ผู้เขียน หัวข้อ: ทำความรู้จักกับดอกยางตัวแปรสำคัญใน การ เลือก ยาง รถยนต์  (อ่าน 1428 ครั้ง)

radnana

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด

        ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญของรถทุกชนิด ทำหน้าที่ทั้งช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งาน ยางแต่ละเส้นประกอบไปด้วยไหล่ยาง แก้มยาง โครงยาง ผ้าใบเสริมหน้ายาง ขอบยาง และหน้ายาง โดยหน้ายางคือส่วนเดียวของยางที่ได้สัมผัสกับพื้นผิวถนนโดยตรง หน้ายางประกอบไปด้วยดอกยางและร่องยาง ซึ่งดอกยางเป็นส่วนที่นูนออกมาจากหน้ายาง มีหน้าที่ช่วยให้ยางยึดเกาะถนนและช่วยกระจายน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้ายางให้เท่ากันอย่างสม่ำเสมอทุกจุดเพื่อส่งแรงกดสู่ผิวถนนตามทิศทางต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่บทบาทของร่องยางคือการรีดน้ำเพื่อให้หน้ายางได้สัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้นทำให้ยึดเกาะถนนได้ดีแม้ในสภาวะมีน้ำขัง ดอกยางจึงเป็นตัวแปรสำคัญอีกประการใน การเลือกใช้ยางรถยนต์

ในปัจจุบันมีดอกยางให้เลือก 4 ประเภท ตามลักษณะการใช้งานดังนี้

-ดอกยางละเอียด (Rib Pattern) ลักษณะของดอกยางเป็นแนวยาวตามวงรอบของยาง รีดน้ำได้เร็ว มีเสียงรบกวนน้อย เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปบนทางเรียบ
- ดอกยางแบบบั้ง (Lug Pattern) ลักษณะดอกยางเป็นบั้งตามแนวขวางของหน้ายาง ให้ประสิทธิภาพในการตะกุยดีจึงเหมาะกับเส้นทางขรุขระ แต่ก็สามารถใช้บนถนนทั่วไปด้วยความเร็วต่ำได้ มีอายุการใช้งานนานกว่าแบบแรก
- ดอกยางแบบผสม (Rib Lug Pattern) เป็นการผสมผสานจุดเด่นของดอกยางละเอียดและแบบบั้งไว้ด้วยกัน โดยหน้ายางจะมีดอกยางละเอียดอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยแบบบั้ง ใช้งานได้ดีทั้งทางเรียบและทางขรุขระ
- ดอกยางแบบบล็อก (Block Pattern) ดอกยางจะมีลักษณะเป็นบล็อกเหลี่ยมหรือวงกลม ให้ประสิทธิภาพในการตะกุยสูง เหมาะสำหรับงานหนักสายลุยสไตล์ออฟโรด

      นอกจากประเภทของดอกยางแล้วลักษณะการเรียงตัวของลายดอกยางก็มีความสำคัญไม่ใช่น้อย เนื่องจากส่งผลต่อการใช้งานในสภาวะต่าง ๆ เช่น การหมุน การยึดเกาะถนน ความสามารถในการรีดน้ำ ซึ่งลายดอกยางมี 3 ประเภท ได้แก่

- ดอกยางแบบสมมาตร ลักษณะของดอกยางครึ่งในและครึ่งนอกจะเหมือนกัน สามารถสลับยางได้ทุกตำแหน่งโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ พบมากในยางรถยนต์ทั่วไปและยางประหยัดน้ำมัน
- ดอกยางแบบอสมมาตร เพิ่มคุณสมบัติในการรีดน้ำด้วยลักษณะของดอกยางด้านในและด้านนอกแตกต่างกัน ใช้งานได้ดีทั้งสภาวะถนนเปียกและถนนแห้ง สลับยางได้หลายแบบแต่ต้องใส่ยางให้ถูกด้านเสมอ โดยจะมีลูกศรเป็นสัญลักษณ์กำหนดทิศทางไว้ให้ นิยมใช้กับยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยเฉพาะ ยาง นุ่ม เงียบ
- ดอกยางแบบทิศทางเดียว พบได้ในยางสมรรถนะสูง ดอกยางจะมีลักษณะเป็นตัว V ช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มแรงต้านต่อการเหินน้ำขณะที่ใช้ความเร็วสูง ดอกยางประเภทนี้จะถูกกำหนดให้หมุนไปในทิศทางเดียวกัน หากจะสลับยางต้องเปลี่ยนเป็นยางฝั่งเดียวกันเท่านั้น

       เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะความลึกของร่องดอกยางจะเหลือน้อยลงหรือร่องดอกยางตื้นขึ้นทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลงซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่ในสภาวะถนนเปียก ดังนั้นผู้ใช้รถจึงควรตรวจสอบความลึกของร่องดอกยางอยู่เสมอด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น ใช้เหรียญบาทวางระหว่างช่องดอกยาง หากดอกยางสูงน้อยกว่าเหรียญประมาณ 1 ใน 3 แสดงว่าดอกยางเหลือน้อยแล้ว ใช้ไม้บรรทัดวัดโดยความลึกของร่องยางไม่ควรต่ำกว่า 3 มม. หรือเช็กจากสะพานยางซึ่งหากความสูงของดอกยางใกล้เคียงกับสะพานยางควรพิจารณาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้แล้ว

      การเลือกยางรถยนต์ ให้เหมาะกับตัวเองนั้นผู้ขับขี่อาจจะต้องทดลองใช้ยางแบบต่าง ๆ เพื่อค้นหายางที่ใช่และตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด ซึ่งหากส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันใช้รถบนถนนทางเรียบ ชอบความเงียบและนุ่มสบาย อยากแนะนำให้ลอง TURANZA T005Aยางนุ่มเงียบระดับพรีเมียม หนึ่งในผลิตภัณฑ์ ยางรถยนต์ bridgestone​ ​ที่ได้รับความนิยมด้วยคุณสมบัติพิเศษในการลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจึงให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ทั้งยังมีบล็อกดอกยางด้านนอกกว้างทำให้สัมผัสกับพื้นผิวถนนได้มากขึ้นช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน หน้ายางด้านในมีร่องดอกยางเล็กซึ่งทำมุมเอียงสูงช่วยลดแรงกระแทกจากถนนให้การขับขี่ที่นุ่มและเงียบมากขึ้นกว่าเดิม เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยการกระจายแรงกดบนหน้ายางอย่างสม่ำเสมอ ให้ความปลอดภัย ไร้เสียงรบกวน นอกจากนี้ ยาง รถยนต์ bridgestone ยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายตามความต้องการ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bridgestone เท่านั้น จึงเป็นยางคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ขับขี่ทั่วโลก




 

Sitemap 1 2 3