เวลาท่องเที่ยว ถ้าเรามีภาษาอังกฤษประจำตัวไปด้วย ถูกใจช่วยให้เกิดความรู้สึกอุ่นใจเล็กๆเนื่องจากว่าเรามีคนกว่า 4 ล้านคนบนโลกใบนี้กล่าวภาษาอังกฤษขา ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรมีสักคนที่เข้าใจเราแน่ๆยิ่งกว่านั้น การไปท่องเที่ยวยังถือได้ว่าเป็นจังหวะดีที่จะได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกด้วย
วันนี้ เรามี 8 ประโยคภาษาอังกฤษที่ต้องใช้บ่อยครั้ง มาทดลองดูกันว่าจะปรับใช้อย่างไรได้บ้าง
1. How much does the magazine cost?
“แมกกาซีนราคาเท่าไรขา”
เนื่องจาก เราคนประเทศไทย ช็อปกันได้แบบไม่แพ้ชาติใดในโลกจ้ะ การถามราคาก็เลยถือได้ว่าเป็นสิ่งของที่มีความจำเป็นเยอะมาก ตั้งแต่นิตยาสารที่สนามบิน taxi กระเป๋าแบรนด์เนม ไปจนกว่าราคาห้องพัก เราใช้ประโยคนี้ได้หมดเลย ก็แค่แทนคำว่า
คําคมภาษาอังกฤษสั้นๆ ในประโยคเป็นสิ่งที่จำเป็นถามได้เลย
2. What time is it?
“ตอนนี้ เวลาอะไรจ้ะ”
ท่องเที่ยวเสมอๆคงพอจะรู้ดีว่าการผ่าน time zone นั้นก็ทำเรามึนได้พักใหญ่เลย ด้วยเหตุดังกล่าว เพื่อไม่ให้พลาดรถไฟ รถเมล์หรือการนัดหมายอะไรก็ตามการถามเวลาจะช่วยให้มั่นใจว่าเราตั้งเวลาถูกตามสถานที่นั้นๆ
3. Where is the hospital?
“โรงหมออยู่ไหนขา”
ประโยคนี้ เป็นการถามสถานที่ตั้ง ประโยคง่ายแม้กระนั้นมีประโยชน์ล้นหลาม อย่าลืมเปลี่ยนว่า hospital เป็นสถานที่ที่อยากรู้ เป็นต้นว่า ร้านอาหาร แบงค์ สถานีรถไฟ พอใช้ได้คำตอบและถามทางต่อได้เลย
4. How do I get to the hospital from here?
http://www.engzones.com/knowledge/principle-word-in-english.html“จากที่นี้ ไปโรงหมอได้อย่างไรจ้ะ?”
ตลอดมาเลยขา พอประมาณสถานที่ที่ตั้งแล้ว เราก็ควรต้องถามทางต่อ ก็แค่แทนคำที่ว่า
คําคมภาษาอังกฤษสั้นๆ ด้วยสถานที่ ที่อยากได้ไป อาทิเช่น How do I get to the train station from here? (“ไปสถานีรถไฟจากที่นี้เช่นไรขา”) พอเพียงฝึกหัดถามทางแล้ว อย่าลืมจำคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการแนะแนวทางด้วย เป็นต้นว่า turn left, turn right, straight ahead, near by หรือ right next to อื่นๆอีกมากมาย ชั่วประเดี๋ยวได้คำตอบมาแล้วจะสับสนนะคะ
5. Do you accept debit/credit cards?
“รับบัตรเครดิต/เดบิตไหมจ้ะ?”
ครั้งคราวบัตรเครดิตหรือเดบิตก็ช่วยได้มากมายในเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้ว่าไม่ใช่ทุกร้านรวงที่รับบัตร ก่อนจับจ่ายซื้อของหรือทานข้าวในร้านอาหาร ก็อย่าลืมถามคำถามนี้ รวมทั้งอย่าลืมพกเงินสดประจำตัวไปสักนิดสักหน่อยนะคะ
6. Do you sell any maps here?
“นี้ขายแผนที่ไหมขา”
เดินเข้าร้านรวง แล้วอยากได้หาของที่ต้องการจะซื้อแบบเร็วทันใจ ก็ถามเลย จะเปลี่ยนจาก maps เป็นกระเป๋ารุ่น Limited ก็ได้นะคะ
7. Is this the line for the 7.30 PM bus?
“อันนี้ แถวสำหรับรถเมล์รอบ 7 นาฬิกาครึ่งไหมขา”
การต่อคิวเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเสียเวล่ำเวลากับคิวผิดนั้นสำคัญกว่า ด้วยเหตุฉะนี้ ก่อนจะเราจะเข้าคิวผิดโดยไม่ทันรู้สึกตัว ทดสอบถามคนข้างหน้าสักนิดสักหน่อย เปลี่ยนคำว่า 7.30PM bus เป็นสิ่งที่เราอยากได้ต่อคิวได้เลย ตัวอย่างเช่น “Is this the line for waffle?” หรือ “Is this the line for Flight 99?”
8. Can you please take a picture of me?
ปัญหาสุดท้ายสำคัญมาก “ถ่ายรูปฉันให้หน่อยได้ไหม?” ที่สำคัญไม่ใช่ด้วยเหตุว่าเราหาช่างถ่ายภาพนะคะ แต่สำคัญเนื่องจากว่าเป็นประโยคอ้อนวอนให้ช่วย ถ้าเปลี่ยนคำที่ขีดเส้นใต้เป็นการทำอื่นๆเช่น “Can you please help me with the direction?” (“ช่วยฉันเรื่องทางหน่อยได้ไหมขา”) อย่าลืมคำว่า please และก็รอยยิ้มนะคะ พอเพียงเขาช่วยแล้ว ก็อย่าลืม thank you ด้วยละ
แม้กระนั้นถ้าหากอยากฝึกซ้อมภาษาก่อนท่องเที่ยว ทดลองเรียน myClass กับเราดูนะคะ เราสอนสดทุกคลาสโดยคุณครูเจ้าของภาษา แล้วก็มีหัวข้อให้เลือกเยอะมากว่า 200 หัวข้อ แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน
