ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 324 ครั้ง)

pussy22

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2018, 05:26:30 pm »

ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในสกุลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) รวมทั้งอยู่ในสกุลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกแล้วก็มักจะเขียนไม่ถูกหรือสะกดผิดเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) ฯลฯ
คำว่า “ราชพฤกษ์” มีความหมายว่า “ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ในหลวงของเราทรงครอบครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอแนะรวมทั้งสรุปให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ แล้วก็สถาปัตยกรรม ซึ่งจากการใคร่ครวญได้ข้อสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น “ศาลาไทย” และในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุผลสำหรับเพื่อการคัดเลือกดังนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดฯลฯไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่ชาวไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างล้นหลาม ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเห็นได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีความเกี่ยวข้องกับจารีตชาวไทยมาอย่างเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนามและก็ใช้ในการประกอบพิธีหลักๆต่างๆหลายพิธีการ เป็นต้นว่า พิธีการลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้ผลดีได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานและแข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีทรงและก็พุ่มที่สวยงาม มีดอกเหลืองงามเต็มต้น มองดูงดงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของชาติไทย เป็นเครื่องหมายที่พระพุทธศาสนา และยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกเหนือจากนี้ตามตำราไม้มงคล 9 จำพวกยังเจาะจงไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจวาสนา มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรครวมทั้งอาการต่างๆโดยส่วนที่นำมาใช้เป็นสรรพคุณทางยานั้น เช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก รวมทั้งเมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก สตรี รวมไปถึงคนสูงอายุ โดยปลอดภัยอะไรก็แล้วแต่
รูปแบบของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบทวีปเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนถึงประเทศอินเดีย ประเทศพม่า รวมทั้งประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาเกลี้ยง มักขึ้นทั่วๆไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกเอาไว้ภายในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกเอาไว้ในพื้นที่ แต่ในขณะนี้บางทีก็อาจจะใช้กรรมวิธีทาบกิ่งแล้วก็เสียบยอดก็ได้ แต่โอกาสสำเร็จจะน้อยกว่ากรรมวิธีการเพาะเม็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) ลักษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นเงา ช่อหนึ่งยาวราวๆ 2.5 เซนติเมตร แล้วก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆโดยประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างโดยประมาณ 5-7 เซนติเมตร แล้วก็ยาวราว 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนและสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางสะอาด มีเส้นแขนงใบถี่และก็โค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) มีดอกเป็นช่อ ยาวราว 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวราว 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดตกได้ง่าย รวมทั้งกลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกราวๆ 2-3 เท่า แล้วก็มีกลีบรูปไข่จำนวน 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะมองเห็นเส้นกลีบแจ้งชัด ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกชอบบานในตอนมี.ค.ถึงเดือนพฤษภาคม แต่ว่าก็มีบางครั้งที่มีดอกนอกฤดูเช่นกัน ดังเช่น ในช่วงธันวาคมถึงเดือนมกราคม
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกสะอาดๆฝักยาวโดยประมาณ 20-60 เซนติเมตร และก็วัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 ซม. ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆติดกันอยู่เป็นช่องๆตามแนวขวางของฝัก รวมทั้งในช่องจะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดราวๆ 0.8-0.9 ซม.
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
สรรพคุณของราชพฤกษ์
ช่วยทำนุบำรุงโลหิตในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นรวมทั้งใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการกางใบอ่อนนำมาต้มกับน้ำ (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการหิวน้ำ (ฝัก)
เปลือกเม็ดและเปลือกฝักมีคุณประโยชน์ช่วยทำลายพิษ ทำให้อ้วก หรือจะใช้เม็ดโดยประมาณ 5-6 เมล็ด นำมาบดเป็นผงแล้วรับประทานก็ได้ (เมล็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก รวมทั้งใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และก็หัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย แก้อาการเศร้าใจ หนักศีรษะ หนักตัว ทำให้สดชื่นทรวงอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สบาย ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะกับคนที่มีอาการท้องผูกบ่อยๆและสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่านิ้วโป้ง (หนักประมาณ 4 กรัม) และก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือน้อย ใช้ดื่มก่อนกินอาหารยามเช้าหรือตอนก่อนนอนเพียงแค่ครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เมล็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องเดิน (เมล็ด)
ช่วยหล่อลื่นไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารแล้วก็แผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เม็ด)
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยให้กำเนิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และก็น้ำตาล แล้วนำมากิน (เมล็ด)
ฝักแล้วก็ใบมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งโดยประมาณ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสฝาดเมา ช่วยขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
คุณประโยชน์ของคูน รากใช้แก้โรคคุดทะราด (ราก)
ใบสามารถนำมาใช้สำหรับในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากเอามาฝนใช้ทารักษากลากโรคเกลื้อน รวมทั้งใบอ่อนก็ใช้แก้ขี้กลากได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, ใบ)
เปลือกแล้วก็ใบเอามาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผื่นผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน คุณประโยชน์ของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ช่วยสมานรอยแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
คนอินเดียใช้ใบเอามาตำ นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนแล้วก็แมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำเสียไว้โดยประมาณ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยในการจัดการกับรอยคราบแมลงและก็หนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
นอกจากนี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต และแก้ไขปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน แล้วก็อบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคและความอยากเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผุยผง ช่วยแก้ลักษณะของการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกบริเวณที่เป็นจะช่วยทำให้มีการเกิดการไหลเวียนของเลือด ทุเลาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคโรคเกาต์ แล้วก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งด้าน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาติดอยู่ ทำมาจากใบคูน คุณประโยชน์ช่วยในด้านสมอง ไขปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มพร้อมกันไปกับการรักษาแบบอื่นๆ

ข้อควรตรึกตรอง !
:วิธีการทำเป็นยาต้ม ควรจะต้มให้พอควรก็เลยจะได้ผลดี ถ้าหากต้มนานเหลือเกินหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่จะก่อให้ท้องผูกแทน และควรจะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินความจำเป็น แล้วก็ยาต้มที่ได้แม้รับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้อ้วกได้
ประโยชน์ซึ่งมาจากราชพฤกษ์
นิยมนำมาปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆได้แก่ สถานที่ราชการ บริเวณริมถนนข้างทาง รวมทั้งสถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความเลื่อมใส ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามที่คนไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้ทรงเกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรี ต้นสายปลายเหตุเพราะว่าคนให้การเห็นด้วยว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและก็ยังเป็นเครื่องหมายของเมืองไทยอีกด้วย และก็ยังมั่นใจว่าจะมีผลให้ผู้อยู่อาศัยนั้นเจริญ โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะเนื่องจากทิศดังที่กล่าวถึงแล้วได้รับแสงแดดจัดในช่วงตอนบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้านและช่วยใชัพลังงานน้อยลง)
ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลและก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา ยกตัวอย่างเช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาเอกสำหรับการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ประสิทธิภาพที่ดีนัก ฯลฯ
เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆได้แก่ ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ ฯลฯ
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลสำหรับเพื่อการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีวันรวมทั้งจุลินทรีย์ขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะ โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บไซต์ที่ทำการแผนการรักษากรรมพันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เว็บไทยโพส, ที่ทำการปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานมหกรรมแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, สำนักงานกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3