ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อความที่เตี่ยมารดาจำเป็นจะต้องรู้ ก่อนกำหนดให้เลือดเนื้อเชื้อไขนั่งคาร์ซีทในรถ  (อ่าน 265 ครั้ง)

Puttichai9876

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2297
    • ดูรายละเอียด
 

บิดาพระชนนีไม่ชำนาญหลายคนคงเป็นกลุ้ม ครั้งที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายคราคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป ทำเอาลูกน้อยไม่สบายตัวหรือว่าเป็นพิษภัย เหรอกังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท หรือ เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะคุ้มกันอุบัติเหตุได้จริงหรือไม่ ซึ่งการกังวลนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง กล้าส่งผลต่อเส้นโลหิตของลูกจนเป็นพิษภัยได้ ดังนั้น การที่คุณสังเกตฐานันดรเข็มขัด ที่ตั้งที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อกลุ้มใจด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีทางการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่ประสกพึงระวัง

1. ตั้งคาร์ซีท มิชอบ ข้อแรกที่จำเป็นรู้ก่อนเลยคือว่า ขนาดของคาร์ซีทที่เราควักกระเป๋ามานั้น พอเหมาะพอควรกับเบาะรถรึเปล่า กับต้องทำการวางแบ่งออกถูกต้องด้วย เพราะว่าคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นอย่างไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรตรวจค้นดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่สมกัน เป็นได้ล็อคได้กระชับ แม้มาตุเรศเห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติเหรอได้ยินเสียงแปลกๆ ควรนำคาร์ซีทไปซ่อมหรือไม่เปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้ลูกหลานใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะปะแยกออกให้เปล่าครับ

2. ชำระคืนสายคาดผิดทำนอง ประเภทคาดเปล่าพอที่ลุ่ยไม่ใช่หรือรัดตึงเกินไป พ่อคุณแม่รอบรู้ตรวจสอบสายคาดโดยจับสายคาดให้ตึง หลังจากนั้นใช้นิ้วจิ้มดู แม้สายบุ๋มลงมาก บ่งบอกว่าหลวมเกินดี สำหรับคาร์ซีทขั้วหันหลัง เลยเวลาควรอยู่ที่ขั้นหรือไม่อยู่ใต้บ่าของลูกเล็กน้อย ถ้าหากเป็นคาร์ซีทแบบเบือนหน้า สายคาดต้องอยู่สภาพเดียวกับเหรอดีกว่าไหล่ของลูกครับ

3. ส่งเสียลูกหลานนั่งหันหน้าด่วนเกินควร เตี่ยคุณแม่หลายคนเป็นได้เคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกต้องให้ลูกนั่งหันหลัง ตราบเท่าที่ลูกจักความหนักเบา 9-10 กิโล ถึงจะให้นั่งผินหน้า ซึ่งเป็นคตินิยมที่ผิด โดยองค์การกุมารแพทย์แห่งอเมริกาชักจูงว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ พร้อมทั้งสมมุติเป็นไปได้การดำรงตำแหน่งแบบหันหลังนั้นเสถียร กับสมควรให้ลูกนั่งหันหลังให้นานนมเต็มที่เท่าที่จะเนรมิตได้ มารดรหลายคนอาจไม่สบายใจว่าสมมุติลูกตัวใหญ่ขึ้น เป็นได้นั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถไม่ใช่หรือต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วตัวของเด็กทำได้ยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ ป๋ามาตุเรศไม่ควรวิตกกังวลในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าสัดส่วนคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะนิจสินก็ไม่ประเภทเกินไปขอรับ

 4. มอบลูกนั่งบูสเตอร์ซีทรวดเร็วทันใจเกินดี บูสเตอร์ซีท ถือเอาว่าเบาะรองนั่งของเด็กด้วยว่าชำระคืนข้างในรถ ใช้เนื่องด้วยเด็กระยะเวลารุ่น 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของของซื้อของขายบางเจ้า ชี้ช่องทางว่าพึงจะให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกรุ่น 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกน้ำหนักโดยประมาณ 18 กม.หรืออายุ 4-5 ขวบ และลูกอาจจะนั่งโดยมีช้าคาดพาดผ่านหน้าอกได้ทั้งมวลทัวร์ พร้อมทั้งแพทย์ยังชักชวนว่าสายรัดตัวแผนการ 5 จุดไม่เป็นอันตรายกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า เพราะอาจจะรักษาเด็กได้ดีกว่าปั้นเหน่งนิรภัยเครื่องใช้บูสเตอร์ซีท ก็เพราะว่าสายรัดตัวอาจจะป้องกันลำตัวด้านบน ลดความเคลื่อนไหวด้วยกันการเขกบนหัวพร้อมกับคอลงได้ ช่วงเวลาที่เข็มขัดนิรภัยปกป้องรักษา ถิ่นที่ใจพร้อมทั้งก้นอย่างเดียว

นักอยู่ว่าบูรพการีอยู่ยงเปล่าเชี่ยวชาญป้องกันอันตรายทุกอย่างที่พร้อมแกล้งลูกได้ ถ้าว่าการที่ป๊ะป๋าม่าม้าทำเป็นเลือกใช้เครื่องมืออภิบาลทำเนียบมีความสามารถได้อย่างถูกแนว ก็นับหมายความว่าการทวีคูณการระแวดระวังภัยให้เลือดเนื้อเชื้อไขได้อีกทางหนึ่งครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เป้อุ้ม

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://kidsaraburi.com/index.php?topic=397444.new#new

Tags : เป้อุ้ม,เปลเด็ก

 

Sitemap 1 2 3