข้อส่งเสริมดังที่กล่าวมาแล้วซึ่งเป็นการค้นคว้าวิจัยที่เปิดเผยว่าการรับประทานขิงมิได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้ ทั้งนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้ที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดลองนั้นแตกต่างกัน รวมถึงขณะที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือไม่อาจจะควรมีการรับรองเพิ่มเติมถัดไป
โรคเบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้โรคเบาหวานในขณะนี้ยังมีผลการค้นคว้าที่ไม่แน่นอน งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด แล้วก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในผู้เจ็บป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางประเภทจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้อื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาค้นคว้าวิจัยกล่าวว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ไม่เหมือนกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่คนป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าศึกษาคุณภาพของขิงในคนไข้ที่มีอาการของกินไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการอดของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยของกินรวมทั้งเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ทว่าการรับประทานขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่อาจเจาะจงได้อย่างชัดเจนว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนเท่าใด
อาการแฮงค์ เช้าใจกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการแฮงค์ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยแต่ก่อนที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในภายหลัง รวมทั้งอาการอ้วก คลื่นไส้และก็ท้องร่วง อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังจัดว่าไม่แน่ชัดอยู่มากมายและไม่บางทีอาจรับรองได้ว่าเกิดจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนไข้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม คำตอบระบุว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนถึงสามารถนำมาใช้รักษาผู้เจ็บป่วยภาวการณ์นี้ได้หรือไม่อาจจะต้องรอการเล่าเรียนในอนาคตที่กระจ่างกันถัดไป
ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงกำกวมรวมทั้งเป็นที่แย้งกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมโดยตลอดนาน 124 ชั่วโมง พบว่าขิงสดรวมทั้งขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
แต่อีกงานศึกษาวิจัยหนึ่งกลับพบผลสรุปตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเหมือนกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและ 48 ชั่วโมงหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่าไม่ได้ส่งผลให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดจากการออกกำลังกายลดลง แต่ผู้ศึกษาวิจัยพบว่าการกินขิงบางทีอาจช่วยให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อเบาๆดียิ่งขึ้นในแต่ละวัน ถึงแม้อาจมองไม่เห็นผลประโยชน์ทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการศึกษากับคนเจ็บ 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง

 

Sitemap 1 2 3