ผู้เขียน หัวข้อ: เคล็ดลับตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีให้เข้ากับบริษัทของคุณ  (อ่าน 247 ครั้ง)

lnwneverdie2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 370
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบัน SME หลายกิจการต่างสรรหาแนวทางที่จะสร้างศักยภาพในการทำงานและลดต้นทุนให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ พอให้สามารถขับเคี่ยวและรอดตายในยุคที่การค้าขายซบเซาอย่างในตอนนี้ การเปลี่ยนมาใช้  software โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่กระนั้น software มีมากมายหลายตัวแทน จะเลือกซื้ออย่างใดจึงจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอชี้แนะข้อควรพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางให้ท่านเลือกโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับร้านค้าของคุณ ดังนี้ครับ

1.อุตสาหกรรม
ธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านขายย่อย โรงงานผลิต หรือกิจการทางด้านงานบริการ ซึ่งแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ก็มีรายละเอียดการทำบัญชีที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้โปรแกรมเมอร์ จะดีไซน์โปรแกรมบัญชีให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดธุรกิจ แม้กระนั้น โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานกับกลุ่มธุรกิจหลายๆ ชนิดเช่นกัน แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีที่มีรูปแบบการใช้งานควรกับบริษัทคุณ หรือมีส่วนเบ็ดเตล็ดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมบางแบบ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง กิจการรับผลิต และศูนย์กระจายสินค้า ควรจ้างโปรแกรมเมอร์มาออกแบบโปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับกิจการคุณจะดีกว่า
2.ขนาด ธุรกิจ
รายละเอียดปลีกย่อยของการทำบัญชีจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ ธุรกิจ คุณเลือกใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่สามารถใช้งานได้กับ ร้านค้าที่มียอดจำหน่าย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าบริษัทมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีความซับซ้อนทางบัญชีเพิ่มขึ้น โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ เพราะฉะนั้นควร เลือกให้เข้ากับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย
3.ฟังก์ชันอะไรบ้างที่ต้องการใช้งาน
ก่อนการ เลือกซื้อซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรตั้งคำถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่ร้านค้าท่านจำเป็นต้องใช้งาน ควรลิสความต้องการ คุณลักษณะ หรือรูปแบบที่อยากได้เป็นเรื่องๆ เสียก่อน บางธุรกิจอาจจะอยากได้การใช้งานที่ไม่ยาก มีฟังก์ชันไม่ซับซ้อน ขณะที่ร้านค้าอื่นอาจจะต้องการอินเตอร์เฟสในการชำระเงินออนไลน์ หรือการใช้ credit card หรือมีฟังก์ชั่นบริหารสินค้าคงเหลือ หรือสร้างเปลี่ยนแปลงใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร เลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และเข้ากับร้านค้าท่าน อย่าเสียเงินให้กับฟังก์ชันที่ไม่ได้ใช้งาน
4.การดูแลและให้คำปรึกษา
เวลาที่ท่านมีอุปสรรคใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทตัวแทนสามารถซับพอร์ท แก้ไขได้ได้ดีเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ง่ายสะดวก น่าเชื่อถือหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญตัวแทนเหล่านั้น มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที บัญชี คอยให้คำแนะนำท่านหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถ research จากอินเตอร์เน็ต หรือสืบถามร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
5.งบประมาณ
งบประมาณจะเป็นปัจจัยประเด็นหลักที่มีผลต่อการ เลือกซื้อโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีแบบเบสิคจะมีสนนราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีรูปแบบเฉพาะที่ออกแบบฟังก์ชันการใช้พิเศษ ท่านต้องจ่ายแพงกว่าเสมอ และก่อนจะตกลงใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำตารางวิเคราะห์ความคุ้มค่าเบื้องต้น เพื่อจะได้ทราบว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินจริง หรือไม่คุ้มกับการลงทุน
6.โปรแกรมบัญชีบริษัทตัวแทนให้ทดลงใช้ฟรีหรือไม่
จะดีมากถ้าคุณสามารถทดลองโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะจะสามารถเห็นข้อดีข้อเสียต่างๆ ทั้งเรื่องความง่ายดายในการใช้งาน ปัญหาที่พบ การใช้งาน Function โมดูลต่าง ลงตัวหรือไม่ เพราะฉะนั้น ก่อน เลือกซื้อสอบถามกับบริษัทซอฟแวร์ว่ามีระยะเวลาทดลองฟรีหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปจะจะเปิดให้ลูกค้าลองใช้ได้ 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว
ในที่สุดแล้วควรสืบถามธุรกิจอื่นๆ ที่ท่านคุ้นเคยเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่ที่อยู่ในลิส อย่างน้อย 3 ธุรกิจ ควรไถ่ถามข้อดีข้อเสีย พบปัญหาอะไรหรือไม่ อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการบริการซับพอร์ทของตัวแทนจำหน่ายเป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านี้สิ่งสำคัญควรตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่ติดตลาด มีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งจะปลอดภัยมากกว่า

เครดิต : http://onlinefromaccount.tumblr.com/post/123015372722

Tags : โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรี

 

Sitemap 1 2 3