ผู้เขียน หัวข้อ: บอกถึง สาเหตุของโรคเบาหวาน พร้อมแนะวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตราย  (อ่าน 251 ครั้ง)

muthita

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
บอกถึง สาเหตุของโรคเบาหวาน พร้อมแนะวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตราย

    โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ซึ่งกระทบต่อการทำงานของหัวใจ สมอง หลอดเลือดแดง ไต ตา และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำ การรักษาโรคเบาหวาน ในทันที ไม่ให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงในภายหลัง หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ สาเหตุของการเกิดโรคมาจากหลายปัจจัยเสี่ยง เบาหวานมีโอกาสถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีประวัติคนใกล้ชิดในครอบครัวป่วยจะเป็นโรคเบาหวานกันทุกคน ถึงแม้ไม่มีญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวานแต่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อโรค เช่น ความเครียด โรคอ้วน ไม่ออกกำลังกาย มีโอกาสเป็นเบาหวานได้เช่นเดียวกัน

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน มีดังนี้

-เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง ร่างกายได้รับอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ วัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารเช้า 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป และหลังมื้อเช้า ระดับน้ำตาลในเลือด 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป
-ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ การผ่าตัดตับอ่อน ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินต่ำลงและไม่เพียงพอกับความต้องการ หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้หลอดเลือดเสียนาน เกิดภาวะเบาหวานขึ้นตาและจอประสาทตาเสื่อมในระยะยาว
-โรคอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญของเบาหวาน เนื่องจากไขมันและกลูโคสสะสมในกระแสเลือดมากเกินไป ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินมากขึ้นเพื่อดูดซึมน้ำตาลในเลือด ตับอ่อนทำงานหนักเกินไปมีผลให้น้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติซึ่งเป็น สาเหตุของโรคเบาหวาน ได้เช่นกัน การออกกำลังกายทำให้น้ำหนักลดลง ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยให้ควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น
-การติดเชื้อไวรัส เช่น หัดเยอรมัน คางทูม ทำให้การทำงานของตับอ่อนมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง international hospital แนะนำให้ฉีดวัคซีนรวมให้ครบถ้วนตามกำหนดเพื่อป้องกันไว้ก่อน โดยเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุ 12-15 เดือน ตามด้วยเข็มที่ 2 ช่วงอายุ 4-6 ขวบ ไม่ต้องรอให้เกิดโรคและเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานยิ่งขึ้น
-ความเครียด นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะความดันโลหิตสูง ล้วนเป็นสาเหตุทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและสุขภาพจิตในระยะยาวด้วย
-การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด และยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน สเตียรอยด์มีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากและควบคุมยาก อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้สเตียรอยด์มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกายมีผลให้ติดเชื้อได้ง่าย เป็นอันตรายสำหรับคนที่เป็นแผลบริเวณเท้าแล้วแผลแห้งยาก เสี่ยงที่เชื้อโรคและแบคทีเรียจะลุกลามทำให้ต้องตัดอวัยวะออก
-หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่มีการสร้างฮอร์โมนจากรกและเอนไซม์หลายชนิดมีฤทธิ์ต้านอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือด มักจะเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินในช่วงกลางหรือช่วงปลายของการตั้งครรภ์ซึ่งจะลดลงในระยะหลังคลอดและหายได้เองโดยไม่ต้องทำ การรักษาโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องตรวจเช็กเป็นระยะเพราะถือว่าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานในอนาคต
-พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กินอาหารไขมันสูงและอาหารรสจัด เป็นสาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เป็น สาเหตุของโรคเบาหวาน รวมทั้งส่งผลเสียต่อผู้ป่วยเบาหวานโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ
แนวทางการป้องกันภาวะเสี่ยงเกิดแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องตรวจเช็กและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ร่วมกับการดูแลสุขภาพและ ตรวจ สุขภาพ เป็นประจำทุกปี เพื่อไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงตามมาสมทบ รวมทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดในสมอง หากสงสัยว่าตนเองอาจป่วยเป็นโรคเบาหวานควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะกว่าที่สัญญาณเตือนอาการของโรคจะปรากฏอาจหมายถึงป่วยเป็นเบาหวานระยะร้ายแรงแล้วก็ได้
 
ที่มาข้อมูล
https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/บทความ-เบาหวาน-ความดัน/รู้ได้อย่างไร-ว่าเป็นเบาหวาน-#:~:text=การตรวจเลือดปลายนิ้ว (capillary,ซ้ำทุก 1-3 ปี
https://www.phyathai.com/article_detail/3285/th/อ้วนเมื่อไรเสี่ยงเบาหวานเมื่อนั้น

 

Sitemap 1 2 3