ผู้เขียน หัวข้อ: 4 วิธีการตรวจสอบค่าต่างๆด้วย เครื่องมือวัด fluke สำหรับพ่อบ้าน  (อ่าน 1775 ครั้ง)

lnwneverdie2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 370
    • ดูรายละเอียด

Credit : http://www.smi-i.com/index.php?ge=product_view&gen_lang=151012114326
เครื่องมือไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มือใหม่ หรือคนทำงานทั่วไป จำเป็นต้องฝึกหัดรู้จักการใช้งานให้คล่องแคล่ว มากกว่าคอนเซ็ปต์การใช้งานเท่านั้น และเครื่องมือวัดไฟ เป็นอีกเครื่องมือไฟฟ้าอีกตัวที่ขาดไม่ได้อย่างมากช่างสมัครเล่น เพราะเป็นอุปกรณ์ชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้ท่านรู้เรื่องเรื่องทฤษฏีไฟฟ้า แต่ก่อนอื่นคุณต้องเลือกซื้อหา มัลติมิเตอร์ สักตัวก่อน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อในตลาด ทั้งที่ราคาที่ไม่แพง และแพง บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น วัดอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮน์ได้  แต่ส่วนใหญ่แล้วมัลติมิเตอร์ ของถูกจะจะแสดงค่าคลาดเคลื่อนมากนัก เราขอแนะนำเครื่องมือวัดไฟยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาสูง แต่ทนทาน ได้มาตรฐาน และตรวจจับวัดค่าได้เที่ยงตรง ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยเพื่อนๆสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับการใช้งานแบบบ้านๆ แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีรูปแบบการวัดพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับช่างไฟทั่วไปมากครับ
เครื่องมือวัดไฟ คืออะไร
มัลติมิเตอร์ เป็นเครื่องมือช่างไฟฟ้า ที่ช่วยให้ท่านสามารถตรวจสอบปริมาณค่าต่างๆ เช่น แรงดันไฟฟ้า, แอมป์มิเตอร์, ค่าความต้านทานและวัดค่าไดโอด เครื่องมือวัด fluke 117 สามารถทำได้ครอบคลุมทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 แสดงผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับช่างไฟทั่วไป เครื่องมือวัดไฟจะมีโหมดย่านต่างๆ ให้เลือก โดยการปรับหน้าปัดไปที่โหมดย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
V วัดแรงดันไฟฟ้า ทั้งแบบกระแสไฟตรง และAC
mV สำหรับตรวจสอบแรงดันไฟ แรงดันต่ำ แบบกระแสไฟตรง และAC
Ω วัดค่าความต้านทาน
A วัดปริมาณไฟ แบบกระแสตรง และกระแสสลับ
และโหมดตรวจสอบความต่อเนื่องสำหรับ ตรวจสอบสายไฟขาด
สำหรับขั้นตอนการวัดค่าไฟโหมดทั่วไปต่างๆ เราได้รวบรวมวิธีการไว้ดังต่อไปนี้
การวัดค่าโวลต์
การตรวจสอบโวลต์ หรือการวัดแรงดันไฟฟ้า ก่อนอื่นคุณต้องหาแบตเตอรี่ 9v ที่ที่ใช้แล้วมาทำการทดลองต่อจากนั้น
1.เสียบสายดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2.เสียบขั้วบวกสีแดงเข้าช่อง V
3.ปรับหน้าปัดไปยังสัญลักษณ์ V โวลต์ แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงสูง หรือกระแสตรงต่ำ mV หน้าจอจะขึ้นสัญลักษณ์ DC
4.นำสายสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก สายสีดำแตะขั้วลบ ของแบตเตอรี่
5.ค่าของค่าโวลต์ ของแบตเตอรี่จะแสดงที่หน้าจอบนมัลติมิเตอร์
6.สำหรับกรณีวัดย่านกระแสสลับ ให้ปรับลูกบิดไปที่ย่าน V แรงดันกระแสสลับ สูง Hz เท่านั้น ซึ่งหน้าจอจะเห็นเครื่องหมาย AC
7.เสียบสายทั้งสองสีที่ปลั๊กไฟบ้าน แต่ต้องระวังอย่าให้ทั้งสองเส้นสัมผัสกัน หรือนิ้วไปถูกบริเวณปลายเหล็ก ซึ่งไฟบ้านจะแสดงค่าแรงดันประมาณ 220V

Credit : http://www.adpermanent.co.th/
การปริมาณไฟฟ้า
1.ต่อขั้วสายสีดำเข้ากับช่อง COM (common)
2.ต่อขั้วบวกของสายสีแดงที่ช่องเสียบ A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้ถึงเพียงแค่ 10A
3.บิดลูกบิดไปยังย่าน แอมแปร์ กระแสไฟ DC
4.ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ค่าแอมป์ที่ผ่านดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะแสดงตัวเลขที่หน้าจอ
5.กรณีต้องการตรวจวัดไฟกระแสสลับ ให้บิดลูกบิดไปที่ ย่านตรวจสอบกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz นำสายทั้งสองสีต่อ เข้าโหลดกับเครื่องใช้แบบอนุกรม ค่ากระแสไฟฟ้าจะแสดงที่จอมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรระมัดระวังเสมอว่าเครื่องวัดสามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้สูงสุด 10A เท่านั้น ถ้าวัดกระแสที่โอเวอร์โหลด ฟิวส์ภายในเครื่องจะระเบิด ทำให้มัลติมิเตอร์เสียหายได้
การวัดตัวต้านทาน
การตรวจสอบตัวต้านทาน หรือ R คือ ตัวต้านทาน ไฟฟ้า เพื่อปรับลดปริมาณไฟให้เหมาะกับเครื่องมือหรือวงจรต่างๆ
1.เสียบสายขั้วบวกลบ เหมือนการวัดค่าโวลต์ เส้นสีแดงทิ่มเข้ากับสัญลักษณ์ Ω โอเมก้า สัญลักษณ์กรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2. บิดลูกบิดไปยังสัญลักษณ์ Ω ความต้านทาน และหากเอาขั้วสายทั้งสองเส้นมาแตะกันจะไม่มีค่า R ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะแสดงผลที่ 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี
3.นำเอาสายขั้วบวกลบ ไปแตะยังปลายสองข้างของสายไฟที่จะตรวจสอบโอห์ม
4.จากนั้นจอมาตรวัดจะขึ้นค่าโอห์มของสายไฟนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีความต้านทานแล้ว หน้าจอจะเท่ากับ 0
การตรวจสอบความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย
ตรวจสอบความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบตัวนำไฟฟ้าของเครื่องมือ หรือเช็คอุปกรณ์นำไฟฟ้าว่าเชื่อมต่อกันหรือไม่ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสียหรือไม่ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1.เสียบสายดำ เข้าช่อง COM (common)
2.ต่อสายสีแดงเข้า ช่องโอห์ม ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
3.ปรับหน้าปัดไปที่สัญลักษณ์ความต่อเนื่อง รูปสัญญาณโทรศัพท์
4.ทดลองโดยการนำแท่งปลายสายดำแดงมาแตะกัน ซึ่งจะมีเสียงดัง ปี๊บ นั่นหมายความว่ามีความต่อเนื่องกัน
5.จากนั้นเอานำสายแดง-ดำ แตะที่ปลายวัสดุที่เราจะตรวจสอบสองข้าง ถ้าหากได้ยินเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสัญญาณปรกติ นั่นเอง แต่ถ้าไม่มีเสียงดัง แสดงว่าไม่มีความต่อเนื่องกัน
ง่ายมากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้เพื่อนๆต้องทำการปฏิบัติฝึกซ้อมให้รู้เรื่อง ให้แตกฉาน และต้องพึงระวังเสมอเวลาจะตรวจไฟฟ้ากระแส AC  ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง อันตรายอย่างมาก และหากเพื่อนๆมีงบไม่จำกัด การซื้อหาเครื่องเครื่องมือวัดไฟแบรนด์ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ในเว็บออนไลน์ จะช่วยให้ท่านทำงานได้ง่ายทีเดียว เพราะแบรนด์ทั่วไปแล้วจะมีช่วงย่านที่ใช้งานยากกว่านี้ แต่กับของ fluke มีทำระบบทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความทน fluke ถือเป็นหมายเลขหนึ่งทีเดียว

ที่มา : http://www.meterdd.com

Tags : เครื่องมือวัด fluke

Girimegarm

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
ใช้ยากรึเปล่าครับ ไม่เคยใช้เลย

cheeseeaw

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
    • can you take benadryl with cialis

excibiree

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
    • taking tadalafil after ectasy

adumevy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
    • tadalafil dose for ed

Inhimimom

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
    • canadian pharmacyworld cialis 5mg
<a href="http://osildenafilop.com ">female viagra cheap</a>

 

Sitemap 1 2 3