เมื่อต้องดูแลลึกไปยังระบบภูมิคุ้มกัน เราควรเริ่มอย่างไรให้ปลอดภัยและเห็นผล

[daisyday]

เมื่อการรักษาและดูแลร่างกายแบบเดิมๆอาจจะไม่ตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและอยากลองการรักษาแบบใช้เทคโนโลยีและงานวิจัยเข้ามาควบคู่กันไปด้วย จึงไม่แปลกใจว่า มีหลายคนสนใจในการทำ Immune booster IV ซึ่งก็คือการบำบัดทางหลอดเลือดดำ (IV) ชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โดยปกติแล้วจะมีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่นๆ ที่คิดว่าสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อ IVs เหล่านี้อาจใช้เพื่อช่วยป้องกันหรือรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งหรือเอชไอวี ประสิทธิภาพของ immun booster IVs สำหรับการปรับปรุงสุขภาพโดยรวมยังไม่เป็นที่ยอมรับ แม้ว่าวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น วิตามินซีและสังกะสี อาจมีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการรับประทานในปริมาณสูงผ่านการบำบัดด้วยวิธี IV อาจไม่จำเป็นต้องให้ประโยชน์มากไปกว่าการให้ผ่านอาหารที่สมดุลหรือการรับประทาน อาหารเสริม สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนเริ่มการรักษาด้วย IV ประเภทใด ๆ แม้ว่าบางคนอาจได้รับประโยชน์จากเครื่องกระตุ้นภูมิคุ้มกัน IV แต่อาจไม่เหมาะสมหรือจำเป็นสำหรับทุกคน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาด้วย IV เช่น การติดเชื้อหรืออาการแพ้

นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงไม่ได้เป็นเพียงผลจากการได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณสูง แต่ยังมาจากอาหารที่สมดุล การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับที่ดี ความเครียดต่ำ และวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ใช้ในประชากรบางกลุ่มที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ตัวอย่าง บุคคลที่มีโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เอชไอวี หรือโรคภูมิต้านทานผิดปกติ บุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอันเป็นผลมาจากการรักษาทางการแพทย์ เช่น เคมีบำบัด หรือการฉายรังสี บุคคลที่มีการติดเชื้อซ้ำหรือมีปัญหาในการฟื้นตัวจากการติดเชื้อ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่า การใช้ immun booster IVs ควรเป็นรายบุคคล และการตัดสินใจใช้ควรเป็นกรณีไปโดยผู้ให้บริการด้านการแพทย์ ไม่ควรพิจารณาใช้แทนการรักษาทางการแพทย์มาตรฐานสำหรับการติดเชื้อหรือการเจ็บป่วย หรือเป็นมาตรการป้องกันสำหรับบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตามเราควรขอคำแนะนำและปรึกษากับบุคลากรทางการแพทย์ก่อนเริ่มการรักษาใดๆ ก็ตาม รวมถึงการให้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันทางหลอดเลือดดำ เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ประวัติทางการแพทย์ และสภาพปัจจุบัน และตัดสินใจว่าการรักษานั้นจำเป็นและเหมาะสมหรือไม่