ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ปลาซ่อน  (อ่าน 269 ครั้ง)

Boyzite1011

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2149
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ ปลาซ่อน
« เมื่อ: มกราคม 04, 2018, 11:02:27 am »

ปลาช่อน
ปลาช่อนเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa striata (Bloch)
จัดอยู่ในสกุล Channidae
มีชื่อสามัญว่า snakehead murrel
บางถิ่น (พายัพรวมทั้งอีสาน) เรียก ปลาค้อ ก็มี
ชีววิทยาของปลาช่อน
ปลาช่อนมีรูปร่างกลมเป็นทรงกระบอก ลำตัวข้างหางจะแบนเล็กน้อย ความยาวของลำตัวเมื่อโตสุดกำลัง ๖๐-๗๕ ซม. (มีรายงานว่าลำตัวยาวได้ถึง ๑ เมตร) หรือ มีความยาวเป็น ๕.๕-๖ เท่าของความลึกของลำตัว รวมทั้งเป็น ๓.๒-๓.๓ เท่าของส่วนหัว ลำตัวข้างบนโค้งลงบางส่วน ส่วนเรือท้องแบน ด้านข้างของส่วนหางแบน ลำตัวมีตั้งแต่สีเทาถึงสีเทาปนน้ำตาล หลังสีดำ ส่วนท้องสีขาว และก็อาจมีจุดประสีดำหรือสีน้ำตาลกระจัดกระจายอยู่ทั่วๆไป ข้างๆของลำตัวมีลายสีน้ำตาลหรือสีเทาปนดำ (ขนาดรวมทั้งรูปร่างไม่บ่อยนัก) พาดขวางลำตัวจากรอบๆใต้เส้นข้างตัวไปยังบริเวณท้อง ในลางตัวลายพวกนี้อาจพิงขวางลำตัวต่อเนื่องกันจากบริเวณครีบหูถึงคอดหางราว ๑๕ แถบ   อย่างไรก็ตาม สีและก็ลายนี้เปลี่ยนไปตามถิ่นที่อยู่รวมทั้งฤดูกาล หัวปลาช่อนมีขนาดใหญ่ ลักษณะแบนจากบนลงด้านล่าง ตามีขนาดใหญ่ อยู่ข้างๆของท่อนหัว จะงอยปากกลมมน ปากกว้างแล้วก็เฉลง มุมปากลึกและก็ยื่นเลยจากตามาก ขากรรไกรสามารถยึดหดได้ ขากรรไกรด้านล่างยื่นล้ำขากรรไกรบนบางส่วน ฟันที่ขากรรไกรบนรวมทั้งด้านล่างเป็นซี่เล็กมาก ชิดกันเป็นแผ่นรวมทั้งคม ขากรรไกรบนมีเขี้ยว มีฟันที่เพดานส่วนหน้าแล้วก็เพดานส่วนใน ฟันที่กรามแล้วก็เพดานมีราว ๔ แถว แผ่นปิดกระพุ้งแก้มเปิดกว้างได้ บริเวณบ้องคอเหนือเหงือกมีอวัยวะพิเศษช่วยหายใจ  ทำให้เคลื่อนไหวอยู่บนบกและฝังตัวอยู่ในโคลนได้เป็นระยะเวลานาน  ส่วนบนและก็ด้านข้างหัวมีเกล็ดปกคลุมครีบหลังและก็ครีบก้นยาวเกือบถึงโคนครีบหาง ครีบหลังมีก้านครีบ ๓๘-๔๒ ก้าน ครีบตูดมีก้านครีบ ๒๔-๒๖ ก้าน ครีบอยู่ทางด้านท้องใกล้ช่องเปิดทวารรวมทั้งครีบตูด ครีบหูอยู่ข้างๆของลำตัวถัดจากช่องเหงือก ครีบหางกลม คอดหางแบนข้าง  ครีบทุกครีบมีสีเทาปนสีน้ำตาลดำ และก็ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง เกล็ดปลาช่อนมีลักษณะกลมมน ขอบเรียบ เกล็ดตามลำตัวมีสีเทาถึงสีน้ำตาลอมเทา ส่วนหลังสีดำ เกล็ดบนเส้นข้างลำตัวมี ๕๒-๕๗ เกล็ด เส้นข้างลำตัวไม่ต่อกันเป็นแถวเดียว แต่มีรอยหักลงไปตรงรอบๆเกล็ดที่ ๑๗-๒๐ ข้างบนและก็ข้างๆของลำตัวมีเกล็ดขนาดใหญ่ แต่เกล็ดที่แถวๆหัวแข็งกว่าเกล็ดที่รอบๆลำตัว ปลาช่อนเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย   อดทน   หาเลี้ยงชีพตั้งแต่ระดับพื้นดินจนกระทั่งผิวน้ำ ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน ๑ เมตร โดยเฉพาะในบริเวณที่มีพรรณไม้น้ำให้ซ่อนตัวได้ ปลาช่อนผสมพันธุ์กันในหน้าฝน  โดยที่เพศผู้รวมทั้งตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะจับคู่กัน  ช่วยกันกัดหญ้าชายน้ำเพื่อทำแอ่งออกไข่ แล้วต่อจากนั้นตัวเมียก็ตกไข่ แล้วตัวผู้ฉัดน้ำเชื้อเข้าผสม เพศผู้ปฏิบัติภารกิจคอยดูแลลูก  ชาวบ้านเรียกลูกอ่อนของปลาช่อนว่า ลูกครอก เมื่อยังเล็กตัวมีสีออกแดง ดำผุดดำว่ายอยู่ตามแอ่งน้ำไม่ลึกนัก โดยมีบิดาปลาช่อนซุ่มตัวคอยระวังอยู่ ปลาช่อนรับประทานปลาเล็กรวมทั้งเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นปลาที่มักพบในทุกภาคของเมืองไทย

ผลดีทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/u][/b][/url] แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ปลาช่อนเป็นเครื่องยามาแต่ว่าโบราณ ตำราเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า เนื้อสด มีรสหวาน ชอบกับธาตุทั้งสิ้น ก่อให้เกิดเสลด ปิดตะยับยั้งวาตะ เนื้อแห้ง มีรสหวาน มัน มีคุณประโยชน์ชูกำลัง แก้เมื่อยล้า แก้เด็กตัวร้อน นอนตกใจ   มือเท้าเย็น ข้างหลังร้อน หอบ  ชักจากไข้สูง แก้ชางทับสำรอก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ดี มีรสขม   แก้ตาอักเสบ ตาแดง แก้ลอยแผล   หางแห้ง มีรสเย็น คาว แก้เม็ดยอดในปาก แก้ฝ้าละออง รวมทั้งเกล็ด มีรสจืดชืด  คาว ส่งผลให้เกิดลมเบ่งเวลาคลอด พระหนังสือโรคนิทาน ให้ยาขนานหนึ่งสำหรับใช้หยอดตาแก้ “น้ำตาตกหนักให้ตามัว” ยาขนานนี้เข้า “หินในสีสะปลาช่อน” หรือหินในหัวปลาช่อน   เป็นเครื่องยาด้วย  ดังต่อไปนี้ น้ำตานั้น  แตกทุพพลภาพให้ตามัว  ให้น้ำตาตกหนัก  แล้วตั้งแต่แห้งไปตานั้นก็เปนดุจเยื่อ ผลลำไย ถ้าเกิดจะแก้ให้ประกอบยานี้  รากคนทิสอ ๑  รากเสนียดจัญไร ๑  ผลมะตูมอ่อน  ๑  ขิงแห้ง ๑ ทำเท่าเทียม  ต้มกิน  แล้วจึงประกอบยาหยอดตาให้ประชุม  หินในสีสะปลาช่อน  ๑  บัลลังก์หินผา ๑ พิมเสน  ๑ ฝนหยอดตา  สังเกตดูถ้าเกิดมีน้ำตาไหลออกมาถึงแก้ม  ผู้ป่วยนั้นก็ยังไม่ตาย  ถ้าเกิดไม่มีน้ำตา  ตายแล   พระคัมภีร์ธาตุภิวังค์ ให้ยาแก้ไข้ที่ทำให้ชักขนานหนึ่ง ชื่อ “ยาอนันตไกรวาต” ยาขนานนี้เข้า “คางปลาช่อน” เป็นยาเครื่องด้วย ดังต่อไปนี้ ยาชื่ออนันตไกรวาต  แก้พิษไข้ทำให้ชักลิ้นแข็งกระด้างคางแข็ง  และชักให้สั่นไปทั้งยังกาย  แลทำพิษต่างๆ ถ้าเกิดจะแก้ท่านให้เอากระดูกงูงูเหลือม ๑  กระดูกงูทับสมิงคลา  ๑  คางปลาช่อน ๑ งา ๑  กรามแรด ๑ ยาทั้งนี้ขั้วให้เกรียม โกฐหัวบัว  ๑  โกฐสอ  ๑  หีบศพกระดูก  ๑  เทียนดำ  ๑  ผลโหระพา  ๑  ผลผักชี  ๑  น้ำประสานทอง  ๑ ใบพิมเสน  ๑ ใบสันมีดพร้าหอม ๑ ใบผักหวาน ๑ ใบทองหลางน้ำ  ๑  รากถั่วภู  ๑  รากตำลึงเพศผู้  ๑  ดอกบุนนาค  ๑  ดอกพิกุล  ๑  ยาทั้งนี้เอาส่วนเสมอกัน  บดทำแท่งไว้ น้ำกระสายยานั้นให้เอาชาวเข้าหรือน้ำดอกไม้ก็ได้ แซกดีงูแลพิมเสน กินแก้กิน แก้ชัก แก้เชื่อมมึน แก้ลิ้นแข็งกระด้างคางแข็ง อีกทั้งกินทั้งยังซะโลมก็ได้แล ยานี้ได้เชื่อมาแล้ว เปนมหายอดเยี่ยมนัก

Tags : สมุนไพร

 

Sitemap 1 2 3