ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 303 ครั้ง)

yulyul

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 25
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนเจ็บมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวมาแล้วมีส่วนสำหรับการยัยยั้งลักษณะการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการวิจัยจำนวนมากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แต่ว่ายังคงไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือการทดลองด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบจากการรวบงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าคนเจ็บตอบสนองต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบรรเทาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อทดสอบการใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับเพื่อการทำให้มะเร็งลดขนาดลงประการใด
นอกนั้น จาการทบทวนงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่ามีงานค้นคว้าวิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์เกื้อหนุนว่าเห็ดหลินจืออาจสัมพันธ์ต่อการแก้ไขคุณภาพชีวิตของผู้เจ็บป่วยให้ และในเวลาเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้หนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้รวมทั้งนอนไม่หลับด้วย
โดยเหตุนั้น ก็เลยอาจจะกล่าวว่า ข้อพิสูจน์ทางคุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานค้นคว้าเป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแต่การทดลองในคนเจ็บบางกลุ่มเท่านั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรจะจัดการทดลองถัดไปเพื่อได้เห็นผลลัพ์ที่แจ่มชัดและก็มีคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทปัสสาวะ
มีขั้นตอนการทดสอบหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการเยี่ยวขัดข้อง ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้เป็น ผู้ป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของผู้เจ็บป่วยจากการตอบปัญหา กลับไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
เพราะฉะนั้น การทดลองดังที่กล่าวถึงแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่แจ่มแจ้งพอเพียง จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่ชัดแจ้งสำหรับในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาสภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยว
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดลองทางการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนป่วยโรคเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือสิ่งเดียวกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนไข้บางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
เพราะฉะนั้นควรต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆพวกนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันแล้วก็การดูแลและรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจต่อไป และก็ให้รู้เรื่องแจ่มชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงแล้วมากเพิ่มขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อกรรมวิธีการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งแจ่มแจ้ง เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค เพราะฉะนั้น คนซื้อ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เพราะเห็ดหลินจือในแต่ละแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างอาจมีผลใกล้กันที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วยเหมือนกัน

โดยทั่วไป จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันได้แก่
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นผู้ใช้ก็ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านปริมาณและแบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะเหตุว่าอาจเกิดผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในตอนหลัง
โดยสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือดังเช่น
ผู้ใช้ทั่วไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อกำเนิดผลกระทบได้ อย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การสูดหายใจเอาเซลล์แพร่พันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจทำให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ต้องระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ใช้นี้แม้กระนั้นคนที่มีท้องแล้วก็คนที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเองและก็ลูกน้อย
ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว คนไข้สภาวะความดันโลหิตต่ำจำเป็นต้องเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภค[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ[/url]ในจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุดังกล่าวผู้เจ็บป่วยภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำก็เลยไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกแตกต่างจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีสภาวะเลือกออกไม่ดีเหมือนปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3