ใครอยากลงทุนระยะยาว สิ่งแรกที่นึกถึงคงเป็นกองทุนรวมแน่นอน เพราะเหมาะสำหรับผู้ไม่ค่อยมีเวลามากนักในการจัดการดูแลพอร์ตลงทุน แถมจะซื้อหุ้นแต่ละทีต้องมานั่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของหุ้นตัวนั้นให้ปวดสมองอีก อีกทั้งการเล่นหุ้นก็ความเสี่ยงสูงพอสมควร นักลงทุนผู้รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงเลือกมองหา กองทุนรวมที่น่าสนใจ เพื่อลดภาระเหล่านี้ บทความนี้พามาแนะนำ 10 กองทุนรวม น่าสนใจประจำปี 2565 มาฝากทุกคนกัน
10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ ผลตอบแทนดี
KSET50LTF-L
กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นดัชนี SET50 ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2565 อยู่ที่ราว 2.19 % และผลตอบแทนระยะยาว 10 ปี เฉลี่ย 3.80% จัดว่าเป็นกองทุนที่มีความมั่นคงสูง ความเสี่ยงอยู่ในระดับ 6 ที่เป็นความเสี่ยงทั่วไปของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน 500 บาท ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล
https://www.ktam.co.th/rmf-ltf-fund-detail.aspx?IdF=2 KT-mai
KT-mai มี ผลตอบแทนกองทุนรวม จัดว่าน่าสนใจอย่างมาก โดยปี 2565 ทำผลตอบแทนได้ถึง 26 % เอาชนะเงินเฟ้อที่สูงได้ขาดลอย กองทุนนี้เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนตลาด MAI ที่ทำผลงานได้ดี ตัวอย่างเช่น บมจ.อาฟเตอร์ยู บมจ.ดิทโด้ (ประเทศไทย) หรือ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีอัตรากำไรสุทธิที่ดี อย่างไรก็ตาม KT-mai ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ความเสี่ยงอยู่ในระดับ 6 รวมทั้งมูลค่าซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail-document.aspx?IdF=25 PVDKTSS
กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารตลาดเงิน ซึ่งเป็นลักษณะของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเป็นกองทุนรวมที่ผลงานไม่ได้หวือหวา โดยปี 2565 ทำผลตอบแทนไปได้ 0.32% แต่ด้วยผลตอบแทนต่ำ ย่อมแลกมากับความเสี่ยงต่ำ นั่นคือความเสี่ยงอยู่ในระดับ 1 เท่านั้น โอกาสขาดทุนต่ำสุดๆ ซึ่งเน้นลงทุนในทรัพย์สินมั่นคงเป็นอันดับต้นๆ เช่น พันธบัตรไทย ตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม PVDKTSS ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และไม่มีขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail.aspx?IdF=381 KT-CLMVT-D
เน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทประเทศ พม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม-ไทย ความผันผวนในการลงทุนสูง แม้ว่าความเสี่ยงระดับ 6 เทียบเท่ากับกลุ่มกองทุน SET50 และกองทุน MAI เพราะผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี ติดลบ 22.36% แต่บางปีผลการดำเนินงานสุทธิทำได้ดี อย่างไรก็ตามจุดเด่นของกองทุนดังกล่าวมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง บางครั้งจ่ายถึง 0.5 บาทต่อหน่วยลงทุน
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail.aspx?IdF=214 TOF
กองทุนเปิดไทยสร้างโอกาส เน้นลงทุนในบริษัทที่แนวโน้มดี เพิ่งเข้า IPO ตัวอย่างบริษัทที่ TOF ลงทุน เช่น PTT, PTTEP และ AOT เป็นต้น จุดเด่นสำคัญคือมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้งต่อปี ความเสี่ยงของกองทุนอยู่ในระดับ 5 ความผันผวนขึ้นลงแต่ละปีสูง และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2565 อยู่ที่ราว -0.16%
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail.aspx?IdF=26 KTSV
KTSV เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เน้นลงทุนในตราสารเงินภาครัฐของไทย เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยตามงวดลงทุนต่างๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ความเสี่ยงของกองทุนต่ำมากอยู่ในระดับ 1 เท่านั้น ทำให้ผลตอบแทนโดยรวมไม่หวือหวามากเมื่อเทียบกับกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่ลงทุนในหุ้นกู้ หรือตั๋วแลกเงิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม KTSV ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail.aspx?IdF=5 EBANK
กองทุนรวมอีทีเอฟลงทุนในกลุ่มธุรกิจธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงสูง เช่น ธนาคารกสิกร หรือธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น ความเสี่ยงของกองทุนอยู่ในระดับ 7 ถือว่าสูงพอสมควรเพราะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมเดียว การกระจายความเสี่ยงจึงจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจขาลง กลุ่มแบงก์จะซบเซาตามไปด้วย ซึ่ง EBANK มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อปี และปีนี้ก็ทำผลงานได้ดีอัตราตอบแทนเฉลี่ยสูงเกิน 7%
https://www.ktam.co.th/fif-fund-detail.aspx?IdF=3 CHINA
ตอนนี้ไม่ว่ากองทุนรวมต่างประเทศจากธนาคารอะไรต้องเจอปัญหากับการลงทุนในประเทศจีนแน่นอน เนื่องจากยัง lockdown ในบางพื้นที่ประกอบกับเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัวนัก อย่างไรก็ตามจึงเป็นโอกาสให้กับนักลงทุนเข้าซื้อหน่วยลงทุนที่ราคาปรับตัวลดลงมามากแล้ว ซึ่งกองทุน CHINA ความเสี่ยงสูงในระดับ 6 และเน้นลงทุนใน WISE CSI 300 China Tracker เป็นหลัก มีนโยบายปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี
https://www.ktam.co.th/fif-fund-detail-document.aspx?IdF=8 KT-ST
กองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะสั้น เน้นลงทุนในตั๋วแลกเงิน เงินฝากประจำใน bank of china หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง KT-ST ไม่มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล มูลค่าหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท ที่สำคัญความเสี่ยงของกองทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำอยู่ในระดับ 4 ทำให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับ 0.65- 2.3%
https://www.ktam.co.th/mutual-fund-detail-document.aspx?IdF=49 KT-BRAIN RMF
กองทุนเปิดกรุงไทย เอไอเบรน เพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงสูง มักอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และคมนาคมพื้นฐาน เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ควอลิตี้เฮาส์ หรือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ ซึ่งกองทุนความเสี่ยงอยู่ในระดับ 6 และไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเช่นกัน
https://www.ktam.co.th/rmf-ltf-fund-detail-document.aspx?IdF=26 หากใครสนใจ กองทุนรวมที่น่าสนใจ ทั้ง 10
กองทุนเหล่านี้ สามารถเข้าทำการซื้อขายกองทุนรวม
พันธบัตรรัฐบาล หุ้น DRได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น KrungThai Next เพียงแค่เลือก
กองทุนรวมจากหน้าเมนูแรกของแอพพลิเคชั่น จากนั้นเลือกกองทุนรวมผ่านเมนูบริการ และเลือกกองทุนรวมที่ต้องการซื้อขายจากหน้าบัญชี สำหรับผู้เปิดบัญชีกองทุนแล้วเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็ซื้อกองทุนรวมได้เลย