ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอดประโยชน์ เเละ สรรพคุณ สมุนไพรเจตมูลเพลิงขาว ที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตสบายขึ  (อ่าน 296 ครั้ง)

diorarmani2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2655
    • ดูรายละเอียด

เจตมูลเพลิงขาว
ชื่อพื้นบ้านอื่น  ปิดปิวขาว (ภาคเหนือ) ตั้งชู้รักอ้วย , ตอชุวา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เจตมูลเพลิงขาว (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Plumbaga zeylanica L.
ชื่อตระกูล  PLUMBAGINACEAE
ชื่อสามัญ White leadwort.
ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงราวๆ 1-1.5 เมตร กิ่งอ่อนเป็นรองและเป็นเหลี่ยมสีเขียว แตกกิ่งก้านสาขารอบๆต้นล้นหลาม
ใบ เป็นใบผู้เดียว ออกตรงกันข้ามกัน ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบของใบเรียบหรือเป็นคลื่นน้อย ใบมีสีเขียวเข้ม ลักษณะคล้ายกับใบมะลิแม้กระนั้นจะใหญ่มากยิ่งกว่า
ดอก มีดอกเป็นช่อที่ส่วนยอดของต้น ดอกมีสีขาว โคนหลอดจะเป็นหลอดเล็กๆแม้กระนั้นส่วนปลายจะบานเหมือนจานมีอยู่ 5 กลีบ กลีบดอกจะบางมาก กลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว แล้วก็มีขนปกคลุมอยู่ ซึ่งขนนี้จะมีต่อมเหนียวๆติดมือ
ผล สำเร็จแห้ง ลักษณะรูปรี ยาว กลม สีเขียวรวมทั้งมีขนเหนียวรอบผล แตกออกได้
นิเวศวิทยา
มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย และเขตร้อนทั่วๆไป กำเนิดตามปาสดงดิบและป่าเบญจพรรณทั่วๆไป เป็นไม้ที่ถูกใจอยู่ร่มรำไร
การปลูกแล้วก็ขยายพันธุ์
เจริญวัยก้าวหน้าในที่ที่มีอากาศร้อนชื้น แล้วก็สภาพดินทั่วๆไป  ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือการปักชำกิ่ง

ส่วนที่ใช้ รส และสรรพคคุณ   
สมุนไพร ราก รสร้อน ใช้เป็นยาขับเมนส์ แก้ปวดข้อ ขับพยาธิ ใช้ทาแก้กลากเกลื้อน ระงับอาการปวดฟัน แล้วก็แก้ท้องร่วง ขับลมในกระเพาะอาหารรวมทั้งลำไส้ ขับโลหิตรอบเดือน แก้ริดสีดวงทวาร ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ต้น  รสร้อน แก้โลหิตอันเกิดแม้กระนั้นกองกำเดา
ใบ รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
ดอก รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
วิธีใช้แล้วก็ปริมาณที่ใช้

  • ขับรอบเดือนหรืบขับเลือดระดู โดยใช้รากสด 5-10 กรัม หรือแห้งประมาณ 3-5 กรัม ล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นต้มในน้ำที่สะอาด 500 ซีซี นานประมาณ 10 นาที แล้วกรองเอาน้ำ ดื่มวันละ 2 เวลา เช้าตรู่-เย็น
ข้อควรจะรู้
รากมีสาร plumbagin ลำต้นมีเช่นเดียวกัน แต่น้อยกว่าราก
ต้องการให้เป็นยาช่วยสำหรับการย่อยหรือเจริญอาหาร ให้นำผงของรากเจตมูลเพลิงแดงมาผสมกับลูกสมอพิเภก ผงดีปลี และเกลือ อย่างละเท่าๆกัน รับประทานครั้งละ 2.5 กรัม
สตรีที่มีครรภ์ห้ามกินรากของต้นนี้ ด้วยเหตุว่ารากจะมีสารบางสิ่งที่ทำให้แท้งลูกได้

 

Sitemap 1 2 3